9 / 11 ...ความทรงจำอันโหดร้าย
เจ้านกเหล็ก! มหากาฬทะยานพุ่ง
มันหมายมุ่งผิดแผกแปลกนักหนา
ข้ามห้วงฟ้ามหานคร ฝืนร่อนฝ่า ที่หมายหน้า พุ่งทะลวงทะลุตึก เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เลอเลิศหรา ตึกระฟ้า อ่าโอ่มโหระทึก กลางนิวยอร์ค ยอดเด่นเห็นแท่งตึก เสียงก้องกึก! ..ตึกทรุดล้มถล่มทลาย ภาพช๊อคโลก ตระหนกใหญ่ให้ฉงน ไม่คาดคิดจะได้ยลบนโลกได้ เป็นภาพจริงหรือฝัน นั่นอย่างไร ? ไม่เข้าใจในเหตุชัด อุบัติกาล ! เหตุแห่งจริง นิ่งสดับกลับแปรเปลี่ยน เริ่มบทเรียนมวลมนุษย์สุดหวาดหวั่น พยาบาทอาฆาตเห็น เข่นฆ่ากัน โลกเดือดพล่านสานปมขัด ศาสนา.. ต่างระแวงตื่นระวัง หลังจากนั้น แบ่งฝ่ายกันฟันฟัด จัดไล่ล่า โค่นซัดดัม บินลาดินสิ้นชีวา ปลาใหญ่กว่าอ้าปากกิน สิ้นปลาน้อย ! 12 ปี.. ที่ผ่านมันยังย้ำ ว่าศีลธรรมมนุษย์สุดเสื่อมถอย แก่นแห่งศาสน์ปลาสนาการ มันเถื่อนถ่อย เพื่อปลดปล่อยหฤโหด โปรดความใหญ่ ! ทุกศาสนา ต่างสอนดีให้หนีชั่ว ทำตนตัว ชั่วหรือดีมีตราไว้ พวกนอกรีต.. คิดห้ำหั่นให้บรรลัย ไม่เข้าใจ..ไฉนเป็นถึงเช่นนี้ ? เจ้านกเหล็ก ! มหากาฬเมื่อวันก่อน เจ้าอย่าย้อน มาหลอนซ้ำย้ำวิถี สมานฉันท์ กันทุกศาสน์ปัดไพรี ให้โลกนี้ หลากสีสัน..และมั่นคง ! ครบ 12 ปี ..เหตุสยองของมวลมนุษย์ หาสิ้นสุดความห้ำหั่นกันสุดโต่ง บินลาดิน แม้ลาไปใช่จะโล่ง โลกยังคงลุกเป็นไฟ..กระหายสงคราม !! ............................................................................
เช้าวันนี้.. เมื่อ ๒๓ ปีก่อน
ระลึกย้อนตอนนั้น เหตุการณ์หนึ่ง
กลางใจป่าห้วยขาแข้งแห่งคะนึง
ปืนนัดหนึ่งซึ่งหาญหัก.. ร่างนักสู้ !
ร่างนักสู้ ผู้ตรากตรำทำงานหนัก
ถูกกระชากวิญญาณมิทานได้
อัตวินิบากกรรมที่ทำไป
เพื่อตั้งใจปลุกชาวโลก.. ชะโงกมอง !
