กลอนบอกรัก

รักแม่ และ พ่อมากค่ะ บอกรักท่านทุกวัน

ทรายกะทะเล


ฟังเพลงส.ค. 7, 2012adminNo Commentsฟังเพลง สายใยแผ่นดิน เบิร์ด ธงไชย เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษามหาราชินี
Share
ฟังเพลง สายใยแผ่นดิน เบิร์ด ธงไชย
เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษามหาราชินี
ฟังเพลง พร้อมเนื้อเพลง และโค้ดเพลง ของเพลง สายใยแผ่นดิน เบิร์ด ธงไชย จากอัลบั้ม เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษามหาราชินี ดาวน์โหลดเพลง สายใยแผ่นดิน เบิร์ด ธงไชย ได้ผ่าน *123 1032421 3
ดาวน์โหลดเพลง สายใยแผ่นดิน ฟรีที่ http://www.gmember.com/motherday2012 หรือโทร *1239000 เริ่ม 10 สิงหาคมนี้
เนื้อเพลง สายใยแผ่นดิน เบิร์ด ธงไชย เฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษามหาราชินี
คำร้อง/ทำนอง กมลศักดิ์ สุนทานนท์, ปิติ ลิ้มเจริญ
เรียบเรียง เกรียงไกร เตรียมชาญชูชัย
จากเส้นไหมที่แสนบอบบาง
จากเศษฟางเศษใบไม้ธรรมดา
ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ได้มีคุณค่า
ค่าของความเป็นไทย
จากชีวิตที่เคยมืดมน จากผู้คนที่ไม่เห็นหนทางไป
ได้เติบโตอย่างเข็มแข็ง และมีวันนี้ได้
เพราะใครถ้าไม่ใช่เพราะแม่
แม่คือผู้ให้ชีวิต อุทิศทั้งกายใจ เพื่อลูกของแม่
เหนื่อยยากสักเพียงไหน แม่ไม่เคยยอมแพ้
เพื่อลูกลูกของแม่สุขสบาย
แม่คือผู้ให้ชีวิต อุทิศทั้งกายใจ เพื่อลูกของแม่
เหนื่อยยากสักเพียงไหน แม่ไม่เคยยอมแพ้
เพื่อลูกลูกของแม่สุขสบาย
แม่ตรากตรำเพื่อเราเรื่อยมา
ไม่อยากให้แม่ต้องเหนื่อยล้าจนเกินไป
จากวันนี้ลูกจะขอ ดูแลแม่ด้วยหัวใจ
ตลอดไป ด้วยรักและภักดี
ทุกสายใยบางบาง จะถักทอร้อยกันเ

ท้ารัก

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


น้ำตาลหวานกร่อยมัวคอยแต่เหงา
เคร่งขรึมซึมเซาอิจฉาวิหค
เห็นขอบฟ้ากว้างอยากเอาอย่างนก
สะท้านในอกวิตกหัวใจ
เหงาเป็นคนเดียวหรือไรใคร่ถาม
หยุดยั้งฟังความฉันก่อนได้ไหม
บ้านกลอนหลังนี้ฉันเหงากว่าใคร
หันไปทางใดเขาหลบหน้าเมิน
หากให้เขียนคำคงใหญ่เท่าโลก
ทั้งเหงาทั้งโศกหากมองผิวเผิน
จะเห็นเป็นสุขสนุกเพลิดเพลิน
ความจริงเผชิญกับความเศร้าตรม
ตั้งใจมอบรักถูกผลักไสส่ง
แตกตื่นมึนงงอกไหม้ใส้ขม
ความหวังตั้งไว้จะได้ชื่นชม
อ่อนล้าคว้าลมถึงจอดถอดใจ
ต่างคนต่างเหงาควรเข้าใจกัน
ต่างคนต่างฝันต้องพบเงื่อนไข
ต่างมอบใจภักดิ์รักกันเป็นไร
ต่างจิตต่างใจปรับเข้าหากัน
เธอลดฉันลดทิฐิมานะ
ต่างคนต่างละของเธอของฉัน
ตัวเองเป็นหนึ่งที่เคยดึงดัน
มารวมร่วมฝันแต่งกันนะเธอ..

