o ค่ำคืนครึ้ม ฟ้าครวญ ชวนให้เหงา คืนค่ำเคร้า ฝนปรอย พลอยเหม่อหา ค่ำคืนครวญ หวนคิดถึง เพียงกานดา คอยเธอมา อิงแอบ แนบเคียงกาย o เหินห่างกัน ในวัน ฝนพรำฟ้า คล้ายกระซิบ บอกว่า อย่าห่างหาย ละอองฝน กระทบผิว เกาะผิวกาย เหมือนดังคล้าย เธอสะกิด ให้ชิดใจ o หนาวน้ำฝน คิดถึง คนเคยชิด ฝากสะกิด คนรัก หน่อยได้ไหม ฝนจ๋าฝาก บอกเธอ ว่าทั้งใจ จะไม่มอบ ให้ใคร นอกจากเธอ o ฝากอีกอย่าง ได้ไหม สายฝนจ๋า ฝากบอกว่า ยังรัก เธอเสมอ ฝากหัวใจ ฝากไป ไว้ข้างเธอ ฝากกล่อมเธอ หลับฝัน ให้ฝันดี o ฝากทุกอย่าง ฝากฝน ฝากฝนไว้ แล้วฝนจ๋า เหนื่อยไหม หนักอย่างนี้ ยามฝนตก คนฝากฝน กันทั้งปี เหนื่อยแล้วซี หากหนัก พักบ้างเธอ ฝนตก..ที่เมืองนนท์ หนาวถึงคน อยู่เชียงราย.. 16 / 03 / 54
สายฝนโปรยโรยร่วงดิ่งห้วงเหงา รู้สึกเศร้าเหน็บหนาวกับพราวฝน ใจฟุ้งซ่าน "คิดถึง"เพียงหนึ่งคน เฝ้ากังวล "เป็นห่วง" ทุกช่วงกาล อยู่ที่ไหน? อย่างไร? กับใครหนอ? ยังคงรอ...ตอบกลับโปรดขับขาน เพ้อครวญถึง เธอ-ฉัน เมื่อวันวาน อีกเนิ่นนาน เท่าไหร่ "หัวใจคอย" ความหวั่นไหวแทรกซ้อนสะท้อนจิต กลัวถูกพิษความเหงาพาเศร้าหงอย หวาดระแวงรักเลือนคล้ายเลื่อนลอย โปรดอย่าปล่อยคล้อยจางเส้นทางเรา "เสียงหัวใจ" ไหวเต้นเป็นจังหวะ ใช่ลดละ ยิ่งโหม ร้อนโรมเร้า เพ้อคิดไปหวาดหวั่นไม่บรรเทา กอดความเหงาครวญคร่ำจมน้ำตา "อย่าปล่อย"ให้คนคนหนึ่งคิดถึงเธอ จนพร่ำเพ้อ คอยหวง คอยห่วงหา เหนื่อยร้องไห้เหนื่อยจินต์ร้าววิญญา ขอร้องหนาอย่าหมายทำร้ายกัน...อิอิ
สายธาราไหลหลั่งไม่ยั้งหยุด เปรียบประดุจล้อกาลหมุนผ่านผัน มุ่งรุดหน้าไม่หวนทวนคืนวัน ไม่ย้อนรับกลับหันสักวันเลย แรกได้เรียนได้รักรู้จักมิตร ต่างรั้วขอบรอบทิศชีวิตเอ๋ย วาดสีสันแต่งชีวางามกว่าเคย ใจจึงเผยไมตรีไม่รีรอสิ่งใดถักรักเราเข้าหนาแน่น ผูกและพันฟั่นแฟ้นจึงเติมต่อ ใครปลูกดอกไม้ใจพิไลลออ ขึ้นแตกกอขาวกระจ่างอยู่กลางใจเราไม่ได้พบกันนานนักแล้ว เพื่อนยังแจ้วเจื้อยจ้อคุยปร๋อไหม กายแข็งแรงมีสุขดีหรือมีภัย บอกกล่าวให้หายห่วง-จากทรวงเรายังคิดถึงซึ้งจิตนะมิตรรัก หวังพบพักตร์สักคราเวลาเศร้า เพื่อหัวเราะเริงใจเช่นวัยเยาว์ อยากย้อนวันคือเก่าเรากลับมาคงรอคอยวันหน้าจะมาถึง วันที่ซึ่งเราทั้งหลายจะไปหา รอยรูปจำทั้งเพของเวลา ยังประทับจับตามิรู้ลืม ปล.คิดถึงเพื่อนเก่า ตอนอยู่ ม.ปลายมากๆ
