กลอนอวยพร

แส้เส้นหนึ่ง...

คีตากะ


ด้วยอำนาจอันใดเล่าเฝ้ากระหน่ำ?
คอยเคี่ยวกรำซ้ำโบยเธอโหยหา
รุกเร่งเร้าเช้าค่ำย้ำนานมา
ให้เธอฝ่ามุ่งไปไม่หยุดหย่อน...
ไต่ภูผาป่าไพรธารไหลหลาก
แม้ลำบากเธอบรรลุฝากอนุสรณ์
ทิ้งรอยเท้าเลือนรางบนทางจร
ผ่านหนาวร้อนกี่ฤดูยังสู้ไป
ข้ามฝั่งฟ้ามาบรรจบจนพบฉัน
ในคืนวันเงียบเหงาเฝ้าหวั่นไหว
วันน้ำตาเธอเอ่อท้นล้นทรวงใน
และฉันได้ยินเสียงเพรียกของมัน
เธอเบื่อหน่ายใช่ไหมจึงได้บ่น?
เธอว่ายวนจนครบและพบฉัน
โน่นเห็นไหม! นั่นแสงแห่งพระจันทร์
ความสุขนั้นรอเธอเสมอมา
ทรัพย์ศฤงคารมากมายภายโลกนี้
ฤาจักที่เทียบได้ในคุณค่า
ทรัพย์ภายในแห่งจิตพิจารณา
ชุบชีวาอีกหนพ้นความตาย
หยุดเถอะ! ที่รักฉันจักเอ่ย
เพียงเพื่อเผยสวรรค์อันเฉิดฉาย
โลกแห่งนี้มีเพียงแต่ความตาย
กองกระดูกมากมายสุมก่ายกอง
เดินตามฉันไปสู่...ผู้รู้แจ้ง!
หนทางแห่งอมตะละเศร้าหมอง
เพลิงกำลังเผาโลกเสียงโศกครอง
ร่วมฉลองศักราชแห่งศาสดา
ขบวนแห่แห่งนักบุญยังหนุนเนื่อง
จักเกลื่อนเมืองสุดประมาณผ่านแหล่งหล้า
นำพระพรบุญกุศลล้นคณา
ยกโลกาสู่สวรรค์บันดาลดล
โปรดอย่าช้า! คนดีเดือนปีผ่าน
ปล่อยสังขารล่วงไปไม่เกิดผล
ความตายรอตรงหน้าทุกตัวตน
วันคืนพ้นผันไปไม่แน่นอน....

รำลึก ๒ ปี หลวงตามหาบัว...

ศรีสมภพ


๓๐ มกราฯ  ๒๕๕๔..
สิ้นวิถี แห่งสังขารนิพพานสุด
ของหนึ่งสงฆ์ ผู้ปลงได้ในมนุษย์
สาวกพุทธ..พิสุทธิ์ใสในประเทศ
ญานสัมปันโน.. พระโพธิสัตว์
มาขจัดปัดเป่า เหง้ากิเลส
ปุถุชนได้พ้นทุกข์ปลุกสังเวช
ชี้เห็นเหตุ กิเลสตัณหา อุปาทาน..
...
คือหลวงตามหาบัว ชั่วดีพ้น
บำเพ็ญตน สมถะละถิ่นฐาน
ออกธุดงค์ ตรงสู่ป่าหาอาจารย์
" หลวงปู่มั่น " กลั่นกรองศิษย์สอนวิชชา
บรรลุกิจสัมฤทธิ์ผลแห่งตนนั้น
ก็ด้นดั้นสู่บ้านตาด สร้างวัดป่า
เพื่อสั่งสอนขัดเกลาชาวประชา
สร้างศรัทธาสาธุชน ..สาธุธรรม
ต้มยำกุ้ง ! ..ถลุงเงินเกินเป่าปัด
ประเทศชาติล่มจมหนี้ถมซ้ำ
ได้ผ้าป่าหลวงตาฝ่าฟันนำ
ศรัทธาธรรมนำชาติพ้น.. คนสามัคคี
ละหลุดพ้นในตนกู ..สู่ปรมัตถ์
ละสมบัติหลายหมื่นล้าน ผ่านวิถี
ละทิ้งหมด ปลดปลงลงตัวดี
ละโลกนี้ ไม่มีโลกหน้า.. นิพานัง
หลวงตาบัว.. ละสังขารผ่านบรรจบ
๒ ปีครบอริยเจ้า ..เล่าแลหลัง
อยู่ในศีลกินในธรรมตามสอนสั่ง
จะงดงามถึงท่ามกลาง ..ยังเบื้องปลาย !!
*********************************
ร่วมรำลึก.. ครบรอบ ๒ ปี การละสังขารของ..
พระอริยสงฆ์เจ้า ผู้สร้างคุณูปการให้แก่สังคม และประเทศชาติ ..
" หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน "
๓๐ ม.ค.๕๖

สาวลูกครึ่ง...

