~ โคลงกลบท พันธวีสติการ ~ ขอรัก ~ ( โคลงกลบท ๒ ) ~ ขอรักมาใส่ไว้ ในโคลง เพียงค่อยคิดความโยง อย่างช้อย เคียงคอยติดตามโจง จิตฉลัก ภักดิ์ว่าใจใฝ่ร้อย รจน์ด้วยคิดถึง โคลงกลบท พันธวีสติการ มีลักษณะเป็นกระทู้ ๕ แนว อ่านแนวดิ่ง ได้แบบกลอน ( สังเกตสีตัวอักษร ) มีสัมผัสสระในและสัมผัสสระเชื่อมเป็นกลบังคับ ขอ รัก มา ใส่ ไว้ ในโคลง เพียง ค่อย คิด ความ โยง อย่างช้อย เคียง คอย ติด ตาม โจง จิตฉลัก ภักดิ์ ว่า ใจ ใฝ่ ร้อย รจน์ด้วยคิดถึง ขอเพียงเคียงภักดิ์ ( เพียง-เคียง, ภักดิ์/รัก ) รักค่อยคอยว่า ( ค่อย-คอย, ว่า/มา ) มาคิดติดใจ ( คิด-ติด, ใจ/ใส่ ) ใส่ความตามใฝ่ ( ความ-ตาม, ใฝ่/ไว้ ) ไว้โยงโจงร้อย ( โยง-โจง ) คุณยาแก้ปวด หาก กาย ชิม มั่ว ครั้น.........คงเซ็ง เรา หวั่น เบียร์ จะ เล็ง.........ต่อแก้ว เมา พลัน ละเหี่ย ขณะ เง็ง.......งงโง่ หาย ทิ่ม หัว ปั่น แล้ว......บ่นบ้าสุดซอยฯ คุณเฌอมาลย์ หมาย สมัคร เพียร มั่น ด้วย สัญญา ใจ แน่ ภักดิ์ ตรึง ตรา มั่นไว้ ใย แปร รัก จึง ลา ไหวหวั่น รัก เปลี่ยน พลัน ม้วย ได้ หม่นไหม้ตรอมตรม คุณเพียงพลิ้ว ฝาก ใย รัก เกี่ยว ให้ ผูกพัน ลม สวาท ทอ ทรวง ขวัญ แอบยิ้ม ห่ม พาด ก่อ ดวง ฝั
พี่รักน้องคนดีสุดที่รัก คิดถึงนักคนดีมิมีเหงา คิดถึงมากรักมากยากจะเดา เพราะสองเรารักอยู่มิรู้ลา บอกจะอยู่กับพี่ไม่มีอื่น ใจพี่ชื่นด้วยรักเป็นหนักหนา พอพี่ห่างไปไกลสุดสายตา เจ้าก็มาเปลี่ยนไปให้ใครครอง หรือเขาหนุ่มทุ่มทองมากองให้ จึงแบ่งใจเนื้อเย็นออกเป็นสอง ตำแหน่งพี่ร่อแร่แค่สำรอง น้ำตานองตอนแก่แย่แล้วเรา หัวอกพี่ก่องกิกต้องพลิกผัน พี่ต้องกลั้นน้ำตาพาใจเหงา ความเจ็บช้ำน้ำใจไม่บางเบา แก่แล้วเราขอโทษอย่าโกรธเลย
จดหมายจากนายฝันละไมถึงกวีสาวเพียงพลิ้ว ฉบับที่ ๖ สวัสดี บ่ายวันศุกร์ไม่สนุกสนาน วันทั้งวันฝันเฟื่องแค่เรื่องงาน ไม่เบิกบานอารมณ์สมฤทัย ในบางคราหน้าที่ก็น่าเบื่อ ไม่หลงเหลือเวลาน่าพิสมัย อยากท่องโลกฝันบันดาลใจ ราวกับไร้แรงรักมาผลักดัน พอว่างงานก็เย็นย่ำมืดค่ำแล้ว เจ้าขวัญแก้วคอยหวังจะรังสรรค์ แวะชมผลงานพี่ทุกวี่วัน ละไมฝันขอบคุณอบอุ่นรัก