วาเลนไทน์ผ่านไปในคืนนี้ เหมือนไม่มีอะไรให้นึกถึง แต่ลึกลึกคิดไปใจรำพึง อยากคิดถึงบางคนของบางใคร พบกับเธอจนชินจนคุ้นเคย แต่ไม่เลยไม่รู้..รู้สึกไฉน ไม่เคยรู้ใจนั้นคิดยังไง เรื่องดีดีผ่านไปไม่เห็นมัน ขาดเธอไปพึ่งรู้สึกสำนึกตัว ว่าขลาดกลัวเธอพรากไกลจากฝัน ไม่มีเธอฉันเหงาแทบทุกวัน แค่ไม่มีเธอนั้นแทบขาดใจ คนคนนึงพึ่งรู้เธอสำคัญ ซ่อนเธอนั้นเก็บซ่อนความอ่อนไหว ไม่รู้ตัวว่ารักเธอกว่าใคร ห้ามไม่ทันเมื่อใจให้แต่เธอ อยู่ด้วยกันไม่เคยได้เข้าใจ ใกล้เท่าไรมองข้ามค่ารักเสนอ ความรู้สึกพึ่งรู้พึ่งจะเจอ ก็ตอนเธอจากไปใจขาดรอน บทส่งใจ แด่ Saint Valentine ผู้มีหัวใจรักตลอดกาล..
ช๊อกโกแลตรูปหัวใจ สือแทนความหมายยิ่งใหญ่ ล้ำค่า แทนความรักคิดถึงในแววตา เพื่อบอกคนรักว่า "รักมากมาย" เป็นของขวัญล้ำค่ามอบให้ คนพิเศษที่แสนมีความหมาย สือเพื่อบอกรัก วาเลนไทน์ ว่า รักคิดถึงมากมาย นะคนดี แต่.. ของขวัญล่ำค่าที่แท้จริง หาใช่สิ่งที่ให้ในวันนี้ ความสม่ำเสมอและหวังดี นั้นเป็นสิ่งที่แสนสำคัญ วาเลนไทน์หรือวันไหน ก็บอกรักได้อย่าหวาดหวั่น รักที่ยิ่งใหญ่ใช่สำคัญ ถ้าสิงที่ทำนั้น แค่ชั่วคราว อยากให้.. ลองใคร่ครวญและไตร่ตรอง เพื่อรักในใจจะไม่ร้าว ความรักระหว่างกันนั้นยืดยาว เป็นดั่งดาวคู่เดือนเกลื่อนนภา ขอมีความสุขทุกคนนะครับ ในวันแห่งความรัก สมหวังในรักครับ
กุหลาบน้อยยิ้มรับคืนสะอื้นเช้า มองเห็นแสงแห่งจันทร์พราวสว่างไสว ความคิดถึงติดลมบนหนอคนไกล ยังมองเห็นกันหรือไม่หนอจันทรา จันทร์คงมีกระต่ายน้อยคู่กลอยใจ ปล่อยกุหลาบหนึ่งช่อไว้ให้เหว่ว้า สายลมหนาวที่เคยเยือนเดือนกุมภาฯ ใกล้สิบสี่แล้วหนาเจ้าจันทร พิงม่านเมฆอ้อยสร้อยล่องลอยซึ้ง หวังวันหนึ่งลอยเคียงดินกลิ่นเกสร คู่เคียงจันทร์ขวัญฟ้าสถาพร ต่อความฝันนิรันดรกุหลาบดง จันทร์ห่างไกลไม่เกินใจจะคิดถึง รู้ไหมดอกไม้ช่อหนึ่งคอยลุ่มหลง แม้อาจเกิดที่กลางป่าพนาพง ยังหยิบยื่นความจำนงคิดถึงจันทร์ แม้ไม่อาจเป็นกระต่ายที่ปลายฟ้า ขอยืนอยู่ข้างจันทราคอยคู่ขวัญ แง้มเหลี่ยมเมฆได้ตราตรึงคิดถึงกัน กุหลาบน้อยหนึ่งช่อนั้น...ก็เบ่งบาน บทกวีบทนี้บรรจงเขียนขึ้นด้วยความร้องขอของมิ่งมิตรที่สุดแสนสำคัญยิ่งของกระบี่ใบไม้ นู๋Zam,Cicada หรือ มะขิ่น และบทกวีบทนี้ก็บรรจงเขียนขึ้นด้วยความเต็มใจยิ่งของกระบี่ใบไม้ ให้กับนู๋Zam,Cicada หรือ มะขิ่น ขอให้นู๋Zam,Cicada หรือ มะขิ่น มีความสุขตลอดวันวาเลนไทน์และตลอดไปนะจ๊ะ