คีตากะ


แอบมีกิ๊กคนหนึ่งซึ่งสวยซึ้ง
เธอลูกครึ่งเยอรมันเฝ้าฝันหา
เรียกเยอรมันเชพเฟิร์ดเลิศโสภา
แม้ผวายามเห็นยังเอ็นดู....
ซ่อนเก็บกิ๊กอีกคนมักบ่นถึง
เธอลูกครึ่งอเมริกาน่าเลิศหรู
ชื่ออเมริกันบราห์มันหมั่นแลดู
เกรงยอดชู้กินแต่หญ้าไม่อาทร...
กิ๊กถัดมาก็ลูกครึ่งพึงหนักอก
เธอครึ่งบกครึ่งน้ำจำทอดถอน
มักป้วนเปี้ยนริมหนองท่องสัญจร
อิ่มก็นอนกบดานใต้ธารเธอ...
กิ๊กสุดท้ายนั้นลูกครึ่งซึ่งโสภี
เธอครึ่งผีครึ่งคนสวยจนเว่อร์
อาจสยองต้องผวาคราพบเจอ
แต่รักเธอเสมอกันหมั่นเอาใจ...

พับนกกระเรียนเพื่อแม่

อนงค์...นาง


วันที่1ของการพับนกกระเรียนเพื่อแม่
นกกระเรียนหนึ่งพันตัวหัวใจขวัญ
ให้แม่นั้นอายุยืนสดชื่นเสมอ
ลูกขอพับทุกวันไม่ฝันละเมอ
ใจพร่่ำเพ้อรอห้าปีเออร์ลี่รีไทร์
�
ขอให้แม่สุขภาพดีมีความสุข
ไม่มีทุกข์ครองชีวิตจิตแจ่มใส
ปฏิบัติธรรมได้พบความสงบใจ
ทุกสิ่งไม่จีรังดังพระธรรม
วันนี้อนงค์นางเริ่มพับนกกระเรียนสีขาวจากระดาษสมุดโน้ตเล่มเล็ก หลังจากได้กลับจากเมืองไทยไปเยี่ยมแม่มา อยากทำอะไรที่เป็นความหมายของการมีอายุยืน มีสุขภาพดีให้แม่ แม้ว่าแม่จะไม่ได้ป่วยในตอนนี้
ได้ไอเดียจากการพับนกกระเรียนของญี่ปุ่นและความเชื่อของจีนเกี่ยวกับนกกระเรียน
นอกเหนือจากการดูแลแม่ในด้านร่างกายและจิตใจ การสนับสนุนให้แม่ได้ปฏิบัติธรรม
ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว ก็อยากทำอะไรเพิ่มให้เป็นขวัญกำลังใจค่ะ
ไม่ได้ยึดติดอะไร เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แต่ก็อยากทำให้แม่ค่ะ
เลยขอเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ยังไม่รู้ว่าจะทันฝากพี่ชายที่จะกลับเมืองไทยวันที่ 12 กุมภาพันธุ์นี้หรือเปล่า เอาใจช่วยอนงค์นางด้วยนะคะ
นกกระเรียน
� � � � � �จัดว่าเป็นสัตว์มงคลที่มีความหมายที่ดีอีกอย่างหนึ่ง การใช้นกกระเรียนจะช่วยส่งเสริมให้อายุยืน สุขภาพร่างกายแข็งแรง หน้าที่การงานราบรื่น และส่งเสริมการเรียนให้ดี ดังนั้นถ้าตั้งนกกระเรียนไว้ในบ้านก็จะส่งผลให้ คนสูงอายุในบ้านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หากมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะหายป่วย คนหนุ่มคนสาวจะมีหน้าที่กา

