-: :- -: ข้ามฝั่งฝันบนดอยที่แสนไกล :- หนึ่งห้วงห้องแห่งหัวใจที่ปรารถนา มองเห็นไหมมีดวงใจอยู่ปลายฟ้า รอ..วันเวลา...ใครครองคู่มาอยู่เคียง -: แม้วันเดือนเคลื่อนคล้อยเลยล่วงลับ :- แม้โลกถึงกาลแตกดับได้ยินเสียง ขอหนึ่งคำ...ว่าคิดถึง...ก็พอเพียง กระซิบเสียงบอกผ่านกาลเวลา -: จากใจสู่สายใยความคิดถึง:- สู่ความรู้สึกหวานซึ้งโปรดรักษา แม้ด้อยค่าแต่ล้นหลากมากราคา คือคำว่า...ความคิดถึง...สู่บึ้งใจ... -: และวันใด ที่คิดถึง จากหนึ่งฟ้า :- เรียงร้อยมามอบให้เธอเสมอใกล้ หากวันนี้ร้อนหนาวร้าวเพียงใด ที่ตรงนี้มีความห่วงใยมอบให้เธอ ผ่านอ้อมกอดแห่งขุนเขาในเงารัก โปรดตระหนักว่าคิดถึงอยู่เสมอ แม้มิเคยมาบรรจบและพบเจอ มาออดอ้อนพร่ำเพ้อ..ขอเธอฟัง....
** ฟังน้ำคำ พร่ำพรอด อ้อนออดเสียง สื่อสำเนียง ลำนำ ถ้อยคำหวาน เฝ้าคิดถึง คนึงหา มาช้านาน แม้ว่ากาล ผ่านไป หทัยครอง ** คอยรอเธอ เพ้อครวญ รัญจวนเศร้า มีเพียงเรา เฝ้าทน ใจหม่นหมอง ยังรำพัน ฝันหา น้ำตานอง ได้แต่มอง ฟากฟ้า ยามราตรี ** ศศิธร จำลา เมื่อหน้าฝน ความทุกข์ทน ครอบครอง ให้หมองศรี ภวังค์รัก หวานซึ้ง ตรึงฤดี ถ้อยวจี ประทับไว้ ไม่ลืมเลือน ** ขลุ่ยล้อลม พรมแผ่ว ยังแว่วหา คำสัญญา คนดี ที่เสมือน ดั่งคู่คิด ร้อยเรียง คู่เคียงเรือน กลับมาเยือน กลอยใจ ไม่ระทม ** รอคอยวัน เธอกลับ มารับขวัญ รอความฝัน เราสอง ครองสุขสม รอดั่งเคียว เกี่ยวรัก จักชื่นชม รอภิรมย์ รักแท้ ที่แน่นอน........ฯ
ครบรอบความคิดถึง ย้อนรำพึงตรึงตราฝัน เรียงร้อยถ้อยรำพัน ส่งสาส์นนั้นวานฝากลม บางบางจางสะบัด พลิ้วแพรพัดเป็นเพลงพรม ห่างหายคลายคลี่คม เพียงซากซมจมตะกอน ดอกรักรักสีขาว แซมโศกพราวร้าวอาทร แสบแปลบแอบเว้าวอน ลิขิตกลอนตอนจากลา ชิดใกล้จนใกล้ชิด สุดสนิทเสน่หา จุมพิตผ่านเมฆา หยาดหยดมานัยตาเธอ เรี่ยรายปรายเปียกแก้ม ยิ้มยอมแย้มแกมเผยอ หนึ่งมิตรคิดพร่ำเพ้อ อาบใจเธอ..ซึ้งหนึ่งนัย...
