เมื่อใจหนาว อยากบอกใครว่าใจหนาว เมื่อใจร้าวจะบอกเธอ ได้หรือไม่ เมื่อใจเสีย มันเจ็บแสบแปลบหัวใจ บอกได้ไหม ว่าใจเหงาและเฝ้ารอ ใครคนหนึ่งซึ่งรอนานผ่านความหนาว คืนนานยาวหนาวสะท้านนานจริงหนอ พอเราผ่านคืนร้าวรานมานานพอ ใจมันพ้อท้อรันทดสิ้นอดทน ฟ้าหน้าหนาวเข้มดีสีฟ้าเข้ม แต่น้ำตาที่เอ่อเต็มย้อมจนหม่น ใจเอ๋ยใจ ไหวอาวรณ์ร้อนทุรน มันแสนกลบ่นแต่เหงา ..ไม่เข้าใจ เมื่อใจหนาว เธอบอกใครว่าใจหนาว.. ขอบอกฉันสักครั้งคราว จะได้ไหม เอาใจหนาวสองดวงสอดกอดกันไว้ คงอุ่นไอไร้หนาวแน่ ต่อแต่นี้..
แม้หากคำ คิดถึง ไม่ซึ้งพอ ยังจะขอ เพ้อพร่ำคำคิดถึง แม้คำน้อยคำนิดไม่ติดตรึง ยังคำนึง ซึ้งคำนั้นมั่นความใน ไม่ต้องคิดมากเท่าที่พี่คิดถึง สักเพียงครึ่งก็อิ่มอาบจนวาบไหว ขอเศษใจนิดเดียวเพียงเสี้ยวใจ เพื่อเอาไว้เป็นพลังรั้งชีวี แม้ไม่เคยพบสักนิด แต่คิดถึง เหตุใดจึงใจอ่อนอ้อนเหลือที่ หากเธอไม่เห็นงามก็ตามที ใจดวงนี้ก็สุดปรามต้องตามไป แม้ว่าไม่เคยพบประสบหน้า ก็เหมือนว่าเคยพบประสบใกล้ ประหลาดนักประจักษ์ชัดถนัดใจ คนที่ใช่ ..ไม่ต้องหาก็มาเอง
รู้บ้างไหมจะบอกคำว่า... ฉันคิดหนักจะบอก...แบบไหนหนอ ไม่เคยบอกว่า...ปล่อยเธอรอ แต่ไม่อยากให้เธอท้อรอ...กัน ฉันไม่ค่อย...ใครเชื่อไหมเออ วรรคข้างบนรู้ว่าเธอไม่เชื่อฉัน ไม่เป็นไรถ้าไม่เชื่อว่า...กัน งั้นรอวันที่ฉันกล้าบอกเอง [จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง]
จะเก็บดอกหญ้าเอามาฝาก คุณค่าคงไม่มากสักเท่าไหร่ ฤๅซึ้ง ฤๅหวาน ฤๅละไม เท่ากับดอกกุหลาบงามซับซ้อน เป็นดอกหญ้าเรียบง่ายความหมายตรง ไม่บรรจงประดิษฐ์จริตซ่อน ไม่มีหนามตำเจ็บจนร้าวรอน ไม่ยอกย้อนความหมายที่สื่อความ รักก็คือ คำว่า รัก อย่างง่ายง่าย สื่อสารฉายแววตาตอบคำถาม ห่วงหาห่วงใย ใจติดตาม เป็นความงามแบบง่ายง่าย เท่าใจมี จะเก็บดอกหญ้าเอามาฝาก คุณค่าคงไม่มากเท่าไหร่นี่ เป็นแค่คนซื่อซื่อ รู้สึกดี เอ่ยวจีตรงตรงตามใจมอง.
