ขอความช่วยเหลือ จากท่านที่มีกลอน ของสุนทรภู่ ช่วยpose ให้หน่อยได้ใหมค่ะ หรือของ คุณ เนาวรัตน์ ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ
19 เมษายน 2546 20:37 น. - comment id 6017
ปางห้ามญาติ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จากหนังสือ ตากรุ้งเรืองโพยม หน้า 124 ตถาคตมิได้สอนเธอถึงการฆ่า แม้ศีลห้าก็มิได้เน้นเป็นข้อห้าม เป็นเพียงบทให้ศึกษาพยายาม สิ่งควรเว้นพึงเว้นตามข้อความนั้น อย่าอวดอตริมนุสธรรมทำเป็นข่าว เธอคือผู้ขอข้าวชาวบ้านฉัน ถ้าเธอไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เธอก็คือชนชั้นเอาเปรียบคน เธอต้องมีวิชาและจารณะ คือความรู้ที่จะประกอบผล รู้ให้จริงรู้ให้แจ้งประจักษ์จน น้ำความเห็นแก่ตนพ้นตนไป อยู่ในโลกแต่จงอยู่เหนือโลก อยู่เหนือความโสโครกเหม็นหมกไหม้ อยู่เพื่อนำความถูกต้องผ่องอำไพ เพื่อโปรดสัตว์โลกให้ได้เห็นธรรม ทุกวันนี้วิปริตผิดสังเกต โลกอาเพศธรรมอาพาสสัตว์ระส่ำ เหมือนนกไม่เห็นฟ้าปลาบอดน้ำ คนไล่ห้ำหั่นกันอย่างมันมือ การเข่นฆ่ามิใช่การแก้ปัญหา ยิ่งเข่นฆ่าก็ยิ่งย้ำความทึมทื่อ ขณะโลกร้อนร้ายราวไฟฮือ เธอจะถือขันติมิบังควร จงตื่นเถิดเปิดโบสถ์ไปโปรดสัตว์ ไปชี้ชัดสัจธรรมความถูกถ้วน ไประงับดับไฟที่ลามลวน เธอทั้งมวลไม่ทำใครจะทำ 18 สิงหาคม 2525
19 เมษายน 2546 21:19 น. - comment id 6018
ขอบพระคุณ มากๆๆค่ะ คุณ เชษฐภัทร อ้อมยังไม่มีเวลาไปหาซื้อหนังสือ แต่อยากอ่านกลอน ของสองท่านนี้มาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
20 เมษายน 2546 00:16 น. - comment id 6019
แฮ่ๆๆ ผมมีบทนึง อยู่ในกะหมอง ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน อิอิ อีกบทละกัน แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน แล้วของท่านเนาวรัตน์ที่ขึ้นต้นว่า สิ่งเหล่านี้ที่โดมโหมจิตข้า อันนี้ต้องถามลุงเวทย์ ศิษย์โดม อิอิ
20 เมษายน 2546 12:13 น. - comment id 6024
ขอบใจ จ๊า น้องลม ขอบใจหลายๆๆเด้อ .....ลมเพลมพัด............
20 เมษายน 2546 14:12 น. - comment id 6026
ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน แม้อยู่ในใต้หล้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง ขอติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป (คำมั่นสัญญา ... ุสุนทรภู่) เป็นเพลงนะคะเพราะดี ชอบมั่กๆ
20 เมษายน 2546 16:40 น. - comment id 6027
ขอบคุณค่ะ คุณ บ๊ะจ่างไส้ลูกเกด ....จะเก็บไว้ค่ะ ....ชื่อน่ากินจังค่ะ หิววววว...
