คำสัญญา แม่นมั่น ในวันก่อน เธออาทร กลัวจบ พบวันหน่าย เกรงถ้อยคำ วาจา มาเสื่อมคลาย หมดความหมาย วาจา พาเสื่อมลง จะเนิ่นนาน ปาดใด ไม่ลืมคิด เคยตั้งจิต บอกว่า อย่าลืมหลง เฝ้าปกปักษ์ รักษ์ไว้ ให้มั่นคง ขอเธอจง เชื่อฉัน เถอะมั่นใจ หากชาตินี้ จะไม่ ได้พบเห็น ก็คงเป็น ชาคิหน้า มาพบใหม่ ถึงอยู่ห่าง ต่างแคว้น ถิ่นแดนไกล ก็มิใช่ ต้องพราก จากแดนทอง วาดภาพฝัน กันไว้ ในคืนก่อน อาจสั่นคลอน ประสพ พบคืนหมอง แม้ทุกข์ตรม ขมขื่น ฝืนลำพอง ใจจึงต้อง เก็บงำ ตาลำพัง ในความฝัน ฉันคู่ อยู่เคียงข้าง ความอ้างว้าง ทิ้งไว้ ให้อยู่หลัง อนาคต ที่ปอง ต้องจริงจัง ถึงบางครั้ง หงอยเหงา เศร้าจริงเจียว เมื่อมีทุกข์ ช่วยแก้ เฝ้าแลหา ตรมวิญญา ท้อแท้ คอยแลเหลียว ความห่วงใย มอบเสมอ เธอคนเดียว หากเปล่าเปลี่ยว จงจำ คำตนเดิม
กับสัญญา ผูกพัน ในวันนี้ เราจะมี รักกัน ถึงวันไหน กำแพงกีด กั้นขวาง จนห่างไกล จึงหมองไหม้ เพราะต่าง อยู่ห่างกัน ต้องเจ็บอีก เพียงใด รู้ไหมหนอ จะทดท้อ เพียงใด รู้ไหมนั่น มิร้องขอ หัวใจ ใครแบ่งปัน แต่สุขสันต์ มีก็ พอแบ่งไป เส้นทางนี้ ที่ฝัน ในวันก่อน คงถึงตอน สิ้นฝัน ในวันใกล้ สิ่งสำคัญ แหนหวง เท่าดวงใจ รักที่ให้ สุดหวง เท่าดวงจินต์ รักที่เธอ มอบให้ จะไม่สูญ คงเพิ่มพูน ห่วงใย จะไม่สิ้น ชั่วชีวิต ลับลา ตราบฟ้าดิน มอบชีวิน ดั่งสัจจา แห่งฟ้าเดิม รออรุณ อุ่นไอ คราใกล้รุ่ง ปลายโค้งคุ้ง ฟ้าใส ก็ใกล้เริ่ม ริ้วสุรีย์ ทอแสง คอยแต่งเติม ทิวาเพิ่ม เหลืองแดง คอยแต่งตาม ลมรวยริน โลมไล้ จนไหวหวั่น แว่วจำนรรจ์ ครั้งใด ชวนไหวหวาม ขอเพียงเธอ มีสุข ทุกนิยาม จบบทความ อาจเป็น เช่นนิยาย
...คิดน้อง "หนู" เมื่อปอ ๑ แม้ไม่ได้ซาบซึ้งถึงปอสอง ไปหลงรัก น้องแอน คนแสนงอน แต่พี่สาวเธอไม่อ่อน จึงถอนตัว พอปอ ๒ แอบชอบมอบใจ "นุช" ต้องแย่งยุทธ กับเพื่อนไปถ้วนทั่ว ทุกทีเห็นหัวใจไหวสั่นรัว แต่นุชมัว มีทั่วท่านจึงผ่านเลย ขึ้นปอ ๓ ถามใจว่าเข็ดไหม ใจก็ตอบหัวใจว่าเฉยเฉย จึงมอบรักให้ "แอน" คำแสนเชย ริอ่านกล้าเปิดเผยความรักไป แต่พี่สาวน้องแอนมาหมิ่นศักดิ์ กีดกันนักความรักเราหักได้ จึงเบนเบี่ยงเสี่ยงมาลัยสาว "สอง" ไป คนที่ย้ายมาใหม่จากในเมือง