ณ แผ่นพื้นผืนป่า.. ตะวันตก มรดกตกทอดไว้ ที่ใหญ่ยิ่ง ความหลากหลายชีวภาพกับความจริง ทุกสรรพสิ่ง ยังลึกล้ำ น้ำ ป่า ดิน ธรรมชาติ.. จัดแจงแบ่งที่อยู่ สัตว์ต่างรู้สัญชาตญานแห่งย่านถิ่น อยู่โดดเดี่ยวหรือรวมฝูงมุ่งหากิน ป่าปกดิน ดินสร้างป่ามาช้านาน ป่าผืนกว้าง..ฝั่งด้านตะวันตก มรดกโลกประกาศ จัดประสาน ด้วยเหตุผลเป็นต้นน้ำแหล่งลำธาร ความหลากหลายในพืชพันธุ์ตระการตา สัตว์หายากหลากพันธุ์ผสานผสม แหล่งอุดมกลมกลืนเต็มผืนป่า ธรรมชาติจัดแบ่งเขต นิเวศวิทยา สัตว์และป่า..จึงอาศัยได้เหมาะควร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ผืนป่าแห่ง..ทุ่งใหญ่นเรศวร อนุรักษ์พืชและสัตว์จัดจำนวน ชีวมวลล้วนหลากหลายให้ยั่งยืน ธรรมชาติสัตว์และป่า ..บริสุทธิ์ แต่มนุษย์ ! มิหยุดยั้งยังฝ่าฝืน เข้ารุกล้ำธรรมชาติสัตว์สะอื้น วิ่งแตกตื่น.. สาดปืนใส่ไม่นำพา เขาและเรา เหล่ารวมเพื่อนร่วมโลก ร่วมสุขโศกอกเดียวกันนั่นแหละหนา ต่างรักตัวกลัวตายวายชีวา ทั้งสัตว์คน กลัวการฆ่า..อย่าเบียดเบียน ! ๒๐ ปี มรดกโลก ห้วยขาแข้ง ตำนานแห่ง ...สืบ นาคะเสถียร ผู้ปลิดชีพ ป้องผืนป่า ผู้กล้าเปลี่ยน พลิกบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ..ให้ป่ายัง ! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง - ทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่มีพื้นที่รวม 4,017,087 ไร่ มีความต่อเนื่องและเป็นแกนกลางของผืนป่าตะวันตก ครอบคลุมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทั
๐ ลมหนาวมา หาเสื้อผ้า หนาๆใส่ ดื่มน้ำอุ่น จะอุ่นกาย ดั่งใจหวัง อีกวิธี นั้นก็คือ ออกกำลัง หรือกอดคน อยู่ข้างๆ ที่รู้ใจ ๐ แต่ถ้าหาก ยังไม่มี คนเคียงข้าง หรือว่าคู่ อยู่แสนห่าง เกินชิดใกล้ อย่าเพิ่งท้อ.. ขอให้มี กำลังใจ หน้าหนาวนี้ ที่ทำได้ คือกอดตัวเอง ๐ กอด..อก ก็ทำให้ร่างกายอบอุ่นได้เช่นกัน
ขัตติย มหาราช ค้ำชูชาติ โดยปราดเปรื่อง ตรากตรำ นำบ้านเมือง จนรุ่งเรือง ดุจเมืองทองพระนาม ภูมิพล ปลื้มกมล ชนทั้งผอง ทรงการ งานก่ายกอง เสียงแซ่ซ้อง ก้องโลกา เหนื่อยพระ-วรกาย ด้วยห่วงใย ไทยถ้วนหน้า ปกเกศ โดยเมตตา ดั่งบิดา ผู้ปรานี ข้างองค์ ทรงแม่พระ อัคร มเหสี สิริกิติ์ วิสิฐโสภี ดวงมณี จักรีวงศ์ธ ประเสริฐ เลิศปัญญา กอบสัมมา อานิสงส์ ยิ่งมหา มาตุรงค์ เอกอนงค์-นาถทรงชัยทวยราษฎร์ ชาติสันติ พึ่งอิทธิ อดิศัย สองพระองค์ ประสงค์ใด สมพระทัย มุ่งหมายเทอญด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า สุนทรวิทย์ ร้อยกรอง
