กลอนบอกรัก

ความรัก

แสงศรัทธา


ความรัก
1.สบตา
คล้ายแสงทองส่องทาบนผืนโลก
คล้ายลมไหวพลิ้วโบกโยกดอกหญ้า
คล้ายเดือนช่วงเด่นฟ้ากระจ่างตา
คล้ายดาราเด่นตากระจ่างใจ
คล้ายอิ่มอุ่นละมุนฝันอัศจรรย์ยิ่ง
คล้ายทุกสิ่งลอยนิ่งหยุดเคลื่อนไหว
คล้ายใจน้อยดวงนี้หลุดลอยไกล
คล้ายสายใยสานสายใจเข้าหากัน
คล้ายหวาดกลัวแต่ใจกลับแข็งแกร่ง
คล้ายอ่อนแรงแต่ใจแกร่งมิหวาดหวั่น
คล้ายจะทุกข์กลับอิ่มสุขทุกคืนวัน
คล้ายภาพฝันแต่ก็คล้ายความเป็นจริง
คล้ายสวรรค์ดลใจให้ใกล้ชิด
คล้ายจิตสื่อถึงจิตเป็นขวัญมิ่ง
คล้ายใจเชื่อมถึงใจ - แหล่งพักพิง
เกิดเพียงเสี้ยวยามหยุดนิ่งตาสบตา.
2.
เรียนรู้
เมื่อดวงตาสบตาประจักษ์จิต
ดั่งแสงทองแห่งชีวิตผลิคุณค่า
เมื่อดวงใจสบใจปรารถนา
ดั่งผลิห้วงเวลาค่าอนันต์
เมื่อดวงใจสองใจมั่นคงนิ่ง
ดั่งทุกสิ่งคือภาพจริงใช่ภาพฝัน
เมื่อความรักเกี่ยวก้อยผูกสัมพันธ์
ดั่งค่ำคืนสุขนิรันดร์นั้นยาวนาน
เมื่อความรักค่อยผลิบานลงหว่างใจ
ดั่งดอกใบออกผลที่โปรยหว่าน
เมื่อสองคนเรียนรู้รักอย่างอาจหาญ
ดั่งตะวันที่เดือดดาลพลันดับลง
เราต่างจากที่มาเพื่อร่วมสู้
เราต่างรู้น้อมประจักษ์ใช่ลุ่มหลง
เราต่างผูกสัมพันธ์ใจใฝ่ประจง
เราต่างคงเคียงคู่รู้ค่ารัก.
3.
นัยรัก
รักก็เป็นเช่นนี้นั้นแหละเจ้า
มีอ่อนหวานบางเบาและหน่วงหนัก
มีร้อนหนาวอุ่นเย็นมาทายทัก
มีทุกข์สุขเป็นหลัก มีร่มเย็น
รักก็เป็นเช่นนี้นั้นแหละเจ้า
มีโง่เขลาซ่อนเล่ห์อย่างที่เห็น
มีอิ่มอดปวดร้าวเศร้าลำเค็ญ
มีหอม

เมื่อนางฟ้าบอกรัก

เชษฐภัทร วิสัยจร


โลกทั้งโลกจึงงดงามด้วยความรัก
เมื่อรู้จักนางฟ้าตรงหน้าฉัน
ที่ฟ้าส่งมาให้ห่วงใยกัน
คือของขวัญคุณความดีในชีวิต
เพราะมีเธอฉันนี้มีความหมาย
ที่เลวร้ายที่ตกต่ำเคยทำผิด
เธอมาเปลี่ยนภาพนิยามและความคิด
เนรมิตเป็นถ้อยคำกำลังใจ
ขอแค่มีนางฟ้าตรงหน้าฉัน
เป็นคู่คิดทุกคืนวันไม่หวั่นไหว
ยิ่งมีแรงสู้ประเด็นความเป็นไป
ฉันจึงมีชีวิตใหม่ในวันนี้
ยิ่งฟังคำนางฟ้าว่าคิดถึง
ยิ่งซาบซึ้งหัวใจไปทุกที่
ฉันยิ่งอยากปรับเปลี่ยนตนเป็นคนดี
เพราะว่ามีนางฟ้ามาบอกรัก

ฝากดวงดาว

ไผ่ลู่ลมม


ฝากดวงดาวถามข่าวยามห่างหาย
ฝากพระพายพรมลูบแทนจูบฉัน
ฝากท้องฟ้าโอบกอดเธอทุกวัน
ฝากตะวันบอกรักนั้นมากมาย
สายลมพลิ้วโลมไล้โอบไหล่เขา
ฉันคนเก่ายังรอมิขอหน่าย
ทะเลสวยคลอเคล้าเฝ้าหาดทราย
รักไม่คลายคงอยู่คู่ฟ้าดิน