ปั่นรถถีบไปหาเธอที่หน้าบ้าน พ่อเธอปล่อยหมาระรานพานเกิดเรื่อง จะฝืนยื้อยุตไปก็เปล่าเปลือง เกรงผู้ใหญ่ขุ่นเคืองมีเรื่องราว แต่ปอ ๔ ยังมีใจให้น้องสอง จึงลอบมอง "สอง" สวย มิหมวยขาว ผิวเธอสีน้ำผึ้งสะอึ้งผ่าว คนสวยขาว หมองหมดไม่จรดมอง พอปอ ๕ น้อง "ตา" ช่างน่าสน ผ่านตาจนหลงสิเน่บุพเพต้อง กลับไปฝันถึงน้อง "ตา" นิตยาน้อง และหมายปองครองใจใส่กรงทอง ปอ ๖ แล้วไม่แคล้วต้องลาจาก น้องตามีทีท่ายากชักขุดข้อง ยิ่งโตก็ยิ่งขี้เหร่มิชวนมอง จึงแอบรับน้อง "ปอง" มาคล้องใจ พอเรียนจบครบแล้วซึ่งปอ ๖ ได้ไปพบสาวสด อดไม่ไหว วาเลนไล มอ ๑ จึงบึ้งไป บอกการ์ดนี้พี่ให้ นิด มิผิดตัว เป็นครั้งแรกที่ใจมันเต้นตื่น แต่ฝืนกลืนกลัดกินให้สิ้นทั่ว อายุเราสิบสามแล้วก็พอเนาว์นัว และหน้าตาก็ว่าชัวร์ ไม่น่าชัง ถึงจะมีความรักแรกแปลกไปมาก แต่ไม่อยากเรียนป่าดงเหมือนกรงขัง จำใจลาแล้วแก้วตาถ้าจะฟั
เฝ้าถามตัวเองทุกครั้ง ว่าเพราะอะไรจึงยังทนเหนื่อยยู่แบบนี้ อดทนกับการมีใครในห้วงความห่วงใยที่แสนดี และปล่อยให้ทุกเวลานาทีผ่านไปตรงที่ได้มีเรา แม้เวลาในแต่ละวันแสนเหนื่อยหนัก แต่เพราะรักใจจึงยังไม่อับเฉา พบคำตอบเมื่อมีเธอแทนที่เงา และเพราะเราหลอมรวมหนึ่งดวงใจ เพราะมีเธอในโลกของความเป็นจริง วันนี้แม้ในบางสิ่งอาจทำให้หวั่นไหว เหนื่อยบ้างอะไรบ้างบนเส้นทางที่ก้าวไป แต่เพราะมีความห่วงใยและรักจากดวงใจที่เธอให้มา ...ขอบคุณเธอนะคนดี แม้เส้นทางเดินวันนี้ยังเหนื่อยล้า แต่เราก็ยังคงยิ้มได้ตลอดเวลา ความรักของเรามันมากค่าเกินกว่าจะหยุดรักกัน
เกิดมาเป็นคนหน้าตาไม่ได้หล่อ ไม่มีพ่อที่ร่ำรวยเหลือล้นฟ้า มีแต่ความจริงใจให้ใฝ่หา ถามเถิดว่าเกิดมานั้นเคยเจอไหม? ถึงจะเน่าก็จริงใจในคำพูด ออกมาสุดลึกหัวใจทุกเช้าสาย ถึงจะเน่าเราก็พร้อมโดนด่าไป เพราะหัวใจกลั่นออกมาทุกทุกตัว แค่อยากให้เธอหันมองที่ฉันบ้าง คนข้างๆเธอนั้นหล่ะอยู่ติดรั้ว คอยหยอกเล่นเป็นตลกยามมืดมัว จนใจกลัวจะเอ่ยรักออกจากใจ หากพูดไปใจนั้นคงจะเจ็บ จึงอยากเก็บความทรงจำนั้นเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งรู้สึกดีมากเพียงใด หากพูดไปแล้วเสียเพื่อนจะป่วยการ อยู่อย่างนี้ได้ใกล้ชิดสนิทใกล้ ชุ่มหัวใจให้ฉันเพ้ออยู่เนิ่นนาน ใจของฉันนั้นมันทรมาณ ยิ่งอยู่นานยิ่งเจ็บใจแสนลำบาก เวลาก็ใกล้หมดอยู่รอมร่อ อยากจะขอเธอ"เป็นแฟน"แสนพูดยาก ใจดวงนี้อยากบอกก่อนลาจาก แต่ว่าปากมันก็แข็งอ้าไม่ไหว พอเห็นหน้าก็ใจอ่อนยากสบตา คงต้องลาเห็นเธอเดินเมินจากไป ก่อนจากกันอยากให้เธอได้รู้ไว้ ใจของฉันดวงนี้มีแค่ ---->>"เธอ"
จากจุดเริ่มประเดิมดีที่จุดเริ่ม ที่ดั้งเดิม แล้วดุ่มเดินเพลินเดินหน้า เวลาผ่านไม่นานไปในเวลา เราพบว่าเราเจอเราเนาเนื่องกัน เป็นจุดตัดชัดใช่ได้พบพ้อง เป็นทางทองรองเรืองรุ่งมุ่งสวรรค์ เป็นที่เติมเสริมใจให้เต็มครัน เป็นที่เสริมเติมฝันฉันเต็มคน แต่จุดตัดชัดแท้แค่จุดตัด เมื่อชีวีเร่งรัดให้เดินหน ทางชีวิตลิขิตไว้ใจอับจน ต่างดุ่มด้นเดินห่างกันวันนี้ไป จากจุดพบค่อยห่างไกลทีละก้าว ทิ้งรอยเท้าทีไร้กันให้หวั่นไหว จากจุดพบเป็นจุดพรากต้องจากไกล แต่นี้หนอต่อนี้ใจ จะไกลกัน หวังว่าเธอยังเหลือใจไว้จางๆ โบกมือให้ฉันบ้างในความฝัน ร้องเพลงซึ้งถึงฉันบ้าง ในบางวัน มองพระจันทร์ โปรดยิ้มเย็นเช่นเคยมอง..
คนคิดกันว่ารักหรือ คือคำตอบ จึงชื่นชอบชื่นชมนิยมหนัก หมายใคร่มีที่ใคร่ได้มากมายนัก ไม่รู้จักรักก็เลยสังเวยใจ รักเคยปราณีใจดวงไหนบ้าง เมื่อเริดร้างรักถนอมออมใจไหม มีแต่ช้ำกำสรดเศร้าเผาหทัย แต่แล้วใครต่อใครก็ ขอรัก กัน รักทำไม.. ถามย้ำหาคำตอบ เมื่อริชอบรักชื่นขึ้นสวรรค์ เมื่อรักเชิดเริดร้างลงกลางครัน ก็วูบลับ ดับสวรรค์ลงทันใด เพราะว่ารักแน่แท้หรือก็คือรัก เพราะไม่พักรักเสริมส่งสิ้นสงสัย เพราะรักคือคำตอบที่ชอบใจ เพราะรักใครไม่ถามคำ ..รักทำไม -- เมือเจ็บใจค่อยถามคำ ..ทำไมรัก --
คงไม่สิ..ไม่ได้ยินเสียงใจฉัน ไม่เห็นค่าความสำคัญก็เท่านั้น คงไม่เห็นแลค่าความสำคัญ มองแค่ฉันตัวตลกที่ผ่านมา ฉันรับรู้หัวใจเธอบอกอะไร เธอรักใคร..ใจรู้เธอปรารถนา คงมีแค่น้ำที่ไหลรินจากตา ไม่มีค่าให้เธอคิดคำนึง มีแต่เสียงหัวใจของฉันเอง ที่บรรเลงเพลงรักเธอไม่ซึ้ง ไม่แลเห็นความรักของคนหนึ่ง ที่ส่งเพลงความคิดถึงฝากลมไป กลับมายืนที่เดิมที่คุ้นเคย หยุดอย่าเผยรักนั้นให้หวั่นไหว กลับมาที่คุ้นชินกับหัวใจ ที่ที่ไม่มีใครให้คุ้นชิน
