"เรารักแฟนเรา" คำนี้จำแน่นหนัก"เรายังรัก" "เรายังรัก" ช้ำเหลือแสน "เรารักเธอ แต่ความหมายไม่ใช่แฟน" ยังเหนียวแน่น เพราะ"แฟนเราเป็นคนดี" ทุกท่วงถ้อย ร้อยวจี ไม่แปรเปลี่ยน ทั้งฟังพูด อ่านเขียน ไม่เปื้อนสี ยังชัดเจน ย้ำอีกครั้ง ฟังอีกที ณ ตอนนี้ ในพื้นที่ไม่มีเรา ใจเจ็บปวดรวดร้าว ราวหินทับ บี้ขยับย่ำย้ำ"เธอเป็นของเขา" แม้ช้ำชอก หากเธอบอก "ต้องรอ"ก็เอา แต่ตอนนี้ที่ต้องเศร้า เพราะว่าเขายังเป็นแฟนกับเธอ....
โคมจันทร์แขวนขอบฟ้าพรายพร่าแสง เสียงพิณแห่งสวรรค์บรรเลงไหว จันทร์ทักทายสายธารสานสายใย สวรรค์แลโลกเชื่อมไว้ด้วยใจเดียว ล่องเรือตามบทเพลงบรรเลงขาน ประภาคารโพ้นฟ้าตาแลเหลียว ท่องชเลล้ำลึกนึกดายเดียว จิตเปล่าเปลี่ยว ณ ราตรีที่ยาวนาน ฟังเรื่องราวสายน้ำรำพันเอ่ย ลมรำเพยพัดพลิ้วผิวละหาน คุ้งแควโค้งหินโคกมากโตรกธาร ยากจักผ่านง่ายดายคล้ายหลุมพราง แต่คำมั่นสัญญาใจมอบให้เจ้า คอยเร่งเร้าภายในให้ถากถาง แม้ทะเลไร้ฝั่งดั่งเลือนราง ชีพวายวางก็จะไปให้ถึงเธอ....
๏ ม่านวสันต์บดบังสองฝั่งฟ้า ห้วงเวหาหม่นเทาดูเศร้าหมอง ร้างแสงวันเคลื่อนขับเข้าจับจอง ไร้แสงทองเรื่อรุ้งท่ามคุ้งธาร ฟ้าอีกฝั่ง..คงเป็นเฉกเช่นนี้ ฝากวจีถามไถ่โปรดไขขาน สุขฤๅเศร้าอย่างไรท่ามสายกาล อย่าปล่อยผ่านเอื้อนเอ่ยเฉลยนัย มวลสุมาลย์บานช่อดั่งรอช่วง สายฝนร่วงรินรดหยาดหยดใส ดั่งทรวงหนึ่งชื่นฉ่ำหากคำใคร จักขานไขทุกอย่างยามห่างกัน พรรษากาลผันมาอีกคราหนึ่ง ม่านฟ้าจึงหม่นนานมิผ่านผัน ทั้งเช้าสายบ่ายเย็นมิเว้นวัน หวังดวงขวัญร้างหมองครอบครองทรวง สองฝั่งฟ้าแม้นห่างเหมือนอย่างเก่า หวังสองเราแน่นแฟ้นด้วยแหนหวง จักเติมเต็มรักของใจสองดวง ตราบแมนสรวงโน้มฝั่งมารั้งกัน ๚ะ๛
หมดโปรโมชั่นรัก (ชายบ่นหญิง)
เมื่อแรกรักใหม่อ้าง..............อดีตกาล
เธอหมั่นป้อนคำหวาน...........ออดอ้อน
หน้าแต่งจัดเต็มปาน..............หาเหยื่อ
มีเล่นตัวยอกย้อน................ยั่วให้โหยหา
เวลานานเนิ่นแล้ว...........เริ่มพะวง
ซิ้มแก่เห็นแล้วปลง...........อนาถแท้
โทรจิกค่ำเช้างง................โคตรโคตร
เรื่องมากพอฝากแก้..............กลับขี้งอนสวน
หมดโปรโมชั่นรัก (หญิงบ่นชาย) ทวนรักเมื่อแรกนั้น...........แสนนาน หมั่นจีบไลน์หยอดหวาน.........ออดอ้อน รับส่งทุกวันปาน.............ตัวติด กันฤา ง้อตลอดโอบกอดป้อน...........กับข้าว คะขา มาวันนี้กลับอ้าง.............ยุ่งเสมอ โลกส่วนตัวคุณเธอ............โคตรล้น มองชะนีอื่นอย่าเผลอ............หื่นตลอด กระด้างกระเดื่องก็เพราะพ้น.............หมดแล้วช่วงโปร