๏ ทรงพระเจริญ ๏ ขอปวงเทพทุกชั้น...............สวรรค์ จงประทานพรอัน...................เลิศล้ำ ทรงองค์ ธ ให้พลัน.................สราญสุข พระสรรพทุกข์อย่ากล้ำ...........ห่างสิ้นกังวล เจริญพระชนมายุเยื้อง.......เทวา ยิ่งยศพระสมัญญา.................เกริกก้อง ยืนหยัดพระธรรมา................ทศพิธ นานตราบฟ้าพิมานป้อง.........ปกคุ้มภูมินทร์ _________ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายวรศักดิ์ สาคร
"พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา" พระภูมินทร์ปิ่นเกล้าชาวประชา พระบุญญาบารมีศรีสยาม พระเกียรติเฟื่องเลื่องลือระบือนาม พระมิ่งขวัญนั้นงามท่ามผองชน พระทรงฤทธิ์สถิตในดวงใจราษฎร์ พระทัยหยาดห่วงใยไทยทุกหน พระกรณียกิจพิศยินยล พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ ข้าพระพุทธเจ้า นามปากกา หทัยกาญจน์ ประพันธ์ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
ข้าลูกทุ่ง...ด้อยชื่อระบือเลื่อง คอยข้าวเหลืองรวงเรียวเกี่ยวรักษา ใส่ยุ้งฉางเติมเสบียงเยี่ยงเคยมา สิ้นหน้านาออกร่อนเร่พเนจร ข้าลูกทุ่ง...ด้อยศักดิ์ประจักษ์ทั่ว ยามฟ้าหลัวเหม่อดาวพราวสลอน ใต้แสงจันทร์ส่องสว่างกลางดงดอน สิ้นอาวรณ์นิทราด้วยล้าแรง ข้าลูกทุ่ง...ด้อยเกียรติกำจรกว้าง เดินตามทางคันนาหาหน่ายแหนง กินน้ำคลองล่องเรือเมื่อคราแลง เก็บผักแกงที่ท้ายทุ่งจรุงใจ ข้าลูกทุ่ง...ด้อยทรัพย์นับอเนก อยู่วิเวกดงแดนแคว้นไศล ดำแต่ตัวมิมัวจิตคิดการไกล มีเท่าไหร่แบ่งปันกันและกัน ข้าลูกทุ่ง...ด้อยจิตคิดปรารถนา มุ่งไขว่คว้าเกินตัวกลั้วโมหันต์ พึ่งพิงธรรมนำทางหว่างชีวัน หาเมามันหลงวัตถุดั่งทุรชน ข้าลูกทุ่ง...ด้อยคนรักสลักจิต ขาดมิ่งมิตรรู้ใจในเหตุผล ขับเพลงไพรกล่อมป่าธราดล มาตรไร้คนเข้าใจไม่อาทร...
เจิดจรัสนภไสวศิวิไลซ์ตลอดทิศวิจิตรแลกระจ่าง เรืองเรืองสว่างอมรสวัสดิ์ศิริวัฒน์เสมอสวรรค์ เสนาะเพราะพร้องมโหรีดนตรีทิพย์คลอบรรเลงเพลงคนธรรพ์ เจริญสุขเกษมสันต์เทพยดาสรวงโปรยพวงพรทั่วนครไทย องค์นวมินทร์ปรเมษฐ์มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี ครบเจ็ดรอบแปดสิบสี่พระชันษามหามงคลสมัย ปิ่นนเรศเศวตรฉัตรวาระเฉลิมชนม์ปวงประชาฉลองชัย ขอพลานิรามัยสนองขวัญมิ่งเจริญยิ่งพระราชสมภพวาร