สวัสดียิ้มแย้มแซมอักษร ทักทายกันทุกตอนตามนับได้ พี่กุ้งหญิงหนามแดงแฝงนามนัย เรื่องฝีมีอย่าสงสัยไม่อยากยอ ทุกเรื่องเล่าลำดับจับประเด็น ตามกระแสใดเด่นเล่นเติมต่อ สอดแทรกความตามด้วยมุขสนุกรอ สาระก็มีแน่แหมเผลอชม น้องร่วมเรือนกลอนไทยใช่กวี เหงาอย่างนั้นเศร้าอย่างนี้มีสุขสม แต่งต่อคำคัดเขียนเกรียนอารมณ์ กุ้งยังแวะเวียนชมผสมทักทาย ความห่วงใยมีมอบให้เสมอ ครั้งหนึ่งเธอถามไถ่ด้วยใจหมาย ห่วงอารมณ์ห่มเศร้าของน้องชาย มาคอมเมนท์ปิดป้ายหวังหายดี บท "กวีนิพนธฺ์เล่มเก่า" ตัวอักษรนอนเหงาเสียทุกที่ ราวกุ้งหญิงรับรู้เรื่องที่มี ยามกะวีปะกลอนในตอนนั้น "บุคคลภายนอกห้ามเศร้า" เล่นเอาความเหงาเงียบสนั่น แย้มรอยยิ้มพิมพ์คำออกรำพัน ผู้ร่วมเรือนเดียวกันในบ้านกลอน ขอมิตรภาพนั้นยืนยงอยู่ แม้ไม่รู้เห็นหน้าเพียงอักษร กว่าเป็นคำเป็นความเป็นบทตอน ล้วนต้องผ่านใจก่อนร้อยกรองคำ บนบรรทัดห้าเส้นเล่นเป็นเสียง บนสี่วรรคเรียบเรียงสูงกลางต่ำ บนบ้านกลอนมีผลงานเธอประจำ นามกุ้ง-หนำ-แดงใช่มีไมตรี
วันที่ฟ้าฉ่ำฝนคนเหม่อเหงา บนระเบียงบ้านเก่าเหมือนเศร้าหมอง ลมพัดหวนวูบวนฝนละออง สัมผัสต้องไอหนาวเหมือนร้าวราน โมบายแกว่งไกวสั่นหวั่นวิตก เหมือนเสียงใครโกหกแว่วคำหวาน การรอข่าวเรื่องราวที่ยาวนาน ใจสะท้านกร้านกรำร่ำเรื่อยมา มองราวฟ้าสีเทาเล่าเรื่องผ่าน สถานการณ์สัมพันธ์มีปัญหา คนทางนี้ขลาดเขลาเบาปัญญา จึงไม่กล้าท้าทายแพ้พ่ายใจ เฝ้าฝากบอกเพียงว่าสารภาพ ไม่อยากทราบเหตุผลเรื่องคนใหม่ จึงไม่อาจไถ่ถามความเป็นไป มีเพียงความห่วงใยที่ส่งมา
เดินโดดเดี่ยวเหลียวไหนใครคู่สอง มีพี่น้องตามติดพิศมัย ยามจำพรากจากกันแสนอาลัย ซ้อนอยู่ในกายหนึ่งต่างพึ่งกัน แม้ลุกนั่งเดินย่างต่างร่วมกิจ ทำพูดคิดตรงแน่ไม่แปรผัน น้องอยู่นอกพี่อยู่ในแฝดสัมพันธ์ หากดึงดันหลบลี้อาจมีตรม สามัคคีคุมสติดำริพร้อม ใจนึกน้อมกุศลดลสุขสม ทุกขณะหายใจใฝ่เกลียวกลม ย่อมรื่นรมย์พี่น้องท่องเดินไป ทางสองแพร่งมิรู้เห็นเป็นบุญบาป เมื่อกายหยาบเหินห่างสว่างใส ลืมรำลึกสำนึกน้อมภายใน ชวนพี่ให้หลงเพลินเดินตามมาร น้องเข้าใจห่วงใยในตัวพี่ เฝ้าชวนชี้ตั้งมั่นหมั่นสังหาร คราเผอเรอมืดมัวตัวซาตาน จิตวิญญานพาลหลงคงซึมเซา เดินโดดเดี่ยวเกี่ยวพันกันอยู่สอง ตามครรลองธรรมชาติมิขลาดเขลา สำรวมตนทำดีพี่น้องเรา จึงรู้เท่าทันมายาประสาคน... พี่....ธาตุรู้ หรือจิตวิญญาน น้อง....กาย รวมองค์ประกอบธาตุ 4 แฝดพี่น้องทำหน้าที่ร่วม เดินทางชีวิต ป้ากันนา 14 พฤษภาคม 2555