* * * เริ่มใหม่ * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ


แล้วก็ถึงเวลาหาความสุข
สลัดทุกข์ทิ้งไปให้ไกลห่าง
เริ่มต้นก้าวสู่ถนนค้นเส้นทาง
เพื่อสรรค์สร้างชีวิตพิชิตชัย
เก็บความหลังในครั้งที่พลั้งเผลอ
ได้พบเจอความทุกข์ทนแต่หนไหน
เป็นบทเรียนตอกย้ำความช้ำใจ
อย่าหวั่นไหวกับอดีตผิดครรลอง
แสวงหาทางเดินเผชิญโชค
ให้พบโลกใบใหม่ไร้เศร้าหมอง
ทั้งความสุขสดใสสมใจปอง
ได้ครอบครองความรักและภักดี
เริ่มต้นสร้างฝันใหม่ใส่ความรัก
ต้องมีสักวันหนึ่งซึ่งสุขี
แม้จะนานสักหน่อยค่อยเปรมปรีดิ์
แต่ต้องมีสักวันฉันมั่นใจ
ณ วันนี้เริ่มใหม่ได้อีกครั้ง
มีความหวังอีกหนกับคนใหม่
สองชีวิตร่วมเดินเผชิญไป
ด้วยอุ่นไอความรักนิจนิรันดร์  ^^
๓๑ มกราคม  ๒๕๕๖  ณ บ้านบนดอย

เพียงเธอ....

คีตากะ


เพียงอยู่ใกล้ก็ซึ้งถึงไออุ่น
ยิ้มละมุมสะเทือนใจไหวสะท้าน
แววตาซื่อเดียงสาพาสราญ
อาจเปรียบปานทารกน้อยเจ้ากลอยใจ
โชคชะตาหรือฟ้าพาลิขิต
เพียงพบมิตรมิ่งขวัญวันอ่อนไหว
ช่วยฉุดรั้งคนล้มตรอมตรมใจ
ลุกยืนได้อีกหนบนทางเปลี่ยว
แม้ไร้สิทธิ์จะรักตระหนักแน่
ขอเป็นแค่คนไกลได้แลเหลียว
อยู่มุมนี้มองเธอเพ้อผู้เดียว
คอยยาเยียวหัวใจให้กานดา
เผื่อวันใดเธอเศร้าสุดเปล่าเปลี่ยว
เพียงแต่เหลียวแลมองลองค้นหา
อาจพานพบหนึ่งใครในเวลา
เคยคุ้นหน้ากาลก่อนย้อนเดือนปี
พร้อมจะฉุดมือเธอเมื่อเจอทุกข์
ดับไฟลุกเผาใจให้โฉมศรี
ตอบแทนคุณน้ำใจในความดี
ที่เคยมีนานมา....อย่าลืมเลือน

พาเที่ยวเมืองไทย สุขใจเพลินตา

อนงค์...นาง


คุณบินเดี่ยวเอื้อเฟื้อเมื่อบินถึง
เชียงใหม่ซึ่งน่าอยู่ดูแจ่มใส
พักที่พรพิรุณเวียงพิงค์ยิ่งถูกใจ(Rain Forest)
ตกแต่งสไตล์ล้านนางามตาจริง
แม่ลูกพากันไปไนท์บาซ่าร์
คนมากมาเที่ยวกันนั่นชายหญิง
ต่างชาติมามากมายได้พักพิง
เชียงใหม่ยิ่งมีชื่อเลื่องลือไกล
เช้าเราสองต้องใจไปเชียงราย
เลือกทัวร์ได้หนึ่งวันอันสดใส
นั่งรถตู้ขับดีมีปลอดภัย
เดินทางไปหลายแห่งแหล่งงดงาม
น้ำพุร้อนแม่ขะจานเป็นด่านแรก
มองดูแปลกตาจังยังต้องถาม
วัดร่องขุ่นสีขาวพราวฟ้าคราม
สวยทุกยามได้มองต้องทึ่งกัน
ไปเชียงแสนดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ
ใจสุขล้ำเพลิดเพลินเกินใจขวัญ
ข้ามไปลาวชื่อบ้านดอนซาวกัน
ของถูกพลันจับจ่ายชายตามอง
ไปแม่ริมหมู่บ้านงานหัตถกรรม
กะเหรี่ยงคอยาวจำได้คือชื่อปาด่อง
น่าสนใจแปลกตาให้น่ามอง
ทองเหลืองคล้องคอยาวสาวทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจากGoogle
"กะเหรี่ยงคอยาว" หรือชนเผ่าชาวปาด่องยังชีพด้วยการเกษตรกรรม ปลูกข้าว ใบชา ยาสูบส่วนใหญ่จะนับถือ ศาสนาพุทธกับถือผี หญิง สาวชาวปาดอง จะสวมห่วงทองเหลืองที่คอและแขนขาและจะเพิ่มจำนวนห่วงมากขึ้นเมื่อ มีอายุเพิ่มขึ้น การ สวมห่วงค้ำคอไว้ตลอดเวลา ห่วงจะดันให้คอดูยาวกว่าปกติ �โดยปกติในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากันมากชาวกระเหรี่ยงคอยาวก็จะมานั่งประจำที่ร้านของตนเองเพื่อขายของที่ระลึก แต่ถ้าในช่วงที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ชาวกะเหรี่ยงคอยาวก็จะดำเนินชีวิตประจำวันไปตามปกติ�
�
ไปที่เดียวเที่ยวได