สู้ฝ่าฝันฟันฝ่ากล้าจะฝัน ผ่านเดือนวันรักจะฝันยังฟันฝ่า จะทอรักมาถักร้อยถ้อยวาจา ว่าพี่รักเป็นนักหนา แก้วตาเอย ในค่ำคืนหมองไหม้ ใจหมองหม่น คิดถึงคน ที่ใจพร้อมจะยอมเผย สิ่งในจิตคิดในใจ ไปหมดเลย แต่ใจเอ๋ยแสนประหม่าละล้าละลัง .. กลัวเจ้าไม่เห็นพี่เป็นที่รัก กลัวยิ่งนักไม่แลพี่เป็นที่หวัง อาจจะเวียนเปลี่ยนพี่เป็นที่ชัง กลับมานั่งเป็นเพียง ..พี่ ที่ตรอมใจ จึงเป็นเพียง พี่ห่างๆแค่อย่างนี้ อาจเป็นพี่ที่แววตาน่าสงสัย หากเจ้าเห็นแววไหวหวั่นเข้าวันใด ขออภัย.. ใจกระฉอกออกทางตา
จำได้ไหมวันแรกที่ฉันทัก คือวันรักแรกพบ...อยากคบหา จำได้ไหมแววแรก..สบสายตา คือแววเปี่ยมปรารถนา..ที่อาทร เธออาจเห็นฉันเป็นคนแปลกหน้า เป็นคนกล้าพิกลคนกะล่อน เป็นคนชอบพูดมากคนปากบอน จนลืมสิ่งที่ซ่อน..ลึกข้างใน ฉันภูมิใจที่ฉันกล้าไปทัก ได้รู้จักต้นเหตุให้หวั่นไหว เป็นก้าวที่เปลี่ยนฉันให้เปลี่ยนไป เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ถ้าเสี้ยวตัดสินใจในวันนั้น เมินสัมพันธ์คงนึกรู้สึกผิด คงพลาดแก้วมณีมาแนบชิด สูญเสียสิทธิ์ประจักษ์ถ่องรักแท้ คนพูดมากปากบอนตอนแรกพบ เธอเลี่ยงหลบ..ลึกลึก..รู้สึกแย่ เพราะมั่นจึงแวะเวียนมิเปลี่ยนแปร จนเธอเผลอพ่ายแพ้ความตั้งใจ เมื่อประตูสู่ใจเธอไม่ปิด จึงโอกาสหัวจิตเปิดชิดใกล้ คนที่ไม่เข้าท่ามากกว่าใคร เธอเห็นแล้วใช่ไหมความทุ่มเท แม้ผ่านมาแสนนาน...ไม่ผ่านพ้น ตรึงเต็มห้วงกมลมากล้นเล่ห์ และตราบชั่วชีวาตม์คาดคะเน ใจสดับรักเห่..เหนือเวลา จำได้ไหมวันแรก..ที่ฉันทัก คือวันรักแรกพบ..อยากคบหา และจำไว้..ทุกวารที่ผ่านมา ฉันยังคงรักษา..สัญญารัก จากวันนั้นจนถึงซึ่งวันนี้ ความรู้สึกแสนดียังแน่นหนัก แม้มิอาจคำรบย้อนสบพักตร์ แม้เราจักจากพ้น..คนละทาง เธอคิดถึงเหมือนฉันคิดถึงไหม จะเพราะด้วยสิ่งไหนทำไกลห่าง เยื่อใยความผูกพันอันเบาบาง ไม่มีวันเลือนราง....แม้ต่างภพ ครบรอบวันพรากกายเธอวายวาง ประทับร่าง............สู่สุคติภพ ~ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๔ ~