นบศักดิ์สิทธิ์เชิญพระรัตนตรัยเชิญเจริญพระราชสิริสวัสดิ์ อุดมพัสดุ์เทวาประสิทธิ์พิพิธมงคลประสบก้องภพศักดิ์ไพศาล เสวยเวียงสวรรค์วังบัลลังก์ฟ้านานกว่ายิ่งยืนนาน ปิติกมลดลสราญสฤษฏ์หวังดังอุราด้วยพระบุญญาบารมี เกียรติดำรงทรงยศภิญโญยินปรมินทรมหาภูมิพล ผ่องสกาวเย็นสกนธ์บงกชแก้วเพริศแพร้วภัสสรบวรศรี ครองรัตนโกสินทร์มหินทรายุธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานี เพ็ญพิศุทธิ์พรประเสริฐเถิดเปรมเขษมปรีดิ์สุขสมภิรมย์ปอง จอมกษัตริย์จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร อินทร์องค์ผู้ทรงฤทธิ์เทิดมหาราชปราชญ์ภูวไนยฤทัยสนอง จักพรรดิ์นิรัติศัยมไหศูรย์เจิดจำรูญเรืองรอง พสกนิกรซ้องสดุดีประสานเพลิดอมรพิมานเพลิน ห้าธันวาคมประนมกรน้อมมโนและศิรกรานกราบ พระมหากรุณาธิคุณซาบจตุรพรเสกเอกอ้าราชันสรรเสริญ ประสงค์ใดในธรณินภูมินทร์มาศปรารถนาราชาวดีเชิญ ขอจงทรงพระเจริญเกษมสำราญ..นิรันดร์กาลนิรันดร๚ะ๛ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเด
เล่าเรื่องพ่อ.. ขอนำกล่าวเรื่องราวย้อน เป็นบทกลอนบรรเจิด..เพื่อเทิดเกล้า องค์ราชัน จอมราชาประชาเรา น้อมมาเล่า เข้าดิถี ๘๔ พรรษา.... ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เล่าเรื่องพ่อ (เรื่องที่ ๒) " รอยยิ้มจันทร์ ..รอยยิ้มพ่อ " จวนค่ำย่ำสนธยา สิ้นแสงกล้าแห่งอาทิตย์ จันทร์เสี้ยวเกาะเกี่ยวติด เคียงข้างชิดสะกิดสองดาว บน..ศุกร์สุกสดใส พฤหัส..ซ้ายคล้ายตาเจ้า ล่างพริ้มปากยิ้มเย้า เปล่งสกาว พร่างพราวตา ธรรมชาติวาดเหมือนฝัน ปรากฎการณ์อันเจิดจ้า จันทร์ยิ้มอิ่มอุรา โปรยจากฟ้า..มาสู่ดิน บนโลก โศกสลด พลันก็หมด มลายสิ้น การเมือง เรื่องโหดหิน ทั่วไทยถิ่น สิ้นซาลง ต่างจ้องมองฟากฟ้า ช่างงามตา อ่าระหง เคืองโกรธก็ปลดปลง เยือกเย็นลงตรงประเด็น รอยยิ้ม.. รอยยิ้มพ่อ ! เมื่อไหร่หนอ..พอให้เห็น เอิบอิ่มยิ้มเยือกเย็น ช่างยากเข็ญไม่เห็นนาน ลูกหลานพาลทะเลาะ คงไม่เหมาะ จะยิ้มนั่น กล้ำกลืนฝืนจาบัลย์ จะให้ท่าน..ยิ้มอย่างไร ! อยากเห็น..รอยยิ้มนั้น ต้องร่วมกัน สร้างสรรค์ให้ สมานสมัครรักกันไว้ รวมหนึ่งให้..ท่านได้ชม มาเถิด..วันเกิดพ่อ ช่วยเติมต่อ พ่อสุขสม ร่วมมือถือพนม พร้อมกราบก้ม..ชมยิ้มพ่อ จันทร์ยิ้ม พริ้มสดใส พ่อยิ้มได้ ชื่นใจหนอ นัยน์ตา น้ำพร่าคลอ รู้แล้วหนอ..พ่อท้อใจ ๑ ธ.ค.๕๑ ( ปรากฎการณ์พระจันทร์ยิ้ม ) @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ปรากฏการณ์พระจันทร์ยิ้ม ห