ท่องเที่ยวเมืองไทย ไปกับอนงค์นางทัวร์

อนงค์...นาง


สาวร้อยเอ็ดอนงค์นางและลูกสาวคนโตได้มีโอกาสต้อนรับอาคันตุกะ เพื่อนไทยโพเอ็มสองสาวคือคุณอัลมิตราและคุณแม่มด เมื่อวันที่ 4มกราคม ที่จริงเครื่องบินต้องถึงสนามบินเวลา 19.25น. แต่เกิดเหตุขัดข้องบางประการทำให้ช้าไปสองชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านอนงค์นาง งานก็เกือบเลิกแล้วค่ะ แขกมากันตั้งแต่หกโมงเย็น แต่มาช้าก็ไม่เป็นไรนะคะ ดีกว่าไม่มาค่ะ
5 มกราคม2556 พาอาคันตุกะสองสาวไปเที่ยวกาฬสินธุ์ ไปชมสวนไดโนเสาร์ที่อำเภอสหัสขันธุ์ ไปเยี่ยมพี่สาวสามีอนงค์นางที่อำเภอสมเด็จ มีครอบครัวพี่สาวสามีจากโคราชและอุดรมาสมทบกันที่อำเภอสมเด็จ กาฬสินธุ์
วันที่ห้าพาไปกาฬสินธุ์
โฉมยุพินเที่ยวสวนไดโนเสาร์
ได้ความรู้พัฒนาปัญญาเรา
ศึกษาเข้าใจดีมีวิชา
จากสหัสขันธุ์กินลมสู่สมเด็จ
ส้มตำเผ็ดรอชิมอิ่มหรรษา
บ้านพี่แป๋วพี่อั้พรับเพื่อนยา
มีญาติมาจากโคราชไม่พลาดกัน
จากอุดรธานีมีพี่ปุ๋ย
สามีลุยมาด้วยช่วยสุขสันต์
มีแหนมเนืองมาฝากอิ่มปากกัน
ปลาเผาอันโอชาน่ารับประทาน
จากโคราชไม่ขาดมีพี่ปุ่๊ก
ทุกคนสุขพร้อมอิ่มชิมอาหาร
มีของฝากให้กันวันสำราญ
ชาวอีสานใจดีมีเมตตา
ญาติสามีอนงค์นางไม่ร้างรัก
ต่างพร้อมพรักพบน้องสะใภ้ใจสุขหนา
อยู่ห่างไกลแค่ไหนไม่นำพา
ขับรถมาเจอกันวันน้ำใจ
ร่ำลากันก่อนจากฝากรอยยิ้ม
อบอุ่นปริ่มอุราพาสดใส
เดินทางต่อไปเที่ยวไม่เปลี่ยวใจ
เจดีย์ชัยมงคลยลความงาม
วันที่ 6มกราคม พาเพื่อนไปเที่ยวชมเจดีย์หินทรายที่วัดป่ากุง อำเภอศรีสมเด็จ ร