21 เมษายน 2546 11:41 น. - comment id 6030
ผมขอแนะนำหนังสือเรื่องคำหยาดครับ....... กับเรื่องประคำกรอง ผมอ่านแล้วน้ำตาจะไหล อ.เนาวรัตน์เขียนดีมากเกี่ยวกับความเมตตา เช่น...... ไหมสร้างใยให้ยลผลที่ได้ ใยของไหมฆ่าไหมให้ยับย่อย เสื้อหนึ่งตัวต่อใยไหมนับร้อย สวยเลิศลอยแต่ไร้ใยเมตตา... มีอีกมากครับ..... โอ้เคยเห็นมิเว้นเลยเคยยินเสียง รักเจ้าเยี่ยงอย่างเพื่อนเหมือนคู่หู ความตายเพื่อนเพียงเนื้อเพื่อเลี้ยงดู รักที่อยู่ในใจใครเขาแล... หรือว่า การถูกฆ่าและความตายวายชีวาตม์ ทุกชีวิตย่อมขยาดและหวาดเสียว เนื้อที่แล่ริ้วเต้นบิดเป็นเกลียว สุดแรงเรี่ยวทรมานต้านความตาย เฝ้าร้องครวญร้องขอจนคอขาด หัวก็ฟาดพื้นพลิกระริกส่าย ส่งเสียงแว่ววิงวอนก่อนจะวาย ต่อน้ำลายหวานลิ้มรอชิมเนื้อ....
21 เมษายน 2546 12:01 น. - comment id 6031
น้องก้องจ๊า พี่อ้อม ขอบคุณน๊า ...น่ารักมาก......
22 เมษายน 2546 18:16 น. - comment id 6034
เอาเท่าที่ผมพอจะจำได้นะครับ ของท่านสุนทรภู่ทั้งหมดนะครับ บทนี้จาก พระอภัยมณีครับ ถึงแสนรู้ผู้หญิงเข้าสิงสู่ ก็เสียรูแสนร้อนดังศรปัก จะรบศึกนึกไม่เป็นเป็นไรนัก แต่รบรักนี่คิดอึกอิดใจ ส่วนบทนี้จาก นิราศอิเหนา ครับ จะหักอื่นขืนหักก็จักได้ หักอาลัยนี้ไม่หลุดสุดจะหัก สารพัดตัดขาดประหลาดนัก แต่ตัดรักนี้ไม่ขาดประหลาดใจ อันนี้จาก สิงหไกรภพครับ เห็นเขาคู่ดูนกโอ้อกเอ๋ย เหมือนพี่เคยเคียงพักตร์สมัครสมาน เห็นธารน้ำรำลึกเมื่อเล่นธาร เริงสำราญหรือมาร้างให้ห่างกัน เห็นกวางทองย่องเยื้องชำเลืองหลบ เหมือนแลพบยุพินเมื่อผินผัน หอมลูกอินกลิ่นระคนปนลูกจันทร์ เหมือนกลิ่นขวัญเนตรรื่นชื่นอารมณ์ นี่จาก โคบุตรครับ โอ้ดวงนุชสุดสายสวาทจิต สวาทเจ้าหรือจะคิดอางขนาง สวาทน้องอย่างหมองเลยน้องนาง สวาทโน้นหรือจะร้างสวาทนุช สวาทไหนหรือจะเปรียบสวาทมิ่ง สวาทแม่นี่ยิ่งเป็นที่สุด พี่หวังเสกเป็นเอกอนงค์นุช อนงค์ไหนมิได้สุดสวาทเรียม อันนี้จาก พระอภัยมณี ครับ เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน คร้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน แต่น้ำตาลก็ว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล อันนี้จาก นิราศสุพรรณ นะครับ คลองคดลดเลี้ยวล้วน หลักตอ เกะกะระเรือรอ ร่องน้ำ คดคลองช่องแคบพอ พายถ่อ พ่อเอย คนคดลดเลี้ยวล้ำ กว่าน้ำลำคลอง ส่วนสุดท้ายนี้จาก