ใคร่ขอโทษที่ตอบจดหมายช้า มิใช่ว่าไร้สัจจารักษาศักดิ์ แจ้งความนัยตามวาจาสวามิภกิ์ จงประจักษ์ใจว่ายังน่าคบ อยู่บ้านนอกคอกนามาแต่น้อย และไม่ค่อยเจริญไม่เจนจบ อินเตอร์เน็ตไปไม่ถึงจึงเซาซบ ฝุ่นตลบทางลูกรังร้อนแล้งจริง ถึงนาแล้งมิแล้งใจให้ใครหมิ่น มิสูญสิ้นความหวังใดในทุกสิ่ง จดหมายกลอนถึงใจจากใจจริง แม้นเวลาหยุดนิ่งไม่ทิ้งฝัน ผลงานน้องพี่แวะอ่านผ่านตาบ้าง เวลาว่างกลับไม่เอื้อเกื้อคำขาน ได้ชื่นชมสมอุรามาช้านาน ช่างแสนหวานกลอนรักสลักใจ นับแต่จดหมายฉบับที่ห้าอุราหนาว เหินห่างสาวขวัญน้องผู้ผ่องใส เพียงพลิ้วเพลินกมลอยู่หนใด หนึ่งหทัยพี่หวนหาสุดาดวง คิดถึงกันวันละนิดมิ่งมิตรแก้ว ตระหนักแล้วแววฝันรำพันห่วง ทิวากาลผ่านราตรีวลีลวง ละเลยช่วงกลอนหวานสำราญคำ หยุดหลายวันฝันถึงดาวสกาวฟ้า เหนือภูผาดาดาวพริ้งพราวฉ่ำ น้ำค้างย้อยหยาดฟ้ามาพรมพรำ ได้ดื่มด่ำธรรมชาติอากาศดี ชวนเพื่อนพ้องท่องภูสู่ผาสวย อุดมด้วยพืชพันธุ์เฉดสันสี นั่งตกปลาบนเรือพายร่ายกวี ครั้นราตรีนอนกางเต็นท์เ
***ลำนำ*** ***บรรพตวิทยาบ้านผาตั้ง เมื่อก่อนครั้งเป็นครูเคยอยู่สอน สมัครรักปักไว้ให้บังอร แต่สะท้อนที่อกพกเพียงลม คิดถึงรักหักไว้ก็ไม่ลืม เคยคิดปลื้มปลูกไว้หวังได้สม แต่นุชน้อยลอยเลื่อนเชือนตามลม เก็บขื่นขมขังไว้ไร้นางเรียง*** ***บรรพตวิทยาศึกษาสถาน อยู่อำเภอเวียงแก่นแดนกันดาร ติดเพื่อนบ้านลาวรัฐสังคมนิยม ใกล้เชียงของผองชนวกวนเที่ยว ขึ้นเขาคดลดเลี้ยวเหลียวสุขสม ภูชี้ฟ้าผาตั้งหวังชิดชม คนนิยมชวนกันสัญจรมา ปีนสิงขรจรโขดโลดขุนเขา ชมลำเนาน้ำโขงไหลโค้งขด ขุนเขาเหลื่อมเชื่อมกันงามหลั่นลด มองโขงคดเคี้ยวหายลับสายตา ตะวันรอนอ่อนแสงแดงเด่นงาม ลาเขตคามขุนเขาเหล่าพฤกษา ลับวงกตบรรพตวิทยา ความมืดมาทอดทับให้หลับนอน หมู่ครูดอยหงอยเหงาเผ้าบ้านพัก คำนึงรักเคยเคล้าแต่เก่าก่อน มาอยู่เดียวเปลี่ยวนิทราอาลัยวอน ต้องกอดหมอนนอนนึกตรึกตรอมทรวง เดือนธันวาหน้าเหมันต์สั่นเหน็บหนาว เป็นคราคราวเจ็บจนบนเขาหลวง เสือโคร่งออกดอกเห็นงามเด่นดวง คนทั้งปวงชมเล่นเป็นบุญตา อากาศเย็นเป็นนิจเนื้อเหน็บหนาว ต้องนอนยาวเอาผ้าห่มถมกายหนา