สองวาระ เดือนเหตุเภทสองพ้องพาน ผองไทยไล่ผลาญ พร่าไทยไหวทั้งพสุธา คือสองทศพรรษพฤษภา พึงตรึกศึกษา สองห้าสามห้าสากรรจ์ ร่วมสองปีผ่านวารวัน เวียงผวนป่วนผัน พฤษภาสองห้าห้าสาม ใครย่ำกำราบปราบปราม เปรมปรีดียาม ยลศพซบก่าย กายกอง แล้วใครไต่ขั้นครรลอง โลดเหลิงเริงฉลอง เล็งแลแน่ครัน นั้นใคร ลึกลับซับซ้อนซ่อนนัย แน่วจิตวินิจฉัย ใช่เชื่อเมื่อเขากล่าวชวน คั้นเค้นเห็นไคล้ ใคร่ครวญ ครันครบทบทวน ถึงทางสร้างฐานศานติธรรม หยุดกรุ่นขุ่นแน่นแค้นนำ เคียดนักมักถลำ หล่มล้อมห้อมคลุมหลุมพราง ด้วยแรงแห่งรักรางชาง เรืองโชติโรจน์ถาง- ทางทอง ถ่องรุ้งรุ่งพราว พฤษภาคราเคืองเรื่องราว เลือดราดสาดคาว สองครั้งจุ่งสร่างลางเข็ญ แคล้วคลาดขาดกรรมลำเค็ญ ขอพฤษภาเพ็ญ ไพบูลย์บุญนันธน์นิรันดร (๑๙ ถึง ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕)
รวมพลคนชอบเมาท์ห้าเจ้าจอม ครบหน้าพร้อมเมาท์กระจายเรื่องใครอื่น อัพเดทเรื่องชาวบ้านทุกวันคืน ใครไหนชื่นใครเศร้ารู้เท่าทัน แลกข้อมูลกันและกันหายคันปาก เมาส์มันส์มาก..บ้างอำให้ขำขัน เรื่องชาวบ้านคืองานมานานวัน เรื่องเรานั้น..ดันไม่รู้หดหู่จัง อิอิ หากวันไหนออนเอ็มไม่เต็มแก๊งค์ แน่นอนต้องมีแว้งแทงข้างหลัง คนไหนหายคนนั้นมั่นจีรัง ถูกนินทาไม่ยั้งแบบพรั่งพรู จึงไม่กล้าออฟไลน์หรือหายหัว เพราะว่ากลัวปากเพื่อนเหมือนอดสู ฝึกน้ำอดน้ำทนคล้ายคนรู วันวันอยู่จับเจ่าเฝ้าหน้าจอ เหมือนเป็นยามเฝ้าบ้านเช้ายันค่ำ ที่ประจำหลังขดเพราะจดจ่อ รออัพเดทข่าวคราวราวบ้าบอ หวังหัวข้อไหนเด็ดต้องเสร็จเรา 555+ ทามไปได้
ย้อนรอย2475 ชะตาบ้านเมืองแปรผัน ทหารตำรวจดวดกัน แข่นขันอำนาจบาทมี ทูลขอล้นเกล้าประชาธิปไตย มอบให้..พร้อมหรือประชานี่? คณะราษฎร์ตั้งแล้วสดุดี มีพลมีพรรคสมัครรวม เฉลิมฉลองอำนาจเมืองแมน สวมโขนใส่แขนมาสวม เผด็จการเบ็ดเสร็จรวม ใครร่วมใครต่างย่างไฟ เลือดนองตุลามหาวิปโยค คืนโศกวีรชนหม่นไหม้ นิสิตเดือดแร้นแทนใคร อธิปไตยอยู่ไหนท่านให้มา? อำนาจล้นเกล้ามอบให้ วนวกเวียนว่ายคล้ายค้นหา บัณฑิต ปราชญ์ผู้รู้วิชา ช่วยนำประชาของท่านที ให้อำนาจของท่านสู่ปวงชน ใช่หนึ่งคนหนึ่งคณะณ.