ชะโงกมอง ผืนป่า.. “ ห้วยขาแข้ง “ ถูกฤทธิ์แรงทุนสามานย์ผลาญผยอง โหมล่าสัตว์ตัดไม้ดั่งใจปอง วางกล้ามผ่องมองข้ามหัว.. ไม่กลัวเกรง ! ไม่กลัวเกรง กฎหมายในบัญญัติ ป่าถูกตัดสัตว์โดนล่า กล้าอวดเบ่ง อำนาจเงินอำนาจรัฐ กัดตัวเอง ไม่กริ่งเกรงดินฟ้า.. กล้าท้าทาย ! กล้าท้าทาย อุดมการณ์อันฉกาจ ความเด็ดขาดจึงป่าวร้องก้องขยาย เจตนารมณ์ที่ล้มร่างให้วางวาย เพื่อกระจายความร้ายกาจ.. ให้รู้กัน ! ให้รู้กัน กับมนุษย์ที่สุดชั่ว ไม่เกรงกลัวบาปกรรมที่ทำนั่น ใช้ความเขื่องเรืองอำนาจ ฉกาจฉกรรจ์ ไล่ฆ่าฟันสัตว์และป่า.. น่าสมเพช ! น่าสมเพช เวทนาป่าและสัตว์ อนุรักษ์ถูกจำกัดปัดเป็นเศษ อำนาจใหญ่เป็นนายป่าน่าทุเรศ สัตว์ป่าเสร็จ สะเด็ดผอง.. ร้องระงม ! ๑ กันยา.. เช้าวันนี้มีรำลึก เพื่อย้อนนึกถึงร่างหนึ่งซึ่งเคยล้ม สืบ นาคะเสถียร ..เจตนารมณ์ เขาได้สมอุดมการณ์ ..นิรันดร !! สืบเอย.. เจ้าจากไปไม่สูญเปล่า สืบเอย.. เจ้าจากไปไม่สูญเปล่า สืบเอย.. เจ้าจากไปไม่สูญเปล่า ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ ๑ ก.ย.ของทุกปี ... ขอร่วมรำลึกครบรอบ ๒๓ ปี การจากไปของสืบ นาคะเสถียร
“ ไม่ซื้อ ไม่ล่า ไม่หาสัตว์ป่ามาเป็นอาหาร " ขอกราบกรานวานไหว้ในวิถี วิถีกิน วิถีอยู่ ..ให้ดูดี ควรปรานีสัตว์ป่า..เมตตาธรรม เขากับเราล้วนรวม.. อยู่ร่วมโลก ร่วมสุขโศกโลกใบเดียวที่เกี่ยวล้ำ มีชีวิตลิขิตเห็น เป็นตามกรรม มิควรทำล่วงกรรมกัน บั่นชีพวาย..!! " ฝนโปรยไพร ใจกลางป่า " พรมจากฟ้ามาเป็นสาย ชุ่มแผ่นผืนชื่นกระจาย เหล่าสัตว์หลายได้อาบกิน ดิน-น้ำ-ป่า ..มาแจงจัด ให้ส่ำสัตว์สมถวิล สร้างนิเวศน์เบ็ดเสร็จสิ้น ธารหลั่งริน.. ดินป่างาม !! " สืบ นาคะเสถียร แสงไฟที่ไม่มีวันดับ " เปล่งระยับเคลื่อนขับข้าม ยิ่งนานเนายิ่งวาววาม สร้างนิยาม..ความรักป่า คงโชติช่วงชัชวาล.. อีกเนิ่นนานในอาณา ประกายแสงอันแรงกล้า ป้องสัตว์ป่า.. สง่างาม !!
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร ปืนแผดดัง ! กลางป่าน่าอนาถ สรรพสัตว์ตื่นแตกวิ่งแหวกข้าม เพื่อนร่วมป่า ร้องระงมล้มคะมำ ผู้กระทำ ! หามร่างเพื่อนเลือนหายไป ก่อนกินอยู่คู่ป่าสง่าสงบ ไม่เคยพบมนุษย์ สุดโหดร้าย บัดนี้ต้อง ย่องระวังระแวงไพร กลัวปืนไฟสาดใส่ร่าง ถูกย่างกิน ! มนุษย์หนึ่ง..