ควันเบาบางจากกองไฟจวนใกล้ดับ แสงดาววับแวมวาวราวห้วงฝัน ค่ำคืนดึกราตรีมีแสงจันทร์ พระพายผันโอบกอดพรอดวิกาล ถนนเวิ้งฟ้าว่างร้างสรรพสิ่ง เพลงเหงาอิงแอบใจไหวขับขาน ลมหนาวครวญแผ่วมาพร่าดวงมาน ปลุกวิญญาณที่หลับใหลให้ฟื้นตื่น บุรุษหนุ่มสำอางพลางผมขาว สตรีสาวกลับชราหาขัดขืน กาลเวลาล่วงลับกับวันคืน ค่อยกินกลืนสรรพสิ่งจมดิ่งลง ชั่วพริบตายี่สิบปีที่ผ่านพ้น มาตรยากดีมีจนบนความหลง สะลึมสะลือชีวิตติดพะวง เพียงฝุ่นผงเข้าตาจนพร่าลาย คิดถึงกานต์คนไกลแต่ใกล้จิต เผชิญชีวิตเยี่ยงไรในจุดหมาย คิดถึงมิตรใกล้ใจแต่ไกลกาย ดีฤาร้ายอย่างไรได้พบเจอ พ.ศ.เปลี่ยนเปลี่ยนใจไปด้วยไหม หลงลืมใครคอยหวงห่วงเสมอ พ.ศ.ใหม่ใช่ใหม่คนคอยปรนเปรอ ปล่อยใจเพ้อเหงาหงอยคอยสบตา เพียงรับรู้ภายในใช่ไกลห่าง ทุกเส้นทางคิดถึงคำนึงหา หวังเพียงเธอพบสุขทุกเพลา รับรู้ว่ามีฉันนั้นห่วงใย ขอคุณพระคุ้มครองอย่าต้องเศร้า ช่วยปัดเป่าพาลผองล่องขับไส สิ้นโรคาพยาธิทุกปีไป ถึงปีใหม่ใสสุกปราศทุกข์ทน ท้าย ป.ล.ต่อด้วยรักและคิดถึง ฝากเพลงซึ้งกล่อมมาเวหาหน จากใครที่ห่างไกลใกล้กมล ส่งถึงคนที่รักและภักดี....
นาทีสุดท้าย....ก่อนกลายว่าง สู่เส้นทางสายเปลี่ยวกอดเกี่ยวฝัน บนโลกร้างไร้แสงแห่งตะวัน เมื่อเข็มนาฬิกานั้นพลันหยุดเดิน นาทีสุดท้าย....ล้วนมลายลับ สุดคว้าจับสิ่งใดให้หาวเหิน ปลดกายใจปล่อยลงคงหนักเกิน ก้าวย่างเดินเส้นทางร้างตัวตน นาทีสุดท้าย....ทำลายฝัน เพลินสร้างสรรค์นานมาพาสับสน วนเวียนว่ายหลายคราวร้าวกมล ก้าวข้ามพ้นสมมุติหยุดโศกา นาทีสุดท้าย....เหมือนตายจาก ต้องจำพรากรูปนามท่ามสังขาร์ ปลดวางแอกบาปบุญสู่สุญตา หลอมวิญญาณ์ละลายมลายเลือน นาทีสุดท้าย....กลายแปรเปลี่ยน ราวดั่งเทียนมอดดับลับเสมือน เหลือเถ้าควันเบาบางอันรางเลือน ก่อนคล้อยเคลื่อนสู่อากาศปราศร่องรอย...
วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองทุ่ง ธารบุกกรุงเมืองฟ้าคราสิ้นฝน รุกคืบดินถิ่นอมรต้อนผจญ ไล่ผองชนชาวฟ้าค่อยราวี ลมหนาวล่องจากเหนือเมื่อปลายฝน ธารหลากล้นล้อมเมืองรุ่งเรืองศรี ม่านความกลัวแผ่คลุมสุมธานี ชนต่างหนีทิ้งเวียงหลบเลี่ยงภัย มังกรพยัคฆ์สู้กันประชันฤทธิ์ ทั่วทุกทิศขัดแย้งแคลงสงสัย เงินเป็นเหล็กค่าด้อยน้อยลงไป ธารน้ำใจไหลนองท่ามผองชน ลอยกระทงปีนี้น้ำมีมาก ล่องลอยฝากคงคาบ่าถนน ขอขมาชลาลัยไหลเวียนวน ดุจใจคนสุดหยั่งถั่งโถมนอง...