พิรุณแก้วหล่นร่วงจากห้วงหน หยาดหยดบนกลีบมาลย์ยากทานไหว แรงกระหน่ำเก็จแก้วซัดกลีบใบ ดลดอกให้ช่อบางซบกลางดิน หวั่นสัมพันธ์แห่งรักที่ถักไว้ ยั่งยืนจักแปรไปจนผันผิน ไม่ต่างจากบุษบาต้องหยาดริน ในหัตถ์วรรษาสิ้นซึ่งปราณี ขอฝากคำพร่ำพรอดถึงยอดรัก หวัง..คนภักดิ์..อยู่ไกลไม่หน่ายหนี อาวรณ์หวามข้ามฟ้าเปี่ยมไมตรี ทุกนาทีห่วงใยไม่สร่างซา ว่าแต่ใจอีกดวงที่ห่วงนั้น ยังอาทรผูกพันละห้อยหา ถึงหนึ่งใจที่ไกลสุดสายตา เช่นผ่านมารักหวานทั้งลานทรวง พิรุณหยาดขาดช่วงมิร่วงแล้ว มณีแก้วบอกลาฟากฟ้าสรวง พลิ้วอารมณ์อ่อนไหวในแดดวง ยังโหมห่วงว้าวุ่นครุ่นคำนึง เพียงวลีสักน้อยจากกลอยขวัญ หนึ่งคำมั่นในห้วงความคิดถึง ก็เสมือนโซ่คล้องล่ามล้อมตรึง อีกใจหนึ่งต่างฟากมิพรากกัน รอรับสารแห่งรักจากอีกฟ้า ทอดสัญญาสองใจไม่แปรผัน ปฏิพัทธ์ทุกชาติตราบนิรันดร์ จวบอนันต์สิ้นภพจบวัฏฏา
ใครคนหนึ่ง ซึ่งคอย จนหงอยเหงา แอบนั่งเศร้า เฝ้ามอง คอยจ้องหา มีเพียงหวัง ยังจำ คำวาจา คงย้อนมา สักวัน ดั่งฉันคอย คำสั้นสั้น วันนี้ ที่ได้รับ เหมือนว่าซับ น้ำตา คราเหงาหงอย ก็บ่อยครั้ง นั่งคิด จิตเหม่อลอย จนค่อยค่อย เจียมใจ ไม่ลืมตน อยากจะหัก ห้ามใจ มิให้คิด รู้ไร้สิทธิ์ แต่ใน ใจสับสน ใต้สำนึก ของฉัน นั้นกังวล คิดถึงปน ห่วงใย ให้อาทร
อยากให้รู้ว่ารักและคิดถึง จึงทำซึ้งหยิบปากกาออกมาเขียน กลั่นเป็นคำจากใจแล้วร้อยเรียง ด้วยสำเนียงเรียบง่ายแต่ใจจริง � �ย่อหน้าแรกส่งผ่านความรู้สึก ลึกลึกแล้วข้างในฉันใจหาย ถึงวันนี้ไร้เธอแนบเคียงกาย หนาวไม่วายทุกวันคืนทุกคืนวัน � � ย่อหน้าสองเขียนถึงความห่วงใย ที่มีให้ไม่จางแม้กาลผัน ต่อให้นานดาวหมดฟ้าร้างรากัน หัวใจฉันยังคงอยู่ที่เธอ � �หน้าถัดมาหัวใจมีคำทัก ว่ายังรักคอยห่วงอยู่เสมอ แม้ตัวไกลไร้โอกาสผ่านพบเจอ หลงละเมอถึงเธอทุกคืนวัน � �รอยยิ้มนั้นคงอยู่ที่ตรงนี้ ยิ้มทุกทีเมื่อเธอยิ้มให้ฉัน ไม่เคยหมดมีให้ทุกทุกวัน แม้ห่างกันแต่ใจไม่เดียวดาย � � ย่อหน้าท้ายลงท้ายคำว่ารัก ให้ประจักษ์ให้รู้แจ้งถึงความหมาย ปิดผนึกใส่ซองแนบดวงใจ วอนสายลมส่งไปให้ถึงเธอ � �ส่งถึงเธอผู้ซึ่งเป็นที่รัก จดหมายฝากจากใจมีคำถาม แม้นเธออ่านครั้งใดเห็นข้อความ ตอบกลับมาถึงฉันด้วยใจเธอ
