ครูครับครู ผมดื้อ ผมซนนัก ครูก็รัก อบรม และสั่งสอน ครูครับครู ผมหนี ไปเล่นฟุตบอล ครูยังต้อน ไล่ตี ให้เข้าเรียน หวนนึกถึง วันเก่า วันเรียนจบ วันเรียนครบ หลักสูตร การอ่านเขียน จบประถม ตอนปลาย จากการเรียน ครูยังเตือน พร้อมอวยพร ให้ได้ดี ครูครับครู ครูเหนื่อย ใช่ไหมครับ ตอนวิ่งจับ ลูกศิษย์ ดื้อคนนี้ ผมขอโทษ ครับครู ผู้อารี ศิษย์คนนี้ ยังรำลึก ในพระคุณ หากแม้นไม่มีครูในวันนั้น ที่คอยปั้นปรุงแต่งและเกื้อหนุน คอยอบรมสอนสั่งอย่างการุญ เพื่อค้ำจุนชีวิตศิษย์เป็นคนดี ครูครับครู คิดถึง ครูยิ่งนัก อยากกราบครูที่ตัก บอกรักเต็มที่ แต่อยู่ไกลแสนไกล ทำไงดี เห็นจะมีเพียงจดหมายส่งถึงครู หยิบปากกามาเขียนกลอนจากใจ ส่งมาให้ได้อ่านได้รับรู้ พร้อมมาลาพวงน้อยร้อยเป็นคู่ มาไหว้ครู ด้วยเคารพรักจริงใจ... ฝนทอง ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๓
ใจสั่นเทาเสียงรอสายปลายทางมีคนรับ ฮัลโหล!!..สวัสดีครับ หลับหรือยัง จำผมได้ไหม รบกวนรึเปล่า แค่คิดถึง ไม่คิดทบทวนเรื่องราวหัวใจ โทรหาบ้างได้ไหมบอกคนใกล้ๆแค่คนยังห่วงใยโทรมา ใจมันหายไปลับตาที่ต้องใช้คำว่าเราโดยลำพัง ห่วงใยเธอจัง สบายดีหรือเปล่า กับเขายังดีอยู่ไหม ฝากขอโทษคนของเธอ กับการที่ฉันไม่อาจหักห้ามใจ ยังไม่ชินกับการไม่มีใครโปรดอภัยถ้าโทรไปรบกวน หัวใจคล้องโซ่มัดตรวนเดินผ่านมุมเดิมมุมเก่า ภาพของเรามันรุมเร้าทำเหงาใจต้องโทรหา บอกคนใกล้ๆเธอ แค่คนเคยรักที่ยังผูกพันโทรมา ไม่คิดจะย้อนเวลา แค่ห่วงใยจึงโทรหา อย่าว่ากัน
o อยากฝากดาว ฝากไป บอกให้รู้ ว่าพี่อยู่ ในใจ มิไกลห่าง ยังคงรัก ภักดี มิจืดจาง อยู่ในทาง แห่งรัก เรื่อยเรื่อยไป o แม้ดวงดาว ดวงน้อย พลอยระยิบ แสงกระพริบ เพียงนิด สะกิดไหว ยังคงพริบ ริบริบ ข้างในใจ ไม่เคยมี วันใด จะคลายคลอน o ความคิดถึง ที่ส่งถึง นั้นมาถึง ใจดวงหนึ่ง รับไว้ ไม่มีถอน รักเพียงเธอ ไม่เผลอ เหม่ออาวรณ์ รักบังอร ทุกวัน มั่นเพียงเธอ o มิเพียงแต่ แค่รัก ที่มีให้ ทั้งชีวิต พลีได้ ให้เสมอ เพียงรักจาก หัวใจ ได้จากเธอ มิอยากเจอ รักใหน ใดอีกเลย o สรุปความ ตามกล่าว เล่าทั้งหมด มิอาจจด คำรัก ที่เฉลย บอกได้แค่ รักมาก ที่สุดเลย ดวงดาวเอย โปรดเคียงฝัน ฉันจนตาย..