น้ำตาแม่มด

เปลวเพลิง


เสียงไม้เรียวหวดขวับลงกับก้น
แสบเสียจนแทบว่าน้ำตาไหล
ผองลูกศิษย์เห็นหน้าฉันคราใด
ต้องหนีไกลเพราะกลัว เบื่อฉันเหลือทน
บางคนตั้งสมญาว่าแม่มด
เพราะภาพพจน์ในหน้าที่ฉันขี้บ่น
หัวโบราณอย่างนี้ไม่กี่คน
ชอบเสกมนต์ดำใส่ผ่านไม้เรียว
จนดาวเคลื่อนเดือนคล้อยลอยลับฟ้า
ศิษย์ใหม่มาเก่าไปหลายสิบเที่ยว
ฉันยังคงเพาะบ่มแรงกลมเกลียว
สอนศิษย์เฮี้ยวให้รู้รับสรรพวิชา
นักเรียนยังเรียกสมญาว่าแม่มด
ไม่ละลดความเนี๊ยบระเบียบกล้า
ทั้งสั่งสอนเคี่ยวกรำธรรมจรรยา
เหมือนเข้มงวดตรวจตรามาแต่ใด
ถึงวันนี้อายุลุหกสิบ
แรงจะหยิบไม้เรียวนั้นแม้นยังไหว
แต่วิชาชีพฉันสั่นหทัย
ต้องจำใจกล่าวคำว่าอำลา
ภาพเด็กน้อยเยาว์วัยในวานวัน
คือสิ่งอันสวยซึ้งคะนึงหา
ที่ดุด่าว่าบ้างเป็นบางครา
ด้วยเพราะว่ารักสะพรั่งและหวังดี
เพื่อวันหนึ่งวันใดในอนาคต
ศิษย์แม่มดจะเพลินเจริญศรี
ครองธรรมา-ร่างไม่ไหลใรวารี
ทั้งอัคคีก็มิไหม้ประลัยลาญ
โอ้วันนี้ศิษย์มากันคลาคล่ำ
แม่มดน้ำตาไหลใจสุขศานต์
เปล่า-มิได้ทุกข์กระไรในดวงมาน
ฉันชื่นบานเพราะซึ้งค่าคำว่า "ครู"

เทิดไท้ครูดี...ศรีแผ่นดิน

ขุนศรี


กาพย์ฉบัง ๑๖
ทวยราษฎร์ชาติซ้องครูดี                    พระราชินี
พระองค์ทรงสอนวิชา
สอนศิษย์คิดคล่องลองมา                   หลากหลายสาขา
รู้จักตระหนักตรองดู
วิจิตรประดิษฐ์งามหรู                       โครงการงานรู้
มัดหมี่ดูดีผ้าไทย
สอนรักษ์พิทักษ์พงไพร                   สัตว์ป่าอาศัย
พืชพันธุ์อยู่กันสมบูรณ์
ปลูกป่าต่อเติมเพิ่มพูน                    แทนไม้หายสูญ
โลกชื้นรื่นรมย์สมกัน
เทิดไท้ครูดี...ศรีวัน                        ราษฎร์ซ้องเสริญสรร
พระองค์ทรงพระจำเริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
นายทองม้วน  สิงห์ทองห้าว
โรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม  จังหวัดร้อยเอ็ด

ตนเตือนตน...

คีตากะ


มาตรว่าฝุ่นในตาไม่พาหม่น
ทำสับสนทิศทางจนหมางหมอง
ฤาจักเขี่ยให้พรากจากครรลอง
จนแลมองเห็นความสัตย์จรัสเรือง
หากไม่ล้มฤาจักลุกปลุกปลอบขวัญ
ยืนหยัดมั่นอีกครั้งดั่งปราดเปรื่อง
ลับปัญญากล้าคมบ่มประเทือง
ทุกราวเรื่องแจ้งจิตประสิทธิ์พร
ถ้าความทุกข์รุกเร้าไม่เผาจิต
จนวิปลาสวิปริตคิดไถ่ถอน
ฤาเห็นเหตุเลศนัยได้สังวร
ดับทุกข์ร้อนผ่อนคลายมลายเลือน
แม้ใจเขลาเศร้าหมองครอบครองทั่ว
ไม่ทำมัวดวงแดแถเชือดเฉือน
ฤาแจ้งมรรคสลักจิตคิดพร่ำเตือน
ฝึกตนเหมือนดั่งปราชญ์สิ้นชาติภพ...

