8 มีนาคม 2553 10:01 น.
มวลภมร
๐ เฝ้าคำนึง คิดถึง และโหยหา
โอ้กานดา น้องรู้ อยู่บ้างไหม
ไม่เห็นหน้า คิดถึง สุดหัวใจ
หวังเพียงให้ ขวัญใจ ได้รับรู้
๐ ยามตื่นเช้า ใจพี่ นี้คิดถึง
สายคำนึง ถึงรัก อยากเคียงคู่
บ่ายยามนี้ พี่คิดถึง แต่โฉมตรู
หวังเพียงรู้ น้องนั้น เป็นฉันได
๐ โอ้ยามเย็น เย็นย่ำ พร่ำถึงเจ้า
หัวใจเรา นี้หนอ เป็นไฉน
ค่ำแล้วค่ำ ยังจำ อยู่ในใจ
มีไหมใคร เป็นอย่าง ที่ฉันเป็น
๐ ฟังดูเหมือน นิยาย คล้ายคล้ายเน่า
ก่อนนั้นเรา มิสิ้นทาง อย่างที่เห็น
ไม่เคยคิด จมรัก อย่างที่เป็น
ช่างยากเย็น รักหนัก ยากนิยาม
๐ เช้าโทรหา อนิจจา โทรไม่ติด
ช่างหงุดหงิด ในใจ ได้แต่ถาม
โอ้คนดี เป็นอย่างไร อยากรู้ความ
น้องคนงาม แกล้งพี หรืออย่างไร
๐ โปรดเถิดหนา โปรดมา รับสายพี่
ไม่ได้ยิน เสียงคนดี ทนไม่ไหว
ได้แต่ฝาก กลอนผ่าน บ้านกลอนไทย
หวังวอนให้ น้อง.....จ๋า อย่าหมางเมิน
(ฝากเติมคำในช่องว่างให้ด้วยนะ)
08/03/53 10:
4 มีนาคม 2553 10:12 น.
มวลภมร
๐ เปิดประตู บ้านกลอน นอนรอฝัน
คิดถึงเขา คนนั้น อยู่หนใหน
คนคนหนึ่ง พึงผ่าน มาข้างใน
เคาะประตู ห้องใจ ก่อนหลับตา
๐ เปิดประตู รอไว้ ไม่คิดปิด
หวังมีคน เคียงชิด เสน่หา
ก่อนนอนนึก ถึงเขา ทุกเวลา
เพียงหวังว่า กานดา มาสู่ใจ
๐ เฝ้ารอคน คนหนึ่ง ที่พึงผ่าน
มาทักกัน พลันเปิด ประตูไว้
ไม่ต้องเคาะ ร้องเรียก แต่อย่างไร
ประตูใจ เปิดไว้ ให้เข้ามา
๐ หากมีใคร คนนั้น ผ่านมาแล้ว
มีวี่แวว คือคน ที่โหยหา
เข้ามานั่ง เคียงอยู่ คู่กายา
ทุกเวลา คงสุข หมดทุกข์คลาย
๐ เข้ามาแล้ว จะปิด ประตูแน่น
ในดินแดน ที่สอง เรามั่นหมาย
ปิดประตู บานนั้น มั่นมิคลาย
เพียงสองกาย กิ๊กกัน ในบ้านกลอน
04/03/2553 10:
3 มีนาคม 2553 10:11 น.