ที่นี้ เพื่อประชาของท่านทั้งปฐพี มีประชาธิปไตยไทยทั้งปวง จนปี2555 อนิจจาอธิปไตยที่แหนหวง บัดนี้รอยแยกแตกกลวง ลืมหวงลืมห่วงประเทศไทย แบ่งแยกแตกสีอับอาย แบ่งฝ่ายลืมเหง้าหรือไฉน ต่างฝ่ายเรียกหาประชาธิปไตย เพื่ออะไรหากใช้มันไม่เป็น! MV ส่งใจ (รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนแปลง) http://www.youtube.com/watch?v=HrZnR-RDvw0
เปิดฟ้า...เพื่อปิดฟ้า นโยบาย บรรเจิด รัฐเปิดฟ้า เปิดการค้า สู่โลกกว้าง อย่างอาจหาญ เปิดสู่ความ ศิวิไลซ์ ในจักรวาล เปิดขยาย กิจการ ด้านอุตสาหกรรม มีทุกอย่าง ทุกสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่ มีปล่องไฟ ปล่องควัน วันยังค่ำ มีค่าเงิน ฟูเฟื่อง เมืองชั้นนำ วัฒนธรรม นำเข้า สู่เยาวชน เกิดสังคม อมทุกข์ คลุกขี้เถ้า ไฟกามกร่อน ร้อนเร่า เข้าขุมขน แฟชั่นเปิด โชว์ร่าง ทั้งล่างบน สูบควันพ่น กลางแสงไฟ ในราตรี หมู่ชาวนา ยังทำนา ฝ่าแดดฝน เคยสู้ทน ก็ยังทน ทุกท้องที่ กำไรข้าว ไม่พอกิน เมื่อสิ้นปี ยังพอกหนี้ พูนเพิ่ม เติมทุกวัน ฟ้าเคยใส ป่าไม้สวย ด้วยฝนฉ่ำ บัดนี้คล้ำ หม่นมัว ทั่วเขตขัณฑ์ รองน้ำฝน ใส่ตุ่มใส ไว้แบ่งปัน บัดนี้นั้น เป็นฝนกรด หยดหลั่งริน รัฐเปิดฟ้า เศรษฐกิจ มาปิดฟ้า ปิดผืนหล้า แผ่ขยาย ไปทั่วถิ่น มลภาวะ เคล้าเมฆมัว ทั่วแดนดิน ใครจะดิ้น ชักตาย ไปก่อนกัน นายฐปกรณ์ โสธนะ (ลุงรอง)
อนิจจาหน้าหนาวเราตากแดด ที่เผาแผดหนังหน้าบ้าฉิบหาย หนังตีนห่อหน้าเน่าเรายังอาย แต่ตลกหน้าตายมันร้ายเกิน หลอกนายโรงนายรับจับผิดถูก คล้องจมูกคนใหญ่ไม่ขวยเขิน เพลงลิเกเห่ขลังยิ่งฟังเพลิน พระเอกตดยิ่งจำเริญหอมเกินดม ตดทางปากลากแถแต่คราวก่อน ครกสากว่อนใส่เวทีพี่แทบถล่ม ไอ้ตราชั่งชักตราชูหลอกผู้ชม พจนานุกรมเปิดข่มกัน ข้อประมวลกฎหมายไม่มีหรอก พวกหน้าวอกหน้าลิงวิ่งวุ่นสนั่น เจอตลกหลวงเก่าป่วนเอามัน ตลกแดกแดกสะบั้นยังรั้นเชียร์ ฝูงตลกแดกหลวงทั้งปวงหมด ตั้งแต่บทแรกมายิ่งน่าละเหี่ย ตอนบทยักษ์ประชันลิงกูยิ่งเพลีย บทได้เสียยิ่งกอดรัดอัศจรรย์ ป่วนตราชั่งตราชูคู่หูฉุด ตลกผุดมุขพร่ำให้ขำขัน ระหว่างคนดูเพลินสรรเสริญกัน ตลกแดกจะแอบ ฉัน ท่านหลวงเอง