รู้ว่าเธอไม่มีไมตรีให้ รู้ว่าใจเธอไปลับไม่กลับหวน รู้ทุกคืนต่อนี้ไป ใจต้องครวญ รู้หมดถ้วนแต่ทำใจไม่ได้เลย ..ทำไมนะ ทำใจไม่เคยได้ ทำไมเฟื่องเรื่องร้ายๆร่ายเฉลย ทำไมไม่ปล่อยว่างวางอย่างเคย ทำไมเอ๋ยทำไม เจ็บไม่จำ รู้คำตอบ ..ว่าเพราะเรารักเขามาก รู้ว่ายากจะรั้งใจไม่ถลำ รู้ว่าทำใจยากลำบากทำ รู้คำตอบแต่เฝ้าย้ำ ถาม ..ทำไม
ช่วยอ่านกลอนก่อนจะไปได้หรือเปล่า อีกสักคราวสักครั้งยังจะขอ ช้ำใจช้ำยังย้ำใจไม่หนำพอ เจ็บใจหนอยังเจ็บช้ำไม่หนำใจ จะไม่กล่าวลาก่อนตอนลาจาก น้ำตาพรากไหลพรั่งให้หลั่งไหล จะไม่วอนวาจาว่าอย่าไป เจ็บเพียงใดให้เจ็บเลยเพื่อเคยชิน ..คำลาในวันนี้ไม่มีให้ ก็เพราะใจไม่แข็งแรงเป็นแท่งหิน ยิ่งน้ำตาล้านล้านหยดมารดริน มันล้างสิ้นกำลังใจที่ใช้ยืน ทรุดลงกองกับสองเข่าเศร้าที่สุด ฝืนจะยุดยั้งไว้ ไม่อาจฝืน ..กลืนกล้ำระกำไหม้ใจกล้ำกลืน ทอดสะท้อนถอนสะอื้นกลืนน้ำตา นานเพียงไหนจึงนับได้ว่าแสนนาน แค่เพียงผ่านนาทีเร้นไม่เห็นหน้า นั่นก็นานเกินไปแล้วแก้วกานดา แล้วการลา จะเทียบเช่นเป็นกี่นาน ไกลเพียงใดจึงนับได้ว่าไกลกัน ไม่จับมือเท่านั้นก็พลุ่งพล่าน ห่างเกินกอดก็คือไกลจนใจราน แล้วจากบ้าน จากพี่ จะกี่ไกล ช่วยอ่านกลอนก่อนจะไปได้หรือเปล่า คนใจร้าวเขาเพียงขอพออาศัย ก่อนจำพรากเพียงฝากคำ ให้จำไป เธอจะจำเขาได้ไหม ไม่จำเป็น
.. นี่แหละคนเขียนกลอนผู้อ่อนไหว เพียงลมกวัดกิ่งไม้ไกวก็ใจอ่อน ใจร้าวรวดยังซวดเซพเนจร ดั่งบินร่อนอ่อนแรงในแสงจันทร์ เคยวาดหวัง มีคู่เคียงเผดียงหวัง กระซิบสั่งฟังสำเนียงเสียงสุขสันต์ ให้กายใกล้ ให้ก้อยเกี่ยวก้อยเดียวกัน ใกล้แค่นั้น.. มันช่างไกลจนใจราน เห็นใครที่เขามีรักสมัครสุข ไม่มีทุกข์เมื่อรักสมานสาน ส่วนเราแสนเก่งกาจวาดวิมาน ที่แสนหวาน อยู่ในที่ไม่มีจริง คนช่างฝันก็สุขแต่แค่ในฝัน สรวงสวรรค์หลอกฤดีดังผีสิง หลอกว่าใจจะได้มีที่พักพิง แต่ก็ทิ้งให้แสนเศร้าเฝ้าตราตรึง กอดได้แต่แค่ในฝันมันไม่อุ่น อยากกอดคนเคยคุ้นที่คิดถึง บอกรักได้แต่ในฝันมันไม่ซึ้ง ร่ำรำพึงรำพันเหงาเฝ้าเขียนกลอน .. นี่แหละคนเขียนกลอนผู้อ่อนไหว เพียงลมกวัดกิ่งไม้ไกวก็ใจอ่อน ใจร้าวรวดยังซวดเซพเนจร ดั่งบินร่อนอ่อนแรงในแสงจันทร์..