พร้อมกล้องส่องดูสัตว์ หยิบกระดาษวาดจดบนโขดหิน คอยเยี่ยมเยือนเพื่อนร่วมป่าเป็นอาจินต์ ให้อยู่กินสิ้นภัย ไม่พักวาง ความลึกล้ำธรรมชาติและสัตว์ป่า ต่างพึ่งพาพึ่งกันอย่างสรรค์สร้าง ป่าอุ้มน้ำค้ำชู สัตว์อยู่ยัง ดูดฝนหลั่งพรั่งพรู ฟ้าสู่ดิน ใต้ผืนป่าห้วยขาแข้ง แหล่งต้นน้ำ ยังชุ่มฉ่ำ อุดมสมบูรณ์ถิ่น ธรรมชาติ จัดแจงแบ่งสัตว์กิน สร้างสมดุลไม่สูญสิ้น ดินน้ำป่า ! มนุษย์โหดโฉดชั่วไม่กลัวบาป หน้าฉากฉาบ หลังฉากกลับ ไล่ขับฆ่า ถืออำนาจบาตรใหญ่ไร้เมตตา ย่ำยีป่า ลอบล่าสัตว์ลักตัดไม้ เสียงปืนดัง! ครั้งนั้นสะท้านก้อง ทั่วโลกมองห้วยขาแข้งแหล่งป่าใหญ่ ปลิดชีพตนหนทางสืบ..คืบสุดท้าย จุดประกาย..ได้เป็นมรดกโลกต่อมา ตำนานป่า..สืบ นาคะเสถียร เป็นบทเรียนให้ตื่นตัวกันทั่วหน้า เพื่อนร่วมโลกต้องปกปักและรักษา ป้องพิบัติ สัตว์และป่า..หน้าที่คน ถึงบทจาก ฝากไว้ให้ประจักษ์ นักอนุรักษ์..คนดีที่เปี่ยมล้น ปกป้องภัยให้ผืนป่า..กล้าปลิดตน ปลุกผองชนคนหวงป่า.. กล้าป้องไพร ! สืบเอย.. เจ้าจากไปไม่สูญเปล่า ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร
เรื่องที่ ๔ สุดสลด ..คชสาร
ไอ้มนุษย์ ! ตัวนิดๆ พิษช่างร้าย
มันทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า เพื่อนร่วมโลกเล็กหรือใหญ่ไม่ยอมรา เข้าเข่นฆ่า เฉือนเชือด.. อย่างเลือดเย็น คชสาร.. ตัวใหญ่ๆ ในป่ากว้าง เดินย่องย่างหากินถิ่นลึกเร้น เป็นเจ้าป่าร่างใหญ่ไม่ลำเค็ญ ใครกล้าเข่น ได้เห็นดีทุกทีไป ย้อนช้างศึก คึกคักหักการรบ เข้าสยบไพรีคร้ามสนามใหญ่ สัตว์ราชาสง่างามยามย่างไป ร่วมชิงชัยเหยียบค่ายขุม คุ้มบ้านเมือง ! ช่วยกอบกู้เอกราชอย่างชัดชี้ เห็นสุดๆ ยุทธหัตถีที่ลือเลื่อง ไชยยานุภาพ! ปราบพม่าล่ากลับเมือง ชาติประเทืองเรืองโรจน์ปรากฏชัด ข่าวฆ่าช้างเพื่อเอางา ..ป่าสะท้าน แก่งกระจาน มนุษย์ไหน ? หนอใจสัตว์ เมนูเด็ด สนองใจให้ต่างชาติ เนื้อช้างใหญ่ใบสั่งจัด ..ภัตตาคาร ไอ้มนุษย์ ! ตัวน้อยนิดพิษสุดร้าย ล้มสัตว์ใหญ่ใช้อาวุธสุดจะต้าน เนรคุณผู้กอบกู้ หลู่ตำนาน สัตว์คู่บ้าน ! ผลาญได้ไง ? จัญไรจริงๆ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ “พระราชินี”เสียพระทัยช้างป่าแก่งกระจานถูกฆ่าเผาเอางา เชิญพระราชเสาวนีย์ถึง “อธิบดีอุทยานฯ” เร่งแก้ปัญหา แฉขบวนการ เหี้ยมเร่งไล่ล่า เปิดเผยความคืบหน้าการตามล่าหาตัวคนร้ายที่ฆ่าช้างป่าในเขตอุทยานแช่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ขณะนี้รู้ตัวขบวนการที่ร่วมมือกันฆ่าช้างแล้ว โดยทำกันเป็นขบวนการมีทั้งคนมีสี นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร เรื่องที่ ๓ ลิง-ค่าง-บ่าง-ชะนี ..