โอ้ลูกรักแม่ชักจะเมื่อยล้า พาเจ้ามาทุ่งหญ้าของใครนี่ เดี๋ยวเจ้าของเขามาถ้าไม่ดี กลับเร็วสิเดี๋ยวถูกตีไม่รู้ตัว พ่อของเจ้าไปไหนไม่รับรู้ ปล่อยให้แม่เลี้ยงดูเจ้าอยู่ได้ ทำแล้วทิ้งนี้หรือลูกผู้ชาย ช่างน่าอายไม่สมชายชาตรี ลูกจำไว้เมื่อโตไปต้องรับผิด อย่าไปคิดแค่พิชิตแล้วก็หนี ทำอย่างนั้นเป็นสันดานที่ไม่ดี แม้เป็นผีก็ยังมีคนนินทา
เส้นทาง ที่ยาวไกล สู่จุดหมาย ปลายทางนั้น ทุกก้าว ล้วนสำคัญ อย่าไหวหวั่น ต่ออบาย หากเจอ อุปสรรค จงแน่นหนัก อย่าหวั่นไหว ท้อบ้าง ไม่เป็นไร อย่าถอดใจ ก็แล้วกัน ถ้าถอย ก็คือแพ้ คนอ่อนแอ น่าขบขัน ใคร ๆ คงลือกัน ว่าเรานั้น ไม่ได้ความ ถ้าสู้ ก็ชนะ จงอย่าละ พยายาม รางวัล อันงดงาม ก็คือความ มั่นคงเอย.
ทำไมหนอใจเราต้องคิดถึงเขา ใจของเรากลับไปคิดถึงเขาได้ นี่แหละหนอที่คุณพ่อท่านสอนไว้ ว่าจิตใจนั้นมีไว้เพื่อแบ่งปัน จริงหรือไม่ที่ว่าใจมีเพื่อแบ่ง แต่อย่าแกล้งแบ่งไปทำลายเขา เพราะตอนนี้ใจฉันช้ำไม่เบา หากโดนเข้าอีกสักครั้งมีหวังตาย พอจะมีใครบ้างทางเว็บไซท์ ช่วยปันใจแบ่งมาให้ข้านี้ เพื่อเป็นยาเยียวใจให้ข้าที ถ้าไม่งั้นต้องชี้ก่อนถึงวัย อยากบอกให้ทรามวัยใครชื่อเอ๋ ช่วยถ่ายเทปันใจให้กันบ้าง เพราะสายรุ้งตอนนี้ไม่มีทาง นอกจากยาบางอย่างทางรอดมี
เธอบาดเจ็บอะไรมารึเปล่า ทำไมดูเงียบเหงาอย่างนี้ หยุดอยู่นานทำไมไม่เดินทางต่อสักที ลุกไม่ขึ้นล่ะสิ แต่ขอโทษที ให้ช่วยคงจนปัญญา แช่อยู่อย่างนี้ก็นานแล้วนะ เมื่อไหร่เธอจะบินทะยานหาญกล้าไปสู่ฟากฟ้า หยุดอยู่กับที่มันแสนจะเสียเวลา เกาะอยู่อย่างนี้อยู่ข้างฝา ระวังโดนฝ่ามือพิฆาตนะเจ้ายุง.....
ความรู้สึกดี ๆ ของพี่ กับ น้อง เราอยู่ห่างกันแสนไกล มีแต่จดหมายที่ส่งกลับมา บางครั้งคิดถึง จนใจล้า.. แต่ก็เข้าใจว่า เพราะอะไรจึงต้องไกล... พี่ต้องไปเรียนต่อ.. พี่ต้องทำให้พ่อภูมิใจให้ได้ น้องคนนี้ ก็จะคอบส่งกำลังใจ.. แล้วก็สัญญาได้ จะส่งไปให้ ... ทุก ๆ วัน ... *********************************************************** ขอบใจนะที่น้องยังเข้าใจ... เพราะอะไรที่ต้องจากมาไกลอย่างนี้ พ่อเคยด่า เคยว่า ลูกไม่รักดี ยังจดจำถึงวันนี้ ไม่เคยลืม... ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ พยายามเต็มที่ จะลบคำ ๆ นี้ บางครั้งก็ท้อแท้ กำลังใจ แทบไม่มี พี่ก็ได้จากน้องคนนี้ ที่ส่งมา.... สัญญาจ๊ะ... พี่สาวจะต้องเรียนจบ .... จะต้องลบคำของพ่อให้ได้ ... ถึงไม่ได้เป็นหมอ เหมือนที่พ่อตั้งใจ แต่ปริญญาที่จะได้ รับรอง พ่อไม่น้อยหน้าใครแน่นอน... *********************************************************************** ช่วงแรกน้องสาวส่งมาให้ทางจดหมาย ... หลัง ๆ ตัวเล็กเขียนเองค่ะ อาจไม่ค่อยถูกต้องตามหลักฉันทลักษ์ สักเท่าไหร่ แต่ ... มันมีค่าเสมอทางความรู้สึก...