นิราศวัดเจ้าฟ้า ครับ ถึงเกาะเรียนเรียนรักก็หนักอก แสนวิตกเต็มตรองเจียวน้องเอ๋ย เมื่อเรียนกนจนจบถึงกบเกย ไม่ยากเลยเรียนได้ดังใจจง แต่เรียนรักรักนักก็มักหน่าย รักละม้ายมิได้สมประสงค์ ยิ่งรักมากพากเพียรยิ่งเวียนวง มีแต่หลงลมลวงน่าทรวงโทรม ส่วนถ้าอยากอ่านกลอนของท่านสุนทรภู่ก็นี่เลยครับ แหล่งรวมนิราศของท่านครับ http://www.pixiart.com/archives/soontornpoo/ อันนี้แนะนำครับเพราะเนื้อหาค่อนข้างสมบูรณ์ http://www.geocities.com/Paris/Library/7749/ อันนี้ไปเจอมาแต่ไม่ค่อยได้เข้าครับhttp://pamee.hypermart.net/verse.html
22 เมษายน 2546 18:20 น. - comment id 6035
เหอๆ โพสข้างบนของผมอ่า ลืมโพสชื่อครับ
22 เมษายน 2546 19:59 น. - comment id 6036
เพียงความเคลื่อนไหว เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ชั่วเหยี่ยวกระหยับปีกกลางเปลวแดด ร้อนที่แผดก็ผ่อนเพลาพระเวหา พอใบไม้ไหวพลิกริกริกมา ก็รู้ว่าวันนี้มีลมวก เพียงกระเพื่อมเลื่อมลับวับวับไหว ก็รู้ว่าน้ำใสใช่ประจก เพียงแววตาคู่นั้นหวั่นสะทก ก็รู้ว่าในหัวอกมีหัวใจ โซ่ประตูตรึงผูกถูกกระชาก เสียงแห่งความทุกข์ยากก็ยิ่งใหญ่ สว่างแวบแปลบพร่ามาไรไร ก็รู้ได้ว่าทางยังพอมี มือที่กำหมัดขึ้นจนชุ่มเหงื่อ ก็ร้อนเลือดเดือดเนื้อถนัดถนี่ กระหืดหอบฮวบล้มแต่ละที ก็ยังดีที่ได้สู้ได้รู้รส นิ้วกระดิกกระเดี้ยได้พอให้เห็น เรี่ยวแรงที่แฝงเร้นก็ปรากฎ ยอดหญ้าแยงหินแยกแตกระชด เกียรติยศแห่งหญ้าก็ระยับ สี่สิบปีเปล่าโล่งตลอดย่าน สี่สิบล้านไม่เคยเขยื้อนขยับ ดินเป็นทรายไม้เป็นหินจนหักพับ ดับและหลับตลอดถ้วนทั้งตาใจ นกอยู่ฟ้าหากนกไม่เห็นฟ้า ปลาอยู่น้ำย่อมปลาเห็นน้ำไม่ ไส้เดือนไม่เห็นดินว่าฉันใด หนอนย่อมไร้ดวงตารู้อาจม ฉันนั้นความเปื่อยเน่าเป็นของแน่ ย่อมเกิดแก่ความนิ่งทุกสิ่งสม แต่วันหนึ่งความเน่าในเปือกตม ก็ผุดพรายให้ชมซื่งดอกบัว และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฎ เป็นความงดความงามใช่ความชั่ว มันอาจขุ่นอาจข้องอาจหมองมัว แต่ก็เริ่มจะเป็นตัวจะเป็นตน พอเสียงร่ำรัวกลองประกาศกล้า ก็รู้ว่าวันพระมาอีกหน พอปืนเปรี้ยงแปลบไปในมณฑล ก็รู้ว่าประชาชนจะชิงชัย ประชาชาติ 5 ตุลาคม 2517
23 เมษายน 2546 22:45 น. - comment id 6050
....กี้ร์ จ๊า อ้อมขอบคุณมากๆๆจ๊า ที่โพสไว้ให้ ขอบคุณมากๆๆ น่ะ คนใจดี.....