ตะวันล้าลาลับกับโค้งฟ้า หวั่นผวาคราไกลหัวใจเอ๋ย สงสารนักรักเราที่เฝ้าเชย จำใจเอ่ยคำลาด้วยอาลัย ตาสบตาครากล่าวถึงคราวจาก เพราะรักมากยากข่มอารมณ์ไหว กลืนน้ำตาบ่ารินแทบสิ้นใจ รักกว่าใครใจข่มยอมตรมตรอม เถอะเมื่อถึงซึ่งพร้อมยอมจำนน ที่ทุกข์ทนพ้นสิ้นเหลือกลิ่นหอม ยอมถอยร้างห่างไกลใช่ยินยอม รักถนอมออมไว้เพียงใจเรา รักยังคงตรงมั่นในฝันสวย รักยังช่วยด้วยห่มเพื่อข่มเหงา รักยังแรงแฝงเร้นเห็นเพียงเงา รักยังเฝ้าดูแลแม้ห่างไกล จูบประทับรับไว้เพียงใจนี้ ล้านวจีบันทึกผนึกไว้ ห้วงคิดถึงตรึงจิตสนิทใน ทุกห่วงใยบันทึกจารึกรอย ตะวันล้าลาไกลจำใจฝืน เก็บรักคืนตื่นตนจำร่นถอย ส่งเขาคืนชื่นรักที่จักคอย เก็บเพียงถ้อย...;ร้อยไว้...ในสัญญา ภาพถ่ายจากโรงแรมแอมบาสเดอร์หาดจอมเทียนพัทยา วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๓ ครูพิม ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๓
๐ เฝ้าคำนึง คิดถึง และโหยหา โอ้กานดา น้องรู้ อยู่บ้างไหม ไม่เห็นหน้า คิดถึง สุดหัวใจ หวังเพียงให้ ขวัญใจ ได้รับรู้ ๐ ยามตื่นเช้า ใจพี่ นี้คิดถึง สายคำนึง ถึงรัก อยากเคียงคู่ บ่ายยามนี้ พี่คิดถึง แต่โฉมตรู หวังเพียงรู้ น้องนั้น เป็นฉันได ๐ โอ้ยามเย็น เย็นย่ำ พร่ำถึงเจ้า หัวใจเรา นี้หนอ เป็นไฉน ค่ำแล้วค่ำ ยังจำ อยู่ในใจ มีไหมใคร เป็นอย่าง ที่ฉันเป็น ๐ ฟังดูเหมือน นิยาย คล้ายคล้ายเน่า ก่อนนั้นเรา มิสิ้นทาง อย่างที่เห็น ไม่เคยคิด จมรัก อย่างที่เป็น ช่างยากเย็น รักหนัก ยากนิยาม ๐ เช้าโทรหา อนิจจา โทรไม่ติด ช่างหงุดหงิด ในใจ ได้แต่ถาม โอ้คนดี เป็นอย่างไร อยากรู้ความ น้องคนงาม แกล้งพี หรืออย่างไร ๐ โปรดเถิดหนา โปรดมา รับสายพี่ ไม่ได้ยิน เสียงคนดี ทนไม่ไหว ได้แต่ฝาก กลอนผ่าน บ้านกลอนไทย หวังวอนให้ น้อง.....จ๋า อย่าหมางเมิน (ฝากเติมคำในช่องว่างให้ด้วยนะ) 08/03/53 10:00