บูฃาครู ในดวงใจ

ทิพย์วลี


๑๑๑๑.....แด่คุณครู ที่เป็นทั้งผู้ให้ ผู้สร้าง และผู้พัฒนา.....๑๑๑๑
“ครูดีในดวงใจ”
แสงเรืองประเทืองส่อง.......คุรุซ้องระลึกคุณ
โอบเอื้อและการุนย์...........ศิริยิ่งประสบชัย
ศิลป์ศาสตร์ประสาทสันต์.....สติมั่นวิมลใส
บอกโทษและคุณไซร้........คณนาอนันต์คุณ
จรรยา บ่ ลืมเลือน.............มนเตือนและเกื้อหนุน
ศิษย์ดีเพราะเจือจุน...........สุจริตวินิจนำ
ยอกรประนตน้อม..............ระติพร้อมระลึกจำ
บุญคุณประเสริฐล้ำ............สดุดี ณ ดวงใจ
...คุณของครู....
๑)..คำสั้นสั้น ไม่เลิศหรู ครูผู้ให้
อุทิศกาย เพื่อให้คน นั้นมีค่า
ตั้งเป้าหมาย เพื่อเสริมสร้าง ทางปัญญา
อยู่ดงป่า หรือหนใด ไม่เกี่ยงเลย
๒)..แม้หนาวร้อน กันดาร ผ่านลำบาก
ครูก็จัก ฝ่าฟันไป ไม่นิ่งเฉย
ครูเหมือนเป็น ดั่งพ่อแม่ ที่คุ้นเคย
ไม่ละเลย ห่วงลูกศิษย์ คิดเมตตา
๓)..ครูปราบปลื้ม ฉ่ำชื่นใจ ได้เห็นศิษย์
มีชีวิต ที่เติบใหญ่ วันข้างหน้า
มีงานดี มีตำแหน่ง มีหน้าตา
มีคุณค่า มีคุณธรรม นำชีวี
๔)..แค่เพียงเห็น ศิษย์มารวม กันพร้อมหน้า
ที่สิบหก มกรา เวียนมานี่
ครูยิ้มแย้ม สดใส ใจเปรมปรีดิ์
ลูกศิษย์มี พานดอกไม้ ไปกราบกราน
๕)..ครูผู้ให้ แนวทาง และชีวิต
ชี้ถูกผิด ยากจะเลือน พระคุณท่าน
ทั้งคำสอน ให้เรียนรู้ อยู่ทุกวัน
สาระพัน ความห่วงใย จากใจครูฯ
...ครูทิพย์วลี ศรีคนกลอน ขอคารวะบูชาครู...
"" สุขสันต์วันครูแด่บูรพาจารย์ทุกท่านด้วยความเคารพยิ่ง **
เนื่องใน

เทิดพระเกียรติพระราชินีครูศรีแผ่นดิน

ขุนศรี


คราแปดสิบพรรษาราชินีนาถ
ไทยทวยราษฎร์เชิดชูครูศรีสยาม
น้ำพระทัยใสสดแสนงดงาม
เลื่องลือนามพระเกียรติก้องซ้องแซ่ไกล
พระเกียรติครูผู้สอนสั่งหวังเกิดผล
คุณค่าล้นรู้ตระหนักประจักษ์ใส
สอนโครงงานการประดิษฐ์คิดวิไล
มัดหมี่ไหมลวดลายเลิศเพริศแพรวพรรณ
ครูสอนศิลป์ปั้นดินชิ้นงามเลิศ
แสนประเสริฐสอนถักทอก่อสร้างสรรค์
แกะสลักปักผ้าน่าอัศจรรย์
อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ให้พงพี
สอนพิทักษ์รักษ์ป่าพนาเวศ
ช่วยลดเหตุโลกคลายร้อนผ่อนสุขศรี
ปลูกต้นไม้ให้เพื่อป่าเผื่อวารี
โลกสุขขีชื่นภิรมย์สมใจปอง
สอนวิชาหน้าที่คนตนตระหนัก
เรารู้รักสามัคคีดีสนอง
รักถิ่นไทยใจเผื่อแผ่แง่ปรองดอง
รักเพื่อนพ้องพี่น้องมากมาจากใจ
ขออัญเชิญคุณพระศรีที่ศักดิ์สิทธิ์
เนรมิตพรประเสริฐเพริศพริ้งใส
ขอพระองค์ทรงเขษมเปรมฤทัย
ราษฎร์เทิดไท้แม่ครูดีศรีแผ่นดิน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
นายทองม้วน  สิงห์ทองห้าว
โรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม จังหวัดร้อยเอ็ด

สู่ขวัญครูกล้า..