บทกวีจากศรีธัญฯ

Jackie


๏ พี่รักน้อง..ปองนุช..สุดสวาท
จึงบังอาจ..วาดกลอน..อักษรศรี
เป็นเพลงยาว..พราวไสว...ด้วยไมตรี
มอบคนดี..ที่รัก..เกินหักใจ..ฯ
๏ คิดถึงน้อง..หมองหม่น..ระคนท้อ
อยู่หน้าจอ..รอนวล..อกหวลไห้
เจ้าโฉมงาม..ยามนี้..อยู่ที่ใด
เจ้ารู้ไหม..ใครเฝ้า..จับเจ่าคอย..ฯ
๏ ไม่เห็นหน้า..นวลพักตร์..พี่ชักกลุ้ม
ไฟร้อนรุม..สุมเอา..จนเหงาหงอย
เหมือนเสพติด..ฤทธิ์ยา..จนตาปรอย
ต้องนั่งเอ๋อ..เหม่อลอย..น่าน้อยใจ..ฯ
๏ เพราะว่ารัก..หนักฤดี..พี่คิดถึง
นั่งคำนึง..ถึงประจำ..ช้ำไฉน
เจ้าโฉมงาม..ตามมา..จะช้าไย
จะทำให้..ได้สุข..ทุกคืนวัน..ฯ
๏ ทรัพย์สมบัติ..จัดหา..เอามาให้
“กว๊านพะเยา”..”เขาใหญ่”..คนใฝ่ฝัน
“สนามหลวง”..พ่วงไป..ให้แจ่มจันทร์
เป็นของขวัญ..หมั้นหมาย..สายสุดา..ฯ
๏ หากว่าน้อง..ครองคู่.. อยู่กับพี่
ทุกทิวา..ราตรี..มีสุขหนา
เสวยสุข..ทุกวัน..เจ้าขวัญตา
แดนในฝัน..ศรีธัญญา..อย่าช้าเอย..ฯ
๏ จะพาน้อง..นวลใย..ไปอยู่บ้าน
ณ สถาน..ศรีธัญฯ..มันละเหวย
ดื่มน้ำผึ้ง..พระจันทร์..ที่นั่นเลย
หากทรามเชย..เผยรัก..สมัครใจ..ฯ
๏ อยู่ด้วยกัน..วันหยุด.สุดที่รัก
จะพาพัก..เที่ยวท่อง..สองเกาะใหญ่
ชื่อ “พีพี”..”สีชัง”..นั่นยังไง
พึ่งลงมือ..ซื้อไว้..เมื่อไม่นาน..ฯ
๏ อีกหาดทราย..หมายใจ..มอบให้น้อง
ที่จับจอง..สองแปลง..สองแหล่งย่าน
ชื่อ”บางแสน”..แดนดิน..ถิ่นวิมาน
กับหาด”เจ้า-..สำราญ”..น่าผ่านยล..ฯ
๏ ยัง “หัวหิน”..ถิ่นหอย..ทั้งน้อย-ใหญ่
มัดจำไว้..ไม

มีเพียงเธอ

มวลภมร


มีเพียงเธอ คนนี้ ที่พี่เพ้อ
มีเพียงเธอ คนนี้ ที่ไฝ่หา
มีเพียงเธอ คนเดียว ทุกเวลา
มีเพียงเธอ นั่นหนา พี่รักเธอ
มีเพียงเธอ เท่านั้น ไม่ปันรัก
มีเพียงเธอ แน่นหนัก รักเสมอ
มีเพียงเธอ ทำให้ ใจละเมอ
มีเพียงเธอ ไม่เผลอ เปลี่ยนแปรใจ
มีเพียงเธอ คนนี้ ที่พี่รัก
มีเพียงเธอ พี่ภักดิ์ หัวใจให้
มีเพียงเธอ เสมอ แม้ห่างไกล
มีเพียงเธอ หัวใจ พี่เปรมปรีด์
มีเพียงเธอ แม้วัน คืนผันเปลี่ยน
มีเพียงเธอ วนเวียน ในใจพี่
มีเพียงเธอ หวานรัก รักคนดี
มีเพียงเธอ คนนี้ เต็มห้องใจ
มีเพียงเธอ ตอบใจ ได้ทั้งหมด
มีเพียงเธอ หวานลด ลงที่ใหน
มีเพียงเธอ อยากหวาน หวานหมดใจ
มีเพียงเธอ รู้ไว้ “มีเพียงเธอ”
o..มวลภมร..o