๐ เปิดประตู บ้านกลอน นอนรอฝัน คิดถึงเขา คนนั้น อยู่หนใหน คนคนหนึ่ง พึงผ่าน มาข้างใน เคาะประตู ห้องใจ ก่อนหลับตา ๐ เปิดประตู รอไว้ ไม่คิดปิด หวังมีคน เคียงชิด เสน่หา ก่อนนอนนึก ถึงเขา ทุกเวลา เพียงหวังว่า กานดา มาสู่ใจ ๐ เฝ้ารอคน คนหนึ่ง ที่พึงผ่าน มาทักกัน พลันเปิด ประตูไว้ ไม่ต้องเคาะ ร้องเรียก แต่อย่างไร ประตูใจ เปิดไว้ ให้เข้ามา ๐ หากมีใคร คนนั้น ผ่านมาแล้ว มีวี่แวว คือคน ที่โหยหา เข้ามานั่ง เคียงอยู่ คู่กายา ทุกเวลา คงสุข หมดทุกข์คลาย ๐ เข้ามาแล้ว จะปิด ประตูแน่น ในดินแดน ที่สอง เรามั่นหมาย ปิดประตู บานนั้น มั่นมิคลาย เพียงสองกาย กิ๊กกัน ในบ้านกลอน 04/03/2553 10:00
ความคิดถึงเดินทางระหว่างรัก ส่งไปทักทายใจใครคนหนึ่ง ฝากข้อความเอาไว้ให้คำนึง อาจไม่ซึ้งมากนักแต่รักจริง เพราะกายห่างทางรักจักขอฝาก มันไม่ใช่เรื่องยากจากใจหญิง คอยโน้มดาวพราวฟ้าอย่าประวิง ช่วยไปวิ่งกลางใจใครอีกคน ความคิดถึงประมาณค่าหามิได้ มันแทรกซึมอณูใจไร้เหตุผล จะกินนอนตอนไหนใยร้อนรน อยากเจอจนไข้ขึ้นสะอื้นทรวง อาจสะดุดไปบ้างระหว่างส่ง แต่ยังคงหอบมาว่าแสนห่วง พร้อมดอกไม้ช่อสวยด้วยเดือนดวง ร้อยเป็นพวงหัวใจใส่..รักมา ความคิดถึงดึงกลับจับไม่อยู่ ลอยไปสู่ห้วงรักปรารถนา ส่งไปแล้วแว่วเสียงพิมญดา กระซิบว่า..คิดถึงจัง..ฟังไหมเธอ
ความคิดถึง เดินไป ตามสายเสียง ยินสำเนียง คนรับ ให้สุขขี เป็นสัญญาณ คิดถึง น้องคนดี ส่งถึงที่ คนรับสาย ที่ปลายทาง ตื่นตอนเช้า คิดถึง จึงโทรหา เพียงยินเสียง กานดา พาสุขขี สายอีกนิด คิดถึง ทุกนาที จึงโทรหา คนดี อีกสักครา เที่ยงแล้วหนอ น้องคง รอพี่อยู่ จึงเหลือบดู มือถือ อีกแล้วหนา หยิบมาแล้ว กดเบอร์ น้องกานดา แล้วกระซิบ บอกว่า คิดถึงเธอ ยามบ่ายคล้อย ยังพลอย เห็นหน้าเจ้า หัวใจเฝ้า คิดถึง น้องเสมอ บ่ายโทรหา บอกว่า ฉันรักเธอ ยังมิเผลอ กดเบอร์ อื่นเบอร์ได เย็นแล้วหนา เลิกงาน มากลับถึงบ้าน โทรหากัน ว่าที่รัก อยู่แห่งใหน ก่อนหลับตา โทรกระซิบ ผ่านหัวใจ กล่อมเธอให้ สดับ หลับฝันดี ที่ผ่านมา ขอบคุณ โปรโมชั่น โทรหากัน สบาย ได้ทุกที่ หากโทรหา ไม่เกินหก สิบนาที ค่าโทรฟรี จึงโทรกัน ทั้งวันเลย.. (.....รักนะครับ......)