มองภาพถ่ายของเธอใส่ชุดครุย เป็นเพื่อนคุยในวันที่หวาดไหว แม้บัดนี้ มิมีเธอ อีกต่อไป แต่ก็ยังแย้มยิ้มได้กับภาพเธอ นั่นจิ๊กซอว์เธอต่อรักสลักใจ ยังซ่อนงามความนัยสมัยเสมอ เห็นทุกคราวฝันทุกครั้งยังละเมอ เธอแสนสวย เลิศเลอ ทุกเวลา วันเธอรับปริญญาในครานั้น ฉันตื่นเต้นตื้นตันเป็นนักหนา จับรถด่วน ขบวนสุดท้ายสายยะลา ให้ทันวันที่รอท่าปัตตานี จากวันนั้นจนวันนี้เก้าปีกว่า ภาพถ่ายเธอที่ตรงหน้า ณ.ตรงนี้ ที่ซึ่งกายหายห่างร้างไมตรี แต่ฉันมีมากมายไม่หายไป บางทีเผลอ ยังเพ้อ เอ่ยถามทัก ว่า "ยอดรักเธอเหนื่อยหนักบ้างหรือไม่" ในวันนี้คนดีเป็นอย่างไร มีหรือไม่ใครดูแลถ้าแพ้มา มีชายหนุ่ม มองรูปคุณ ยังอุ่นจิต แม้วันหนึ่งเคยพ่ายพิษรักนักหนา วันคนรัก เผยฝากออกปากลา กลายเป็นคนแปลกหน้าแปลกหัวใจ เคยเศร้าสร้อยงานการคร้านจะคิด ชังชีวิตหน่ายชีวาไม่กล้าไข- ความท้อทดหมดหวังพลังชัย ปล่อยให้วันให้วัย ช่วยเยียวยา มองภาพถ่าย เธอใส่ครุยในครานี้ อาจมีบ้างบางทีที่โหยหา แต่ฉันมี ความสุข นะเธอนะ ! ได้คิดถึงปรารถนาที่หัวใจ ยังจำได้วันที่เคยทุกข์ท้อ เธอช่วยติช่วยต่อพลังให้ ขอขอบคุณ สัมพันธ์รัก สลักไว้ ช่วยทำให้ เข้าใจในรักแท้ วันที่ฉันนั้นยังคิดถึงเธอ รู้เพ้อเจ้อถึงอะไรมิได้แน่ ภาพงดงาม ทุกความหมายฉันฉายแล รู้เถอะแค่ ใจระลึกรู้สึกมี ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยมีความรัก และดีงามยิ่งนัก รักหรือนี่ เธอคือ คนแรกที่ฉันมี เป็นคนเดียว ตรงนี้เส
เขียนถึงบ้าง(อิอิ) คนดีที่คิดถึง รักตราตรึงเพียงเธอเสมอมั่น แม้วันนี้เปล่าว่างต้องห่างกัน แต่หนึ่งนั้น...เคียงใจไร้วันเลือน... อยู่ห่างกันสุดรอบเส้นขอบฟ้า ทุกองศา...ยังอุ่นรักคุ้นเหมือน วันแปรเปลี่ยนล่วงกาลผ่านปีเดือน หัวใจเตือนเมื่อคิดถึงซึ้งทุกครา... อยู่เดียวดายท่ามหนาวยิ่งร้าวจิต ยามถูกพิษลมหนาวโชยพาโหยหา อกเคยอุ่นอยากซบอยากสบตา อยากย้อนวันเวลา...มาเคียงกัน... หลับตาลง...ทบทวนหวนรู้สึก ในส่วนลึกคิดถึงเพียงหนึ่งนั้น รับรู้ไว้...ได้เคียงแต่เพียงฝัน เก็บรักมั่น...ไว้คิดถึงคงซึ้งพอ...
พระจันทร์เสี้ยวเหลียวมองที่ปลายฟ้า ดั่งนัยตาเรียวเล็กใครคนนั้น นัยตาของคนพึ่งจะจากกัน คิดถึงกันโทรหากันก็หวานใจ เพราะมุมมองความรักเราเหมือนกัน รักแท้นั้นบริสุทธิ์สุขสดใส แต่ถ้าเรามองความรักแคบเกินไป คงไม่เห็นค่าใดที่ใจปอง แต่เราก็...หากัน จนเจอ กลัวใจเผลอเธออาจมีเจ้าของ แค่ไม่อยากร้องไห้น้ำตานอง จึงต้องตรองก่อนจะรักใครอีกคราว รักแท้...สำหรับฉันบริสุทธิ์ ใสพิสุทธิ์ดั่งเช่นดอกบัวขาว แค่ไม่อยากให้ใจเจ็บปวดร้าว ทุกย่างก้าวจึงต้องระวังใจ ขอโทษด้วยบางครั้งก็ส่งจิต ในความคิดถึงเธออย่างเผลอไผล แต่ก็คงไม่เป็นไรเมื่อเหงาใจ แค่โทรไปยินเสียงเธอใจเพียงพอ.
