เมื่อยามปั่น สองล้อ ให้ล้อหมุน ด้วยสมดุล สัมพันธ์ ไม่หวั่นไหว สองมือจับ บังคับ ทิศทางไป สองเท้าปั่น หมุนใจ ให้เดินทาง เพียงสองล้อ สอดสาย สัมพันธ์ฝัน เหมือนสองใจ เรานั้น ไม่เมินหมาง คล้องด้วยโซ่ สายใจ ไม่มีพราง ตามเส้นทาง แห่งรัก ถักสัมพันธ์ ยามลมโชย พัดพาน ผ่านผิวหน้า เหมือนลมพา รักเรา เคล้าเคียงฝัน เสียงฟันเฟือง โซ่คล้อง ครองสัมพันธ์ เหมือนกระซิบ บอกกัน ว่ารักเธอ มีบางครา ผิดทาง ห่างจากฝัน เบรคมือพลัน ซะลอใจ ได้เสมอ เพื่อให้รัก ตรงทาง ข้างฉันเธอ ไม่หวั่นเผลอ หลงทาง ไปห่างกัน สร้างสมดุล รักหวาน ไปสุดสาย ให้ถึงปลาย เส้นทาง อย่างใจฝัน สองใจอยู่ คู่ใจ ไม่ห่างกัน เหมือนสอดสาย สัมพันธ์ สมดุลใจ ..มวลภมร..
ปฏิวัติ เพื่อจัด ปฏิรูป เป็นตามบท สรุป แห่งความหวัง เมื่อรักถึง จุดขัดแแย้ง จนใจพัง เหมือนถูกฝัง หัวใจ ไว้ทั้งเป็น จึงจำเป็น ต้องหา ทางเว้นวรรค เพื่อได้พัก เรื่องร้าย ให้ได้เว้น จัดกระบวน ปฏิรูป หลีกกฎเกณฑ์ จำต้องเว้น วรรครักไว้ แค่ไม่นาน พอสรุป ปฏิรูป จนเสร็จสรรพ ค่อยขยับ เลือกใหม่ ได้รักหวาน ใช้เวลา พิเคราะห์ หัวใจนาน ดีกว่าสาน สัมพันธ์ ไม่มั่นคง ช้าลงหน่อย ถอยหลัง ก้าวสองเก้า ดีกว่าเรา เดินหน้า พาใจหลง มีแต่ร้าย รักซ้ำ จำต้องปลง เดินต่อไป คงลง เหวรักตาย ปฏิบัติ จัดใหม่ หัวใจหวาน จัดเป็นงาน เร่งด่วน ยามจวนสาย ทางข้างหน้า เห็นว่า อันตราย หยุดเพื่อคลาย ปลดล๊อค ออกทางตัน มวลภมร ตอนเคอร์ฟิว
ตามที่มี กฎอัย-การสุข มาช่วยปลุก รักมั่น ไม่หวั่นไหว ให้คู่รัก ร่วมสาน ผสานใจ ช่วยกันสาน สายใย สายสัมพันธ์ มาบัดนี้ เป็นที่ ประจักษ์แล้ว เสียงเจื้อแจ้ว จากคู่ ที่สมฝัน จึงรวมใจ ขอด้วย ร่วมช่วยกัน ก่อเป็นส-ถาบัน ภิบาลใจ แล้วขอเชิญ คู่รัก ที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกัน ปรองดอง หัวใจไว้ ใครเคยผิด เคยพลั้ง โดยตั้งใจ กลับมาแก้ ตัวใหม่ กลับใจทัน เพราะความรัก ดีดี นี้หายาก เคยลำบาก เสาะถาม ตามความฝัน ใครมีรัก รักษ์ไว้ ในสัมพันธ์ ให้สมานฉันท์ ในหัวใจ มาร่วมกัน เป็นหมู่ ดูแลรัก จะพิทักษ์ ร่วมกัน อย่าหวั่นไหว เมื่อเราสอง ต่างรัก กันหมดใจ จะขัดแย้ง ทำไม ให้เหนื่อยแรง บทสรุป สุดท้าย ปลายทางฝัน ก็ต้องอยู่ ร่วมกัน อย่างแข็งแกร่ง ขืนขัดกัน เรื่อยไป ใจอ่อนแรง เดี๋ยวคู่อื่น เขาแซง คงอับอาย ..มวลภมร .. ..เมื่อต่างฝ่ายก็อ้างรักชาติ.(ถ้าจริง).แล้วจะทะเลาะกันทำไม.. ..เอ..ไม่เกี่ยวเนอะ