ฝน ตกมาจะฝ่าฝนหาคนรัก ตก หนักนักตกปลักรักสับสน ทาง ก็เหมือนจะปิดไปใจอับจน โน้น ถนนของคนหวังยังทางไกล หนาว ใจแสนแม้นใจสาวเจ้าไม่สน คน หนึ่งคนท้อบนทางรู้บ้างไหม ทาง จะสั้นลงทันตาถ้าห่วงใย นี้ อย่างไรคือรักแท้ ไม่แพ้ทาง
ฝนหลงหนาวสาวคิดถึงใครคนนั้น เขียนรำพันกลอนฝนจนสั่นไหว กอดตัวเองลำพัง..ฟังหัวใจ ฤดูไหนจะเหงาเท่าฝนพรำ เมื่อฝนมาฟ้าหม่นหล่นเป็นสาย หนาวทั้งกายทั้งใจใช่ถลำ แต่เพราะเชื่อสัญญาของน้ำคำ ใครคนหนึ่งคอยย้ำ..ว่ารักเรา จะให้คอยอีกนานไหมเล่าหนอ อยากจะขออ้อมแขนแฟนแก้เหงา ขอไออุ่นกันหนาว..พอบรรเทา จะให้เฝ้า.ความหวัง..กี่ครั้งคราว ดูสิฝน!ลมหนาวผ่าวพัดพลิ้ว ใบไม้ปลิวร่วงโรยโปรยฝนหนาว เพราะความรักของฉันนั้นยืดยาว ฝนไร้ดาวสาวไร้รัก..หนักฤดี รอรักอยู่ฤดูไหนใจก็รัก แต่หนาวหนักเย็นเยือกเลือกปีนี้ อย่าให้คอยนานเนิ่นเกินหลายปี ขอคนดีกอดคลายหนาว..สาวขอมา
ชีวิตฉํนเวียนวนบนโลกกว้าง แผ้วถางทางทั้งสุข-ทุกข์กับฝัน เพราะได้แก้ปัญหาในทุกวัน แม้ข้างฉันว่างเปล่า..เงาของใคร แต่ไม่รู้อาการหวั่นวิตก เหมือนในอกร้อนรนจนหวั่นไหว มันเกิดขี้นเมื่อพบเธอคราใด ความเขินใยประหม่ามาทันที อยากถูกเรียกว่าแฟนแสนหนักจิต เธอจะคิดเหมือนกันหรือปล่าวนี้ อยากสานต่อขอรักปักไมตรี กลัวเธอหนีไกลตา..พาร้าวราน จึงจมจ่อมตรอมหนักเพราะรักเธอ ไม่กล้านำเสนอกลอนบทหวาน กลัวเธออ่านแล้วพาน่ารำคาญ มันช่างแสนทรมาน..นานยิ่งนัก นี่อาการรักเธอใช่ไหมหนอ อยากจะขอเรียกเธอว่าที่รัก ดูสิหน้าตาฉํนเหมือนอกหัก อาการหนัก..แบบนี้ไม่ดีเลบ
เขียนบทกลอนหวานล้ำคำที่ฝาก สิ่งที่อยากเขียนถ้อยร้อยความหา เอาความรักร้อยเรียงอักษรา เอาแผ่นฟ้าเขียนคำ..พร่ำรักเธอ เขียนบทกลอนหวานหูอย่ารู้หาย เหมือนดอกไม้พร่างพรายอยู่เสมอ หากวันไหนสองเราอยากพบเจอ ขอเสนอมองหาปลายฟ้างาม เพราะมีใจฉันเป็นเช่นอักษร ลำนำกลอนเอื้อนเอ่ย.เลยอยากถาม ขอส่งความคิดถึง..ตรึงติดตาม ใต้ฟ้าคราม..ถามรักนักกวี จึงอยากถามความในใจเธอนัก จะฝากรักสาวนักกลอนอักษรศรี เพียรมาหยอดคำหวานหว่านไมตรี ใจที่มีพร้อมมอบตอบแทนกัน เพราะเป็นคนอ่อนไหวในทุกเรื่อง ใช่ปราญเปรื่องความรักสักแต่ฝัน หากความรักสวนทางร้างจาบัลย์ นั่งรำพันถ้อยกลอนคงอ่อนใจ
...เห็นตำตา ตำใจ ใยตลบ ว่าที่พบ เพื่อนจริง ยิ่งกว่าแน่ ใยหลีกเลี่ยง หลบตา ไม่กล้าแล หรือจริงแท้ ที่บอก หลอกลวงกัน... ...แล้วที่เห็น อิงกาย สายตาหวาน สุดสราญ สรวลเสียง แสนสุขสันต์ พี่ยืนมอง นองน้ำตา อกจาบัลย์ ยากเกินกลั้น รุนแรง แสลงใจ... ...โอ้พุ่มพวง ดวงฤดี ใครที่รัก เจ้าสลัก ใจหรือ คือชื่อไหน เปิดอุรา มาดู ให้รู้ไป ใช่มิใช่ อย่าโกหก ตลกหน้าตาย... ...เจ้านั้นคิด โกหกฉัน จนวันไหน หรือปล่อยให้ ชีพลาลับ ดับสลาย เห็นเต็มตา หน้าเฉย เอ่ยเพื่อนชาย พี่คงควาย มองไม่รู้ ดูไม่เป็น...