คืนฟ้าหมองมองจันทร์เหมือนหันข้าง นอกหน้าต่างอ้างว้างเจือจางฝัน กี่เดือนดาวก้าวจากที่พรากกัน ไม่เคยมีสักวันที่ลืมเลือน อ่านจดหมายพร่าเบลอที่เธอทิ้ง ฉันเก็บวางบนหิ้งเสมอเหมือน เป็นตัวแทนภักดีที่ย้ำเตือน ไม่คลายเคลื่อนเดือนเสี้ยววงเดียวกัน บนโลกกว้างเส้นทางที่ร้างร้าว แม้เหน็บหนาวทุกก้าวไม่หวาดหวั่น พรหมลิขิตชีวิตรักผูกพัน ยังเชื่อมั่นทุกคราวดาววาววาม จากหัวใจส่วนลึกรู้สึกห่วง อยากเห็นเธอลุล่วงและก้าวข้าม ทุกย่างก้าวเรื่องราวเฝ้าติดตาม คือนิยามความรักที่ฉันมี คืนจันทร์เสี้ยวเหลียวแลแต่ว่างเปล่า อยากทราบข่าวเหลือเกินอย่าเมินหนี ยามห่างกันฝันเพ้อเจอคนดี และยังมีรักฝากอีกมากมาย ยามที่ล้าหมดแรงมองแสงส่อง สบตามองดาวเถิดยังเฉิดฉาย ฉันคอยส่งแรงรอทอประกาย คอยทักทายใกล้ชิดสนิทใจ
ชื่อใครว่าหาสำคัญนั้นไม่ใช่ ชื่อบางใครได้ฟังยังคิดถึง เกิดเป็นภาพพจน์พาใจตราตรึง บางคราถึงเพ้อพร่ำเป็นคำกลอน ร่ายรินถ้อยร้อยหามาเรียงร่าย พร่ำบรรยายถ่ายใจใส่อักษร จินตนาท่าทางอย่างอาวรณ์ พอได้ผ่อนคลายคนึงซึ่งประดัง เพียงบางเอ่ยเผยมาว่าไม่ชอบ ในกลอนมอบหมายให้ฤทัยหวัง ใช่เพราะอยากก้าวล่วงห่วงจริงจัง จึงได้ตั้งใจเขียนเฝ้าเจียรนัย เพราะเห็นชื่อชวนฝันอันสดสวย ดื่มด่ำด้วยดลฤดีกวีไหว มิเคยหวังคุกคามหยาบหยามใจ ขออภัยใจขวัญเหตุวันวาน เมื่อนวลเห็นเป็นการรุกรานจิต คุกคามสิทธิ์พิศไปตามนัยสาร จึงรีบลบถ้อยพจน์ที่จรดจาร กลัวรำคาญพาลพาใจพร่ามัว จึงหวังกล่าวเล่าต่อย้ำขอโทษ หายขึ้งโกรธเถิดหนาหาใช่ยั่ว ยังตระหนกอกสั่นขวัญระรัว ด้วยแสนกลัวตัวเจ้าจะเศร้าจินต์ ขอส่งสารผ่านกลอนเว้า-วอนบอก ใช่ย้อนยอกหลอกตามความถวิล สำรวจทุกถ้อยคำย้ำยุพิน เมื่อได้ยินจงอภัยในคำกรอง ถ้าถือสาจะยอมแล้วจอมขวัญ เพราะใจนั้นหวังดีไม่มีสอง เพราะด้วยนามงามขำก่อทำนอง จึงได้ลองร่ายกานท์ส่งผ่านมา ชื่อใครว่าหาสำคัญนั้นไม่ใช่ ชื่อบางใครได้ฟังยังห่วงหา เกิดเป็นความคำนึงจนตรึงตรา เป็นมายาภาพฝันจนหวั่นใจ ...............