เอะอะก็ดราม่า บีบน้ำตามาออดอ้อน สั่นเครือเพื่ออ้อนวอน เล่นละครขอเวลา เหนื่อยคร๊าแต่ไม่ท้อ ทำงานต่อแก้ปัญหา กำลังใจที่ได้มา มันเป็นยาบำรุงใจ เอะอะก็น้ำตา เบื่อนักหนารู้บ้างไหม นายกประเทศไทย บ่มีไก๊ใช้ปัญญา เอะอะก็ร้องไห้ เป็นอะไรกันนักหนา เหนื่อยนักก็บอกลา- ออกไปซะน่ารำคาญ เอะอะก็ร้องไห้ รู้บ้างไหมไม่สงสาร ดราม่าที่เชี่ยวชาญ เล่นที่บ้านให้สมใจ
ซาบซึ้งใจชายชาญทหารกล้า คอยนำพาพี่น้องไทยใจหม่นหมอง ไร้ทั้งบ้านผืนดินที่กินนอน เอื้ออาทรช่วยเหลือคอยเจือจาน ฝ่าสายน้ำกองโคลนโดนกันหมด ไม่เคยลดแรงกายใจให้ประสาน มาช่วยเหลือประชาพาชื่นบาน ถึงจากบ้านยังอุ่นใจห่วงใยกัน อยากบอกว่าขอบคุณบุญครั้งนี้ พรใดดีมอบให้ใจสุขสันต์ รั้วของชาติมาดหมายใดสมใจพลัน ขึ้นยศขั้นก้าวหน้าสถาพร
ค่ำคืนหม่นฟ้าเวิ้งนองเจิ่งน้ำ ล่องลำนำเรือยนต์บนธารไหล บนถนนเคยเที่ยวเคี้ยวคดไกล แปรเปลี่ยนไปเป็นคลองสองฝั่งทาง สองฟากฝั่งคลองสองน้ำนองหลาก ธารเชี่ยวกรากท่วมท้นจนหมองหมาง ชำระกรรมผองชนจนเจือจาง ทั่วทุกบางจมหายภายใต้ชล ล่องเรือผ่านเทวษทุกข์ธารรุกเข้า กลืนเมืองเอาแทบสิ้นทุกถิ่นหน พรจากฟ้าครานี้มากพิกล พรากผู้คนจากเคหาจำลาไกล ท่ามความมืดอับแสงลมแรงพัด สายธารซัดผองชนเกินทนไหว ทิ้งถิ่นฐานอพยพหลบเภทภัย เดินแหวกในสายชลบนทางจร แววตาเศร้าเคล้าวิตกระหกระเหิน ร่วมเผชิญเคราะห์กรรมจำทอดถอน ดั่งกรุงแตกแหวกว่ายในสาคร เฝ้าวิงวอนฟากฟ้าให้ปราณี บ้างนั่งเรือ, ลอยคอ บ้างถ่อแพ บางคนแค่ห่วงยางนำร่างหนี บ้างเดินฝ่าสายชลล้นวารี แทบจมศีรษะตนพ้นแค่คอ บ้างจูงลูกจูงหลานซมซานหนัก บางคนรักหมาแมวแจวเรือปร๋อ บรรทุกสัตว์เต็มลำน้ำตาคลอ มิทดท้อต่อชะตาฝ่าเกลียวคลื่น หมู่บ้านสองข้างทางแทบร้างสิ้น ทั่วแผ่นดินน้ำนองมองสุดฝืน เพียงเดือนดาวพราวฟ้าคราค่ำคืน ที่หยิบยื่นแสงมาคราวิกาล วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ คำพุทธิตรัสสอนทอนสังหาร ความทุกข์ด้วยความเพียรเวียนแผ้วพาน ด้วยจิตหาญมิหวั่นพรั่นสะพรึง มองสายน้ำตามทางอ้างว้างจิต ไปเถิดมิตรน้องพี่ที่คิดถึง สู่หนทางแห่งใหม่ไร้คลองบึง ไกลคลองหนึ่งคลองสองล่องนาวา ดั้นด้นเถิด...ดั้นด้นก่อนชลโถม รุกชโลมซ้ำอีกปลีกสังขาร์ ถุงยังชีพจำเป็นเร้นกายา รอวันหน้าฟ้าใหม่ได้พบกัน ขอพระแม่คงคาชลาศัย โปรด