เพราะทุกสิ่งคือรัก

ก่องกิก


โอ้นี่หรือที่เห็นเป็นความรัก
แม้พอหักดวงจิตยิ่งคิดถึง
พอพบเธอหวั่นไหวใจรำพึง
ยังคะนึงถึงเธอเผลอปล่อยใจ
*****
ความรักพี่ติดตัวชั่วชีวิต
พี่ยังติดตราตรึงซึ้งสดใส
จึงมอบรักล้นเอ่อให้เธอไป
น้องรู้ไหมว่ารักประจักษ์จริง
****
จงเชื่อใจเถิดหนาอย่าเร่าร้อน
ฟังพี่ก่อนคนดีมีเพียงหญิง
ค่อยค่อยคิดเถิดหนาอย่าประวิง
เพราะทุกสิ่งคือรักปักอุรา

ความรักผ่านโคลง

เชษฐภัทร วิสัยจร


เท่าฟ้า-ถ้าเฝ้าบอก.............ว่ารัก
ตามไถ่-ไต่ถามสัก.............แต่อ้อน
วางท่า-ว่าทางวรรค...........โคลงสี่
ขอส่ง-คงส่อซ้อน..............แทรกข้อความเขียน
พักเรียน-เพียรรักแล้ว............คิดถึง
หวานใส่-ไว้ซ่านตรึง...........อกบ้าง
ขมติด-คิดตรมจึง..............ใจเจ็บ
ค่าบ่น-คนบ้าสร้าง............แต่เศร้าเคล้าโคลง

ความคิดถึงออกแบบไม่ได้แต่แอบบอกได้

เชษฐภัทร วิสัยจร


ออกแบบ-แอบบอกข้อ.........ความเหงาคึกนิด-คิดนึกเอา...........อกอ้อน
ส่งไลน์-ใส่ลงเดา..............ใจบุก
วรรคราด-วาดรักร้อน..............เร่งให้โหยหา

โปสการ์ดกับความคิดถึง

คาปูชิโน่


    ฝากความคิดถึงมากับโปสการ์ด          เป็นภาพวาดรูปเงาแห่งขุนเขาผ่านสายลมก้อนเมฆสีเทา                      ที่สองเราเคยอยู่เคียงข้างกัน
ให้เธออ่านยามท้อแท้ใจ                         รู้สึกได้เมื่อยามคิดถึงฉัน
ถึงเป็นเพียงข้อความที่แสนสั้น                ทว่านั้นมีความหมายที่มากมาย
แม้โลกออนไลน์ก้าวไกลสักเพียงไหน       เชื่อมติดต่อฉับไวได้หลากหลาย
ยังคงเขียนโปสการ์ดมาระบาย                 สื่อความหมายถึงเธอทุกคืนวัน....... 

ปลูกรัก ทอถักฝัน

มวลภมร


ใจผูกกัน พันธ์ผูก ปลูกเป็นรัก
ด้วยความภักดิ์ หัวใจ ให้โหยหา
เวลาผ่าน ผันเคลื่อน เลื่อนเวลา
พลอยนำพา หัวใจ ให้สัมพันธ์
แม้ความจริง ดวงใจ คล้ายดั่งเพ้อ
กายไกลเธอ ห่างกาย ได้แค่ฝัน
ถึงสองใจ เราสอง ครองใจกัน
ยากมีวัน สัมพันธ์คู่ อยู่เคียงกาย
 ถึงมีเพียง แค่นี้ ที่เราสอง
ได้ประคอง ใจกัน เป็นมั่นหมาย
เป็นความรัก ภักดี ไม่มีคลาย
เสริมสอดสาย สัมพันธ์ ไม่ปันใจ
หากศรัทธา แน่นหนัก ในรักนี้
รักของเรา จักมี แต่สดใส
ยามคิดถึง โหยหา สุดหัวใจ
พลอยยิ้มได้ ยามจิต คิดถึงเธอ
ในนิยาม ความรัก ของเรานี้
มีไมตรี ตอบรักกัน มั่นเสมอ
กายไกลกาย แต่ใจ ใกล้ใจเธอ
ยังพบเจอ ในฝันที่ พี่นิทรา
o มวลภมร o