อยุ่ตรงนั้นเธอเป็นยังไงบ้างก็ไมรู้ ใครจะดูแลห่วงใยเธอรักเธอเท่าฉัน ห่าวกันใจฉันหว่งเธอทุกวัน อีกไม่นานคงเจอกันนะคนดี อยู่ตรงนี้ฉันมีแต่ความอ้างว้าง เมื่อไม่มีเธอเดินร่วมทางอยู่เคียงข้าง ความทุกข์ท้อใจเข้ามาอยู่มิจาง คิดถึงเธอมากมายรู้ไหมคนดี อีก7วันเท่านั้นช่วยรอหน่อย จะปลดปล่อยความคิดถึงดัวยการไปพบหน้า สบตาสักนาทีแลวบอกเธอว่าฉันคนนี้ จะไม่มีวันจากเธอไกลเหมือนครั้งนี้ จะคอยดูแลเฝ้าหว่งใยตราบลมหายใจที่มี ตอบแทนทั้งชีวิตที่เธอทำเพื่อฉันเสมอมา คำว่ารักพูดไปคงยังนัอยเกินใจจะเอื่อนเอ่ย คำว่าขอบคุณหมื่นพ้นล้านคำมันคงยังไม่พอเท่ากับสิ่งที่เธอให้กัน เชื่อใจฉันนะคนดีอีกไม่นานเราคงจะได้เจอกัน.......... ฉันรักเธอ
๏ ฟากสรวงแดนแสนห่างจากกลางเถื่อน มองดาวเดือนโพ้นฟ้าสุดตาเหลียว ฤๅโทษแถนปางบรรพ์ยังฝั้นเกลียว เกินโน้มเกี่ยวเถื่อน-สรวงคล้องพ่วงกัน เพียงสายใยอาทรแทรกซอนอยู่ ทุกอณูดวงแดมิแปรผัน เกลียวฝั้นสองดวงมานนานนิรันดร์ ป้องปกขวัญดวงใจด้วยไมตรี ช่วงคาบแห่งหนาวลมใกล้ล่มแล้ว ต้นดอกแก้วรานงามจนทรามสี ยามดอกใบหล่นร่วง..ห้วงฤดี หวั่นในที..กลัวรักจะหักราน ครายามยลพจน์ถ้อยที่ร้อยพากย์ เจ้าจารฝากความคำลำนำสาส์น ที่ไหวหวั่นกลางห้วงของดวงมาน ก็พ้นผ่านลับล่วงจากทรวงใน แม้มีบ้างบางคืนสะอื้นอั้น จำกลืนกลั้นน้ำตามิบ่าไหล เฝ้านับคืนนับวันที่ผันไป หวังถอนไถ่ปลดเปลื้องทัณฑ์เบื้องบน **ขอฝากสายลมร่ำแห่งค่ำนี้ พาไมตรีเคลื่อนผ่านข้ามลานหน หอบหวานชื่นแผ่ระนาบโอบทาบมน จากอกคนกรุงไกรสู่ไพรวัน** ระลอกลมพลบค่ำพลิ้วรำร่าย กิ่งแก้วส่ายก้านใบดูไหวสั่น ดอกสุดท้ายเบ่งบานบนลานจันทร์ ก่อนถึงวันรุ่งเช้าจักเฉางาม แต่ดอกรักเบ่งบานเต็มลานป่า ด้วยลมพาห่วงใยคอยไถ่ถาม จากกรุงไกรข้ามฝั่งมารั้งความ ทุกโมงยามอาทร ร้อน ฤๅ เย็น ผ่านช่วงกาลลมหนาวอีกคราวหนึ่ง แต่หวานซึ้งอักษราทุกคราเห็น ยังบ่งบอกความเผยดั่งเคยเป็น มิซ่อนเร้นเงื่อนงำแม้นคำใด เช้าเคยฉ่ำย่ำกรายด้วยสายหมอก น้ำค้างหยอกยอดแก้ววาวแววใส นับจากนี้คงผ่านล่วงกาลไกล หมุนเวียนไปตามห้วงของช่วงกาล ที่รักของคนไกล นานเพียงไหนคงยังรั้งประสาน เยื่อใยแห่งสองเราให้ยาวนาน แม้จบปราณวางวาย..ยังหม