สัตว์สภา กลอนกลบท ฉัตรสามชั้น สัตว์หน้าเปื้อนเกลื่อนสภา เปื้อนหน้าสัตว์ เสียงส่ำซัดชัดคำซัดส่ำเสียง เรียงรายนั่งพรั่งหลายนั่งรายเรียง อึงถ้อยเถียงเยี่ยงถ่อยเถียงถ้อยอึง โลดลอยเริงเหลิงพลอยเริงลอยโลด ขึ้งเกลียดโกรธโคตรเสนียดโกรธเกลียดขึ้ง รึงรุมพิษผิดสุมพิษรุมรึง วนเวียนทึ้งทะลึ่งเพี้ยนทึ้งเวียนวน ทุกข์คนปรี่มีล้นปรี่คนทุกข์ ข้นแค้นขุกกระอุกแน่นขุกแค้นข้น ชลชุ่มโชกโศกสุมโชกชุ่มชล มัวหมองหม่นทนครองหม่นหมองมัว สัตว์ผองไยใคร่ผยอง ไยผองสัตว์ มั่วแว้งกัดขัดแย้งกัดแว้งมั่ว ตัวพ้นผิดบิดยุบลผิดพ้นตัว ฮาเฮชั่วโฉเกชั่วเฮฮา เน้นแดกย้ำขย้ำแหลกย้ำแดกเน้น พร่าผลาญเผ่นเล่นร่านเผ่นผลาญพร่า พาพวกฉลปล้นสะดวกฉลพวกพา มันฆ่ายากอยากจะบ้า ยากฆ่ามัน (ร่างเดิม ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ แก้ไขครั้งล่าสุด ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ครับผม) หมายเหตุ: ๑.กลบท ฉัตรสามชั้น มีปรากฏอยู่ทั้งในวรรณคดีไทยเรื่อง สิริวิบูลกิตติ์ นิพนธ์โดยท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) และประชุมจารึกวัดพระเชตุพน น่าสังเกตตรงที่ รูปลักษณ์ของกลนี้ เหมือนกับกลอักษรชื่อ ม้าลำพอง (ดังที่กลบท ม้าเทียมรถ มีรูปแบบเหมือนกลอักษร เมขลาโยนแก้ว กระนั้น) ผมศึกษากลดังกล่าว จากหนังสือกวีนิพนธ์ รอยทราย ของท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น แหละหนังสือกฎบนกลบท ของท่านอาจารย์คมทวน คันธนู ครับ ๒.ยินข่าวนักการเมืองทะเลาะกันในสภาขณะประชาชนส่วนมากเดือดร้อนแล้ว ผมทนไม่ไหวจริง
กาพย์เห่ชมเพื่อนปลาวาฬ รัตนโกสินทร์ศักราช ๒๒๙ ปลาวาฬจากฟ้ามิ่ง...............มหาสวรรค์ แหวกว่ายสู่สยามขยัน............หลักล้าน มุ่งหน้าสู่กรุงบัน-................ดาลทุกข์ เทวษฤา เพียงแค่อยากกลับบ้าน........