บางใครในความทรงจำ

สายธารน้ำใจ


บางใครในความรู้สึกส่วนลึกของความอ่อนไหว
แรกพบประจักษ์แก่หัวใจ
อยากบอกไว้ด้วยร้อยกรอง
เค้าคนคนนั้นช่างน่ารัก
ลึกซึ้งนักคอยค่อยแอบมอง
ครั้งแรกที่ไม่รู้ว่าใครจอง
คอยหมายปองจ้องอย่างเดียว
ด้วยไม่รู้เรื่องความรัก
ความอกหักใครคอยเกี้ยว
ความอกหักรักเขาได้ข้างเดียว
คอยประเดี๋ยวความรัก..พักเรื่องราว
พักไว้ พอก่อน เนาะเรื่องรัก
เพราะเรียนหนัก แบกไว้ เป็นเรื่องยาว
ร้อยคำกล่าว บทกลอน อ้อนอื้อฉาว
เรียงเคียงดาว บนดิน ถิ่นโพเอ็ม...

อสงไขยกัลป์

คีตากะ


ฝากความคิดถึง....คำนึงหา
แหวกข้ามฟ้าอากาศดาดาษหน
หมายส่งถึงหัวใจใครหนึ่งคน
แม้ท่วมท้นเกินกว่าเธอเข้าใจ
ฝากความห่วงหา....อาทรจิต
แพร่ทุกทิศลอยลมพรมพลิ้วไหว
ถึงตกหล่นลับเร้นมิเป็นไร
ยังดีได้มอบส่งห่วงคงคลาย
ฝากความรักไป....ในอากาศ
แม้เธออาจมิเข้าใจในความหมาย
แต่อย่างน้อยหัวใจได้ระบาย
ถึงห่างหายระหว่างทางก็ช่างมัน
ฝากบทกลอนมา....นภากาศ
ใจแทบขาดคิดถึงจึงเสกสรร
มาดหมายเธอตระหนักในสักวัน
อสงไขยกัลป์ยังรักจักเฝ้ารอ.....

ความรักของพี่

ก่องกิก


อันความรักของพี่มีคิดถึง
รักสุดซึ้งสดใสใจแอบเผลอ
พูดถึงรักทีไรใจละเมอ
บอกกับเธอว่าพี่นี้ต้องการ
 
โอ้ความรักของพี่มีเพียงเจ้า
พี่คอยเฝ้าจดจ้องมองประสาน
แสนเป็นสุขยิ่งนักรักเบิกบาน
สุขสำราญหวานเย็นเป็นบทกลอน
 
รักเนื้อเย็นเอ็นดูอยู่เคียงข้าง
ความอ้างว้างหายไปไม่สังหรณ์
มีรักจริงอิงแอบแนบหนุนนอน
พี่จึงอ้อนเธอจ๋าน่ารักจัง
 
ด้วยความรักห่วงใยมีให้น้อง
มิหม่นหมองของดีมิผิดหวัง
พี่รักจริงน้องจ๋าอย่าเสียงดัง
โปรดระวังเบาหน่อยค่อยค่อยทำ 

บทชีวิตคิดลำพัง บทที่ 5 อยู่เป็นกำลังใจให้หายลำพัง

มวลภมร


เปิดหัวใจ ให้ใจ ได้รับรู้
 
ได้ตรองดู ความหวาน ผ่านมาใหม่
 
ต่างเสนอ ให้เธอ ได้จองใจ
 
หวังเพียงได้ เคียงกาย ยามราตรี
 
 
ยังมีใคร คนหนึ่ง ซึ่งอยากใกล้
 
อยากให้เธอ รับใจ ของพี่นี้
 
เพียงเสนอ ส่งไป ด้วยไมตรี
 
ขอคนดี โปรดตรอง อยากครองใจ
 
 
มีแค่เพียง หัวใจ เพียงเท่านี้
 
ไม่รู้ว่า คนดี รับได้ไหม
 
แม้ไม่มี มากมาย แต่จริงใจ
 
คงไม่อาจ เทียบใคร ที่ใกล้เธอ
 
 
คุณสมบัติ ของพี่ ที่ขอเอ่ย
 
บอกกับเธอ ไว้เลย พร้อมเสนอ
 
ใจล้วนล้วน เปี่ยมรัก ฝากให้เธอ
 
จะไม่เผลอ เปลี่ยนทาง แม้ห่างไกล
 
 
 