เธอทำให้คนอย่างฉันนั้นมีค่า ใช้เวลาเพาะบ่มข่มนิสัย จากขี้อ้อนงอนเก่งไม่เกรงใคร กลับเปลี่ยนไปทันทีที่มีเธอ ขอบคุณนะคนดีที่รักฉัน ขอบคุณนะทุกวันสม่ำเสมอ ขอบคุณนะวันนี้ที่มีเธอ ขอบคุณนะที่ได้เจอคนดีดี เธอคือคนที่ฉันรอมาตลอด ขออ้อมกอดเล็กเล็กของฉันนี้ แทนรู้สึกขอบคุณแทนความดี แทนสิ่งที่คุณให้ไม่ร้างลา ต่อไปนี้ขอทำทุกทุกอย่าง เพื่อคุณบ้างได้ไหมคงไม่ว่า จะขอทำด้วยรักและศรัทธา ด้วยสายตาห่วงใยไม่ทิ้งกัน
กี่คืนค่ำยังคงย่ำซ้ำกับรอย ��� ��� หงอยใจเหงาเศร้าจิตฝ่อท้อยังหวัง กี่วันเคลื่อนกี่เดือนคล้อยเฝ้าคอยฟัง��� นับปียังอดทนพอรอข่าวเธอ ทุกข์สุขใดเพียงขอพอรู้ข่าว��� ��� ถึงเรื่องราวคนไกลห่วงใยเสมอ ขออย่าชิงชังปล่อยให้คอยเก้อ��� ��� ทุกข์ใดเจอบอกข่าวกันฉันจะมา
ฟ้าฝั่งนี้ มีคนหนึ่ง ซึ่งอ่อนล้า หมดแรงสู้ ดูชะตา น่าอับเฉา ทุกวันนี้ มีเพื่อนแท้ เพียงแค่เงา ที่ปลอบเรา ว่าต้องสู้ อยู่ต่อไป ทำทุกอย่าง สร้างทุกสิ่ง วิ่งกันต่อ ไม่อาจรอ ชะตาฟ้า มาช่วยได้ กายยังไหว ใจยังอึด ฮึดมันไป ถ้ายังไหว ให้มันรู้ ด้วยตัวเรา ฟ้าฝั่งนั้น ฉันอยากรู้ อยู่ดีไหม ถึงอยู่ไกล ใจห่วงหา อาทรณ์เขา ขออย่าเป็น ลำเค็ญ เช่นกับเรา เพียงให้เขา ฝ่าฟัน พ้นมันไป ถ้าสุขดี คนทางนี้ ไม่มีห่วง หวังว่าดวง เขาคงดี รัศมีสดใส คนทางนี้ คงจะมี แค่ห่วงใย ที่ส่งไป ให้อีกฝั่ง ของท้องฟ้า
ปีใหม่ หัวใจเก่าไม่เศร้าหมอง หัวใจนี้ยังครองรักคงมั่น เป็นหัวใจใสสะอาดวาดสัมพันธ์ หวังเพียงฉันกับเธอรักกันนาน หัวใจนี้ยังมีเธอเสมอใจ และจะไม่มีนาทีที่เลยผ่าน เก็บความรักทุกห้วงของดวงมาลย์ จะประสานความผูกพันให้มั่นคง ปีใหม่ หัวใจเก่า ยังเล่าขาน เป็นนิทานความห่วงใยไม่ลืมหลง ถึงปีใหม่ ผ่านไปใจบรรจง เขียนบันทึกความรักลง ณ ห้วงใจ. แดดเช้า: ๑ มกราคม ๒๕๕๕