ถ้าไม่เจ็บหัวใจ หรือใช่รัก.. กริ่งเกรงนัก กลัวก็กลัวกล้าก็กล้า

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


เขียนกลอนหวานวานให้เจ้าเอาใจอ่าน
เขียนมาวาน ฝากใจเจ้าทุกเช้าค่ำ
เขียนเป็นกลอนเหมือนอ่อนด้อยในถ้อยคำ
เมื่อเขียนย้ำ ไม่เสื่อมถอยสักถ้อยความ
ว่า.. พอแล้วพอเลยเคยลอยล่อง
ขอปลงใจหมายปองอย่ามองข้าม
หากว่าแม่เนื้อเย็นไม่เห็นงาม
ยังจะตามจนเนื้อเย็นเจ้าเห็นใจ
แว่วเสียงสั่งหวังเสียงใสให้มีหวัง
หากหัวใจมีพลังคงยังไหว
แต่หากตัดตระบัดเยื่อไม่เหลือใย
ก็จะให้ ตัดขาดถึงคลาดคลา
ถ้าไม่เจ็บหัวใจ หรือใช่รัก..
กริ่งเกรงนัก กลัวก็กลัวกล้าก็กล้า
กลัวว่าใจจะเคยชินความชินชา
แล้วจะล้าไม่รักใคร่ใครอีกเลย
ช่วยด้วยนะช่วยด้วย ช่วยฉันหน่อย
ใจดวงน้อย.. รอเพียงคำนำเฉลย
ว่าสงสาร.. วานส่งมอบตอบภิเปรย
รอคำเอ่ย.. ก็เลยคว้าง.. แค่ข้างใจ

เสียงกระซิบจากหัวใจ

เปลวเพลิง


ความอบอุ่นกรุ่นละไมอยู่ในฝัน
คิดถึงกันข้ามฟ้าเพลาหนาว
ยามราตรีคลี่คลุมด้วยกลุ่มดาว
ใจจักกล่าวคำหวานซ่านทรวงในคิดถึงกันบ้างไหมในคืนที่
ฟ้าไม่มีโสมส่องอันผ่องใส
ยามลมพัดผ่านโพยมมาโลมไล้
ย่นระยะทางไกลเข้าใกล้กันมองสายน้ำฉ่ำไฉนก็ไม่เหมือน
ดั่งมีเพื่อนสู่สองประคองขวัญ
เคยแย้มยิ้มเสนาะคำเพ้อรำพัน
ว่า รัก รัก รัก มั่น มิผันแปรอิงไออุ่นกรุ่นหอมอ้อมฟากฟ้า
เพียงผกาบำบวงมอบดวงแข
สบตาสองจ้องซึ้งตะลึงแล
สะท้านแดดวงนี้ทุกทีไปเพลานี้ที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิด
เขาจะคิดถึงเหมือนตอนแต่ก่อนไหม
หว่างเส้นรุ้งคุ้งโค้งโยงเยื่อใย
เราส่งใจไปหาทุกนาทีเขาคนที่อยู่ไกลรู้ไหมหนอ
ใครส่งต่อความห่วงใยไปจากนี่
สะท้อนเลื่อมปลาบประกายสายวารี
ในยามที่เราพรากไกลจากกันกับวงแขนกอดเชยอันเคยคุ้น
ซบอกอุ่นวุ่นหวามดั่งความฝัน
ในรู้สึกลึกเกินเกริ่นจำนรรจ์
แรกรักฟั่นกลมเกลียวเหนียวแนบเนาโอ้พระพายพัดไปไกลลับลิบ
ฝากกระซิบ “คิดถึง ซึ้ง และเหงา”
เพียงผู้หนึ่งซึ่งครองห้องใจเรา
เนิ่นนานเท่านิจนิรันดร์เท่านั้นเอง
..................................................
ด้วยความปรารถนาดี

...จนกว่า...

