ความฮักของหมู่เฮ้า.......ชาวอีสาน
มีแต่แบบชื่นบาน..........บ่้ฮ้าย
วันวันสนุกสนาน........ ห่างทุกข์
เล่นจุกเฮาก็ย้าย........เขยิบก้นคนละทางฯ
ไปแล่ว...เฮ็ดงานต่อเด้ัอค่ะ อิอิ (แก้วประภัสสร) ควมฮักของหมู่เฮ้า.....จาวเหนือ มีแต่เจือจานเผื่อ.......แบ่งเปื้อน ตึงวันม่วนล้ำเหลือ.....แต้ว่า เล่นแล่วบ่อิดเอื้อน.....แยกย้ายคนละตางฯ งิงิ (virismara) จั่งได๋คือม่วนแต้......สาวเหนือ อู้มะล่ำมะเหลือ.......หมู่เจ้า กึ๊ดอยากกอดเหลือเฟือ....ฮู้กะ ไปแอ่วบ้านสิเฝ้า.... บ่้ฮ้างห่างนวลฯ เด้อนางเด้อ 5555 (แก้วประภัสสร) อู้แต้ก่อเน่อเปื้อน.....ไก่เอย ไค่กอดก่อมาเลย.....แม่เจ้า เป๋นเปื้อนบ่ได้เกย....ได้กอด คิดฮอดไก่สิเฝ้า.......กอดเช้าฮอดแลงฯ เด้อนางเด่อ เอ้อ เอ้อ 555 (virismara) สิกอดก็กอดเด้อ........จินนี่ หนาวจับใจพอดี.........อย่าช้า มาผูกเสี่ยวเป็นศรี.......หมู่ฮัก คำแพง เหนือออกตกหากกล้า....แม่แก้วจัดหนักฯ (แก้วประภัสสร) หนาวแล้วหนอแม่แก้ว......จัดไป กอดเสี่ยวซะให้ไว..........อุ่นบ้าง กอดหนึ่งกอดสองใย.......ยังขาด เอียงหน่อยแก้มสองข้าง...แม่แก้วขอหอมฯ ไม่เอากระเทียมนะจ๊ะ ฮิๆ (virismara) เป็นหอมแทนกอดว้าย......ยิ่งฮัก เจ้าบ่ฮู้ของมัก...............ข่อยเด้อ 55555 หอมซ้ายเปลี่ยนขวาคัก.....หงายเงิบ อย่าสิเฮ็ดให้เพ้อ...........คึดเช้าถึงแหลงฯ เด้อแม่นางเด้อ อิอิ พักยก แป๊งๆๆ (แก้วประภัสสร)
ณ ซอกตึกแห่งนี้มีที่ว่าง สำหรับวางหัวใจอันไร้ค่า คนมอซอรอเศษความเมตตา นั่งก้มหน้าคอตกอกขอทาน ความเจ็บปวดรวดร้าวคราวแรกรัก สะท้อนทรวงฮักฮักคอยหักหาญ ดวงฤทัยรักแรกเหลวแหลกลาญ จนพิการเช่นนี้ฤดีตรม จึงกลายเป็นยาจกที่อกหัก ขอเศษรักคนอื่นอย่างขื่นขม พิการใจไร้หญิงอิงแอบชม นั่งซานซมหน้าด้านขอทานรัก ไม่เกินวันพรุ่งนี้หรอกชีวิต คงปลดปลิดลงด้วยใจป่วยหนัก ดุจไร้ญาติขาดหญิงไว้พิงพัก โถ...ใครจักต่อชีพจงรีบไว โปรดให้ทานรักล้นแด่คนยาก ผู้ฝันฝากใฝ่รักเจียนตักษัย มิเคยเกี่ยงเลี่ยงเว้นว่าเป็นใคร ขอเพียงใจมีรักจักสมปอง มัวชักช้าร่ำไรอาจใจร้าว หากได้ข่าวยาจกอกกลัดหนอง สิ้นชีวาตม์ขาดคนมาสนมอง เมื่อนั้นน้องอาจช้ำนอนคร่ำครวญ (ธันวาคม ๒๕๒๘)
กุหลาบขาวและแดงแต่งเป็นช่อ
เขียนกลอนขอให้เธอซึ้งถึงความหมาย
กุหลาบแดงสรรหามาเรียงราย
ห้อมล้อมกายกุหลาบขาวในคราวนี้
แม้ผู้หญิงสวยมากมายมาให้เห็น แต่เธอเด่นกว่าใครในทุกที่ เธอจะเป็นเพียงหนึ่งซึ่งดูดี เพราะฉันมีแต่รักเธอเสมอมา
แม้เธอจะตดเหม็นเป็นบางครั้ง
แม้เธอยังฝ่าไฟแดงแกล้งตีนผี
แม้ข้ือของปลอมเขาขายเหมือนได้ฟรี
แม้เธอขี้เม้าไปบ้าง -- ช่างปะไร
แม้เธอวีนเหวี่ยงบ้างเป็นบางหน
แม้เธอบ่นเช้าเย็นเป็นนิสัย
แม้เธอทำงี่เง่า-- ผมเข้าใจ
แม้เธอใช้ของแพงขนมาปรนเปรอ
ผมเข้าใจเพราะผมรักจะเรียนร้
เพราะอยากใช้ชีวิตอยู่เคียงคู่เสมอ
ตั้งแต่แรกจนวันนี้ที่พบเจอ
เพราะรักเธอ หมดหัวใจใช้ยืนยัน