คงได้ยินเรื่องราวเธอที่รัก ยังชื่นสุขทุกข์หนักรับรู้เสมอ กับรักใหม่ไม่นานที่พบพบเจอ เฝ้ายินดีกับเธอทุกคืนวัน เมื่อได้พานได้พบคนที่ใช่ เขาที่มอบสิ่งใดได้ดั่งฝัน ชายคนนี้มีเพียงรักให้กัน เพราะรักนั้นใช่ทุกสิ่งฉันเข้าใจ ที่รัก อย่าคิดหนักเรื่องเราดีกว่าไหม พบเจอกันทักทายบ้างเป็นไร สองเรานั้นห่างไกลเพียงสัมพันธ์ ส่วนตัวฉันตอนนี้ดีเหมือนเดิม อาจมีเพิ่มความเหงาเข้าข่มขวัญ กว่าผ่านพ้นคืนว้างอย่างบางวัน ดุจดังฉันดั่งดาวหนาวค่ำคืน ขอยอมรับตามตรงว่าคิดถึง ความคำนึงมีให้ไม่อาจฝืน มอบยิ้มให้แต่ใจน้ำตารื้น บ่อน้ำตาตันตื้นแต้มทรวงใน เพราะเธอคือคนที่ใช่สำหรับฉัน เพราะเธอคือคนปลอบขวัญวันอ่อนไหว เพราะเธอคือความคิดถึงยามห่างไกล เพราะเธอคือความห่วงใยในทุกยาม แล้วคำเธอที่บอกล้วนเป็นจริง รักไม่ใช่ทุกสิ่งที่ไถ่ถาม ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน ทุกผู้นาม รักไม่ใช่ทุกความนามารมณ์ รักของฉัน ของเธอ ไม่เหมือนกัน เราต่างคนต่างปั้นตามใจสม สร้างสรรค์รักสวยงามแล้วชื่นชม แต่งเติมตามความนิยมในยามนั้น จนถึงวันที่เธอจากฉันไป น้ำตานองร้องไห้หัวใจสั่น ด้วยยอมรับและเข้าใจไม่โกรธกัน รักไม่ใช่ เธอ-ฉัน ไม่ยั่งยืน ยังรับรู้เรื่องราวข่าวของเธอ สุขและทุกข์ที่เจอปลุกเราตื่น รักไม่ใช่ความฝันยามค่ำคืน รักอาจเป็นเพียงฟืนช่วยเติมใจ
ฝากคำถ้อย ลอยฟ้า ไปหาเจ้า อยู่ดีเล่า หรือทุกข์ใจ เพราะไกลห่าง บนทางเดิน แห่งเรียวรุ้ง ที่รุ่งลาง ฝันอำพราง สว่างใส ในความจริง เห็นไหมนั่น ริมรอบ ตรงขอบฟ้า ต้นดารา ดอกพราว ทุกราวกิ่ง เพียงเพื่อเจ้า หมายหวัง ตั้งใจจริง จงโน้มกิ่ง เกี่ยวคว้า ดาราชม แม้เส้นทาง ขวากหนาม จะลามกั้น เจ้าอย่าหวั่น เร่งฟันฝ่า มาให้สม แม้นางไพร ล่อบ่วง ลวงให้ชม อย่านิยม หวั่นไหว ใฝ่ว่างาม ฝากคำถ้อย ลอยฟ้า ไปหาเจ้า ห่วงใยเล่า กับหัวใจ คนไถ่ถาม ใจดวงนี้ เปี่ยมคิดถึง ซึ้งทุกยาม มองฟ้าคราม แสนห่วงใย คนไกลกีน ทิพย์โนราห์ พันดาว
พานพบคนคุ้นเคยมาเผยคำ มีแต่พร่ำพูดเพ้ออยากเจอใคร? มันเบื่อหน่าย หดหู่ รับรู้ไว้ พอได้ไหม? เบื่อฟัง คำทั้งปวง... คิดถึงเขา...บอกเขา ให้เขารู้ ฉันฟังอยู่เคืองขัดอึดอัดหน่วง ทนรับรู้เรื่องราวปวดร้าวทรวง ไม่อยากท้วงคำพ้อขอร้องเธอ... ฝากบอกไว้...อย่าประสงค์ลงที่ฉัน เตรียมบอกเขาคำนั้นฉันเสนอ หยุดซะทีไม่อยากฟังคำพร่ำเพ้อ ไปเพ้อเจ้อ...สองคนเบื่อทนฟัง...