จรดสายตาตราตรึงคะนึงรัก เพ่งมองพักตร์รักเอยเฉลยไข สิ่งซ่อนนึกลึกซ้อนที่ซ่อนนัย ลึกสุดใจ...เกินรักจักครอบครอง เกินจากคำว่าใจที่ไขว่คว้า ปรารถนาเพียงสุขที่สุดของ เธอผู้ซึ่งหนึ่งฝันจักมั่นมอง โอบตระกองกอดขวัญทุกวันเป็น จรดหัวใจใสแผ้วดั่งแก้วผ่อง เชื่อมสู่ห้องหัวใจในรักเห็น พิสุทธิ์ภาพอาบรักประจักษ์เย็น ดุจแสงเพ็ญ...อาบฟ้าเมื่อตาแล เธอคือใครในฝันที่ฉันรู้ อาจคือคู่ ตรรกะแห่งรักแท้ ผ่านภพชาติวาดเปลี่ยนกี่เวียนแปร ไร้ข้อแม้เมื่อใจสองใจตรง สูงเกินรักจักมอบเพื่อครอบครอง สูงเกินมองกลัดกลุ้มด้วยลุ่มหลง สูงเกินก่ายหมายกอดพรอดพะวง สูงเกินกรงแห่งรักจักกักกัน คำคำนี้มีค่ากว่าความสุข ไร้ความทุกข์...ก่อร่างมาขวางกั้น รักด้วยรัก...จักผ่านทุกวารวัน สู่นิรันดร์เรืองรองแห่งสองเรา
มีเพียงเธอ คนนี้ ที่พี่เพ้อ มีเพียงเธอ คนนี้ ที่ไฝ่หา มีเพียงเธอ คนเดียว ทุกเวลา มีเพียงเธอ นั่นหนา พี่รักเธอ มีเพียงเธอ เท่านั้น ไม่ปันรัก มีเพียงเธอ แน่นหนัก รักเสมอ มีเพียงเธอ ทำให้ ใจละเมอ มีเพียงเธอ ไม่เผลอ เปลี่ยนแปรใจ มีเพียงเธอ คนนี้ ที่พี่รัก มีเพียงเธอ พี่ภักดิ์ หัวใจให้ มีเพียงเธอ เสมอ แม้ห่างไกล มีเพียงเธอ หัวใจ พี่เปรมปรีด์ มีเพียงเธอ แม้วัน คืนผันเปลี่ยน มีเพียงเธอ วนเวียน ในใจพี่ มีเพียงเธอ หวานรัก รักคนดี มีเพียงเธอ คนนี้ เต็มห้องใจ มีเพียงเธอ ตอบใจ ได้ทั้งหมด มีเพียงเธอ หวานลด ลงที่ใหน มีเพียงเธอ อยากหวาน หวานหมดใจ มีเพียงเธอ รู้ไว้ “มีเพียงเธอ” o..มวลภมร..o
-แรกแลเห็นติดตา -วันต่อมามิได้เห็นจิตลวงว่าเห็นได้ -เหตุผลกลใดหนอจึงนึกถึงเธอตลอดเลย -อะไรหนออะไรเอยอาการนี้คืออะไร -เหตุใดหนอเหตุใดพบเจอแล้วต้องหลบตา -คิดค้นหาจึงรู้ว่าเหตุผลนั้นให้คำตอบบ่ได้ -โอ้ใจหนอใจ เป็นอะไรไปเอย -นี่เราหนอหลงรักเขาแล้วหรือไร
ถึงบอกรักจากใจก็ไม่ซึ้ง ความคิดถึงทุกนาทีไม่มีค่า เพราะพูดบ่อยเกินไปไร้ราคา เธอบอกว่าต้องหารร้อยแล้วค่อยฟัง เป้นคำพูดเรี่ยราดขาดน้ำหนัก คำว่ารักปี้ป่นสิ้นมนต์ขลัง จากปากคนไร้ค่าน่าเกลียดชัง เพราะไม่ยั้งหัวใจได้แผลเป็น ไม่ได้อยากบอกเล่าเพื่อเอาชนะ แค่อยากจะบอกความในให้เธอเห็น ที่บอกรักมาเล่าทุกเช้าเย็น ใจลำเค็ญก็ยิ่งท้อยิ่งทรมาน ยิ่งไม่อาจจะห้ามความคิดถึง มันหนักอึ้งเกินห้ามความคิดอ่าน ขอโทษด้วยที่ทำให้รำคาญ แต่เนื้อสารที่เธอเห็นเป็นความจริง