จากวันพบประสบรักพักใจน้อย ยังเฝ้าคอยคนไกลใฝ่คิดถึง อยู่เมืองใหญ่วุ่นวายคลายคำนึง เสียงสุดซึ้งโทรหา..มาจำนรรจ์ เหนื่อยมากไหมคนดีที่ไกลห่าง หากหนทางยากไร้ไม่เหมือนฝัน หากความเหงารุมเร้าเฝ้าโรมรัน อย่าไหวหวั่นอันใดใจมีเธอ เธอโทรมาปลอบขวัญชวนยิ้มหวาน จึงเขียนกลอนอยู่บนลานอยู่เสมอ ยามเหนื่อยล้าจากงานอ่านมาเจอ ยังไม่เผลอรับสายหมายเลขใด ก่อนนิทราโทรอ้อนวอนรักอิ่ม รับสายยิ้มทุกครั้งยามหวั่นไหว ด้วยสองเราต่างเติมเสริมแรงใจ แม้ปีเดือนเคลื่อนไปใช่ร้างลา ยังคอยอยู่ตรงนี้ที่เพียงดาว สายลมหนาวห่มใจไว้ปลายฟ้า ยังคงรักคิดถึงคนโทรมา เก็บสัญญาใส่กลอน.ซ่อนอย่างดี
*ขอโทษที่คิดถึงคะนึงหา เพราะรู้ว่าไม่คู่ควรให้ชวนฝัน แค่คนแอบเหงาบ้างในบางวัน ความสำคัญคงน้อยด้อยราคา *ในวันที่แสนเหนื่อยจนเมื่อยขบ อยากจะพบบางคนเคยบ่นหา อยากอยู่ใกล้ชิดชมสมอุรา อยากจ้องตาเป็นมันทุกวันไป *วันที่เหม่อและหม่นระคนเศร้า ได้แต่เฝ้ามองดาวพราวไสว คิดถึงเรื่องร้อยราวแสนยาวไกล เรื่องที่ทำให้ใจ....ได้แต่รอ *อยากรู้ว่ามีไหมที่ใฝ่ฝัน คิดถึงฉันคนไกลที่ใจฝ่อ เพราะกลัวว่าฉันนี้ดีไม่พอ เธออาจส่อแววตาอำลากัน *หรือฉันเหงาเกินไปจึงได้คิด ถึงชีวิตคนเรามียาว-สั้น ยากแค่ไหนใจสองใจใฝ่สัมพันธ์ หากฟ้าคั่นขีดกลางอาจวางมือ *แต่ฉันขอรอคอยไม่ปล่อยปละ รู้เถิดนะพูดจาประสาซื่อ มิใช่คำลวงเล่นเช่นข่าวลือ ด้วยยึดถือจริงใจ...ไว้ต่อรอง *อาจเป็นคำบ้านบ้านไม่หวานหู ที่หวังอยู่คู่เคล้าเพียงเราสอง ไม่ขอมีหมื่นใครมาหมายปอง จะขอจองน้องนาง....คนห่างไกล *อยากขอโทษ....หากโกรธเคืองในเรื่องนี้ เรื่องที่พี่แอบฝันจนหวั่นไหว ไม่อาจห้ามความคิดในจิตใจ จึงขอให้รู้ว่า...ไม่กล้าลืม
"พรหมลิขิต"ขับเคลื่อนเสมือนดล เพียงหนึ่งคน...ผูกพันลงมั่นแล้ว ชื่นคำฝากพลันเกิดรักเพริศแพร้ว มิหมายแคล้วเลิกร้างระหว่างกัน... แม้ว่าอยู่ที่ไหนใจคิดถึง มีเพียงหนึ่งคอยอยู่เคียงคู่ขวัญ ด้วยเหตุผลคือรักตระหนักมั่น ผูกสัมพันธ์...ดำรงอสงไขย... นำรอยยิ้มพิมพ์ใจให้มาสู่ ชี้พธู...พบทางสว่างไสว ได้รู้จักการมอบรักตอบไป เปิดหัวใจยอมรับกับวันวาน... ปรารถนาดีจากใจของใครนี้ ด้วยไมตรีนานนับยังขับขาน ถักสายใยบรรเลงสู่เพรงกาล ให้ดวงมาลย์ภิรมย์นัยคมคำ... หมายฝากนัยทาบถึงเพียงหนึ่งนั้น ในสัมพันธ์ยังถวิลหอมกลิ่นร่ำ จารรู้สึกจรดลงเพื่อทรงจำ โดยชอบธรรมด้วยใจมอบให้ครอง...