กวีปกรณ์


ย้อนนึกภาพทรงจำยังแจ่มชัด
แม้สายลมแห่งกาลพัดพังกัดกร่อน
สองเรายังเยาว์นักลองนับย้อน
ทั้งยังอ่อนเดียงสาเวลานั้น
ครั้งเคยเคียงข้างกันในวันก่อน
ทุกบทตอนสนทนาภาษาฝัน
จะร่วมรักภักดีมีต่อกัน
อุปสรรคคร้ามครั่นอย่าหวั่นไป
หนทางอาจยาวไกลหรือใกล้นั้น
จะหมายมั่นมุ่งคว้าจนกว่าได้
หากนับหนึ่งด้วยรักตระหนักไว้
ปลายธงเริ่มกวัดไกวไสวปลิว
แม้ภาพแห่งทรงจำเจ็บช้ำบ้าง
อาจเพราะทางเถื่อนร้ายบาดกายผิว
อีกเหนื่อยข้ามภูดอยกี่ร้อยทิว
ยังเกี่ยวนิ้วรักษาสัญญารัก
ก้าวต่อก้าวมั่นมุ่งพยุงกอด
บางค่ำคืนไฟมอดมืดหนาวหนัก
เพียงดวงหนึ่งดาราว่าไกลนัก
ยังประจักษ์อุ่นแสงแจ้งส่องทาง
รวงดอกรักโรยกลิ่นประทิ่นทั่ว
ล้อมรอบรั้วเรือนหอเคยรอสร้าง
ซุ้มดอกไม้หลายกอแบ่งกลีบบาง
สุดทางร้างสร้างหอรอเพียงเนา
ด้วยสองใจนับหนึ่งจนถึงรัก
คำสัญญายังแน่นหนักเป็นหลักเสา
มวลดอกไม้ยังหอมหวานลานเรือนเรา
ไปจนกว่าสองผู้เฒ่าร่วมเฝ้าเรือน

ฝากฟ้าถึงกัน

แก้วประภัสสร


อกเอย...
เจ้าเคยห่มผ้ายามหน้าหนาว
ปลดเปลื้องปล่อยว่างวางเรื่องราว
เดินก้าวลุยน้ำเท้าย่ำทราย
อิสระ....
พันธะหลุดพ้นค้นความหมาย
ท่ามกลางธรรมชาติวาดลวดลาย
ยามสายแดดกล้ายืนท้าลม
ชีวิต..
หลงจิตรูปงามตามผสม
วูบหวิวหวั่นไหวในอารมณ์
กล้ำกลืนฝืนข่มยามห่างไกล
ฟ้าจ๋า..
ฝากคำนำพาไปได้ไหม
ว่ารักคิดถึงซึ่งคนไกล
ถนอมไยห่วงหาอย่าลากัน

..รักกันเสมอทุกชาติไป..

ปรัมปุราณ


พิรุณแก้วหล่นร่วงจากห้วงหน
หยาดหยดบนกลีบมาลย์ยากทานไหว
แรงกระหน่ำเก็จแก้วซัดกลีบใบ
ดลดอกให้ช่อบางซบกลางดิน
หวั่นสัมพันธ์แห่งรักที่ถักไว้
ยั่งยืนจักแปรไปจนผันผิน
ไม่ต่างจากบุษบาต้องหยาดริน
ในหัตถ์วรรษาสิ้นซึ่งปราณี
ขอฝากคำพร่ำพรอดถึงยอดรัก
หวัง..คนภักดิ์..อยู่ไกลไม่หน่ายหนี
อาวรณ์หวามข้ามฟ้าเปี่ยมไมตรี
ทุกนาทีห่วงใยไม่สร่างซา
ว่าแต่ใจอีกดวงที่ห่วงนั้น
ยังอาทรผูกพันละห้อยหา
ถึงหนึ่งใจที่ไกลสุดสายตา
เช่นผ่านมารักหวานทั้งลานทรวง
พิรุณหยาดขาดช่วงมิร่วงแล้ว
มณีแก้วบอกลาฟากฟ้าสรวง
พลิ้วอารมณ์อ่อนไหวในแดดวง
ยังโหมห่วงว้าวุ่นครุ่นคำนึง
เพียงวลีสักน้อยจากกลอยขวัญ
หนึ่งคำมั่นในห้วงความคิดถึง
ก็เสมือนโซ่คล้องล่ามล้อมตรึง
อีกใจหนึ่งต่างฟากมิพรากกัน
รอรับสารแห่งรักจากอีกฟ้า
ทอดสัญญาสองใจไม่แปรผัน
ปฏิพัทธ์ทุกชาติตราบนิรันดร์
จวบอนันต์สิ้นภพจบวัฏฏา