วันนี้ให้เธอถามได้ตามใจ ถามอะไรก็ได้หนอขอให้ถาม แล้วฉันจะตอบคำเพื่อย้ำความ ว่า รักหลามล้นใจแล้วแก้วกานดา ไม่ว่าเธอจะถามอะไรกัน ถามเรื่องเก่าก่อนนั้นหรือวันหน้า หรือถามเรื่อง ไปที่ไหนที่ไปมา จะตอบว่า รักมากมายไม่หลายใจ คล้ายเป็นคนที่พูดส่งไม่ตรงเรื่อง สิ้นเปลือง คำพูดจาน่าหมั่นไส้ เสียเวลาต่อสานให้นานไป แต่ขอให้เธอลองคิดตรองตาม รัก และรักเท่านั้น ที่ฉันตอบ มีไว้มอบตอบย้ำทุกคำถาม หากเธอคิดติดใจไม่เห็นงาม ยังให้ความรักนั้น มันตอบเธอ
มีเธอ มีหรือฉันจะหวั่นไหว จะฝ่าไป.. ภัยทุกข์ยากหรือขวากหนาม จะหนักหนาสาหัสหนักนัก ก็ตาม จะฝ่าข้ามความลำเค็ญให้เห็นกัน ถ้าเธอล้า ฉันจะกล้าจะแข็งเข้ม คอยเติมเต็ม เข้มแข่งความแข็งขัน ถ้าเธอหมดแรงยื้อปล่อยมือพลัน มือฉัน จะยุดยื้อกุมมือเรา เธออาจมีวันเศร้าหงอยเหงาบ้าง จะอยู่ข้างผ่อนคลายให้หายเศร้า ลูบผมนุ่มกุมมือน้อยค่อยๆเบาๆ จะคอยเฝ้าเช็ดน้ำตา จนกว่านอน จะให้เธอนอนอุ่นหนุนที่ตัก กระซิบรักโอบนุ่มคลุมขวัญอ่อน ให้ได้ยินในฝันว่า อย่าอาทร ฝันไปก่อน ตอนตื่นเธอจะเจอกัน สัญญาว่าทุกเช้าชื่นเธอตื่นตา ทุกครั้งครา มั่นเสมอต้องเจอฉัน จูบเบาๆต้อนรับกับตะวัน ขออย่าหวั่นใจไหวอะไรเลย จะบอกรักบ่อยๆค่อยๆบอก ไม่เบื่อหรอก บอกบ่อยๆค่อยเฉลย ชั่วโมงละสิบครั้งดั่งเช่นเคย แล้วจะเชยชมแก้มแถมทุกที จะจดไว้ในบันทึกจารึกรัก ว่าหอมนัก ลงในไดอารี่ นับทุกหอม ที่หอมไปในหนึ่งปี วันไหนที่ครบหมื่นหนอ ..ขอแต่งงาน
ขอฝากดาว ทอแสง แรงแห่งรัก สายลมถัก รักถ้อย ด้อยเสนอ เมื่อวันวาน ขานตอบ ฉันชอบเธอ แต่ว่ารัก ไม่ยักเจอ ที่เผลอใจ ขอเป็นแค่ คนรู้จัก ประจักษ์จิต ยังไม่คิด ว่าใจนี้ จะมีให้ จึงต้องเฝ้า เจียมตัว และหัวใจ จึงต้องฝัน แลใฝ่ ไปพลางพลาง จึงฝากดาว แซมฟ้า เวลาดึก ขอให้นึก ถึงจันทร์ วันฝันค้าง ฝากส่งรัก อย่าให้เหมือน ที่เลือนราง ส่องกระจ่าง ไปถึง อีกหนึ่งใจ ขอบคุณดาว พราวฟ้า เวลาดึก ซ่อนรู้สึก ลึกลึก นึกอ่อนไหว ขอบคุณเธอ ที่ฉันเจอ จนเผลอใจ เผลอขานไข ถ้อยความใน จากใจจริง
ถึงคันแยงแหล่งหมอลำจำปาศักดิ์ พี่หมายรักหนึ่งน้องปองปรารถนา อยู่เมืองไทยไกลกันด้นดั้นมา เที่ยวเสาะหาอินแตงคันแยงงาม เป็นหมอลำล้ำเลิศประเสริฐศรี กลอนลำดีขานขับไม่หยาบหยาม อรชรอ้อนแอ้นฟ้อนแคนงาม อยากไถ่ถามนางดูถึงคู่ครอง เป็นแม่ฮ้างร้างผัวหรือตัวโสด พี่ขอโทษขอษมาอย่าหมางหมอง แม้นมีผัวตัวอยู่เป็นคู่ครอง จักลาล่องร่อนเร่อยู่เอกา แม้นยังโสดโดดเด่นเช่นเดือนผ่อง พี่หมายปองร่วมชาติวาสนา จักเลี้ยงดูชูช่วยด้วยสัจจา เจ็บรักษายาไข้ไม่ห่างตัว แม้นนางปลิดมิดม้วยด้วยฤทธิ์โรค จักไว้โศกทำบุญให้ทูนหัว พี่ตายตามยามใดได้พันพัว ทุกที่ทั่วแดนไตรไม่จากจร แม้นเกิดใหม่ในศาสน์พระศรีอาริย์ ขอนิพพานเคียงข้างไม่ห่างสมร อินแตงทองน้องยาอย่าตัดรอน ช่วยตอบกลอนให้พี่ชื่นระรื่นใจ