แว่วเสียงแคนเอิ้นลูกหลานอีสานเฮา หัวใจเหงาอยากคืนถิ่นแผ่นดินแม่ หอมรักอุ่นกรุ่นหอมกล่อมดวงแด คึดฮอดแท้แม่พ่อผู้รอคอย คึดฮอดความมีน้ำใจได้เอื้อเฟื้อ คอยช่วยเหลือเติมใจไม่ท้อถอย อยู่ป่าเขาแดนไกลในดงดอย งานไม่น้อยเลยหนอพ่อแม่ทำ คำแม่สอนก่อนจากทุ่งสู่กรุงใหญ่ อดทนไว้ใฝ่ฝึกฝนเช้าจนค่ำ ให้สัตย์ซื่อถือสัตย์วัดใจทำ กตัญญูงามล้ำธรรมคุ้มครอง คึดฮอดบุญเดือนสี่งานจี่ข้าว คิดฮอดคราวบุญปั้งไฟได้เที่ยวท่อง คึดฮอดงานไหลเรือไฟในครรลอง โขงไหลล่องประครองส่งกระทงลอย คึดฮอดเด้ธาตุพนมคราก้มกราบ ใจอิ่มอาบคราพ้อท้อละห้อย พระธาตุศรีสองรักสมัครคอย อีกธาตุก่องข้าวน้อยคอยย้ำเตือน คึดฮอด..ลาบขมอีกต้มแซบ ขนมแหนบแองอิงใจอุ่นใดเหมือน แกงหน่อไม้ใส่ย่านางคราห่างเรือน คอยย้ำเตือนให้คืนบ้านอีสานเฮา คึดฮอดป่าคราฝนคนหาเห็ด อ้ายบ่าวเพชรเคยเคียงใกล้ไล่ความเหงา อีกหน่อไม้เคยดองด้วยสองเฮา อ้ายรบเร้าให้คืนนาตาซอนแลน คึดฮอดพ่อคึดฮอดแม่หลายแท้หนอ เคยเคลียคลออุ่นใจในอ้อมแขน ยินเสียงเพลงพิณแผ่วแว่วเสียงแคน อยากกลับแดนอีสาน..เมือบ้านเฮา… คึดฮอดอ้ายคนดีที่แสนฮัก ข้อยฟูมฟักฮักไว้อย่าได้เหงา อีกหกวันพ้อหน้าอย่าซึมเซา… ที่ใต้เหง้า….หมากขาม….ตามสัญญา….เด้อ ครูพิม ๔ ก.พ. ๒๕๕๓
ฟังรำพันอบอวลทวนลมซับ ขอน้องกลับคืนเหย้าเฝ้าห่วงหา รอยรักกรุ่นอารมณ์ตรมวิญญา สัมผัสพาตรึงจิต..คิดมิคลาย อ้อมกอดพี่ฤดีไหวใจเสมอ บางคืนเพ้อโศกซมตรมไม่หาย ยังไม่ลืมอ้อมแขนแนบหนุนกาย รักจากชายชื่นชูอยู่ทุกยาม จากมาหลายเพลาน้ำตาร่วง น้องแสนห่วงพี่ยาอย่าเหยียดหยาม แขนของใครไหนเลยจะเกยตาม พี่อย่าถามช้ำชอกยอกย้อนทรวง กอดของใครไหนเล่าเท่ากอดพี่ ใช่หน่ายหนีพี่ไกลใยถึงห่วง ถนอมนวลเนื้อนางปานเดือนดวง เพลาล่วงคืนสู่ประตูใจ จุดใต้โคมทอแสงแรงคิดถึง ห้วงคำนึงถึงพี่มิเหลวไหล กระแจะจันทร์หอมเอยใช่เลยไกล พลีมอบให้พี่ยา..คราหอมเอย