ยามลมหนาวพัดหนาวอยู่กราวกรู ใบไม้แห้งร่วงพรูอยู่ไหวไหว เหล่าดอกหญ้าต้องลมพัดแกว่งไกว ลู่ไล้ในยามน้ำค้างมาพร่างพรม กว่าหมอกเช้าจะจางไปกับแสง ดอกเข็มแดงช่อชูดูเหมาะสม เหล่าแมลงไต่ตอมเข้าดอมดม ยามสายลมพริ้มพรายคล้ายละเมอ หนาวถิ่นนี้ไกลโพ้นจะหนาวไหม คิดถึงฝากจากใจไปเสนอ แม้เส้นทางแสนไกลอยากไปเจอ ใช่จะเพ้อเพียงคำให้ช้ำใจ รับไว้หน่อยเถอะลมฝากไปหา วานลมช่วยพัดพามาชิดใกล้ ความอบอุ่นที่คุ้นเคยเผื่อบางใคร ฝากห่วงใยกลับมาคราลมเยือน
มีเธอ มีหรือฉันจะหวั่นไหว จะฝ่าไป.. ภัยทุกข์ยากหรือขวากหนาม จะหนักหนาสาหัสหนักนัก ก็ตาม จะฝ่าข้ามความลำเค็ญให้เห็นกัน ถ้าเธอล้า ฉันจะกล้าจะแข็งเข้ม คอยเติมเต็ม เข้มแข่งความแข็งขัน ถ้าเธอหมดแรงยื้อปล่อยมือพลัน มือฉัน จะยุดยื้อกุมมือเรา เธออาจมีวันเศร้าหงอยเหงาบ้าง จะอยู่ข้างผ่อนคลายให้หายเศร้า ลูบผมนุ่มกุมมือน้อยค่อยๆเบาๆ จะคอยเฝ้าเช็ดน้ำตา จนกว่านอน จะให้เธอนอนอุ่นหนุนที่ตัก กระซิบรักโอบนุ่มคลุมขวัญอ่อน ให้ได้ยินในฝันว่า อย่าอาทร ฝันไปก่อน ตอนตื่นเธอจะเจอกัน สัญญาว่าทุกเช้าชื่นเธอตื่นตา ทุกครั้งครา มั่นเสมอต้องเจอฉัน จูบเบาๆต้อนรับกับตะวัน ขออย่าหวั่นใจไหวอะไรเลย จะบอกรักบ่อยๆค่อยๆบอก ไม่เบื่อหรอก บอกบ่อยๆค่อยเฉลย ชั่วโมงละสิบครั้งดั่งเช่นเคย แล้วจะเชยชมแก้มแถมทุกที จะจดไว้ในบันทึกจารึกรัก ว่าหอมนัก ลงในไดอารี่ นับทุกหอม ที่หอมไปในหนึ่งปี วันไหนที่ครบหมื่นหนอ ..ขอแต่งงาน
ขอฝากรักไว้ในวันนี้ ฝากรอยรักสมานใจ ไว้ในอ้อมกอดอันอบอุ่น ยามนอนหลับฝัน ขอให้หวานหวาบหวิว ใจคนึงแด่เธอนะคนดี เผ้าคิดถึงตรึงไว้ในดวงจิต เฝ้าถวิลหาในอ้อมแขน ที่แสนหวานขอให้ฉันนะคนดี แม้จะห่างกายแต่เรา คงไม่ห่างใจกันในยาม หลับไหลขอให้ฝันถึง ฉันในยามหลับหรือยามตื่น รักนนะคนดีรู้มั้ย อยากบอกให้รู้ว่า รักและห่วงใยที่มีให้ เก็บไว้ในอ้อมใจนะคนดี
** สุดขอบฟ้า แสนไกล หทัยนี้ ดวงฤดี เคียงข้าง มิห่างหาย อุ่นไอรัก สลักซึ้ง ตรึงใจกาย รักมิคลาย คิดถึง คะนึงครวญ ** เหม่อมองฟ้า สะท้อน ถึงก้อนเมฆ คล้ายมนต์เสก ดวงจิต ให้คิดหวน ความผูกพัน ห่างเห ไม่เรรวน น้องเนื้อนวล ใจภักดิ์ สองรักเรา ** กระซิบหวาน คนดี สุดที่รัก ใจแน่นหนัก คงมั่น ดั่งขุนเขา กระซิบแผ่ว แว่วเสียง สำเนียงเบา คราใดเหงา เฝ้ารำพึง...คิดถึงเธอ..... ** ด้วย...ความรัก สลักไว้ ในดวงจิต ความ..ใกล้ชิด ห่วงใย ให้เสมอ คิด...ทุกวัน ห่วงหา ทุกคราเจอ ถึง...ละเมอ คอยอยู่ เธอผู้เดียว.......ฯ