ศรีสมภพ


ฉันไม่มีปืน.. แต่ยังยืนสอน
ฉันไม่อาทร.. จะสอนเด็กรู้
ฉันไม่คาดหวัง.. แต่ยังเป็นครู
ฉันไม่เคยรู้.. จะอยู่หรือตาย
ฉันไม่เคยคิด.. ถึงชีวิตนั่น
ฉันไม่เคยยั่น.. แม้เหตุการณ์ร้าย
ฉันไม่เคยสน.. ร่างป่นชีพวาย
ฉัยไม่เคยอาย.. ในการทำดี
ฉันจะดำรง.. คงอยู่สู้ไป
ฉันจะสอนให้.. เด็กได้วิถี
ฉันจะสร้างสรรค์.. ทั่วกันทุกที่
ฉันจะขอพลี.. แม้ชีวาวาย
“ ฉันคือครูใต้ ” .. ที่ใครมองข้าม
ฉันคือนิยาม .. ของความยิ่งใหญ่
ฉันคือมนุษย์.. แม้สุดกลัวตาย
ฉันคือครูไทย.. ยิ่งใหญ่อุดมการณ์
ฉันไม่มีปืน.. ยังฝืนสอนอยู่
ฉันไม่คิดสู้.. ผู้ร้ายใครนั่น ?
ฉันไม่คิดค่อน.. จะสอนอีกนาน
ได้โปรดสงสาร.. ฉันนั้น คือ.. “ ครู” ..!!
คารวะครูชายแดนใต้ ..ด้วยใจจริง
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ครู คือ แม่พิมพ์ของชาติ
ครู คือ ผู้สร้างชาติ
ครู คือ ผู้ให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
โดยเฉพาะครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถือได้ว่าเป็นบุคคลผู้เสียสละอย่างใหญ่หลวง เพื่อระลึกถึงพระคุณครูทั่วประเทศ สร้างขวัญ กำลังใจให้แก่ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงได้เกิด คอนเสิร์ตการกุศล ภายใต้ชื่อ “ธารน้ำใจ...เทิดพระคุณครู...สู่ชายแดนใต้” ร่วมกับศิลปินต่างๆมากมาย อาทิเช่น คุณเจิน เจิน พรประเชิญ / คุณวินัย พันธุรักษ์ / คุณอ๊อด คีรีบูน / ศิลปิน KPN / ศิลปิน AF / การแสดงของครอบครัวข่าว 3 คุณจ้อ, คุณอาท, คุณปู / คุณเอ พศิน / น้องวิว พงศ์ชนก ก

สุดปรารถนา กัลยาณมิตร

อนงค์...นาง


สุดปรารถนา กัลยาณมิตร
กลับเมืองไทยคราวนี้มีสุขใจ
เพื่อนแท้ได้มาพบประสพขวัญ
อยู่ห่างไกลแค่ไหนไม่สำคัญ
ฟ้ามิกั้นดวงใจให้เหงาฤดี
ต่างเดินทางด้วยใจให้เมตตา
ปรารถนาเพื่อนพ้องอย่าหมองศรี
รู้จักกันมานานผ่านหลายปี
เพื่อนรักมีหัวใจให้แก่กัน
เพื่อนเก่าสุดคนงามนามกุลธิดา
ต่างคบหาวัยเยาว์เราสุขสันต์
อายุเพียงสิบสี่ดีต่อกัน
สามสิบเก้าปีอันจริงใจไม่ลืมเลือน
เพื่อนรักเพื่อนสนิทคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมต้นและปลายด้วยกัน5ปีที่โรงเรียนสายน้ำผึ้งค่ะ จนเรียนจบ ตอนที่ทำงานในกรุงเทพฯ รักกันมากขนาดซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันในซอยวัชรพล  เมื่อรู้ว่าอนงค์นางจะกลับเมืองไทย เพื่อนไปรอที่โรงแรมตั้งแต่ 6โมงเย็น
แต่พลาดกันเพราะกว่าจะถึงโรงแรมก็สามทุ่ม แต่เราก็นัดเจอกันอีกจนได้ก่อนกลับในคืนวันที่
11 ที่ครัวริมน้ำหน้าโรงแรม รับประทานอาหารและคุยกันนานหลายชั่วโมง ลูกสาวของเราได้รู้จักกันและคุยกันอย่างสนุกสนาน
ระหว่างอนงค์นางกับกุลธิดา เราคือเพื่อนแท้ รู้จักและคบกันมา39ปี ไม่ต้องการเรตติ้ง ไม่มีอักษรหรือบทกลอนใดที่มีค่ามากไปกว่าหัวใจของความเป็นกัลยาณมิตร ที่ผ่านทุกข์ สุข มาด้วยกันแต่เยาว์วัย
ไม่เคยทอดทิ้งกันในยามเดือดร้อน มีแต่ความรัก กรุณาปราณีต่อกัน เกิดมาโชคดีค่ะ
มีพ่อแม่พี่น้อง คู่ครอง ลูกสองคน มีเพื่อนแท้ มีครบทุกทิศที่เป็นกัลยาณมิตร ไม่มากมายในปริมาณแต่มากด้วยความรัก ความเมตตาต่ออนงค์นางมาตล