หยิบปากกามาวางกลางกระดาษ หมึกเขียนขาดเป็นช่วงทุกถ้วงที่ รอเขียนคำ"อย่าโกรธ"แต่โทษที คำคืนที่หนาวเย็นไม่เป็นใจ ฟ้าลิขิตขีดมาให้หน้าโง่ จึงเผลอโทรฯถึงกัน..วันไม่ใช่ แว่วเสียงคนเคียงคู่ไม่รู้ใคร? ช่วงร่ำไรเพ้อพร่ำคำว่า"รัก" อยากเขียนว่า"ขอโทษ.อย่าโกรธนะ" คนเคียงข้างเธอล่ะ..คงคิดหนัก เคยร้องเพลงประสานแสนหวานนัก คงต้องพักชั่วคราวเรื่องราวเดิม เธอไม่ผิดสักนิดอย่าคิดมาก ฉันต่างหากซุกซนเป็นคนเริ่ม มิเหลือแล้วสายใยมาใส่เติม มีคนเจิมหัวใจ..ก็ไปเถอะ ฉันเขียนกลอนอ้อนจันทร์เพราะมันเหงา คืนนี้เฉาเชือดเฉือนดูเปื้อนเปรอะ พรุ่งนี้คงทำใจได้อีกเยอะ น้ำตาเลอะลบประกัน..สิ้นสัญญา http://bigbang.bloggoo.com/songs/29072 ฉันไม่รู้ (แบบไหนที่เธอจะรัก?)
กับบางสิ่งที่อยู่ภายใน กับความในใจที่พรั่งพรู กับความรู้สึกที่เป็นอยู่ กับทุกอณูของความคิด รัก แต่รู้ว่าต้องทำใจ ถึงจะรักเธอมากมาย แต่สุดท้ายก็ต้องร้างลา วันนี้..ทรมานใจหนักหนา เจ็บปวดเกินกว่าจะรับไหว เพราะรู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร จึงขออนุญาตทำใจซะตั้งแต่วันนี้ ขอโทษ อาจต้องห่างหายแต่ใช่หน่ายหนี โปรดรับรู้ไว้นิดนะคนดี คิดถึงเธอทุกนาทีที่หายใจ More than word can say.
ยอดตำลึง ทอดยาว บนแนวรั้ว ผักสวนครัว มากมาย อยู่ท้ายสวน โหระพา ใบกะเพรา ช่างเย้ายวน สีเหลืองนวล ผลมะอึก นึกอยากกิน ยอดผักหวาน อ่อนอ่อน ตอนฝนตก มะเขือพวง ก็ดก ข้างกระถิน ผลมะกรูด ร่วงหล่น อยู่บนดิน เก็บมาบีบ ดมกลิ่น หอมชื่นใจ มีหอยขม ในคลอง ข้างหลังบ้าน มีลูกตาล อยู่บนต้น ผลใหญ่ใหญ่ อีกมะพร้าว มะม่วง ก็แกว่งไกว ที่กอไผ่ หน่อไม้โผล่ อยู่เต็มกอ คิดถึงจัง กับข้าว ฝีมือแม่ เล็กจนแก่ จะกี่ครั้ง น้ำลายสอ ทั้งน้ำพริก น้ำแกง ซดคล่องคอ แถมห่อหมก ใบยอ ก็ไม่เบา อนิจจา วันนี้ อยู่ไกลบ้าน ไม่มีแม่ เตรียมอาหาร ทำกับข้าว อดคิดถึง ไม่ได้ มือแม่เรา ลูกเปิบข้าว คลุกไข่ต้ม ให้ขมคอ อยากกลับบ้าน ไปกิน ข้าวกับแม่ อยากกลับไป ทำงอแง ให้แม่ง้อ อยากกลับไป หยอกเย้า พะเน้าพะนอ เมื่อไหร่หนอ จะถึงวัน นั้นสักที นั่งนับวัน ใกล้หยุดยาว คราววันแม่ เพื่อกลับไป เป็นลูกแหง่ ให้สุขี อีกไม่นาน ดอกนะ แม่คนดี ดอกมะลิ ช่อนี้ กราบตักเอย
คิดถึงมิตรสหายในบ้านกลอน คิดถึงร้อยอักษรพันกวี คิดถึงน้ำใจและไมตรี คิดถึงสิ่งดีดีที่ได้มา ขอบคุณความห่วงใยที่มีให้ ขอบคุณความจริงใจมากคุณค่า ขอบคุณมิตรภาพงดงามตา ขอบคุณที่รักษากลอนกวี ***************************************** ขอบคุณ... คุณม่านแก้ว พี่แซม cicada คุณลูกเงาะขี้เหร่+กู้ภัย คุณสุริยันต์ จันทราทิตย์ คุณพรพันดาว คุณครูกระดาษทราย คุณทางแสงดาว คุณGemini58 คุณไร่ผาสุก กาญจนบุรี คุณอินสวน คุณกิ่งโศก คุณน้ำตาลหวาน คุณโคลอน และญาติมิตรบ้านกลอนไทยทุกท่านในความห่วงใยค่ะ กินเค้กกัน!!!