๏ ขอเถอะทำอาหารให้เธอกิน รสชาติไม่ผ่านลิ้นอย่าเพิ่งอิ่ม อาหารจานเร่งด่วนชวนกรุ้มกริ่ม เชื้อเชิญคว้าช้อนชิมชมรสชาติ ๏ ผัดเผ็ดผักหวานหวานว่านดอกรัก สูตรเด็ดสลัดผักปักสวาท ปลาหลนหล่นน้ำตาลหวานพิฆาต แกล้มกับกำผักกาดใส่ถาดมา ๏ แกงไก่ใส่รอยยิ้มเชิญลิ้มลอง ข้าวผัดพี่รักน้องลองดูหนา ส้มหม่ำยำแอบรักพักอุรา อีกอ่อมคำนึงหากานดาไกล ๏ อาหารปานฉะนี้ที่พี่ทำ ทุกคำย้ำรสชาติขนาดไหน รสถ้อยอร่อยหวานจับจิตใจ คงอิ่มปริ่มฤทัยทุกถ้วยจาน
หากเธอเป็นนิ้วฉันขอเป็นแหวน เธอเป็นไม้แขวนฉันขอเป็นเสื้อ หากเธอเป็นเบ็ดฉันขอเป็นเหยื่อ ขอแอบแนบเนื้อเพื่อเธอเสมอไป หากเธอเป็นไข้ฉันขอดูแล หากเธอเป็นแผลฉันทายาให้ เธอเป็นหมอกควันฉันเป็นกองไฟ เคียงคู่อยู่ใกล้ไม่ห่างเหินกัน หากเธอเป็นหมอฉันเป็นพยาบาล เธอเป็นอาหารฉันเป็นจานใบนั้น เธอเล่นเฟชบุ๊คฉันไลค์ทั้งวัน เธอหลับนอนฝันฉันเป็นหมอนฝันดี
สิ่งนี้ ที่เป็นอยู่ คือความรัก สวยงาม ใช่ไหม ใครกัน บอกฉันที ว่าความรัก สวยงามแบบนี้ ยังมีอยู่จริง เธอสวยงาม เธอคือ ความฝัน เธอเป็นความจริงด้วยใช่ไหม ? แล้ววันหนึ่ง เธอคงไม่จากลาไปไกลแสนไกล ให้ฉันน้ำตาไหล ใช่รึเปล่า ตามหาความรักสวยงาม มีอยู่จริง ณ ที่นี่ แต่ไม่รู้ มันเป็นเพียงความคิด ฟุ้งซ่าน ของฉันไหม จึงอยากให้เธอ ยืนยัน อีกครั้ง ให้มั่นใจ ว่าเธอรู้สึก เท่าๆกัน ไม่ได้มีเพียงฉัน ที่สุขใจ ความสุข เหล่านี้ จะจีรัง ยั่งยืน และเธอ จะไม่เป็นอื่น ใช่มั้ย หากเธอเอง ไม่พร้อม ฉันจะยอมเผื่อใจ เพราะความรัก สวยงามเกินไป มันไม่มี ฉันรู้ ฉันรู้ ฉันเอง เพ้อฝัน คิดไปได้อย่างไร ว่าจะมีความรัก สวยงามแบบนั้น เพราะในความเป็นจริง มีสิ่งโหดร้าย ที่เฝ้าทำลายความฝัน ตลอดเวลา เธอเอง เป็นสิ่งพิเศษ สำหรับหัวใจฉัน เธอช่างมีค่า อยากจะทะนุถนอม ความรักนี้ไว้ ไม่ให้จากลา บอกหน่อยได้ไหมว่า เธอรุ้สึก เหมือนกัน เธอมาจากไหน เธอเป็นใคร ฉันไม่รู้ ความรักครั้งนี้ มันคงมีที่มาที่ไป ในแบบของมัน รู้ตัวอีกที เธอคนนี้ช่างพิเศษ ทำให้ฉันเห็นความรักด้านสวยงามนี้อีกครั้ง มันแทบจะขาดใจ แค่คิดว่าเธอได้ลาจาก น้ำตาไม่อาจหยุดไหล ต่อไปนี้จะไม่มีใคร กลับมาสู่ความเป็นจริงตรงหน้า ที่โหดร้าย ตรงที่ ไม่มีเธออยู่ ตรงที่ไม่มีเธออยู๋
เธอกรวดน้ำคว่ำขันเลิกฝันใฝ่ เกิดชาติไหนอย่าพบสบสมาน สำหรับฉันกลับปองน้องนงคราญ นิรันดร์กาลจะอยู่เป็นคู่ครอง "แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงษ์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครองพิศวาททุกชาติไป" จะหลบลี้หนีหายไปไหนยาก เพราะกรวดน้ำฝังรากด้วยคุณไสย พันธการมัดไว้ด้วยหัวใจ ใจสองใจมิพรากไปจากกัน แม้เสแสร้งแกล้งปัดว่าตัดขาด ไม่ขอเกิดร่วมชาติขอผาดผัน แต่ส่วนลึกหัวใจได้ผูกพัน ไม่มีวันเลือนหายคล้ายต้องมนต์ ยอมรับเถิดความรักประจักษ์จิต เมื่อบ่วงทัณฑ์สัมฤทธิ์ต้องเกิดผล ในโลกนี้มีเพียงเราสองคน ฟ้าเบื้องบนประทานแล้วไม่แคล้วจร...