จดหมายรัก

Saran


อยากให้รู้ว่ารักและคิดถึง
จึงทำซึ้งหยิบปากกาออกมาเขียน
กลั่นเป็นคำจากใจแล้วร้อยเรียง
ด้วยสำเนียงเรียบง่ายแต่ใจจริง
� �ย่อหน้าแรกส่งผ่านความรู้สึก
ลึกลึกแล้วข้างในฉันใจหาย
ถึงวันนี้ไร้เธอแนบเคียงกาย
หนาวไม่วายทุกวันคืนทุกคืนวัน
� � ย่อหน้าสองเขียนถึงความห่วงใย
ที่มีให้ไม่จางแม้กาลผัน
ต่อให้นานดาวหมดฟ้าร้างรากัน
หัวใจฉันยังคงอยู่ที่เธอ
� �หน้าถัดมาหัวใจมีคำทัก
ว่ายังรักคอยห่วงอยู่เสมอ
แม้ตัวไกลไร้โอกาสผ่านพบเจอ
หลงละเมอถึงเธอทุกคืนวัน
� �รอยยิ้มนั้นคงอยู่ที่ตรงนี้
ยิ้มทุกทีเมื่อเธอยิ้มให้ฉัน
ไม่เคยหมดมีให้ทุกทุกวัน
แม้ห่างกันแต่ใจไม่เดียวดาย
� � ย่อหน้าท้ายลงท้ายคำว่ารัก
ให้ประจักษ์ให้รู้แจ้งถึงความหมาย
ปิดผนึกใส่ซองแนบดวงใจ
วอนสายลมส่งไปให้ถึงเธอ
� �ส่งถึงเธอผู้ซึ่งเป็นที่รัก
จดหมายฝากจากใจมีคำถาม
แม้นเธออ่านครั้งใดเห็นข้อความ
ตอบกลับมาถึงฉันด้วยใจเธอ

กลอนนี้ให้พ่อกับแม่คนดีที่แสนไกล

ดอกฝักทอง


อยุ่ตรงนั้นเธอเป็นยังไงบ้างก็ไมรู้
ใครจะดูแลห่วงใยเธอรักเธอเท่าฉัน
ห่าวกันใจฉันหว่งเธอทุกวัน
อีกไม่นานคงเจอกันนะคนดี
อยู่ตรงนี้ฉันมีแต่ความอ้างว้าง
เมื่อไม่มีเธอเดินร่วมทางอยู่เคียงข้าง
ความทุกข์ท้อใจเข้ามาอยู่มิจาง
คิดถึงเธอมากมายรู้ไหมคนดี
อีก7วันเท่านั้นช่วยรอหน่อย
จะปลดปล่อยความคิดถึงดัวยการไปพบหน้า
สบตาสักนาทีแลวบอกเธอว่าฉันคนนี้
จะไม่มีวันจากเธอไกลเหมือนครั้งนี้
จะคอยดูแลเฝ้าหว่งใยตราบลมหายใจที่มี
ตอบแทนทั้งชีวิตที่เธอทำเพื่อฉันเสมอมา
คำว่ารักพูดไปคงยังนัอยเกินใจจะเอื่อนเอ่ย
คำว่าขอบคุณหมื่นพ้นล้านคำมันคงยังไม่พอเท่ากับสิ่งที่เธอให้กัน
เชื่อใจฉันนะคนดีอีกไม่นานเราคงจะได้เจอกัน..........  ฉันรักเธอ

คือดวงใจ

คนกรุงศรี


เมื่อวันวาร ผ่านผัน แสนนานเนิ่น
สองเราเดิน ร่วมทาง เพื่อสร้างฝัน
วางวิถี ชีวิต ช่วยคิดกัน
ร่วมฝ่าฟัน อุปสรรค ทั้งหนักเบา
ด้วยความรัก เข้าใจ หมายมุ่งสร้าง
แม้มีบ้าง หมางใจ ให้หงอยเหงา
ความอดทน อดกลั้น ช่วยบรรเทา
เพราะสองเรา เข้าใจ ในแนวทาง
หวังก้าวข้าม ความยาก จากวันก่อน
พบลุ่มดอน หนามขวาก ร่วมถากถาง
ด้วยความรัก ห่วงใย ไม่เจือจาง
สามารถย่าง ผ่านผัน อย่างมั่นใจ
เรือลำเดียว เกี่ยวก้อย ร่วมลอยล่อง
ช่วยสอดส่อง มองทาง สว่างใส
ถือหางเสือ คัดท้าย คุมสายใบ
พายุใหญ่ คลื่นจัด ซัดไม่จมเป็นนางแก้ว ในใจ หาใครเท่า
ดั่งสองเรา ฟ้าสร้าง อย่างคู่สม
ทองเนื้อเก้า เราได้ ไว้ชื่นชม
รื่นภิรมย์ ร่วมอยู่ คู่ชีวี
ขอขอบคุณ สิ่งดีดี ที่มอบให้
ยากหาใคร ทั่วแคว้น มาแทนที่
แทนมะลิ ร้อยมาลัย ให้คนดี
ใจฉันนี้ นั่นหรือ ก็คือเธอ
คนกรุงศรี ฯ
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา
๑๐/๓/๒๕๕๕