หนีคนหาพ้นไม่.!!. ลิงทะโมน.. กระโจนไพร เจ้าถูกไล่จากชายป่า พรานร้ายไล่ยิงมา หมดแรงล้าผวาผวาด ลูกน้อยในอ้ออมอก เลือดก็ตกกระเซ็นสาด กอดลูกไว้จนใจขาด น่าอนาถ แม่ลิงเอย.!.. เจ้าค่าง.. เก้งก้างนัก โหนย้ายยักหนักจริงเอ่ย ยอดไม้ซ่อนไม่เผย มือเจ้าเลยต้องเชยช้อน คนเชือดเอาเลือดเจ้า เนื้อคลุกเคล้าหมักไว้ก่อน " ยาส้มค่าง " วางวายมรณ์ พรานร้ายต้อนยิงตกมา.!.. เจ้าบ่าง.. ที่ช่างยุ คนลือกุ ลุคุณค่า เลือดเนื้อเชื่อราคา บอกเป็นยาปลุกกำลัง ตัวคล้ายกระรอกบิน โดนย่างกินเลือดรินหลั่ง อนาถแท้แม้แต่หนัง เขาก็ยังไม่ทิ้งเลย.!.. ชะนีน้อย.. มือห้อยโหน แกว่งตัวโยนบนไม้เฉย ดูสนุกสุขจุงเบย ตัวเจ้าเลยเลิศราคา คนพรากจากป่าใหญ่ ร้องโหยไห้ไม่อยากมา เรียกพ่อจ๋า และแม่จ๋า ช่วยลูกหนา ..โหยหาไพร.!.. ลิง-ค่าง-บ่าง-ชะนี ล้วนมากมีในป่าใหญ่ มนุษย์สุดใจร้าย สาดปืนใส่ไม่นำพา ก็รักตัวกลัวตายนั่น.. ไยคนนั้นมาบั่นฆ่า หลงใหลให้ราคา กิเลสหนา.. หนอมนุษย์ !! ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ ขอเรียนเชิญนักปั่นทุกท่าน ทุกชมรม ร่วมปั่นรณรงค์ "ไม่ซื้อ ไม่ล่า ไม่หาสัตว์ป่ามาเป็นอาหาร" ไม่จำกัดจำนวน ไม่มีค่าสมัครปั่นฟรี ทางมูลนิธิฯ จะมีน้ำดื่มไว้บริการ "ก้าวสู่ 24 ปี สืบนาคะเสถียร" ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-1 กันยายน 2556 ณ เขตรักษาพัน
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร
เรื่องที่ ๒ " สาบเสือ ..ใช่สาบสาง "
สาบเสือ.. เหนือป่าในอาณัติ
เหยื่อข้องขัดเกินหยัดยืนจะฝืนได้ สองหูผึ่งถลึงตา..ผวาภัย กลัวเสือใหญ่ไล่ตะปบหลบไม่ทัน ธรรมชาติสร้างสัตว์อยู่คู่กับป่า ต่างพึ่งพาอาศัยไม่แปรผัน มีผู้ล่า ผู้ถูกล่า ..สารพัน เห็นแจ้งชัด ถูกจัดสรรมานานนม ในระบบนิเวศน์ขอบเขตป่า.. สัตว์มีค่าหลากพันธุ์ผสานผสม วัฏจักรหมุนเวียนไปคล้ายวงกลม มีเกิดล้มไปตามกฎ ไม่หมดตัว สาบเสือ.. ตาใสๆ บริสุทธิ์ สาบมนุษย์ นั้นเหม็นกว่ากล้าทำชั่ว บั่นชีวิตสัตว์เหล่าเอาหนังหัว ไม่หวั่นกลัวบาปกรรมที่ทำมา สาบเสือ.. เชื่อได้ไม่สาบสาง เช่นคนกร่างชอบสนุกทุกการฆ่า สัตว์นรกสุดโหดร้าย ไม่นำพา กิเลสหนากว่าสัตว์ใหญ่ ใจช่างดำ.. สาบเสือ.. เหนือผืนป่าดารดาษ ธรรมชาติแจงจัดฉลาดล้ำ เป็นระบบครบนิเวศน์วิเศษธรรม คงความงามตามโลกสรร.. เช่นนั้นเอง !! ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ ปี 2555 พบเสือโคร่งในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งมากกว่า 90 ตัว แต่ผู้เชี่ยวชาญยังหวั่นเสือถูกล่า เนื่องจากมูลค่าทางเศรษฐกิจของเสือยังสูง หลังมีคนต้องการครอบครองมาก... สถานการณ์เสือโคร่งในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา ถือว่าค่อนข้างดีมาก ภายใต้พื้นที่ประมาณ 1.7 ล้านไร่ ของผืนป่าที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศ พบเสือโคร่งที่เป็นตัวเต็มวัยประมาณ 70 ต