มวลภมร
0 ยินเสียงบ่น กร่นว่า น่าสงสาร
เรื่องน้ำตาล ขาดหนัก ยากจักหา
ร้านเล็กเล็ก ก็ขาย เกินราคา
ห้างใหญ่กว่า มีขาย ไม่เพียงพอ
0 น่าสงสัย อ้อยหาย ไปใหนหมด
หรือเขางด ทำน้ำตาล กันแล้วหนอ
ตัดอ้อยส่ง โรงน้ำตาล กันไม่พอ
แล้วคนรอ ความหวาน พาลจะตาย
0 สังเกตุจาก บ้านกลอน เริ่มอ่อนหวาน
เหตุน้ำตาล หายนาน หวานสลาย
กลอนเริ่มเข้ม ขาดหวาน มานานไป
หรือหัวใจ คนหวาน พาลอ่อนลง
0 อยากเพิ่มหวาน ผ่านกลอน ในบ้านนี้
เป็นกลอนที่ หวานอย่าง ทางประสงค์
น้ำตาลน้อย อย่าหวานน้อย ค่อยบรรจง
ยังมั่นคง ในหวาน ไร้วันคลาย
0 มวลภมร นั้นหวาน มานานนัก
ยิ่งใจรัก มิอ่อน มิผ่อนหาย
แม้น้ำตาล พาลแพง แรงอย่างไร
มิทำให้ หัวใจ ไร้หวานเอย
............................................
03/03/10 10:09
2 มีนาคม 2553 10:03 น.
มวลภมร
เคยได้ยิน คนหา ปาฏิหาริย์
เพียรหากัน อย่างไร ทำไมหนอ
ใยไม่คิด ตั้งใจ ให้มากพอ
ไม่ต้องง้อ ปาฏิหาริย์ รำคาญใจ
อุปสรรค์ ที่มี คงพ้นผ่าน
รักหรืองาน ตั้งมั่น พลันสดใส
เคยคิดอย่าง ทางนี้ ทุกทีไป
ผลสุดท้าย ต้องมา ร้องหาเอง
ปาฏิหาริย์ เจ้าขา อยู่หนใหน
ช่วยหัวใจ ของข้าฯ ที่เคยเก่ง
เริ่มเจ็บเริ่ม ปวดช้ำ อย่างคำเพลง
เหมือนถูกเล็ง ให้ปวด ร้าวรวดไป
ช่วยหน่อยหนา ย้อนเวลา ให้สักพัก
เพื่อความรัก ตรงทาง อย่างใจหมาย
ย้อนไปเพื่อ พบเธอ คนพึงใจ
ก่อนหน้าใคร คนนั้น แวะผ่านมา
หากไม่ย้อน เวลา ได้อย่างหวัง
ขอเห็นทาง สว่าง ด้วยเถิดหนา
ปาฎิหาริย์ ช่วยด้วย กรุณา
เพื่อใจข้าฯ ใจเขา ได้เข้าใจ
ไม่อยากเป็น คนหลาย หัวใจหลอก
เฝ้าเพียรบอก ความรู้สึก ให้ฟังไว้
ทุกทุกคำ ที่บอก ออกจากใจ
เพียงหวังไว้ ปาฏิหาริย์ นั้นเป็นจริง
02:03:2553 10:02
2 มีนาคม 2553 08:34 น.
มวลภมร
ยัง...เฝ้าเหม่อละเมอเพ้อถึงน้อง
ยัง...หวังปองเคียงข้างมิห่างหาย
ยัง...อาวรณ์วอนอยู่มิรู้คลาย
ยัง...หวังได้เคียงกายยามหลับตา
รัก...แต่เธอเฝ้าเพ้อละเมอฝัน
รัก...ทุกวันด้วยใจที่ไฝ่หา
รัก...ด้วยรักล้นผ่านกาลเวลา
รัก...และปรารถนาทุกนาที
เพียง...ได้เห็นหน้าน้องพี่มองเฝ้า
เพียง...นี้หลงรักเจ้ามิหน่ายหนี
เพียง...สายตาสบตาพายินดี
เพียง...แค่มีรอยยิ้มพี่อิ่มใจ
เธอ...คือคนคนนี้ที่พี่ฝัน
เธอ...สำคัญทำพี่นี้หวั่นไหว
เธอ...คือเธอคือคนที่พี่มีใจ
เธอ...คือใครไม่สำคัญฉันรักเธอ
....................................
Date: Fri, 12 Feb 2010 01:37:59 -07