เกิดใต้อ่าวไทย โอ้โห เจ้าปลาวาฬ ห้าสิบล้านที่ได้ยิน จากฟ้ามาสู่ดิน ดำแหวกว่ายอยู่ในกรุง ปลาวาฬมากมีเพื่อน เมื่อมาเยือนย่อมมียุง กัดแขน-ขา-หน้า-พุง ของทุกผู้ทุกคนไป ปลาตัวน้อยใหญ่ยักษ์ หลายเผ่าพรรคเที่ยวกรุงใหญ่ ลัดเลาะตึกนอกใน ใต้ทางด่วนล้วนมีปลา เหี้ยน้อยผู้น่ารัก ว่ายทายทักเห็นตำตา หลุดจากรัฐสภา มาแหวกว่ายแถวดอนเมือง ดูคล้ายจระเข้ หากตาเขอาจมีเคือง โดนงับย่อมต้องเปลือง ค่ารักษาพยาบาล ฝูงปลิงยิ่งมีเยอะ ลุยน้ำเจอะอยู่หน้าบ้าน ดูดเลือดแข่งยุงปาน เป็นกาชาดสากลกัน ปลาวาฬสวัสดี ญาติน้องพี่มีครบครัน หมาน้อยลอยคอมัน หัดว่ายน้ำยามจำเป็น แมวเหมียวปีนต้นไม้ เขาไว้ลายไว้ให้เห็น งูเหลือมใช่ประเด็น เผ่นขึ้นเลยไม่เคยกลัว งูเขียวแมมโบหลุด แหวกว่ายมุดมาหลายตัว ปลาวาฬใจเต้นรัว นี่เพื่อนสัตว์จากรัฐใด จ๊ะเอ๋ เจ้าลิงน้อย ว่ายน้ำคอยมาเอาใจ ท่วมถึงเมฆเมื่อใด จะบอกให้กระต่ายมา หยอกล้อขอเป็นเพื่อน ดูดาวเดือนกินมาม่า ต้อนรับปลาวาฬพา เพื่อนเที่ยวท่องฉลองกรุง เถิดเที่ยวให้อิ่มหนำ เถิดเพื่อนดำแหวกว่ายพุ่ง ผ่านเจ้าสมุทรผดุง พระเดโชโปไซดอน ผ่านอ่างทุกอ่างไป ก่อนจะไหลไปพักผ่อน สู่ดินแดนต่ำตอน เดือนน้ำลดหมดเสี
มหาสมุทรที่สุดนั้น คือแม่ฉันในกาลก่อน แดดเผาเข้าก็ร้อน สุดผัดผ่อนก่อนเป็นไอ ก่อตัวไปทั่วฟ้า เป็นเมฆาไม่ช้าได้ กลายตนเป็นฝนใหญ่ ลมพัดไปในแผ่นดิน หยดน้ำฝนพรำนั้น คือพวกฉันมั่นถวิล ฟ้าปล่อยลอยสู่ดิน ชโลมรินให้ดินฉ่ำ ผืนถิ่น ดิน เขา ป่า แอ่นอกอ้ารอท่าน้ำ เริงร่าคราฝนพรำ ร่วมดินน้ำ ล้ำนานมา รากดูด หยุดพวกฉัน มีเชิงชั้นลาดหลั่นช้า เก็บกักอย่างนักหนา ทุกครั้งคราที่มาเยือน แบ่งส่วนมวลพวกฉัน ไหลเจือจานไม่ฟั่นเฟือน ลำธารนั้นเสมือน ทางฉันเคลื่อนไหลเลื่อนมา แม่น้ำนำช่วงต่อ พาลอยคอชะลอบ่า ผ่านเมืองมนุษย์มา มุ่งออกท่ามหาสมุทร วัฏจักร..วิถีฉัน มีนมนาน บริสุทธิ์ ตราบที่มีมนุษย์ เริ่มยื้อยุด..ฉุดฉันไว้ พวกเขาเข้าห้ำหั่น ตัดโค่นฟันกันยกใหญ่ ขุดถม ล้มป่าไม้ ล่มสลาย ไม่นำพา โลกจึงร้อนไม่ผ่อนพัก เผาแม่หนักผลักขึ้นฟ้า มรสุมรุมเข้ามา เพิ่มฝนฟ้าหนักกว่าก่อน มวลฉัน นั้นมากขึ้น ป่าไม่ฟื้นผืนแล้งร้อน รากดูด หยุดฉันก่อน ร้างสลอนราบสลาย เขื่อนต้าน ฉันยิ่งคลั่ง เพิ่มพลังโถมถั่งใหญ่ แม่น้ำสุดช้ำใจ รับไม่ไหวใหญ่เกินตัว มนุษย์รุดหน้ากั้น เสริมขอบคัน..ฉันปวดหัว มหาสมุทรไกลสุดตัว เจอคันทั่ว ฉันมั่วทาง นับนานกักฉันอยู่ มนุษย์รู้ สู้ กั้น ขวาง ขัดแย้งทุกแห่งทาง แบ่งฟากฝั่ง ไม่ฟังกัน มนุษย์เอ๋ย ! ขอเอ่ยทัก มวลน้ำมากเกินกักกั้น เปล่าดาย