23 เมษายน 2546 22:48 น. - comment id 6051
...ขอบคุณ เจ อีกครั้งค่ะ ขอบคุณจริงในน้ำใจ
24 เมษายน 2546 09:58 น. - comment id 6055
ไม่มีกลอนมาฝากหรอก แค่มาบอกว่า นอกจากความไพเราะของคำแล้ว สุนทรภู่ (รวมพี่เนาว์ด้วย) ไม่ได้ขาด ความ ที่กินใจเลย บทกวี แค่ไพเราะอย่างเดียวไม่ได้นะ อิอิ
24 เมษายน 2546 13:41 น. - comment id 6056
ค่ะคุณเวทย์ คุณพูดมาถูกต้องแล้วค่ะ อ้อมชื่นชม กลอนของสองท่านนี้มากๆๆค่ะ
24 เมษายน 2546 16:20 น. - comment id 6057
จำได้ว่าเคยดูทีวีช่องนึงนานมากแล้วค่ะ ... เค้าให้คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็น คนอ่านกลอนที่แต่ง และ มีภาพประกอบด้วย .. ต้องบอกว่า ..... เป็นอะไรที่สุดยอดเลยค่ะ ประทับใจมาก ๆ ไพเราะมาก ๆ ถึงจะจำเนื้อหา ไม่ได้ แต่ก็ประทับใจมาจนเดี๋ยวนี้ ... ความงดงามของกลอนไม่ต้องพูดถึง แต่ที่ติดตา ตรึงใจจนถึงเดี๋ยวนี้ ก็คือ จังหวะจะโคนในการ อ่านค่ะ ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ .. อิอิ คุณเนาวรัตน์ เป็นนักลอนในดวงใจท่านนึง พอเห็นกระทู้นี้ เลยอดแจมไม่ได้ค่ะ .... ที่จริงมีทั้งกลอนของสุนทรภู่ และคุณเนาวรัตน์ นะคะ แต่จะขอแนะนำหนังสือแทนค่ะ เช่น ชักม้าชมเมือง , เพลงขลุ่ยผิว , คำหยาด , เขียนแผ่นดิน , เพลงขลุ่ยเหนือทุ่งข้าว , จารึก รศ. 200 , ประคำกรอง , 6 ตุลา , มหากาพย์ ฯลฯ
24 เมษายน 2546 17:11 น. - comment id 6058
...ขอบคุณ ค่ะ ดีใจจัง ว่างเมื่อไร ต้องไปหาเดินซื้อหนังสือ ที่คุณแนะนำมาแล้ว ล่ะค่ะ ขอบคุณ เจ้าตัวยุ่งมากๆๆจ๊า........... .....ดีใจ............
26 เมษายน 2546 08:09 น. - comment id 6073
คุณลุงเวทย์ค่ะ บทกวีของคุณลุงก็น่าชื่นชม มากๆๆค่ะ วันนี้ไปนั่งอ่าน กลอนเก่าๆๆของลุง ประทับใจมากๆๆค่ะ
26 เมษายน 2546 22:40 น. - comment id 6075
อ่ะนะคะ พี่ลม กลอนนั้น ใครๆเขาก็รู้ ลุงเวทย์คะ ไม่ได้มีแค่ความเพราะ ค่ะ ใช่ค่ะ รู้สึกถึงแก่นแท้เลยอ่ะนะคะ
27 เมษายน 2546 00:34 น. - comment id 6076
อันอ้อยตาล หวานลิ้น แล้วสิ้นซาก แต่ลมปาก หวานหู มิรู้หาย ถึงเจ็บอื่น หมื่นแสน ไม่แคลนคลาย เจ็บเจียรตาย เพราะเหน็บ ให้เจ็บใจฯ. ........ อิอิ. . .ท่องมาตั้งแต่ ม.ต้น =^______^=
28 เมษายน 2546 20:41 น. - comment id 6083
เห็นด้วย กับน้องพิมพ์ เนอะ มีความหมายในทุกคำเลยล่ะ ประทับใจมากๆๆ .........ขอบใจจ๊า นกจ๋า ............
29 เมษายน 2546 23:34 น. - comment id 6095
ง่า โดนแย่งโพสต์หมดแล้วอ่า อิอิ
1 มิถุนายน 2546 13:04 น. - comment id 6184
มีเวพนิราศสุนทรภู่อะอยู่ที่นี้นิ http://www.pixiart.com/archives/soontornpoo/