เมฆหมอกมัวซัวเขาเคล้ากายา ใส่เสื้อผ้ากันหนาวเหงาอารมณ์ โรงเรียนอยู่สันโดษโขดกันดาร นักเรียนเพียรเขียนอ่านขับขานขรม เคยเป็นครูอยู่สถิตพินิจชม เพียรเพาะบ่มศิษยามาสองนาน สอนนักเรียนเพียรรุดวุฒิอุดม ให้ชื่นชมฝึกฝนจนแตกฉาน หวังเติบใหญ่ได้ดีมีกิจการ มีหลักฐานเด่นดัดพัฒนา เด็กเผ่าม้งพงศ์เย้าเขาขันติ น่
คิดถึงเธอที่รักสุดหักห้าม สุดฟ้าครามคะนึงหาขวัญตาเจ้า อยู่แสนไกลห่วงนักรักของเรา ห่วงแต่สาวจะลืมพี่ที่รอคอย ก่อนจะนอนเปิดดูภาพประทับจิต โอ้มิ่งมิตรสุดสวยจงช่วยหน่อย ช่วยคิดถึงพี่นะอย่าสำออย ใจดวงน้อยพี่นี้เต้นถี่แรง ดูผิวขาวตาตี่หวีผมสั้น เธอยิ้มหวานมองหากล้องจ้องหาแสง ทั้งหูตาหน้าผากปากสีแดง สวยจากแหล่งธรรมชาติสะอาดตา หากเหมือนใครในที่นี้ขอโทษด้วย เพราะภาพสวยใสแท้แน่หนักหนา เครื่องสำอางนิดหน่อยค่อยค่อยทา ทั้งใบหน้าหวานนักรักน้องจัง
เสียงฟ้าฝนกระหน่ำยิ่งย้ำเหงา คิดถึงเขา...ใครหนึ่ง...ซึ่งห่วงหา อุปสรรคหนักเพียงใดใจอย่าล้า หากเมื่อใด...ฝนซา...ฟ้าสดใส... ค่ำคืนนี้เสียงฝนพร่ำกระหน่ำหนัก เจ็บปวดนักคอยเศร้าเหงาหวั่นไหว ทอดอารมณ์ อาวรณ์ พาลอ่อนใจ เพ้อห่วงไป...ยามท้อ...กลัวพ้อกัน... หว่างวิถีคงตรากตรำแสนลำบาก จึงคอยฝาก...แรงใจอย่าไหวหวั่น หัวใจเดิม รู้สึกเดิม เพิ่มคงมั่น หวังกำนัล...มอบเสนอ...เธอคนดี... หากก้าวไปเกิดท้อวอนขอไว้ อย่าหวั่นใด...อาจมีบ้างหว่างวิถี โปรดอดทนเข้มแข็งแรงใจมี บางใครที่ห่วงหาโปรดอย่าเหงา... หากวันใดอ่อนล้าจนพร่าขม หว่างทางล้มทุกข์โหมมาโรมเร้า อยากขอเพียงสักนิดคิดถึงเรา ยามใดเหงา...ผ่อนคลายระบายมา... อยากบอกว่า ยังคิดถึง ตราตรึงจิต หว่างชีวิต ที่เป็นไป ใจห่วงหา อยากรับรู้ ความเป็นไป ในทุกครา วันเจ็บเศร้าโปรดรู้หนาว่า"ห่วงใย" ค่ำคืนนี้เสียงฝนพร่ำกระหน่ำหนัก เจ็บปวดนักคอยเศร้าเหงาหวั่นไหว ทอดอารมณ์ อาวรณ์ พาลอ่อนใจ วอนคนไกล...หากท้อ...อย่าพ้อกัน... ปล. เหงาก็โทรมาระบายให้ฟังได้ทุกเรื่องราว.... หรือมีทุกข์อยู่ก็ให้ส่งข่าว เผื่อจะคลายเหงาในยามที่ไกล อดทนหน่อยนะขอให้ทำงานด้วยความตั้งใจ.... จะส่งความคิดถึงไปให้คืนนี้จะได้หลับนอนฝันดี....