รู้ว่าต้องเจ็บมากหากคิดถึง แล้วเราจึงเตือนใจว่าอย่ากลับหวน หากไปแล้วภาพในฝันพลันย้อนทวน เจ็บล้วนๆนี้โทษใครไม่ได้เลย อย่าไปเลยถิ่นที่เก่าเราเคยผ่าน อย่าทำหาญเยือนเหย้าพักที่รักเผย อย่าทำเป็นไม่ปวดใจดั่งไม่เคย อย่าหยอกเย้ยยั่วเย้าความเศร้าตรม ความคิดถึง ปราณีใครที่ไหนบ้าง ความอ้างว้างห่างเหินนั้นเกินข่ม ความคิดถึงจึงล้นหลามลามอารมณ์ ตราบสิ้นลม ตรมสิ้นรักตระหนักใน โบราณว่า ความรู้ท่วมหูหัว ยังเอาตัวไม่รอดได้ไฉน นี่ความรักท่วมทั่วทั้งหัวใจ มันจะรอดอย่างไรไหว นะใจเอย
อยากให้รู้ว่ารักและคิดถึง จึงทำซึ้งหยิบปากกาออกมาเขียน กลั่นเป็นคำจากใจแล้วร้อยเรียง ด้วยสำเนียงเรียบง่ายแต่ใจจริง ย่อหน้าแรกส่งผ่านความรู้สึก ลึกลึกแล้วข้างในฉันใจหาย ถึงวันนี้ไร้เธอแนบเคียงกาย หนาวไม่วายทุกวันคืนทุกคืนวัน ย่อหน้าสองเขียนถึงความห่วงใย ที่มีให้ไม่จางแม้กาลผัน ต่อให้นานดาวหมดฟ้าร้างรากัน หัวใจฉันยังคงอยู่ที่เธอ หน้าถัดมาหัวใจมีคำทัก ว่ายังรักคอยห่วงอยู่เสมอ แม้ตัวไกลไร้โอกาสผ่านพบเจอ หลงละเมอถึงเธอทุกคืนวัน รอยยิ้มหวานที่เธอเคยให้ฉัน พบกับมันทุกคราที่นอนตื่น จะเก็บไว้ไม่มีวันมอบให้คืน ใส่ห่อผืนผ้าสวยในหัวใจ ย่อหน้าท้ายลงท้ายคำว่ารัก ให้ประจักษ์ให้รู้แจ้งถึงความหมาย ปิดผนึกใส่ซองแนบดวงใจ วอนสายลมส่งไปให้ถึงเธอ ส่งถึงเธอผู้ซึ่งเป็นที่รัก จดหมายฝากจากใจมีคำถาม แม้นเธออ่านครั้งใดเห็นข้อความ ตอบกลับมาถึงฉันจากใจเธอ
เดือนสิบเอ็ด ย่างกราย ปลายหน้าฝน สายลมวน พัดล่อง ลงต้องผิว มองข้าวกอ ช่อไสว เอนใบปลิว แลลิบลิ่ว เขียวขจี ที่ปลายนา หนาวลมเหนือ เมื่อก่อน ตอนปีเก่า เคยนั่งเศร้า สิ้นสุข ทุกข์นักหนา ทั้งหนาวนอก เหน็บใน ใจวิญญา วันนี้มา บรรจบ พบอีกคราว คนมีคู่ เคียงกัน มิหวั่นไหว แต่ฉันไร้ เราจึง ถึงทนหนาว อยู่คนเดียว อ้างว้าง อย่างยืนยาว เจ็บปวดร้าว กมล จนชาชิน พอหนาวกาย คลายด้วย ผ้าผวยห่ม เมื่อหนาวลม ฝากั้น มันก็สิ้น แต่หนาวใจ รักเลาะ มาเกาะกิน จะหันหิน หน้าไป พึ่งใครเอย จะแก้หนาว ให้อุ่น ต้องหนุนแขน มีสาวแทน ต่างหมอน นอนเขนย แอบอกอุ่น เนื้ออ่อน นอนเสบย ก็มิเคย คิดไว้ เมื่อไรกัน นั่งเขียนกลอน ตอนดึก รู้สึกเหงา คิดถึงเขา อยากรู้จัก เพื่อนนักฝัน หนาวจะเยือน เดือนนี้ ไม่กี่วัน สาวคนนั้น ฉันห่วงใย รู้ไหมเธอ ผอ. สมพิศ พระนครศรีอยุธยา
บรรยากาศเป็นใจให้คิดถึง จากฟ้าหนึ่ง..ครึ้มมัวสลัวแสง สภาพอากาศเมืองลิงยิ่งเปลี่ยนแปลง แต่ชัดแจ้ง..ใจนั้นยังมั่นคง ยังคิดถึงเพื่อนเกลอเสมอหน้า จอมทั้งห้าเป็นฉันใดในประสงค์ ฟ้าทางนั้นเป็นเช่นใดในดำรง ต่อสายตรงไถ่ถามความเป็นมา ถิ่นอิสานเมืองสกลไม่หม่นหมอง เห็นสายฝนแหงนมองบนท้องฟ้า "คิดถึง" เหล่าพยอมจอมทั้งห้า ไม่รู้ว่า...อยู่สบายร้ายหรือดี จึงฝากเสียงตามสายได้คลายห่วง โทร.ทักท้วง ไถ่ถาม ตามวิถี สุขหรือทุกข์อย่างไรให้บอกที คนทางนี้...