คนฉลาด คิดแต่กลัวเอาตัวรอด คุณจึงอยู่เยี่ยมยอดปลอดภัยผอง คุณซ่อนซุกสุขกระไรในกระดอง คุณเมียงมองจ้องกำไรไว้ทุกครา ยามภัยมาคุณซุกร่างแอบข้างหลัง หวาดระวังมิให้ออกมานอกหน้า สยบพร้อมยอมแพ้แก่ชะตา เพราะรู้ว่าจะมีคนดิ้นรนแทน เขาเป็น คนโง่โง่ ไร้แง่เงื่อน เขาเห็นทุกข์ของเพื่อนนับเรือนแสน เขามีใจรับรู้ไม่ดูแคลน เขายอมแอ่นอกรับกับพิษภัย คนฉลาด ฉลาดรู้ดูทางลม ถ้าเขาล้มก็เหยียบย่ำซ้ำเติมใส่ ถ้าเขาชนะก็ดี๋ด๋ามาร่วมใจ ร่วมประโยชน์ฉลองชัยไม่เคยอาย เขาโง่เง่าในสายตาคนฉลาด แต่องอาจในวิถีมีความหมาย เขารู้เท่ารู้ทันว่าอันตราย แต่เสี่ยงตายด้วยสำนึกระลึกรู้ บ้านเมืองไม่อับจนเพราะ คนโง่โง่ ที่กล้าขืนยืนโต้ออกต่อสู้ คนโง่โง่ ต้องเจ็บตัวเต็มประตู คนฉลาด จึงได้อยู่อย่างร่มเย็น! ในสถานการณ์คับขันหรือเกิดปัญหาขึ้นในสังคม เรามักจะพบคนสองกลุ่มใหญ่ๆเสมอ กลุ่มหนึ่งโถมตัวอุทิศตนเข้ามารับผิดชอบแก้ไขปัญหา ขณะอีกกลุ่มหนึ่งนั่งดูอยู่ห่างๆเพื่อรอเวลารับผลประโยชน์
โอ้ชาวบ้านโอ้ชาวบ้านโอ้ชาวบ้าน น่ารำคาญชอบกล่าวขานเรื่องคนอื่น ชอบสอดรู้และสอดเห็นทุกวันคืน บ้านคนอื่นล่ะชอบแส่แหย่เข้าไป อยากหนีไปอยู่ป่าเหมือนดาบส ต้องมาอดทนชาวบ้านชอบขานไข ทำปากยื่นปากยาวสาวเข้าไป แส่ทุกเรื่องเสียได้ให้ระอา ฉันจะกินจะเดินขี้ปี้หรือนอน จะพักผ่อนจะสรวลเสหรือเฮฮา จะกระดิกหันซ้ายหรือหันขวา เอาเป็นว่าเพื่อนต้องมาสอดรู้เห็น ปิดประตูหน้าต่างก็ยังสอด ชอบมาดอดสอดส่ายสายตาเห็น ไม่สบตาก็พยายามถามให้เป็น โอ้ลำเค็ญคับแค้นใจให้เบื่อจัง ทำยังไงดีหนอก้อมันเซ็ง ต้องคอยเกร็งปวดกบาลพาลปวดหลัง เบื่อจังเลยที่ต้องมาคอยระวัง พวกชาวบ้านที่มานั่งหวังสอดรู้ ฉันมันคนสันโดษและเดียวดาย บอกไม่อายฉันรำคาญเพื่อนบ้านอยู่ อย่ามาทำสอดส่ายไม่น่าดู ปล่อยฉันอยู่อย่ามาสอใส่เกือกเลย