ความรัก...ความสมหวัง...ความเสียใจ ทุกอย่างเป็นสิ่งคู่กัน รัก...สมหวัง ก็ทำให้มีความสุข รัก...ผิดหวัง ก็ทำให้เสียใจและมีความทุกข์ สำหรับฉัน... ถ้าต้องผิดหวังกับความรัก แม้มันจะเจ็บปวด แต่..ฉันก็จะพยายามคิดว่า เพราะเราไม่ดีเอง ที่ไม่สามารถดูแล เอาใจใส่ เค้าให้ดีกว่านี้ ผลสุดท้าย.ความรักก็เลยจบลง แต่ มันก็คงยากที่จะลืมนะ... เพราะเป็นรักแรกของฉัน ที่ฉันทุ่มเทมาก แม้ว่าอาจไม่ได้แสดงออกก็ตาม ตอนนี้..สิ่งที่ทำได้คือ.. ดูแลและรักตัวเองให้มากขึ้น.. ให้กำลังใจตัวเองและทำใจให้เข้มแข็งขึ้น..เท่านั้น สำหรับเค้า... ไม่ว่าเหตุผลของการจากลาจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม ฉันก็ขอให้เค้าโชคดี มีความสุขกับรักครั้งใหม่ ..ขอให้คนนั้นรักเค้าเท่าที่ฉันรัก ..ขอให้คนนั้นเอาใจ ใส่ใจ และดูแลเธอให้มากกว่าฉัน ..ฉัน ขอไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบบ้างบางครั้ง ..ฉัน ขอคิดถึงเธอด้วยความห่วงใย แค่นี้ก็คงไม่มากเกินไปนะ สำหรับคนที่ชื่อว่า "แฟนเก่า" ความรักของฉัน คือการให้อภัย และ ต้องการให้คนที่เรารักมีความสุข แค่นี้..ก็พอใจแล้ว
ดั่งพลิ้วแพรไหวพร่างอยู่กลางห้วง สไบดาวห่มดวงระยับสี เมฆาเคลื่อนรอยผ่านม่านมณี ทิพย์กวีแผ่วประโลมโฉมสะคราญ หลับอยู่ห้วงดาวดวงใดใจดวงน้อย ฟังเถิดถ้อยอาวรณ์อันอ่อนหวาน ร่ายบรรเลงเพลงดิถีราตรีกาล ขับกล่อมเจ้าเยาวมาลย์ สุดที่รัก สุขคติแห่งหนใดที่ไหนเล่า พอดับเศร้าในทรวงอันหน่วงหนัก จะเปลื้องกรรมน้ำตาสามิภักดิ์ ปลอบโยนการทายทัก ของหัวใจ งามช้องนาง ผมแม่แลช่างม้วน เคล้ารัญจวนกลิ่นจำปาคราลมไหว ประทับซึ้งเสน่หาหวนอาลัย ยามจากไกลห้วงถวิลร้าววิญญาณ์ เจ้าหลับอยู่ดาวดวงใดใจดวงนั้น หรือหลับไหลในนิรันดร์ปรารถนา ฝากรอยยิ้มที่อาบด้วยคราบน้ำตา แทนถ้อยคำอำลา เธอผู้เป็นที่รัก .. โดยคำ ลานเทวา ในโอกาส ครบรอบสองปีที่เธอได้จากไป .... !!
อยู่ห้วยกุ่มร้อนเร่าให้เฝ้าคิด จะฝากจิตฝากใจใครได้หนอ เฝ้าแต่คิดเฝ้าแต่หวังเฝ้าแต่รอ มีใครหนอให้ความหวังดั่งตั้งใจ นั่งเคียงคู่ดูดาวพราวกระจ่าง อยู่เคียงข้างที่นี่ไม่ไปไหน อยู่ด้วยรักอยู่ด้วยหวังดั่งตั้งใจ วาเลนไทน์จะส่งใจไปให้เธอ ศิริพัฒน์ เกตุแก้ว เจ้าหน้าที่ส่งเสริมและเผยแพร่ สถานีพัฒนาและสัตว์ ในห้วยกุ่ม ขอชีวิตงดงามตามที่ฝัน ขอทุกวันเป็นวันอันสดใส ขอทุกก้าวคือก้าวที่มั่นใจ ขอวันใหม่ก้าวไกลไปกว่าเดิม ขอเวลาที่เหลืออยู่ตรงนี้ ขอเพียงเสี้ยวนาทีที่ฮึกเหิม รักษาอนุรักษ์ป่าไม้มากกว่าเดิม ช่วยส่งเสริมผูกพันธ์วันมีเรา แด่ ..