ทุกช่วงคอยห่วงใย ณ น่านฟ้ามหาชัยมีไออุ่น รักละมุนส่งมาให้อาศัย ทบทยอยพลอยให้ยิ้มพิมพ์ประไพ จากจอมใจจอมเจ้าเนิ่นเนานาน จึงแนบแน่นอยู่ในหัวใจนี้ แม้นหลับใหลนานปีไม่มีผ่าน จะดำรงคงอยู่ตราบคู่กาล พร้อมประสานรักห่วงจากดวงแด พัทยา...ฟ้าหม่นแต่คนสุข เพราะรับทุกความห่วงใยใครรักแน่ มีเพื่อนสาวเจ้าจอมพร้อมดูแล จึงมีแต่สดชื่นทุกคืนวัน ฟากฝั่งฟ้ามหาชัยมีไออุ่น หวานละมุนฟ้าเมืองลิงยิ่งชวนฝัน เมืองสกลฝนหลั่งไหลไร้ตะวัน สาวเมืองจันทร์ฟ้ากว้างเป็นอย่างไร สาวเมืองจันทร์อยู่บางกอกมาบอกกล่าว เล่าเรื่องราวว่าฟ้าฝนคนสดใส เพราะงานยุ่งจึงเหินห่างมิตรทางไกล แต่ก็ไม่ลืมเลือนเพื่อนแสนดี แม้นอากาศแปรปรวนไปใจยังรัก ฝากทายทักฝากอุ่นไอปุณณวิถี ใต้แผ่นฟ้าห้าเจ้าจอมหอมไมตรี ทุกครั้งที่ คิดถึง ก็ซึ้งแล้ว
คืนนี้นอนไม่หลับ ฉันคุยกับความเงียบเหงา เปิดเพลงฟังเบาเบา เหมือนช่วยเล่าเรื่องความหลัง เรื่องที่เคยมีใคร ยามอยู่ใกล้ชื่นใจจัง คอยห่วงใยให้ความหวัง คิดทุกครั้งยังสุขสม โอ้! ป่านฉะนี้หนอ คนเคยพะนอเคยชื่นชม จะสุขหรือทุกข์ตรม ตั้งแต่เธอจบสัมพันธ์ คิดถึง นะคนดี ผ่านหลายปีความรักนั้น เหมือนดาวสกาวจันทร์ สาดแสงอยู่เคียงคู่ฟ้า ฉันจึ่งเขียนบทกวี ฝากสิ่งนี้บอกเธอว่า ขอบคุณที่ผ่านมา คนลืมช้ายังห่วงใย ความรักเหมือนดวงดาว มองทุกคราวแสงพราวใส อยู่สูงเกินเอื้อมได้ แต่หัวใจฉันไม่ลืม
แค่คำว่าคิดถึงก็ซึ้งแล้ว ยินแพ่วแพ่วพียงเบาเบาเหงาก็หาย ระยะทางที่ห่างห่างเพียงกาย ใช่มากมายเกินรักกันฉันมั่นใจ เธอเป็นคนแรกเสมอที่เพ้อหา เป็นคนแรกในสายตายามอ่อนไหว เป็นคนแรกที่ลึกซึ้งถึงห่วงใย เป็นคนแรกทีใจฉันนั้นต้องการ แล้วคนแรกของเธอคือฉันไหม หรือเป็นใครที่เธอนั้นหมั่นสงสาร หรือคิดถึงบ้างบางสถานการณ์ หรือผ่านผ่านเท่านั้นวันเหงาใจ อยากให้คิดถึงเป็นคนแรก แต่ไม่อยากเป็นคนแรกที่เธอรักและจากไป
ฝากความคิดถึงและความห่วงใย ฝากให้ใครคนนั้น จะรู้บ้างไหม ว่ายังมีคนนี้ที่คิดถึงเธอนะ อาจไม่สัมผัสถึงความรู้สึก แต่ฉันขอใช้ใจสัมผัสความรู้สึกดี ๆ จะเก็บความรู้สึกที่ดีนี้ไว้ หัวใจดวงนี้แม้จะอ่อนแอนัก แต่ขอบอกนะว่าจริงใจ อย่ามาหลอกว่าคิดถึง แล้วเดินจากฉันไป อย่าดูถูกน้ำใจดวงนี้ อย่ามาทำให้ฉันเจ็บ แค่รู้สึกดีๆ ขอเพียงแค่นี้ ให้ฉันได้ไหม ขอแค่ห่วงใยในบางครา อยากบอกให้รู้ว่าคิดถึงนะคนดี
คืนนี้ไม่มีจันทร์ บนฟ้านั่นสว่างไสว แต่ไม่เห็นหัวใจ ของบางใครในคืนจันทร์ บนฟ้าคงไม่เห็น หัวใจเต้นใช่แค่ฝัน นับนาทีที่ใกล้กัน จะมีฉันบ้างไหมเธอ คืนนี้เหงาเท่ากัน คงมีฉันตรมเศร้าเสมอ ระหว่างฉันคงไม่เจอ ไม่มีเธอไม่มีใคร คืนนี้ไม่มีจันทร์ ปล่อยใจฉันเคว้งไปไหน คิดถึงบางคนของบางใคร ปล่อยหัวใจล่องคิดถึง นับดาวบนฟ้าฟาก คิดฝากรักละไมซึ้ง ฝากรักอันตราตรึง ฝากคิดถึงผ่านลมไป แต่คืนนี้ไม่มีจันทร์ ไม่มีฉันและเธอให้ คิดถึงและห่วงใย เมื่อหัวใจไม่มีกัน..