จากวันนั้น ถึงวันนี้ สิบปีกว่า จากเด็กชาย ที่ไร้ค่า ไร้ความหวัง จากคนที่ สิ้นแล้ว ซึ่งกำลัง จากหัวใจ ที่พินทุ์พัง ใกล้หมดแรง กลับพลิกฟื้น คืนชีวิต ขึ้นมาใหม่ กลับมีค่า วาดหวังไว้ ไม่อับแสง ไออุ่นรัก ถักชีวี ที่เปลี่ยนแปลง ฟ้าเลิกแกล้ง เลิกแช่งชัก หักดวงใจ เธอ...คือพ่อ คือแม่พระ ประจำบ้าน เธอ...สานฝัน สร้างวิมาน ที่สดใส เธอ...คือพี่ คือหนึ่งมิตร ที่ชิดใกล้ มีวันนี้ ที่ยืนได้ เพราะ...มีเธอ
เมื่อครั้งยังเยาว์วัย ด้วยความใสและความซื่อ พ่อแม่เฝ้าฝึกปรือ อบรมเลี้ยงสั่งสอนมา พอเติบใหญ่วัยเรียน เข้ามาเขียนอ่านกอกา อุ่นใจได้พร้อมหน้า มีเพื่อนใหม่หลายหลายคน คุณครูผู้หล่อหลอม ดวงจิตน้อมฤทัยดล ถึงปูชนียบุคคล ผู้สอนสั่งครั้งก่อนมา ไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก เพียงอยากให้ศิษย์ถ้วนหน้า อ่านเขียนเรียนวิชา สำเร็จลุตามเป้าหมาย เป็นลูกศิษย์บ้านนา หน้าตาซอมซ่อเหลือหลาย รักครูด้วยดวงใจ คำสอนใดไม่ลืมเลือน นมนานผ่านกาเล พื้นเพเดิมเรายังเหมือน ศิษย์ได้ดีแล้วอย่าเชือน เป็นคำเตือนจากคุณครู หันมองมาทางบ้าน ถึงถิ่นฐานที่เคยอยู่ พัฒนามาอุ้มชู หมู่พี่น้องชาวบ้นดอน ส่วนตัวผู้ครูนี้ ทำหน้าที่เหมือนเก่าก่อน ยังคงมุ่งสั่งสอน รอศิษย์ย้อนกลับคืนมา .....เด็กเมืองยศ....
โคลงสี่สุภาพ ๑ ๏ มีไฉนใครเกิดแล้ว.................เก่งเลย เรียน ฝึก ก็บ่เคย..........................สักครั้ง พรสวรรค์ ฤ ใช่เผย......................ใช่แผ่.....เองพ่อ อย่าย่อท้อหยุดยั้ง..........................หย่อนร้างฝึกฝน ฯ ๒ ๏ กลโคลงโคลงท่านนั้น.............กำหนด คำเอกโทตามบท..........................แบบไว้ จารขานอ่านเอื้อนพจน์...................เพลงเสนาะ เสียงสนั่นสนานได้.........................สดับถ้อยโคลงสาร ฯ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๓ ๏ คำฉันทฉันทา........................วจนาวจีขาน กรองวัจน์และจัดกานท์..................คณะนั้นมิฟั่นเฟือน ๏ เสียงเบาและเสียงหนัก...............เสนาะลักษณ์เสมอเหมือน คีตามิราเลือน...............................ประลุโสตประโมทย์ทรวง ฯ กาพย์ฉบัง ๑๖ ๔ ๏ เสียงกาพย์ซาบซ่านกานท์สรวง.............เทพทำบำบวง บำเรอเปรอโสตเสนาะกรรณ ๏ ควรอยู่คู่ห้วงสรวงสวรรค์..........................ชื่นจิตติดพัน มิเพลาเสาวรสพจนา ฯ กลอนดอกสร้อย ๕ ๏ คำเอ๋ยคำกลอน..................................คืออาภรณ์พิจิตรพรายลายเลขา คือสังคีตดีดสีที่นภา...................................โปรยจากฟ้าเพื่อกล่อมถนอมดิน คล้ายคำกลอนคือแก้วฉายแววก่อง..............กระจ่างส่องสีสันวรรณศิลป์ งามพิลาสพิไลค่าคู่ธานินทร์........................มิรู้สิ้นเสื่อมสูญวิบูลย์เอย ๚