ขอฝากรักไว้ในวันนี้ ฝากรอยรักสมานใจ ไว้ในอ้อมกอดอันอบอุ่น ยามนอนหลับฝัน ขอให้หวานหวาบหวิว ใจคนึงแด่เธอนะคนดี เผ้าคิดถึงตรึงไว้ในดวงจิต เฝ้าถวิลหาในอ้อมแขน ที่แสนหวานขอให้ฉันนะคนดี แม้จะห่างกายแต่เรา คงไม่ห่างใจกันในยาม หลับไหลขอให้ฝันถึง ฉันในยามหลับหรือยามตื่น รักนนะคนดีรู้มั้ย อยากบอกให้รู้ว่า รักและห่วงใยที่มีให้ เก็บไว้ในอ้อมใจนะคนดี
แหวนนี้ พี่สวมให้ จองขวัญใจ หมั้นไว้ก่อน หนาวหน้า อย่าเกี่ยงงอน พี่จะย้อน ตอนวิวาห์ลาไกล ไปทำกิจ เลิกหงุดหงิด จิตผวา คำนึง ถึงสัญญา ว่าเราจัก มั่นรักเดียวแม้นใคร หมายเกี้ยวพา ขอแก้วตา อย่าแลเหลียว ขับไส ให้พ้นเชียว ใจเด็ดเดี่ยว งดเกี่ยวพันนงราม ต่างความหวัง คือพลัง กำลังขวัญ เป็นเพื่อน เตือนชีวัน ให้เร่งสรรค์ ความมั่นคงพี่รู้ สู้ยืนหยัด คอยระมัด ตัดลุ่มหลง อาบเหงื่อ เพื่ออนงค์ ขอน้องจง หมดสงกายามใด ใจคลอนแคลน โปรดดูแหวน ทดแทนหน้า ชายหนึ่ง ซึ่งบูชา จะกลับมา มิช้าเชือนที่ย้ำ พร่ำพิไร เพราะห่วงใย กว่าใดเหมือน แสนรัก จึงตักเตือน เอื้อนสอนสั่ง ด้วยหวังดีรักนวล สงวนกาย รอพี่ชาย ห้ามหน่ายหนี ก่อนพราก ฝากวจี จากว่าที่-สามีเธอ
เสียงฉิ่งฉับ กรับเกราะ เสนาะหู หญิงชายผู้ ชรา ใบหน้าหมอง นัยตามืด มิอาจ สามารถมอง เดินเยื้องย่อง ร้องเพลง บรรเลงไป ผมขอเศษ ส่วนทาน ท่านเจ้าขา โปรดเมตตา ตัวฉัน นั้นได้ไหม เพียงแค่เฟื้อง สลึง ก็พึงใจ สะสมไว้ พอมื้อ ซื้อข้าวกิน หมดที่พึ่ง พักพิง ยิ่งแสนยาก ทนลำบาก หม่นไหม้ ไร้ทรัพย์สิน ต้องเตร็ดเตร่ เร่ร่อน นอนกลางดิน เพราะสูญสิ้น ดวงตา มันฝ้าฟาง เราหากิน ไม่พอ จึงขอท่าน โปรดทำทาน ผ่านมา อย่าเมินหมาง อนาคต ที่อยู่ ดูเลือนลาง ปันสตางค์ สร้างกุศล ช่วยคนจร วณิพก เยื้องกราย ร่ายรำร้อง เพื่อปากท้อง อยู่ได้ ไม่หลอกหลอน เดินขับกล่อม ให้ครื้นเครง ด้วยเพลงกลอน แลกที่นอน ที่กิน ก่อนสิ้นใจ แต่ฉันเป็น วณิพก ผู้ตกต่ำ มาพรอดพร่ำ คำหวาน วอนขานไข หวังที่จะ สมาน สานสายใย รอสาวให้ ทานรัก เราสักคน คนกรุงศรีฯ
เนิ่นนานผูกสัมพันธ์คงมั่นจิต เพียงสักนิดจงเอ่ยเปิดเผยถ้อย รู้บ้างไหม? คำนึงตราตรึงคอย ขออย่าปล่อยเพ้อไกลคิดไปเอง... เพียงคำเดียวปรารถนาตั้งตาหวัง อยากจะฟังคำหวานร่วมผ่านเพรง หรืออาจแฝงนัยพจน์เป็นบทเพลง สื่อบรรเลง...ฝากถึง...อีกหนึ่งใจ... บางคราวเหมือนจะเอ่ยเฉลยบอก กระเซ่าหยอกแกล้งอำ...ทำไฉน หมางเมินมอง...ยั่วแหย่ แท้เฉไฉ อกหวั่นไหว...ร้าวปวดต้องชวดชม... ฤา..ห้องใจใครจองหวังครองคู่ จึ่งไม่รู้...ทรวงในของใครขม ฤา..รอเอ่ยเฉพาะผู้เหมาะสม ปล่อยน้องตรมผู้เดียวไม่เหลียวแล... เพียงคำเดียวว่า"รัก"ตระหนักเถิด สวยพริ้งเพริศ...จำนรรค์มิผันแปร ทุกรู้สึก...มอบแล้วอย่างแน่วแน่ เปรียบรักแท้...จำหลักลงปักทรวง...