บทกวีนำเสนอเพื่อรำลึก ก้าวสู่ ๒๔ ปี ...สืบ นาคะเสถียร เรื่องที่ ๑ " คู่รักอมตะ " รักแท้..ที่มีให้ ในโพรงไม้ซบไออุ่น คาบเหยื่อมาเจือจุน อย่างเนื่องหนุนไม่เหนื่อยหน่าย เมียลูกผูกรักมั่น เหยื่อป้อนปันปากโพรงไม้ เร้นลับบินนับไกล รังปลอดภัย ไม่เคยท้อ หัวเเรงแห่งครอบครัว ใจเกินตัวหัวอกพ่อ รักแน่ จริงแท้หนอ แม่ลูกรอ พ่อกลับมา วันใด.. พ่อไม่กลับ ถูกคนจับ หายลับหน้า บ้านโพรงก็โล่งตา ลูกเมียลา ตายตามไป รักแท้ ..ที่โลกเห็น ป่าลับเร้นเป็นไปได้ นกเงือก เทือกพงไพร รักยิ่งใหญ่..คนอายจัง ! น่าสลดสุดหดหู่ หัวนกหรู.. อยู่ผนัง ฆ่าเขาตายใจร้ายจัง แขวนหัวตั้งช่างทารุณ.. แขวนหัวท่าน..เช่นนั้นบ้าง คงหมดกร่าง เหมือนดังหุ่น สังเวชกิเลสหนุน นกมีคุณ ..การุณเทอญ !! ๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐ ... นกเงือกเป็นนกผัวเดียวเมียเดียว จะมีการเกี้ยวพาราสี เมื่อตัวเมียเข้าไปอยู่ในโพรง จะทำความสะอาดแล้วเริ่มปิดปากโพรง ด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น ดิน เปลือกไม้ ตัวเมียจะผสมวัสดุเหล่านี้กับมูลของมันเอง เมื่อปิดปากโพรงจึงเหลือเพียงช่องแคบ ๆ ตัวเมียจะขัง ตัวอยู่ภายในเพื่อออกไข่เลี้ยงลูก ตัวผู้จะทำหน้าที่ดูแลตัวเมียและลูกโดยส่งอาหารผ่านทางปากโพรง นกเงือกจะมีส่วนหนังเปลือยเป็น สีฉูดฉาดอยู่บ้าง เช่น บริเวณคอ ขอบตา มีขนตายาว ขาสั้น ชอบกระโดด ลิ้นสั้น จึงกินอาหารโดยจัดอาหารให้อยู่ที่ปลายปากแล้วโยน กลับลงคอไป
ชีวิตเพื่ออวดโอ้........ชีวิต
ความสุขอันสุจริต........จับต้อง
ยุคสมัยสมัครสมานมิตร..........มุมใหม่
อินสะตาแกรมร้อง.......เรตติ้งตามกระแส
แท้ใช้ชีวิตแล้ว........หลากหลาย ทางเลือกใหม่มากมาย........เมคด้วย การอวดหนึ่งไลฟ์สไตล์........ทางหนึ่ง ชอบก็ดูก่อนม้วย............หมดสิ้นชีวา
ไม่มีคมมีดใดที่ไหนคง ถ้าจำนงค์ใช้มันไปฟันหิน ถึงเหล็กกลัาแค่ไหนก็ต้องบิ่น สุดท้ายสิ้นคมไปไร้คนมอง เพียงใช้หินลูบหน่อยค่อยขัดถู อย่าไปหลู่หินนั้นมันจะหมอง สติมี เอาไว้ ใช้ไตร่ตรอง อย่าไปมอง หินทราย ไร้ค่าเลย มีดจะคมอยู่ได้ใช้หินลับ ขืนไปสับไม่ยั้งพังเพื่อนเอ๋ย ถ้อยทีถ้อยอาศัยให้เหมือนเคย จะลงเอยเหมือนเก่าที่เรามี จะตัดฟันสิ่งใดครวญใคร่นิด เป็นชีวิต เว้นไว้ ก็ได้นี่ มองเขาเป็นของเล่นเห็นว่าดี มันบ่งชี้ ว่าวิปริต ผิดผู้คน