หนทางไกล หาใช่ เป็นปัญหา
 
ยังสัญญา ส่งรัก ฝากใจให้
 
สร้างตำนาน รักมั่น ผ่านออนไลน์
 
ส่งสัญญาณ หัวใจ “ว่ารักเธอ”
o มวลภมร o

สบตาหวาน

มวลภมร


ส่งตาหวาน ประสาน กับตาน้อง
สองเราจ้อง นั่งมอง สบตาหวาน
สายตาส่ง ตามอง จ้องตานาน
เพียงส่งต่อ ความหวาน ผ่านสายตา
ส่งเป็นคำ ครวญคร่ำ คล้ายคำรัก
ส่งใจภักดิ์ จากใจ ให้โหยหา
ส่งมาแทน ถ้อยคำ แทนสัญญา
ผ่านมาทาง สายตา ว่ารักเธอ
อยากหาคำ หมื่นแสน มาแทนใส่
หวังแทนความ ในใจ นำเสนอ
มาแทนคำ คำนั้น ฉันรักเธอ
หาไม่เจอ คำไหน บรรยายแทน
จบตรงที่ บทนี้ บทสุดท้าย
ไม่มากมาย แค่ใจ ที่เหนียวแน่น
จะกี่บท บรรยาย ไม่อาจแทน
เท่าเพียงแกน ใจพี่ "ที่รักเธอ"

คนสำคัญในหัวใจยังเป็นเธอ

ลูกหว้า


ลองถามตัวเองสักกี่ครั้ง
ใจก็ยังตอบว่ารักอยู่เสมอ
เเละไม่สามารถเอาใครมาแทนเธอ
ยังรักอยู่เสมอไม่เปลี่ยนไป
ยังรักยังห่วงใยอยู่เสมอ
ถึงแม้ไม่ได้เจอก็ไม่หวั่นไหว
แม้ชีวิตมากมายด้วยใคร-ใคร
แต่คนสำคัญในหัวใจยังเป็นเธอ

สายน้ำไม่ไหลกลับ

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


อดีตกาลผ่านล่วงทรวงระลึก
ดั่งบันทึกฝังแน่นบนแผ่นหิน
รักเจ้าเอยผันผกดังนกบิน
มาถึงจุดสุดสิ้นสะเทือนใจ
(ฤกษ์เขาว่า)
"คำสามคำกลั่นจากมันสมอง
ได้ตรึกตรองหลายหนหมดสงสัย
สำคัญแท้แน่นอนเหนืออื่นใด
ขอฝากให้ครวญคิดพินิจดู
ไม่สัญญาสาบานต่อศาลเจ้า
ไม่โอ้อวดวอนเว้าเอาโก้หรู
หวังแค่เพียงหัวใจใฝ่บำรู
อยากค้ำชูเกี่ยวข้องต้องเข้าใจ
มิได้หวังสิ่งใดมาตอบแทน
ไม่หวงแหนกั้นขวางวางเงื่อนไข
ขอมั่นคงจริงจังตลอดไป
ไม่หวั่นไหวแน่วแน่ไม่แปรปรวน
เพียงหัวใจปรารถนาบูชารัก
ซึ้งประจักษ์ลึกล้ำเกินผันผวน
จึงกล่าวคำสามคำย้ำทบทวน
ทุกคำล้วนแน่นหนัก ฉันรักเธอ"
ผู้หญิงไร้เงาเขาว่า
"คำสามคำที่พี่กลั่นจากดวงจิต
แล้วผลิตอักษรเว้าวอนฉัน
เป็นคำว่าฉันรักเธอเพ้อรำพัน
แม้จะสั้นแต่ความนั้นไม่สั้นเลย
แถมเป็นคำสามคำซึ่งชื่นชอบ
ด้วยผู้มอบมีหัวใจให้เปิดเผย
เป็นคำรักสลักมั่นไม่หวั่นเลย
พร้อมเฉลยความนัยให้รู้กัน
ว่าจริงจริงฉันนี้มีรักให้
พร้อมด้วยความจริงใจมิไหวหวั่น
มีความรู้สึกลึกซึ้งซึ่งผูกพัน
ให้พี่นั้นเช่นกันตลอดมา
แต่จะไม่ขอสาบงหรือสาบาน
แต่จะขอยืนกรานสานความว่า
ฉันรักเธอเช่นกันที่ผ่านมา
ไม่เคยลืมเธอสักคราในหัวใจ"
เพียงสิบปีเป็นดั่งดอกพิกุล
ล่วงลงมาคลุกฝุ่นอยู่ที่ไหน
เพราะวาจากล่าวแล้วก็ลอยไป
อยู่หนใดไม่เห็นว่าเป็นจริง
หน้า / 13  
ทั้งหมด 220 กลอน