ขอประกาศ มาตรา เวลาเหมาะ เป็นจำเพาะ บางส่วน หัวใจฉัน มีสามข้อ ขอให้ ได้จำนรร พร้อมตั้งฐาน ที่มั่น ตรงกลางใจ ข้อที่หนึ่ง พึงฟัง อย่าได้ขัด ฟังให้ชัด เด็ดขาด ประกาศไว้ สองเราต้อง มีรัก เต็มหัวใจ มอบรักให้ แก่กัน ไม่ผันแปร ข้อที่สอง ซื่อสัตย์ มิอาจเว้น สองคนเป็น หนึ่งใจ นั่นไช่แน่ ไม่มีมือ ที่สาม ตามวอแว มีเพียงแค่ เธอฉัน ไม่ปันใจ ข้อที่สาม ตามความ ที่เขากล่าว หากมีคราว ผิดบ้าง ให้จำไว้ รักแน่นหนัก ต้องรู้ จักอภัย เพื่อต่อเติม สายใย หัวใจกัน หากหนึ่งผิด จำไว้ ให้"ขอโทษ" แล้วอย่าโกรธ ข้ามคืน จนลืมฝัน อีกหนึ่งคำ เกื้อหนุน "ขอบคุณ"กัน จักช่วยปั้น รักไว้ ให้ยืนนาน ประกาศมา ทั้งหมด เป็นกฏสุข ไว้ใช้บุก เข้าใจ ในรักหวาน จะครองอยู่ คู่ฝัน ตลอดกาล เป็นตำนาน รักหวาน วิมานใจ ......ลงชื่อ..มวลภมร..ผบ.สบ.หร. (ผู้บัญชาการสถาบันแห่งรัก)
คำโบราณ หรือเปล่า เราไม่รู้ ลองหาดู มีคน เขาเปรียบไว้ ลองดูเขา เปรียบชาย น่าสนใจ ว่าเป็นอย่าง ผลไม้ หลายหลากพันธ์
เริ่มรุ่นหนุ่ม อายุ ได้ยี่สิบ ใครได้หยิบ ลองชม นิยมฝัน เปรียบเป็นดัง มะพร้าว สาวรำพัน แต่บ่นกัน เปลือกหนา เนื้อไม่มี
พอล่วงเลย มาถึง สามสิบเศษ สาวคงเสร็จ นิยม ผลไม้นี้ ดังทุเรียน แม้หนาม แหลมเต็มที แต่เนื้อมี รสชาติ มิอาจวาง
ผ่านมาถึง สี่สิบ วัยเริ่มหนุ่ม สาวต่างรุม แตงโม ใครอย่าขวาง แตงกลมใหญ่ กลิ้งกะล่อน ยากจับทาง แต่เนื้อช่าง แดงฉ่ำ หวานชื่นใจ
ห้าสิบแล้ว สาวสาว จำคำผม เปรียบเหมือนส้ม แมนดาริน น่ากินไหม มีรสชาติ เปรี้ยวอม หวานชื่นใจ แต่ปีหนึ่ง มีให้ ชิมครั้งเดียว
แล้วหนุ่มใหญ่ ถึงวัย หกสิบแล้ว คงไม่แคล้ว เป็นองุ่น หวานอมเปรี้ยว ถูกตากเป็น ลูกเกด เม็ดเล็กเรียว มีแต่รอ แห้งเหี่ยว หดเฉาไป
รีบหน่อยหนา สาวจ๋า อย่าช้าชัก เดี๋ยวผลจัก ร่วงหมด ไม่สดใจ อยากให้ลอง แตงโม หวานเกินใคร อย่าปล่อยไว้ เป็นลูกเกด อย่างท่ากีร์ (อ่ะ ล้อเล่ง ล้อเล่ง อย่าเหนี่ยวน้าาาา)
มวลภมร