เพราะความรักมันท่วมท้น ยากเกินกว่าใครจะทน และเก็บไว้ กลัวเหลือเกินว่าจะหล่นออกนอกใจ ทำให้ใจที่เคยรักนั้นจืดจาง ความร้อนซ่านผ่านน้ำตาลยังเปลี่ยนรส หากใจคดย่อมทำให้ใจ สุดอ้างว้าง น้ำตาลเปลี่ยน รสเปลี่ยนยื่งจืดจาง ทำรักร้าง รักล่ม รักจมดิน ไม่ต้องบอกว่ารักมากที่สุด มหาสมุทรอย่ายกมาให้สูญสิ้น อย่าบอกรักเท่าฟ้าเป็นอาจิณ หากรักที่ได้ยิน....นั้นไม่จริงใจ น้ำตาลใหม้ขมได้เพราะความร้อน รักที่ซ่อนก็ขมได้เพราะหวั่นไหว ขอแค่รักเรามั่นคงและมั่นใจ แม้จะขมแค่ไหนก็ไม่เกรง
หากบอกไปจะโกรธไหมใจเธอจ๋า มอง มองว่า เธอมีใจให้กับฉัน หวังแล้วหนอหวังว่าเธอคือคู่กัน อย่าโกรธฉันหากพูดหากกล่าวไป วันๆหนึ่งคิดถึงเธอเป็นร้อยรอบ ใจก็ชอบ รักเธอมากกว่าคนไหน แล้วเธอเล่าคิดอย่างฉันบ้างหรือไม่ หวังว่าใจเธอคงไม่โหดร้ายเกิน จากวันนั้นที่มีเธอเข้ามาใกล้ หัวใจไหวสั่น สั่น ทำฉันเขิน เคยคิดห่าง ทำเก่ง แกล้งทำเมิน อยู่เพลินๆ ใจก็ลอยไปหาเธอ เข้าใกล้เธออีกนิดจะได้ไหม เปิดใจให้ฉันได้ไหมใจมันเพ้อ ชอบเธอมากจนเก็บไปฝันละเมอ เธอจ๋าเธอวานเปิดประตูใจ อยากเข้าไปค้นใจเธอบ้างแล้วล่ะ บอกฉันนะ รู้สึกรักฉันบ้างไหม ฉันจะบอก บอกให้รู้ว่าทั้งใจ มอบให้เธอไปแล้วมาเนิ่นนาน เพราะไม่รู้พรุ่งนี้เป็นอย่างไร จึงอยากได้ใจเธอนั้นที่อ่อนหวาน อยากโอบเธอไว้ด้วยรักให้ชื่นบาน จับประสานมือเราไว้ด้วยกัน หากรักแล้วกอดฉันไว้สักหน่อย โปรดอย่าปล่อยฉันลอยคว้างท่ามกลางฝัน เพียงกระซิบบอกรักฝากรำพัน ฉันจะซบลงตรงนั้นที่ตักเธอ อย่าถามเลยเธอที่รัก รักเมื่อไหร่ ตอบไม่ได้รู้เพียงรักเธอเสมอ เพียงเท่านี้ทั้งใจพอไหมเธอ บอกสิเธอใจนั้นคิดอย่างไร ถ้าหากรักจะฝากไว้ทั้งชีวิต ไม่สนิทคิดรักใครคนไหน แค่เพียงเธอ เพียงเธอเสมอไป ลมหายใจมีไว้เพื่อดูแล ไม่ต้องห่วงหากเธอล้มฉันจะรับ ยามเธอหลับฉันจะกล่อมด้วยรักแท้ ยามเธอตื่นจะพบฉันคอยดูแล ขอเพียงแต่แค่บอกฉันว่าต้องการ ฉันมีพร้อมไออุ่นละมุนรัก มีที่พักปูด้วยรักที่อ่อนหวาน มีดวงใจพร้อมมอบให้ตลอด