โอ้อนิจจาน่าหัวร่อหัวหน้าไพร่ ข่าวนายใหญ่สิ้นลมกลบกระแส ตัดต่อภาพตกแต่งลวงให้คนแล คนจึงแห่จับผิดหน้าแหกไป เอาเหล่าไพร่ปิดโรงบาลไอ้ชาติชั่ว อ้างว่ากลัวอ้างทหารอ้างสงสัย เอ๊ะไอ้นี่...ขี้ขึ้นสมองหรืออย่างไร กลัวไปใยใหนว่าแดงทั้งแผ่นดิน ปิดถนนเข้าตรวจค้นละเมิดสิทธิ์ ทีตนคิดทำลายเมืองเพื่อทักษิณ ปิดเมืองหวังช่วยเหลือคนโกงกิน ปิดหูตาไม่เห็นยินคำคนเมือง ประกาศปาวป่าวประกาศแดงชนะ คำไร้ค่าเศษขยะแต่ดังเอาเรื่อง น่ารำคาญน่าสมเพศน่าโกรธเคือง ช่างสิ้นเปลือง Oxygen เสียจริงจริง
ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะเริ่มเกิด ความเป็นเลิศใช่ว่าอยู่นานโข ความเป็นไปสภาวะอกาลิโก ตั้งแต่โบราณมา..ว่าจริงแท้ ความแพ้พ่ายใช่เพิ่งจะประสบ กลการรบเลิศล้ำยังถลำแพ้ ชัยชนะจากคาวเปื้อนสะเทือนแด ผ่านพ้นแค่..ประวัติศาสตร์..ที่อาจจะเป็น อย่าร้อนรนทนท้อต่อการแพ้ รู้เพียงแต่...มีศรัทธาอย่าหลบเร้น รู้สิ่งใดผิดถูกผูกประเด็น อย่าว่างเว้นศีลธรรม..โปรดยำเกรง หากที่สุดความหวังเธอพังพ่าย อย่ามัวไปโทษฟ้าว่าข่มเหง ขอโทษนั้นตกอยู่ที่ฉันเอง เพราะมัวบรรเลงเพลงกวี..เสียดสีกัน ...แบบว่า
กระแสเห่อ หลินฮุ่ย ขอคุยหน่อย กลบกระแส หลินห้อย คอยหักเห เกือบใจหาย ใจคว่ำ ทำฮาเฮ เห็นแม่เห่ แหนหวง ลูกดวงเฮง เจ้าหลินฮุ่ย แสนรู้ คู่ ช่วงช่วง มันเลยล่วง ตกลูก ได้ถูกเผง แต่หลินห้อย นั้นคอยคู่ อยู่วังเวง ขับซาเล้ง ชื่อ เช่าเช่า เฝ้าชอนไช หลินฮุ่ยเป็น หมีแพนด้า ช่างน่ารัก เฝ้าฟูมฟัก ลูกยา พาสดใส ลงทุนตั้ง หลายล้าน บานตะไท จากเมืองจีน แผ่นดินใหญ่ ไทยชื่นชม แต่ เช่าเช่า เจ้าหลินห้อย มิน้อยหน้า ดังยิ่งกว่า แพนด้ายักษ์ คู่หมักหมม จากเมืองจีน เหมือนกัน เช่ากันจม แย่งเงินถม เงินถัง เกือบพังครืน หลินฮุ่ยและ ช่วงช่วง นั้นดวงเด่น ใครได้เห็น คนรักสัตว์ มิขัดขืน ส่วนเช่าเช่า กับหลินห้อย คอยกล้ำกลืน ใครจะชื่น เลวขึ้นชื่อ ระบือนาม คนไทยจัด เฉลิมฉลอง น้องแพนด้า ต่างชาติมา พากระหยิ่ม ยิ้มสยาม ส่วน เช่าเช่า กลับลิ้นห้อย เขาคอยตาม คนไทยถาม ความโปร่งใส เจ้าไม่มี หลินห้อย และเช่าเช่า เฝ้าหดหู่ ลากรถเมล์ เข้าอู่ หารูหนี แม่หลินฮุ่ย พ่อช่วงช่วง ควงคู่ดี ผิดกับยี้ ลิ้นหมีห้อย ต้องถอยครับ..