ป่าไม้และขุนเขา มหา ณ.ห้วยกุ่ม ผช. งานส่งเสริม เป็นคนปลูกต้นไม้ในดวงจิต สร้างชีวิตการอนุรักษ์ให้สดใส ช่วยกันสร้างช่วยกันทำอย่างร่วมใจ ให้ป่าไม้สัตว์ป่าอยู่คู่แผ่นดิน พี่ใบคาน ห่างไกลสักเพียงไหนก็ยังห่วงใยเสมอ ไม่จำเป็นต้องพบเจอขอเพียงเธอไม่ลืมกัน พี่โต้ง ป่าไม้ อย่าเพิ่งท้อแท้แม้หนทางยังว่างเปล่า อย่าเพิ่งเศร้าแม้ว่าเรายังทุกข์เข็ญ อย่าเพิ่งโกรธแม้ว่าเรายังลำเค็ญ อย่าทุกข์เข็ญและท้อต่อชตา จงตั้งใจฝันให้ไกลไปให้ถึง แล้ววันหนึ่งความสำเร็จจะมาหา เพราะความเพียรไม่เกี่ยวกับโชคชะตา อุปสรรคเป็นบทเรียนมีค่า ฝ่าฟันไป พี่อาร์ม ป่าไม้ ตั้งใจมาร่ำดีกรีที่ห้วยกุ่ม แต่ต้องกลุ้มหัวใจกระไรนี่ ด้วยสุราสองขวดที่พกมาไม่พอดี รินสองทีก็หมดขวดแสนปวดใจ หวังไ
ก้าวเดินตามมรรคาประสาอยาก สู้ลำบากอดทนดิ้นรนอยู่ วันข้างหน้ามิอาจจะคาดรู้ เพียงเฝ้าดูปัจจุบันงานและเรียน ความเปลี่ยนแปลงแบ่งใจให้คิดต่าง มีหลายอย่างต้องรู้ดูอ่านเขียน อีกต้องปรับปรุงใหม่ใจพากเพียร เพือเท่าทันการเปลี่ยนหมุนเวียนไป ถามความคิดจิตนั้นยังฝันต่อ อาจมีท้ออยู่บ้างตั้งต้นใหม่ หนทางเคยเที่ยวท่องต้องจากไกล ต้องปรับใจปรับตนบนมรรคา อะไรเคยเอ่ยเอื้อนเตือนใครเขา วันนี้เฝ้าน้อมนำย้ำคุณค่า เตือนตนด้วยอวยชัยในเวลา สู้เสาะหาฝั่งฝันหว่างวันคืน คิดถึงบ้านนานเนิ่นที่เดินจาก ดวงใจอยากหวนกลับรับเช้าตื่น ลืมตาเห็นเย็นใจได้กลับยืน หวนหลังคืนสู่ไทยในบัดดล ความเป็นจริงที่เห็นและเป็นอยู่ รุ่งเช้าตรู่เข้างานนั้นอีกหน บ้างเข้าเรียนเปลี่ยนรับปรับกมล เพื่อฝึกตนต่างถิ่นถวิลครวญ Des Moines, WA September 27, 2551
ความทุกข์ร้อนผ่อนคลายหายหนักหน่วง ทุกข์ทั้งปวงสลายไปใครรักษา ร่มโพธิ์ใหญ่ที่ยืนต้นตลอดมา คอยเยียวยาทุกข์ทั้งหลายในใจเรา จากไปแล้วเหมือนดวงแก้วดับสนิท เกือบขวบปีที่ดวงจิตลูกอับเฉา คิดถึงพ่อคิดถึงแม่แอบอกเอา อุ่นไอรักเมื่อทุกข์เร้ารุมรอบตัว จะลุกนั่งเดินยืนสะอื้นไห้ ทั้งแม่พ่อจากไปแล้วทูนหัว คอยยิ้มให้ปลอบขวัญมิหวั่นกลัว เหลียวหาทั่วไม่เห็นเงาเฝ้าอ่อนใจ หนึ่งปีแล้วที่แม่จากลำบากจิต หนึ่งปีแล้วที่พ่อทิ้งลูกไปไหน ได้แต่คร่ำครวญหาด้วยอาลัย พ่อคลาไคลลาลับไม่กลับมา อุทิศบุญส่งผลบุญนำไปให้ ได้รับแล้วหรือไม่แม่พ่อจ๋า อุทิศกายอุทิศใจทุกครั้งครา เกิดชาติหน้าฉันใดได้พบกัน