อยากให้รู้ว่ารักและคิดถึง จึงทำซึ้งหยิบปากกาออกมาเขียน กลั่นเป็นคำจากใจแล้วร้อยเรียง ด้วยสำเนียงเรียบง่ายแต่ใจจริง ย่อหน้าแรกส่งผ่านความรู้สึก ลึกลึกแล้วข้างในฉันใจหาย ถึงวันนี้ไร้เธอแนบเคียงกาย หนาวไม่วายทุกวันคืนทุกคืนวัน ย่อหน้าสองเขียนถึงความห่วงใย ที่มีให้ไม่จางแม้กาลผัน ต่อให้นานดาวหมดฟ้าร้างรากัน หัวใจฉันยังคงอยู่ที่เธอ หน้าถัดมาหัวใจมีคำทัก ว่ายังรักคอยห่วงอยู่เสมอ แม้ตัวไกลไร้โอกาสผ่านพบเจอ หลงละเมอถึงเธอทุกคืนวัน รอยยิ้มหวานที่เธอเคยให้ฉัน พบกับมันทุกคราที่นอนตื่น จะเก็บไว้ไม่มีวันมอบให้คืน ใส่ห่อผืนผ้าสวยในหัวใจ ย่อหน้าท้ายลงท้ายคำว่ารัก ให้ประจักษ์ให้รู้แจ้งถึงความหมาย ปิดผนึกใส่ซองแนบดวงใจ วอนสายลมส่งไปให้ถึงเธอ ส่งถึงเธอผู้ซึ่งเป็นที่รัก จดหมายฝากจากใจมีคำถาม แม้นเธออ่านครั้งใดเห็นข้อความ ตอบกลับมาถึงฉันจากใจเธอ
๐ ยินเพรงกาล..หวานล้ำ..ในคำพจน์ เพียงมธุรส..ปลอบใจ..ที่ไหวอ่อน ปลอบขวัญห้วง-อุรา-คราร้าวรอน และลดทอน..ความเศร้า..ให้เบาบาง ๐ ความรวดร้าว..คราวจาก..ก็พรากสิ้น รอยถวิล..ตรึงอยู่..มิรู้สร่าง ที่ลำบาก..ยากเข็ญ..พอเห็นทาง ประกายแห่ง..แสงสว่าง..นำทางเดิน ๐ จากที่เคย..ท้อแท้..กลับแน่แน่ว เสียงกระซิบ..วิบแว่ว..เพียงแผ่วเผิน ก็เพียงพอ..ชักนำ..ให้ดำเนิน แม้เผชิญ..พลัดพราก..วิบากกรรม ๐ หากบุญญา..พารัก..สลักให้ สมดั่งใจ..ใฝ่เฝ้า..ในเช้าค่ำ ความรวดร้าว..คราวเจ็บ..เคยเก็บ-จำ ที่ครอบงำ..กลางมาน..ก็รานไป ๐ หมายนวลเรียง..เคียงขวัญ..ประหวั่นจิต ด้วยรู้แจ้ง..แห่งฤทธิ์..พิสมัย ยามรักจาก..พรากพลัด..ยากตัดใจ ต้องคร่ำครวญ..หวลไห้..อาลัยนุช ๐ เพราะเพรงกาล..ขานสู่..จึงรู้ว่า ปรารถนา..ในจินต์..มิสิ้นสุด ยังหมายปอง..สองมือ..ยังยื้อยุด หมายรั้งฉุด..รักไว้..มิให้กลาย ๐ คำกรองมอบ..ปลอบขวัญ..ในวันนี้ ทุกทุกถ้อย..ร้อยวลี..มีความหมาย ปลุกปลอบห้วง..ดวงฤดี..ของพี่ชาย ผ่อนความเศร้า.เหงากาย.ให้คลายลง (อักษรารำพัน) ๐ หากเป็นเพราะเพรงกรรมชักนำให้ สองดวงใจเวียนวัฏฏ์..กายพลัดหลง หวังสายใยหวานล้ำผูกจำนง ให้รักคงมั่นอยู่อย่ารู้คลาย ๐ แม้เนิ่นนานเพียงไหนขอใจชิด ทุกขณะแห่งจิตนิมิตหมาย ขอมีน้องแนบในห้วงใจชาย ผูกเป็นสายใยฝันสู่วันครอง ๐ สุดแผ่นหล้าฟ้าห่างอยู่ต่างถิ่น ฝากถวิลผ่อนปรนความหม่นหมอง ปัดเป่าความเงียบงัน..สู่ครรลอง ที่