ขอบคุณที่รักกัน

แก้วประภัสสร


เธอทำให้คนอย่างฉันนั้นมีค่า
ใช้เวลาเพาะบ่มข่มนิสัย
จากขี้อ้อนงอนเก่งไม่เกรงใคร
กลับเปลี่ยนไปทันทีที่มีเธอ
ขอบคุณนะคนดีที่รักฉัน
ขอบคุณนะทุกวันสม่ำเสมอ
ขอบคุณนะวันนี้ที่มีเธอ
ขอบคุณนะที่ได้เจอคนดีดี
เธอคือคนที่ฉันรอมาตลอด
ขออ้อมกอดเล็กเล็กของฉันนี้
แทนรู้สึกขอบคุณแทนความดี
แทนสิ่งที่คุณให้ไม่ร้างลา
ต่อไปนี้ขอทำทุกทุกอย่าง
เพื่อคุณบ้างได้ไหมคงไม่ว่า
จะขอทำด้วยรักและศรัทธา
ด้วยสายตาห่วงใยไม่ทิ้งกัน

รักมิรู้จบ

ไหมแก้วสีฟ้าคราม


Endless Love.....รักมิรู้จบ
มิเคยลบเลือนไปจากใจ
แม้มิเคยคิดจะฝันใฝ่
แต่ไม่ไร้สิทธิจะคิดฝัน
... เธอคือมณีอันมีค่า
แสงแห่งศรัทธาให้ฝ่าฟัน
เป็นผู้จุดประกายปลอบขวัญ
แบ่งปันความปรารถนาดี
รักไร้ขอบเขตและเหตุผล
ไม่จำนนผิวพรรณวรรณะศรี
เธอคือคุณงามแห่งความดี
อบอุ่นปรานีมีต่อกัน
เธอคือตัวแทนกุลสตรี
สุนทรีย์คลายโศกโลกสร้างสรรค์
มิตรภาพซาบซึ้งนิรันดร์
มอบไมตรีกล่อมขวัญ....แด่เธอ

รักทุกวัน (ใช่แค่วันวาเลนไทน์)

พจนา


๐ รักทุกวัน รักเธอ รักทุกวัน
นี่คือคำ ยืนยัน จากใจฉัน
รักไม่เว้น วันหยุด ราชการ
ไม่ใช่รัก เพียงแค่วัน วาเลนไทน์
๐ รักมากล้น รักเธอ รักมากล้น
ขอเธออย่า สับสน คิดสงสัย
คนรักกัน สำคัญ คือเชื่อใจ
ฉันรักเธอ รักมากมาย รักทุกวัน
ไม่มีดอกกุหลาบให้ทุกวัน.. แต่ฉันรักเธอทุกวัน

กุหลาบวาเลนไทน์

สุนทรวิทย์


กุหลาบงาม  ช่อนี้  พี่เลือกสรร
มอบกำนัล  แด่เธอ  ผู้เลอโฉม
พร้อมคำรัก  รจนา  มาประโลม
เพื่อเหนี่ยวโน้ม  เตือนย้ำ  ผูกน้ำใจ
ดอกสีแดง  เปียกชุ่ม  แทนจุมพิต
แนบสนิท  นิรันดร์  มิหวั่นไหว
ดอกสีเหลือง  เรืองรอง  ผ่องอำไพ
ต่างสายใย  เสน่หา  ทุกนาที
ดอกสีขาว  พราวลออ  บริสุทธิ์
คือมิหยุด  ปรารถนา  มารศรี
ยิ่งนานวัน  ยิ่งรัก  ยิ่งภักดี
ทั้งชาตินี้  ชาติไหน  ใจมั่นคง
ดอกชมพู  แรกแย้ม  แซมอ่อนหวาน
เปรียบดวงมาน  ฉันนี้  ที่ลุ่มหลง
ด้วยรักแท้  จำเพาะ  มุ่งเจาะจง
จักดำรง  ทรงอเนก  เอกภักดิ์
หลอมกายใจ  ไว้ใน  ดอกไม้แล้ว
หวังน้องแก้ว  พธู  รู้ประจักษ์
ว่าชายหนึ่ง  ภาคภูมิ  เฝ้าฟูมฟัก
มามอบรัก  ต่อหน้า  วาเลนไทน์