ข้าพเจ้า ไปไหนมา… …………………. สะเทือนท่วงความจริง เสียงจิ้งหรีด ประหนึ่งคมกดกรีด ประสาทหู อวลลมไหวละลอก นอกประตู คุเคล้าเสียงคลื่นกรู โถมกระทบ…. สะท้านท่วงทำนอง ก้องวิเวก ปลุกเดียวดายปัจเจก สิ้นสงบ เอกาลมพรมผ่าน ใจซ่านซบ ลุบางสิ่งเร้ารบ ในหัวใจ…. คว้างชีวิตงุ่นงง ปลงชีวิต ท่ามทางทิศโยงเชื่อม กระเพื่อมไหว แต่ลืมตาเกิดดับ อยู่กับใด มิต่างกัน เช่นไร ก็เช่นนั้น…. คว้างพะวงปลงปรุง ใจฟุ้งเฟ้อ ไปกับการพบเจอ ที่เหลื่อมหลั่น เสาะแสวงหัวใจ ลุวัยวัน ประหนึ่งภาพอัศจรรย์ ของชีวิต…. วาดเป็นความเข้าใจ ในตัวตน ผ่านเหตุผล กิเลส ตัณหา มายา จริต หลากคุณค่า ความหมาย สหายมิตร แต่งปรุงคิด แลปลงวาง กระจ่างมา… ถึงที่สุด อจีรังแห่งฝั่งฝาก ทุกข์ท้นความลำบาก พิพากษา วัฏฏะนี้มีคำตอบ ใดมอบพา ให้ก้าวย่ำธรรมดา ได้จบ รู้…. ……………………… โดยคำ ลานเทวา
นานแล้วในงดงาม ความรู้สึก หลากความหมายเร้นลึก ถึงคุณค่า ท้นวันวัยในกาล ที่ผ่านพา ใช่รับรู้เพียงกาลเวลา ที่ผ่านเลย ภาพบางภาพ ตรึงทราบอยู่มิรู้สร่าง คล้ายบอกเล่าแรมทาง ใจอ้างเอ่ย บางรู้สึกอบอุ่น อย่างคุ้นเคย แม้ล่วงเลยใจสบ ในพบพาน เรายังจำกันได้ อยู่ใช่ไหม ภาพริ้วรอยวันวัย ที่เนิ่นผ่าน บางรู้สึกยังตรึงเตือน เหมือนไม่นาน หอมเอย อดีตกาล แห่งเยาว์วัย… รอยยิ้ม น้อง พี่ เพื่อน เรือนหลังเก่า เสียงบอกเล่าผ่านปลุก ยุคสมัย ณ วันนี้ วันที่เรา ต่างเข้าใจ ถึงชีวิตที่เป็นไป และเป็นมา... เราจำได้ บางสิ่งย้ำ ยังจำได้ ภาพอันคุ้นตรึงให้ ใจหวนหา บางรอยยิ้มผ่านย้ำ บางน้ำตา บอกเล่ากาลเวลา ของชีวิต… ………………………….. โดยคำ ลานเทวา
ความรักได้หันหลังให้กับพวกเขาไปแล้ว เธอจากไปแล้ว เธอจากไปไกลแล้ว เหล่าเด็กน้อยผู้มีปีกบอบบางราวผีเสื้อ แต่มีดวงใจแข็งแกร่งยิ่งกว่าหินผา ยามเมื่อโลกร้องเพลง เธอจะนิ่งฟัง ยามเมื่อโลกร่ำไห้ เธอจะร้องเพลงกล่อม เป็นเช่นนี้มาเนิ่นนานนับตั้งแต่โลกสร้างเธอ และก็เป็นเช่นนั้นเรื่องมานับตั้งแต่โลกรู้จักคำว่าสงคราม เช่นนั้น เช่นที่เธอจากไป เหล่าเด็กน้อยผู้มีปีกบอบบาง แม้ศาสตราวุธตั้งแต่ยุคบรรพกาลจนถึงปัจจุบันจะทำร้ายพวกเธอไปกี่แสนกี่ล้านคน เหล่าเด็กน้อยผู้มีปีกบอบบางเช่นเธอก็ยังถือกำเนิดขึ้นมาเสมอ จากไปเพื่อเพิ่มช่องว่างให้กับผู้มาใหม่ เกิดใหม่เพื่อเติมเต็มผู้ที่จากไป และทุกครั้งที่เธอจากไปทำให้โลกรู้ว่า ความรักได้หันหลังให้กับพวกเขาไปแล้ว. แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า