พรปีใหม่...ที่อยากได้

คนบางบอน


ถ้าปีใหม่บันดาลใจใครได้บ้าง
โปรดอย่าร้างแรมไกลคนใจเหงา
ช่วยบันดาลคนที่ใจไม่รักเรา
ให้ใจเขามาสมัครรักเราที
ปีเก่าที่ผ่านพ้นหม่นใจอยู่
ขาดคนคู่เคียงใจไปทุกที่
อยู่กับความเหว่ว้ามาทั้งปี
ดลฤดีโหยหามาครอบครอง
หวังปีใหม่จะมีชีวิตใหม่
มีหัวใจสุขสมหมดปมหมอง
ได้ใกล้ชิดเคียงกายคนหมายปอง
ได้เกี่ยวดองรักใคร่ไปนิรันดร์
เป็นไปได้แค่ไหนไม่อาจรู้
ความเป็นอยู่ยังรางเลือน ยังเหมือนฝัน
บำเพ็ญบุญ อธิษฐานมานานวัน
ผลบุญนั้น ส่งผลให้ได้ไหมเอย
ปีใหม่แล้วแววหวังยังซอมซ่อ
ยังต้องรอนานแค่ไหน...ใครเฉลย
ฝากถามใจอีกหน...คนคุ้นเคย
ที่เคยเปรย..มิเคยปัด...ชัดหรือยัง
วันนี้วันฤกษ์ดีขึ้นปีใหม่
เปิดหัวใจเผยรักมาสักครั้ง
พรปีใหม่ที่อยากมีอย่างจีรัง
คือรักหนึ่งสมหวัง...อย่างยั่งยืนฯ

สุดปรารถนา กลับมาเมืองไทย(ตอนที่1)

อนงค์...นาง


กลับถึงบ้านสุขแสนแผ่นดินไทย
อย่างปลอดภัยไร้ทุกข์สนุกสนาน
ได้กราบแม่กอดท่านพลันชื่นบาน
ใจนงคราญสุขสบายคลายกังวล
จัดปาร์ตี้ปีใหม่ใจรื่นเริง
ต่างบันเทิงถ้วนหน้าอย่าหมองหม่น
รอเพื่อนบ้านกลอนไทยไปสองคน
ไฟลท์เลื่อนจนถึงบ้านงานเลิกลา
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ ไร้โรคา ปรารถนาสิ่งใดขอให้สมหวังทุกประการนะคะ
อนงค์นางและน้องพิมเดินทางถึงเมืองไทยวันที่2มกราคมค่ะ แวะไปเที่ยวDisneyland ที่่ฮ่องกง1คืนกับ1วัน
Disneyland Hong�Kongค่ะ
�
จัดงานที่บ้านอนงค์นางในอำเภอเมือง ร้อยเอ็ดค่ะ
เมนูมี ปลานึ่งผักนึ่ง ลาบไก่ ขนมจีน แกงเขียวหวาน หมูกระทะ ต้มไก่บ้าน
กล้วยบวชชี แตงโม สับปะรด
มีคาราโอเกะ ร้องเพลง มีหมอแคนเป่าแคน และหมอลำด้วยค่ะ
แม่สามี แม่อนงค์นาง และเพื่อนบ้านค่ะ
เพื่อนครูจากโรงเรียนที่เคยทำงานด้วยกันค่ะ
อนงค์นางครวญเพลง ยังจำได้ไหม และ จงรัก
หมอแคนเป่าแคน
เพื่อนครูร้องหมอลำ
ย่า ยายผูกข้อมือให้น้องพิมค่ะ
คุณอิมและคุณแม่มดฯกว่าจะถึงร้อยเอ็ด สามทุ่มครึ่ง เพราะไฟลท์ดีเลย์ ไปถึงบ้านแขกกลับกันเกือบหมดแล้ว
คุณอิมและคุณแม่มดมีของมาฝากอนงค์นางด้วยค่ะ
จินดามหาลาภ
คุณอิมมีดอกกุหลาบผ้าขนาดใหญ่มากให้น้องพิม
คุณแม่มดมีน้ำมนตร์และเหรียญหลวงพ่อโสธรมาฝากค่ะ
หน้า / 36  
ทั้งหมด 609 กลอน