.. บ่นจากคนหลายใจที่ไร้รัก แปลกใจนักที่รักไร้แม้ใจหลาย

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ผมเป็นคนหลายใจ
อดไม่ไหว ใจจึงหวั่นวันยังค่ำ
รักแรกเห็นเล่นเอารักหัวปักปำ
ล่วงถลำล้ำเส้น ใจเต้นแรง
เต้นเหมือนมีหลายหัวใจในหัวอก
น่าตลก ล้วนจำเพาะเสาะแสวง
หลายหัวใจในหัวจิตผิดสำแดง
หลายใจแย่งแข่งขันกันมีใจ
ใจที่กล้า ก็ถอดใจไม่ค่อยกล้า
ใจประหม่า ก็ยิ่งเขินเมื่อเดินใกล้
ใจประหวั่น ประจัญแล้วก็แจวไป
ใจทุกใจ มันทุกข์เข็ญไม่เว้นวาย
.. บ่นจากคนหลายใจที่ไร้รัก
แปลกใจนักที่รักไร้แม้ใจหลาย
ไม่เคยท้อรอความรักไม่พักคลาย
ใจมากมายทั้งหมดนี้ มีเพื่อเธอ
เอาทั้งหลายใจที่ว่า มากำนัล
ทั้งหมดนั้น มาเน้นย้ำนำเสนอ
อาจต้องจอดไม่ต้องแจวแล้วเมื่อเจอ
เกรงจะเก้อ เธอไม่รักสักเสี้ยวใจ
..มีทำไม ใจทั้งหลายไม่ได้ความ..

หากแม้ว่าจะบ้าไปเพราะใจรอ ก็จะขอเป็นบ้าไปเพราะใจรัก

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


ยามนอน รีบตื่นตามาคิดถึง
พอตื่นตามาก็ซึ้งอยากฝันหา
ใจสับสนปนเศร้า-สุขอยู่ทุกครา
เธอจะรู้บ้างไหมว่า ..ใครบ้าบอ
บ้าเพราะรักป่วนใจให้เป็นบ้า
หากจะว่ายังรับไหวไม่ระย่อ
หากแม้ว่าจะบ้าไปเพราะใจรอ
ก็จะขอเป็นบ้าไปเพราะใจรัก
แสนคิดถึงก็สงสัย ใยคิดถึง
ห้วงคำนึงมันกว้างใหญ่เกินใจหัก
หน่วงหัวใจในทรวงมันหน่วงนัก
แต่ไม่พักหนักแค่ไหนใจจะทน
ห่างแค่ไหนในเส้นทางที่ห่างไกล
มิหวงใจไม่ห้ามหักเลยสักหน
หากจะต้องอาภัพหรืออับจน
ก็จะทนไม่บ่นท้อ ขอรักเธอ

จงรัก

อนงค์นาง


โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต
และโปรดอย่าถามว่าอดีตฉันเคยรักใคร
รู้ไว้อย่างเดียวเดี๋ยวนี้รักเธอและรักตลอดไป
รักมากเพียงไหนกำหนดวัดได้เท่าดวงใจฉัน
อย่าเพียรถามว่าฉันจะรักเธอนานเท่าใด
ฉันตอบไม่ได้ว่าฉันจะรักชั่วกาลนิรันดร์
เพราะชีวิตฉันคงไม่ยืนยาวไปถึงปานนั้น
รู้แต่เพียงฉันหมดสิ้นรักเธอเมื่อฉันหมดลม
คำร้อง-ทำนอง    จงรัก จันทร์คณา
ขับร้อง          สุเทพ วงศ์กำแหง, ทิพย์วัลย์ ปิ่นภิบาล
ไม่อาจที่จะแต่งกลอนถ่ายทอดความรู้สึกให้สามีได้ ขออนุญาต ถ่ายทอดผ่านบทเพลงนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณที่ห่วงใยและดูแลดิฉันอย่างดีที่สุดในยามที่ป่วยหนัก ขอบคุณที่เป็นพ่อที่ดีของลูก เป็นสามีที่ดีของภรรยา ชีวิตอาจไม่ราบรื่น แต่เราก็ฝ่าฟันร่วมกันมาได้จนทุกวันนี้ ขอบคุณที่เราได้เกิดมาคู่กัน คำมั่นสัญญาของเราคือเราจะครองรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
วันจบการศึกษาระดับ High School
วันจบการศึกษาระดับปริญญาตรี
หน้า / 13  
ทั้งหมด 220 กลอน