ชาติ ไม่เคยขึ้นวอหนอคางคก ทำผงกหัวหางวางท่าห่าม หัวมงกุฎท้ายมังกรห่อนรู้ความ ราศีทรามฤาสมพอกับวอทอง ด้วยจับพลัดจับผลูดูไม่จืด มายืนยืดกินรุ้งจนพุงป่อง จมูกบานหนังหนานัยน์ตาพอง สำรากร้องทระนงหลงตัวเอง หากคางคกอยู่ตมคงสมเหมาะ เที่ยวลัดเลาะบึงหนองจนท้องเป่ง นี่สวมหมวกสวมชฎายิ่งพาเซ็ง อวดตะเบ็งอึงอลจนคับวอ วาสนาใครบ้างเหมือนอย่างเจ้า ลิ่วล้อเขาชมว่าแก่แต่ยังหล่อ มันโดนใจคางคกคำยกยอ นั่งหัวร่อจมูกทู่เหมือนหมูตอน พวกสิงสาราสัตว์สะบัดหาง อยู่เคียงข้างหมอบราบราวภาพหลอน ล้วนน่าเกลียดน่ากลัวจนหัวคลอน ต้องหน้ายุ่งพุงขย้อนอยากอาเจียน ชอบสำรอกปนสำรากฝีปากกล้า เที่ยวตีด่ากับคนอื่นน่าคลื่นเหียน หลงนึกว่ากูแน่คงแก่เรียน ทำกระเหี้ยนกระหือรือเขาซื้อมา(หนอย..) เถิด..วันหนึ่งมวลชน..ทนไม่ได้ คงสิ้นลายน่าวิตก..คางคกจ๋า... รอถึงวันฟ้าสว่างกระจ่างตา... (อะแฮ่ม...กรุณาเลือกข้อที่ท่านชอบวรรคจบ....) ก.) ปวงประชาถีบคางคก..จนตกวอ... ข.) เชิญประชาถีบคางคก..ให้ตกวอ... ค.) มาเรามาถีบคางคก..ให้ตกวอ... ง.) ตีนประชาถีบคางคก..จนตกวอ... จ.) รวมบาทาถีบคางคก..ให้ตกวอ..... ฉ.) และอื่นๆตามใจชอบ................. ปล.ส่วนตัวผมเลือกข้อ..ก.ครับ.. จริงๆแอบชอบข้อ...งองู.อิ..อิ... อ้อ..แอบมาเติมข้อจ.อีก เพิ่งนึกได้เมื่อคืน...รุ้สึกจะเวิร์คเหมือนกัน...อิ..อิ.. แมวคราว.... 9 กค.51 เขียนให้..คางคกที่ขึ้นวอแล้วลืมตัวทุกๆตัว
เอาแชมป์ไปเลยดีฝ่า!!! เป็นเจ้าภาพบังหน้าเค้าได้ ไม่รู้ซื้อกรรมการไปเท่าไร เห็นชนะใครใครมาหลายที โปรตุเกสอิตาลีสเปน ตัดสินเอียงเอนอออกอย่างนี้ ลูกมันเข้าประตูไปกี่ที ไม่เห็นเลยจะมียุติธรรม ประชาชนเป็นล้านเฉลิมฉลอง ชัยชนะที่มัวหมองตอกย้ำ เป็นคนไทยไม่ดีใจซักคำ หากชนะมาด้วยทำลับหลังใคร ทีมใหญ่ๆส่ายหัวกลัวเอเชีย จิตใจละเหี่ยเกินทนไหว ใช่ว่าแพ้เพราะมันเก่งซะเมื่อไร นี่มันแพ้เพราะใจมันเลวทราม ลูกไปนอนก้นตาข่ายใช่ชนะ ก็นี่ล่ะ...ที่ว่าน่าเกรงขาม กรรมการมันร่วมโกงอยู่ทุกยาม จึงแพ้ความเลวทรามน่าไม่อาย วันนี้....เกาหลีเจอเยอรมัน ดูซิดู...ดูมันโกงได้ไหม เจ้าประคู้น....ขอให้มันต้องเจ็บใจ แพ้ 5-0 เลยได้ไหม....ช่วยผมที!!! เราคนไทย ไม่ชอบโกงใครเนาะ แพ้ก็แพ้สิ ถ้าชนะแบบโกงเค้ามาตลอด มันหน้าตัวเมียเกินไป!