๏ “มาตาปิตุ”แม้น .... เหมือนพรหม เฉก“บุรพเทวะ”สม .... เช่นผู้ ”คุรุ” แรกอุดม .... โดยศาสตร์ ปฐมเนอ “อาหุเนยโย”รู้ .... เลิศล้วนอรหันต์ ๚ะ๛ ๏ อัน"มาตาปิตุ”ควรคู่ตั้ง ดำรงค์รั้งร่มไม้โพธิ์ไทรเสมือน ยกเทินสูงเยี่ยงเด่นกว่าเพ็ญเดือน คือเครื่องเตือนเยือนย้ำกตัญญู ๏ เทียบบิดรมารดามีค่าดุจ- พรหมวิหารพิสุทธิ์-สี่แด่สู เมตตาก่อการุณค้ำจุนชู มุทิตารู้อยู่อุเบกขาย้ำ ๏ คือเทวะผู้สรรคอยคั่นชี้ ปกป้องภัยพ่ายหนีตีกระหน่ำ ถนอมเนื้อเชื้อชอบมิบอบช้ำ รักเกินใครกล่าวคำนำเทียบเคียง ๏ คือปฐมบรมครูผู้เริ่มสอน- เกลาปัญญากล้าก่อนจะคลอนเกี่ยง วางวิถีบาทเอนไม่เบนเอียง ให้รู้หลบทบเบี่ยงเลี่ยงอบาย ๏ คืออรหันต์บุคคลยึดยลครบ วิสุทธิ์เทพรู้ภพบรรจบหมาย เนื้อนาบุญหนุนแกร่งก่อแรงกาย สาธุชนหญิงชายจงใคร่ตรอง ๏ ผู้บุตรเอยผู้ดำรงค์สืบพงศา โปรดแลหาผู้สร้างท่านทั้งสอง ยามท่านอยู่ดูแลตามครรลอง ประพฤติครองต่อผู้มีพระคุณ ๚ะ๛ + กิ่งโศก + ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง ..ใกล้วันแม่..กิ่งโศกขอน้อมรำลึกถึง บุพการีทั้งสอง ..แม้นบัดนี้จะคงมีแต่พ่อเฒ่า พระองค์เดียวในบ้านที่ยังเป็นที่ ยึดเหนี่ยวสายสัมพันธ์ในครอบครัว..ส่วนแม่ ตอนนี้ท่านสถิตย์บนฟ้าบนสรวงสวรรค์แล้ว ลูกขอประพฤติดี กระทำดี เพื่อทดแทนพระคุณ ของแม่..ส่วนพ่อลูกจะขอทดแทนพระคุณท่านเท่าที่บุตรพึงกระทำได้ ...
๏ ฉันเป็นนักศึกษาปัญญาชน ท่ามกลางทางสับสนคนแบ่งสี หลอมหล่อและล่อหลอกหลายคัมภีร์ ถูกบ่มในเบ้านี้ "มหาลัย" ๏ "มหาลัย มหาหลอก" กลอกกลับคำ จับจองจำกับตำราน่าสงสัย ครุ่นคำถามนิยามตามจิตใจ " เราเรียนไปเพื่ออะไรใครบอกที ? " ๏ เพื่อก้าวผ่านประสบการณ์กร้านความคิด เพื่อพ้นพรากจากชีวิตโง่งมนี้ เป็นนักปราชญ์ปราดเปรื่องปัญญาดี แหละกดขี่คนโง่โตต่อไป ๏ เพื่อสำเร็จเสร็จได้ใบกระดาษ ประกาศโชว์โอ่สังคมนิยมใหญ่ สมัครงานผ่านสบายหมายมั่นใจ มีรายได้ใช้จ่ายถ่ายชีวิต ๏ เพื่อประโยชน์โพดโผยผลผู้เกื้อ เพื่อเป็นเนื้อเชื้อเพลิงผู้ผลิต เป็นแถวทาสนายทุนตุ๋นความคิด สู่สายพานการผลิตติดกับดัก ๏ เพื่อรับใช้ไฟฝันฝั่งมวลชน สละตนติดดินสิ้นยศศักดิ์ สานฝันอุดมการณ์ด้วยความรัก ยืนปักหลักชัยใน "หมู่บ้าน" ๏ หรือเรียนเพียรเขียนอ่านตามระบอบ ท่องตำราบ้าสอบตอบโวหาร จดบันทึกทุกคำจำหลักการ จมปลักดักดานอ่านหนังสือ ๏ คำตอบมอบให้เธอบำเรอคิด ค้นหาทั้งชีวิตที่เธอถือ อีกทางคือวางปล่อยลอยตามสื่อ " คำตอบฉันชอบคือ จุด จุด จุด " 4 สิงหาคม 2556