เมื่อนางฟ้าเตรียมดอกไม้ให้ไหว้พระ
คล้ายธรรมะดึงสองใจให้มาหา
ตามวิสัยสืบสานหญิงล้านนา
ซึ่งส่งเสริมให้สูงค่าด้วยบารมี
เมื่อเสมอด้วยศรัทธา-พาทราบซึ้ง ยิ่งตราตรึงติดใจไปทุกที่ คือคู่แท้มาร่วมทางสร้างความดี บนวิถึแห่งธรรมะประทับใจ เป็นบุพเพสันนิวาสประกาศชัด ซึ่งบัญญัติความรักจริงอันยิ่งใหญ่ ศีลศรัทธาสื่อนิยามความเป็นไป ตอนนางฟ้าเตรียมดอกไม้ให้ไหว้พระ
เผลอพบเธอบนความเหงาท่ามกลางเงาความหวัง ทักทายคลายผ่อนป้อนพลัง เติมแต่งแบ่งหวังกำลังใจ เชิญหยิบหัวใจไปจากฉัน แลกกันกับรักครั้งใหม่ กุมมือถือเพลินเดินโอบไหล่ ท่ามกลางฟ้าใสใจเบิกบาน
๏ โฉมตรูพธูรักสลักขวัญ เลิศลาวัณย์เฉิดฉันกลางจันทร์ฉาย พักตร์เพริศพริ้งพริ้มเพราเพลินผ่อนคลาย สายลมส่ายระบายเบาบนแก้มบาง ๏ ถ้อยทีทุกท่วงท่าถูกทำนอง สุ่มเสียงสำเนียงซ้องผ่องสล้าง เอื้อนเอ่ยเอิ้นออดอ้อนโอดครวญคราง บอกรักปักใจกลางค้างค่ำคืน ๏ จูบพี่นี้บรรจงจูบไม่จาง จับนี้เบาเบาะบางบ่ให้ตื่น ซบร่างระหว่างเนื้อแนบแอบพื้น ปลดปล่อยรอยร่องรื้นระรื่นรัก ๏ ผิฝนฝ่าฟอนเมฆกลั่นหยดย้อย นองน้ำในนาน้อยค่อยค่อยหนัก อารมณ์พายุโหมโถมทะลัก ปลดเปลื้องเครื่องคาวรักสลักใจ ๏ นวลนางเนื้อแน่งน้อยชม้อยมาด หยาดเยิ้มเพิ่มรสชาติหวิวหวาดไหว กำหนัดกำหน่วงเนื้ออะเคื้อไคล เหงื่อโทรมโรมรินไหลร่างร้าวรอน ๏ หวานจึงหวานชื่นฉ่ำทุกคำหวาน หอมนี้หอมหวนนานน้องสมร รสนี้อร่อยนักรสงามงอน มิอาจพรากจากจรจากห้องใจ
เพาะรัก เพราะรัก... จึงตระหนักคุณค่าของคืนหนาว จึงระลึกถึงราตรีดาวพร่างพราว จึงรู้รสขื่นคาวความเศร้าตรม ด้วยรัก... จึงประจักษ์ความงามในความขม จึงสัมผัสลมหายใจของสายลม จึงสุขสมแย้มยิ้มอยู่เดียวดาย พลังรัก... จึงปกปักดูแลแม้เจียรตาย จึงเป็นดั่งแสงไฟดวงสุดท้าย จึงมอบใจมอบกายให้แก่กัน ความรัก... จึงเป็นแหล่งพิงพักคนหลับฝัน จึงเป็นมือฉุดดึงเชื่อมสัมพันธ์ จึงเป็นเธอเป็นฉันและเป็นเราฯ “แสงศรัทธา ณ ปลายฟ้า”
ส่งบทเพลงล่องบรรเลงถึงดวงดาว ที่พร่างพราววาวระยับปลายลับฟ้า เปล่งทำนองแว่วหวานดุจวาจา เอ่ยเอื้อนมาแทนหัวใจไปให้ดาว... Monday 5.43 p.m., June 10, 2013 ศิวสิโรมณิ