เธอคือสโนไวท์ของฉัน รอยล้านความสวยนั้นรวมอยู่นี่ เธอรวมทุกความงามที่โลกมี มากระจุกรวมอยู่ที่หน้าของเธอ ฉันก็คนธรรมดา มีหรือจะไม่มานั่งเพ้อ แค่แว่บเดียวที่เหลียวมาเจอ ก็เล่นเอาฉันเหม่อไปหลายวัน อย่างเธอเรียกสวยสะท้าน ใครเห็นเป็นลนลานนั่งฝัน อยากจะอยู่ใกล้เธอซักวัน ใครกันหนอใครกันได้โชคดี เธอคือนางฟ้าลอยเด่น แหงนหน้ามองเห็นอยู่ตรงนี้ ยังไม่มีใครได้ไมตรี ฉันจึงถือโอกาสนี้รีบไปจอง สวัสดีครับผมทักทาย เธอทำเอียงอายปัดป้อง ไม่รอช้าผมรีบประคอง อย่าอายเลยน้องหันหน้ามา แว่บเดียวที่อยู่ใกล้เธอ ฉันจึงได้เจอคำตอบว่า ทำไมใครใครไม่กล้ามา เพิ่งจะรู้ความจริงว่าเป็นยังไง หน้าสวยสวยน้องเจ้า....แต่เท้าเหม็น ไม่นึกหนอว่าจะเป็นไปได้ ร้อยล้านกลิ่นเหม็นเหมือนเป็นใจ มากระจุกอยู่นี่ไงที่เท้าเธอ ตั้งแต่นั้นคบคนอย่าดูหน้า อาจเสียท่าเป็นบ้านั่งเหม่อ เจ้าประคู้นนน....ชาตินี้อย่าได้เจอ เห็นสวยสวยแต่เท้าเธอเหม็นบรรลัย อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงครับ เจอเธอที่ร้านเสริมสวย ตอนนั่งรอเห็นสวยมาก พอถอดรองเท้านั่งเก้าอี้เสริมสวย โอ้วว.....พระเจ้า เรียกเทศบาลมาที
มันมีค่ามากกว่าฉันแค่ไหน เธอถึงเอาแต่ใส่ใจอยู่แค่นั้น ขอโทษเถอะครับ....ที่เธอซับหน้ามัน เห็นแล้วมันคันไปถึงหัวใจ หน้าอย่างฉันเธอไม่มาซับ เธอกลับหยามว่ารับไม่ได้ หน้าอย่างฉันเธอให้ซันไลต์ แถมอีกสกอตไบร์ท์ให้ฟรี จริงสิ....ก็หน้าอย่างฉัน ไม่อาจสู้หน้ามันได้นี่ เดี๋ยวก็ซับเดี๋ยวก็ซับทีสองที ปล่อยให้หน้าฉันนี้แห้งเหี่ยวตาย เกลียดนักไอ้กระดาษซับมัน ซับได้ทั้งวัน...มันใจง่าย สักวันนะ...คอยดูจะเอาให้ตาย สาดน้ำกรดให้วอดวายไอ้หน้ามัน เวลาแฟนไปซับหน้าให้แฟนใหม่ เห็นแล้วอยากจะบ้า ผมมันคนหน้าแห้ง ไม่มีอะไรให้ซับเหมือนมันนี่ ไอ้หน้ามัน