"ยังอยากนั่งมองจันทร์ด้วยกันไหม" ------------------------------------- ลมเย็นชื่นแผ่วผิวพริ้วใบไผ่ ฉ่ำชื่นใจในราตรีที่ครึ้มฝน แหงนมองฟ้าเมฆาฟ่องล่องลมบน พัดใจคนเหงาหงอยให้ลอยไกล เห็นดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวเลี้ยวบังเมฆ ช่างวิเวกในความคิดจิตหวั่นไหว โอ้... ดึกดื่นค่ำคืนนี้ไม่มีใคร อยู่เคียงใกล้มองเดือนเหมือนก่อนเคย ดึกสงัดเงียบงันจันทร์สลัว รอบๆตัวเสียงเรไรใยเงียบเฉย ทุกสิ่งอย่างดูต่างไปไม่เหมือนเคย โอ้... ใจเอ๋ยใจเราช่างเหงาจัง หลายผู้คนพักผ่อนนอนหลับฝัน แต่ใจฉันมันยังถามถึงความหลัง อยากจะรู้ผู้ลาลับหลับหรือยัง ?? ยังอยากนั่งมองจันทร์ด้วยกันมั๊ย ??? --------------------------------------- By... Cobra Owens
โอ้นี่หรือที่เห็นเป็นความรัก แม้พอหักดวงจิตยิ่งคิดถึง พอพบเธอหวั่นไหวใจรำพึง ยังคะนึงถึงเธอเผลอปล่อยใจ ***** ความรักพี่ติดตัวชั่วชีวิต พี่ยังติดตราตรึงซึ้งสดใส จึงมอบรักล้นเอ่อให้เธอไป น้องรู้ไหมว่ารักประจักษ์จริง **** จงเชื่อใจเถิดหนาอย่าเร่าร้อน ฟังพี่ก่อนคนดีมีเพียงหญิง ค่อยค่อยคิดเถิดหนาอย่าประวิง เพราะทุกสิ่งคือรักปักอุรา
ถ้าวันนี้เธอคิดจะบอกลา.... เหตุผลเพราะที่ผ่านมาแค่สับสน เหตุผลเพราะมันลำบากไม่อยากทน เหตุผลเพราะมีอีกคนที่สนใจ หรือเพราะฉันทำอะไรให้รำคาญ หรือเพราะฉันพูดคำหวานมากไปไหม หรือเพราะฉันไม่ดูดีเหมือนใครๆ หรือเพราะฉันไม่ใส่ใจให้เวลา ถ้าจะไปคงไม่ไหวที่จะรั้ง ร้อยเหตุผล ไม่อยากฟัง ไม่ต้องหา ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้เสียเวลา เพราะทุกเหตุผลที่พูดมา...ฉันแปลได้แค่ว่า"ไม่รักกัน"
แค่ได้ฟังคำบอกลาว่าจะไป ด้วยเหตุผลที่เธอให้ใจยิ่งท้อ เพราะว่าฉันคนนี้ดีไม่พอ หรือว่าเธอกำลังรอเพื่อง้อใคร บอกตัวเองซ้ำๆว่าอย่ายอมแพ้ แต่มันไม่ได้แปลว่าแพ้ไม่ได้ ถ้ายิ่งฝืนไปกว่านี้ยิ่งอันตราย ต้องยอมรับเมื่อฝันร้ายกลายเป็นจริง กว่าจะรู้สึกตัวมันก็สาย ผลสุดท้ายก็กลายเป็นคนถูกทิ้ง ทุกความฝันพลันร่วงถูกช่วงชิง ต้องสูญเสียหมดทุกสิ่งที่เคยมี ให้เท่าไหร่ก็ไร้ค่าเวลาหมด เมื่อความรักมันยิ่งลดลงทุกที เป็นเพียงแค่ความผูกพันในวันนี้ กับความรู้สึกดีดี...ที่มันไม่มีค่าพอ
ยิ่งอยากลืมทำไมใจยิ่งรัก เจ็บช้ำหนักเพราะความรักไม่ไปไหน ยังไม่พร้อมที่จะลองมองใครๆ ทำอย่างไรเมื่อในใจมีแค่เธอ ลองหยุดคิดเรื่องของเธอกับฉัน แต่ทุกวันยังอยากเจอเธอเสมอ ฉันยิ่งฝันไปไกลใจละเมอ เพราะยังมีแต่เธออยู่ในใจ ก็จะรักต่อไปไม่หยุดพัก แต่แค่รักอย่างเดียวคงไม่ไหว เพราะความต่างที่เรามีมากเกินไป ต่อให้รักล้นใจคงไม่พอ