เพื่อนธรรมดาหาได้ง่าย แต่รู้ใจมันหายาก เพื่อนที่ดียิ่งหาลำบาก เงินกี่บาทก็ซื้อไม่ได้ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ความเป็นเพื่อนจะคงไว้อยู่อย่างนี้ ห่างไกลไม่ได้เจอนานหลายปี ความเป็นเพื่อนที่ดี จะคงอยู่ตลอดไป ฉันมีเทอเป็นเพื่อนสนิท เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน คงคิดถึงเทอมากถ้าจากกัน ด้วยเราต่างผูกพันกันมากมาย
ปฏิมาหน้ากระดาษสะอาดขาว ปฏิพากย์กับหมู่ดาวท่ามหมอกหนา ปักษจรสงัดเงียบพรรณนา แว่วดารา กับตัวข้า ที่จำนรรจ์ โอ..ดาวเอ๋ย ขวัญเจ้า หนาวบ้างไหม ฟ้าละไมโอบเจ้าเนาสวรรค์ ใครเป็นเพื่อนเอื้อนเพลงระหว่างวัน แผลฉกรรจ์ทนไหวไหมขวัญเอย ไหนเจ้าบอกดอกมะลิที่ผลิยอด จะเกี้ยวกอดก่อนน้ำค้างร้างระเหย แล้วไยด่วนทวนคำซ้ำละเลย ไปชื่นเชยโคมจันทร์ชั้นเมฆา เจ้าจงใจ ไปไกลถึงเพียงนั้น สายสัมพันธ์สิ้นแล้วเสน่หา โลกข้างล่างทางนี้เจ้าระอา แม้แต่ในแววตาข้างั้นฤา ไหนเราเคยสัญญาจะมีกัน ไยเจ้านั้นทิ้งไว้แต่เพียงชื่อ ดรุณีหนีหน้าไม่หารือ กลับใช้ขื่อเป็นเพื่อนเลือนความจำ ข้าโศกเศร้า รู้เจ้าเศร้าโศก เมื่อโลกทั้งโลก สีเหมือนน้ำคร่ำ วันนี้อีกแล้ว ดอกแก้วร่วงซ้ำ ถูกมือระยำ กระทำชำเรา ข่าวจากหน้าหนึ่ง ซึ่งเมื่ออ่านพบ บ้างเลือกจุดจบ เป็นศพแบบเจ้า กี่ร้อยกี่พัน สวรรค์รับเอา ไปพิงแนบเนา เป็นดาริกา ขวัญเอ๋ยขวัญมา เพื่อนยาข้าเอ๋ย ไม่มีแล้วเอยคนครหา ดาวดวงพิสุทธิ์ จุติเจ้ามา นิ่งหลับบนฟ้าเถอะเจ้าขวัญดาว และโลกเบื้องล่าง ที่ข้างยืนอยู่ ไม่รู้ ไม่รู้ อีกกี่ผู้สาว ขื่นขมขื่นไข้ จากไอ้คนคาว ระทมรวดร้าว จากไอ้สังคมฯ
**โอ้ดาวน้อยพร้อยแสงอยู่แห่งไหน ข้าสงสัยมีใครเฝ้าถามถึง เจ้าทอแสงศรัทธายังตราตรึง ใครถามถึงเจ้าบ้างยามร้างรา **คืนนี้ฉันเดินเดี่ยวเปลี่ยวอ้างว้าง ไร้เพื่อนคนเคียงข้างทางเบื้องหน้า ไร้กำลังแรงใจในมรรคา ดุจท้องฟ้าไร้ดาวดูเหงาจัง **คืนนี้แสงจันทร์เยือนเป็นเพื่อนข้า ส่องนำพาดวงใจให้มีหวัง ส่องนำสู่เส้นทางสร้างพลัง ส่องนำสู่ความหวังที่ตั้งใจ **ชีวิตข้าตรอมตรมทั้งขมขื่น บางครั้งไร้แรงยืนฝืนใจไหว ขอจันทร์เจ้าพราวฟ้านภาไกล ช่วยส่องนำทางใดให้ข้าเดิน