ถึง.... เพื่อนรัก สบายดีไหม อยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้า คิดถึงเธอเสมอมา อยากพบหน้าเธอเหลือเกิน เป็นไงบ้าง บนเส้นทางที่เลือกเดิน ทุกข์สุขได้ไปเผชิญ หรือเพลิดเพลินทุกเวลา เป็นห่วงนะ แม้จะอยู่ไกลนักหนา ขอให้ยิ้มสู้ชีวา อีกฝั่งฟ้าจะยิ้มเช่นกัน ไม่เป็นไร มุ่งหน้าไปตามไล่ฝัน คงจะถึงสักหนึ่งวัน เพียงเธอมั่นในความดี กำลังใจ จะส่งให้เธอทุกที่ ยามใดทนทุกข์ทวี เพื่อนคนนี้จะปลอบใจ หากอ่อนล้า พบปัญหายากแก้ไข บอกมานะฉันจะไป อยู่เคียงข้างไม่ห่างเธอ จำไว้นะ ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ ยามใดที่อยากพบเจอ เพียงแค่เธอส่งข่าวมา ^o^ คิดถึงสม่ำเสมอนะ
โครงการส่งต่อความรักและความหวัง ครั้งที่ ๑ สู่"กองทุนในสวนขวัญ จิรวรรณ แก้วพรหม" "เธอ..ไม่ได้หายไปไหน" จากวันนั้นถึงวันนี้..ที่ห่วงหา รับรู้ว่าเธอมิได้หายไปไหน ยังวนเวียนเพียรหมายสื่อสายใย ด้วยหัวใจที่ยึดถือสื่อถึงกัน จากวันนั้นถึงวันนี้..หลายปีผ่าน เธอทิ้งร่างร้างวิญญาณผ่านสวรรค์ จากด้วยรักลาด้วยจิตคิดผูกพัน โอ้อาลัยครั้งนั้นเหลือบรรเทา ถึงต่างภพต่างโลกวิโยคยิ่ง แต่ความจริงเหมือนยังยืนอยู่ที่เก่า ยังแข็งเข้มเต็มตามความเป็นเรา ยังทบเท่าทุกความในคำนึง ทุกส่วนเสี้ยวชีวิตเคยคิดร่วม ยังหลอมรวมงดงามให้ถามถึง สรรพสิ่งในเจตนายังตราตรึง อยู่เป็นหนึ่งทุกเส้นทางมิห่างไกล จากวันนั้นถึงวันนี้..ที่ห่วงหา รับรู้ว่าเธอมิได้หายไปไหน ยังวนเวียนเพียรหมายสื่อสายใย ยังส่งใจร่วมโศกสุขทุกอณู แม้มิเคยปรากฏกายให้มองเห็น ในเยียบเย็นตระหนักว่าเธอมาสู่ ทุกประสาทสัมผัสถนัดรู้ ด้วยเธออยู่กลางใจฉัน..มั่นคงแล้ว ! รัตนธาดา แก้วพรหม สำนักกวีน้อยเมืองนคร ๙ กันยายน ๒๕๕๒ แม้ดอกไม้จะราโรยและร่วงหล่น ขอดอกไม้ในใจคนอย่าเหือดแห้ง เป็นพลังเป็นศรัทธายามล้าแรง แตกแขนงแตกกอต่อต่อไป เพื่อสืบสานคุณธรรมอันสวยสด จรรโลงโลกให้งามงดสุขสดใส ขอดอกไม้ที่บานแล้วกลางดวงใจ มีแต่ให้กลิ่นหอมห้อมความดี มีแต่ให้กลิ่นหอมเพื่อมวลชน แทนคุณแทนไท ๒๖ เมษายน ๒๕๕๔ ข้าพเจ้าจะเริ่มต้นส่งมอบไมตรีจิตนี้อย่างไรดี ข้าพเจ้าพบกับตัวเองว่าทุกคนส่วนมากล้วนถา