คิดถึง คิดถึงนวลนาง ครั้งเคยเคียงข้าง ไม่ห่างไปไหน ได้อยู่เคลียคลอ ฉันก็พอใจ อิงแอบชิดใกล้ รับใช้คนดี เหนื่อยไหมยามเหงา อยากถามนงเยาว์ ที่รักของพี่ นอนดึกอยู่ใหม ห่างไกลเช่นนี้ อยากให้ชีวี ใส่ใจดูแล เคยโทรศัพท์ โทรไปไม่รับ ฉันโกรธรู้ใหม เธอบอกขอโทษ อย่าโกรธทรายวัย ไม่ได้เอาไป ทิ้งไว้ที่บ้าน อดีตวันวาน ผ่านไปไม่นาน ฉันยังจำได้ ทำงานด้วยกัน เราแสนสุขใจ อุปสรรคใดใด ต้องช่วยฝ่าฟัน ฟังเพลงที่ชอบ ที่เราเคยมอบ เคยฟังด้วยกัน สรวลเสเฮฮา พูดจาสุขสันต์ เริงร่าทุกวัน ช่างแสนสุขใจ เคยเที่ยวด้วยกัน เชื่อใหมวันนั้น ไม่เคยลืมเลือน ถ่ายรูปร่วมกัน ภาพนั้นย้ำเตือน ผ่านไปหลายเดือน ยังจำติดตา ยังจำได้ใหม เธอซื้ออะไร มอบให้พี่ยา พิณไม้สีทอง เรืองรองงามตา ยิ้มรับเริงร่า ยิ่งกว่าเงินทอง พิณพิสวาศ ช่างแปลกประหลาด เล่นให้เธอฟัง เปิดโทรศัพท์ เครื่องรับเสียงดัง ดีดไพเราะจัง เสียงพิณออนไลน์ ฉันคิดถึงเธอ อยากโทรหาเธอ ขอโทรได้ใหม อยากฟังเสียงหวาน ซาบซ่านฟทัย ทุกลมหายใจ ฉันมีแต่เธอ เธออยู่ที่ไหน โปรดรู้ว่าใคร เขารักเสมอ แต่ค่ำยันเช้า ฉันเฝ้าแต่เพ้อ อยากพบอยากเจอ แต่เธอคนดี กลับมาหาฉัน เหมือนเช่นวานวัน อย่าหลบหลีกลี้ จะเลี้ยงรับขวัญ รักมั่นกว่านี้ เห็นแก่ชีวี พี่....ศรี
นอนไม่หลับนั่งนับดาวบนราวฟ้า ยากข่มตาปล่อยจิตมิคิดถึง แสงจันทร์ส่องลงมาพาคำนึง เพียงรำพึงถึงใครใจกังวล คนทางนี้คิดถึงคนทางนั้น นั่งรำพันห่วงหาคราสับสน เหมือนยิ่งดึกยิ่งหนาวร้าวกมล เพราะกลัวคนอยู่ไกลใจลืมกัน ดาวและเดือนเคลื่อนลาอุษาสาง แต่หนทางคนคอยพลอยไหวหวั่น สายลมหนาวผ่าวพลิ้วลิ้วแสงจันทร์ คืนและวันรอรับกลับห้องใจ หยาดน้ำค้างหยาดลงตรงกลางทรวง เย็นถึงห้วงดวงมานพาลหวั่นไหว ดึกแล้วหนอรอเพ้อเจอคนไกล คิดถึงแทบขาดใจในค่ำคืน คนคนนั้นรู้สึกไหมใครคนนี้ คิดถึงทุกนาทีมิมีอื่น ดาวหลับไหลหัวใจใยกล้ำกลืน ค่ำดึกดื่นยืนคอย..รอยอาลัย