คอยแอบมอง แอบชอบ แอบคิดถึง เผ้ารำพึงคิดถึงเธอหนา อยากเจอหน้าเวลาอยู่ห่างไกล เพราะหัวใจฉันมีแต่เธอ
เสียงจากใจได้ยินไหมว่าคิดถึง คนเคยซึ้งที่ห่างหายมลายฝัน คนที่หลอกให้สัญญามาลืมกัน คนที่ฉันยังรักมั่นไม่ผันแปร ขอใช้สิทธิ์คิดถึงเธอด้วยใจรัก แม้ไร้สิทธิ์จะทายทักรักมีแผล ขอเคียงข้างด้วยหางตายามเธอแล คงแล้วแต่โชคชะตาฟ้าปราณี เสียงของใจกระซิบแผ่วแว่วลมล่อง เป็นเสียงร้องของหัวใจตามวิถี ร้องเรียกหารักนางร้างจางเป็นปี ถึงคนดีที่หายลับไม่กลับมา เบอร์โทรเก่าโทรไม่ติดปิดตอบรับ เบอร์ใครทับเลขเบอร์เดิมเติมใจหา ส่งเสียงบ้างอย่าเงียบหายยามไกลตา ปราถนารักกลับมาสัญญาเรา เสียงหัวใจหญิงคนเศร้าเฝ้าใจหม่น กรรมของคนรักเขาจริงทิ้งให้เศร้า เสียงเรียกร้องของหัวใจมานานเนา ว่ารักเขาคิดถึงเขาเฝ้ารอคอย................
ที่จากไปห่างไกลลับสายตา ยังห่วงหาอาวรณ์ถึงตัวพี่ แม้นจักผ่านกี่เดือนหรือกี่ปี ใจดวงนี้มิเคยแปรตามเวลา วันเวลาแม้นลบเลือนความโกรธแค้น แต่รักแน่นเต็มดวงใคร่ควรญหา ยังคงภักดิ์และจงรักภัสดา แม้นพี่ยาเลือกที่จะเปลี่ยนคนนอน จากสัปดาห์เลื่อนเป็นเดือนเคลื่อนเป็นปี แต่น้องนี้ยังคำนึงมิถอดถอน พยายามตัดใจให้พ้นอาวรณ์ แต่ยากถอนเยื่อใยรักที่มัดใจ ทุกทุกวันเปรียบเสมือนไร้อารมณ์ มิสุขสมขมขื่นจิตยากแก้ไข มีเพียงรักที่ชอกช้ำระกำใจ คอยหวลไห้ทุกโมงยามคราคำนึง รักรักรักพี่ได้ยินบ้างไหมหนอ คิดแล้วท้อเพราะพี่มีคนคอยซึ้ง เบื่อน้องแล้วจึงทอดทิ้งให้พรั่นพรึง กับวันซึ่งไร้พี่ยาประโลมใจ วาสนาของสองเราคงไม่สิ้น บนฟ้าดินอย่าให้พรากจากไปไหน ขอให้พี่กลับตัวและกลับใจ หวนคืนใจมิปันให้หญิงใดเลย
...ศรีศรีศรีมิ่งแก้ว ศรีสุดา ปานหยาดทิพย์นภา พร่างพร้อย คืนชีพชุ่มสุขา นาแม่ จากแม่ยังโศกสร้อย บ่ได้ลืมเลือน ฯ ...สถิตย์เสถียรแผ่นฟ้า รมย์สวรรค์ สุขแห่งวิมานอัน เพริศพริ้ง คิดถึงแม่ทุกวัน เวลา จริงเฮย ภาพแม่ตระหง่านหิ้ง แห่งข้าคือครู ฯ ครบรอบ ๒ ปี แห่งการจากไปของ "นักร้องเสียงมะดันดอง" ผู้มีนามว่า "ศรีสุดา รัชตะวรรณ" อดีต - หัวหน้าฝ่ายบันเทิงกรมประชาสัมพันธ์ - นักร้องยุคกลาง อันเป็นเอกลักษณ์ของ "สุนทราภรณ์" - หัวหน้าวงดนตรี "สังคีตสัมพันธ์" ปัจจุบัน - ศิลปินผู้ล่วงลับ ที่ผลงานและชื่อเสียงเป็นมรดกแห่งชาติ - แบบอย่างที่ดีของนักร้อง นักดนตรีรุ่นใหม่ - แบบอย่างการร้องเพลงที่ข้าพเจ้าศึกษา และชื่นชอบ ยกย่องให้ท่านเป็น "ครู" ของข้าพเจ้า ฯลฯ