ยังเหลือเพียงรอยจางเพราะห่างไกล นานเท่าไหร่คอยเคียงแต่เพียงหนึ่ง ความผูกพัน...ทรงค่าอย่างตราตรึง นัยคำนึง...พร้อมเคียงเพียงหนึ่งชาย... บนวิถี...ก้าวไปแม้นไหวหวั่น บ้างโศกศัลย์บ้างเหงายามเปล่าดาย เพียงผินมองดาวเดือนก็เลือนหาย ได้ผ่อนคลาย "คิดถึง" ซึ่งบางใคร... เดียวดายเหงาเจ็บหนาวคราวถวิล ปล่อยดวงจินต์ปลิดปลิวลอยลิ่วไหว ลมหนาวพลิ้วพัดโชยก็โหยไห้ อยากอยู่ใกล้...อิงกายแต่ชายเดียว... เหลือหนึ่งใครเดินตามรอยความหลัง เกินข้ามฝั่งความเหงาอันเปล่าเปลี่ยว มิคลอนแคลนทรงจำย้ำแน่นเหนียว ดุจเชือกเกลียว...ผูกพันอย่างมั่นคง... ก็ตระหนัก...รักเป็น...เส้นขนาน ถูกเพรงกาลแบ่งคั้นกั้นประสงค์ สักวันหนึ่ง "จำหยุด" สิ้นสุดลง จินต์ดำรง...ตราบสิ้นดวงวิญญาณ....
วันนี้ ขออาภัย แต่งได้แค่ 4 บท เอาไว้ต่อวันหลัง เพราะมีเวลาจริงๆ ครับ และที่สำคัญ กลอนกลบท สะบัดสะบิ้ง ผมจะเอาไว้แก้ วันหลัง เพราะใช้คอมฯ เพื่อนนี่แหละ...ทำให้ล่าช้า ขอรับคำติชม อีกเช่นเคย อย่ากลัวจะเสียหน้า เพราะหน้า คงที่ ไม่มีเสีย 555+ เย้าเล่นครับ เชิญวิจารณ์ได้ครับ เพื่อการปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาให้ดีกว่าเดิม....(ถ้าทำได้ อิอิ) *ในใจนี้มีน้องปองจิตคิด เคยเชยชิดชอบพออ้อล้ออ้อต่อ กาลนานวันผ่านพ้นหม่นก็รอ ยังหวังคลอเคลียเคล้าเหงาวันวัน *กายหายน้องหมองครวญอกรวนป่วน สุดสุดหวนรำลึกนึกหวั่นฝัน เหตุเภทใดไกลแล้วแห้วทันควัน เสีงเยี่ยงสั่นครั่นคร้ามหนามชีวี *ตอนก่อนเคยเผยคำพร่ำพลอดกอด แอบแนบสอดกายกานดาอย่ารี้หนี น้องป้องปัดมือหยอกบอกกี่ที เตือนเหมือนพี่กอดรั้งครั้งท้ายวาย *โอ้โซเซซัดซึมอกครึ้มหวั่นหวั่น ฝนหล่นหลั่นซัดทอดกอดกายหมาย เมื่อเหลือคำรำลึกตรึกกรายกราย เพ็งเล็งสายฝนร่วงห้วงใจไหว *มีกี่ล้านคำอ้างทางปลายสาย รวมความหมายรักแท้แค่ไหนไหน ฝืนกลืนกล้ำจำความรวมในใจ มอบตอบให้สุดรักภักดิ์พลีมี *ฝนหล่นลาคราหนาวร้าวเพิ่มเติม แรงแกร่งเหิมหุบยุบหนีศรี ห่อนกร่อนกัดอารมณ์จมกี่ปี คำคำนี้ซ่อนราวห้วงหาวดารา *ร้อยถ้อยพจน์บทคำจำแนกแปลก พรั่นหวั่นแทรกนับกัลป์ผันมาหา ยังหวังเรียงเคียงถ้อยร้อยวาจา บอกออกว่า...เอ่อ เหรอ ...เธอใช่ใหม? *โอ้โห เราบอกรักสักคราหนา กลัวกลัวกล้าหน้าชาว่าไม่ไหว บอกออกยากรักผ