ฝนตก ฟ้าร้อง ลมแรง พายุกร้าวแกร่ง...โหดหิน ไม้ใหญ่ล้มฟาดแผ่นดิน ด่าวดิ้น อเนจอนาถ เจียนขาดใจ สงสารหญ้าแพรก เจ้าก็แหลก เจ้าก็ป่น หม่นไหม้ หรือชีวิตเจ้าเล็กน้อยเกินไป เจ้าหัวเราะ เจ้าร้องไห้...ใครจะรู้! คนเห็นไม้ใหญ่ล้ม ก็ระดมกำลังเข้ากอบกู้ ประคบประหงมอุ้มชู ลืมดู ลืมห่วงใย อะไรทั้งนั้น เพียงหยาดน้ำตา หญ้าต่ำต้อย คงเล็กน้อยเกินกว่าใครจะไหวหวั่น เสียงร้องของคนไม่สำคัญ โหยหวน พร่าสั่น สะท้านใจ สะท้านใจ แต่ก็ไม่สะท้านป่า เจ็บปวดก็ก้มหน้า เพียงร้องไห้ สะท้อนเรื่องสะท้อนภาพ กับทุกข์ภัย เก็บเป็นความน้อยใจ...ใจน้อยน้อย เช็ดคราบน้ำตา เชิดหน้าขึ้นเถิด ความต่ำต้อย เรื่องราว เดี๋ยวก็เป็นเพียง ร่องรอย จะเศร้าสร้อยต่อไป ทำไมกัน มองดูรอบรอบข้าง ใช่เจ้าจะอ้างว้าง...อย่าไหวหวั่น เป็นหญ้าแพรกต้นน้อย...ก็สำคัญ เพราะหญ้าแพรกด้วยกัน...เท่านั้นที่รู้!
แด่เพื่อนรักคนดีที่ผิดหวัง ขอให้เธอมีพลังต่อสู้ไหว เก็บผ้าเช็ดหน้าที่ใช้แล้วโยนทิ้งไป แม้คราบน้ำตาอย่าเหลือไว้ให้เห็นเลย ฉันรู้ดีว่ามันคงทำยากอยู่ และไม่รู้ว่าเธอจะทำมันได้ไหม แต่ที่รู้ว่าถ้าทำได้เธอจะต้องดีใจ เมื่อเวลาผ่านพ้นไปจะรู้สึกดี อยากให้เธอลองพิสูจน์ดูสักตั้ง รวบรวมพลังทั้งกายใจให้คงที่ ให้เธอได้ตั้งสติ ไตร่ตรองให้ดี นับหนึ่งไปถึงสิบ หลับตาปี๋ แล้วผ่อนคลาย เมื่อลืมตามาอีกครั้งคงดีขึ้น ขอให้ตื่นจากห้วงภวังค์หมดทั้งหลาย ขอให้เธอได้มีความสุขทั้งใจกาย และสุดท้ายกลับเป็นตัวของตัวเอง
คล้ายร้อยเรียงสานเม็ดทรายเป็นสายรุ้ง เหมือนเก็บหมอกที่หลอกฟุ้งกลางทุ่งหญ้า เปรียบแล้วดั่งนั่งนับดาวที่พราวตา ไร้เรื่องราวจะกล่าวค่าสักนาที โลกใบนี้มีความจริงสิงในฝัน เลิกดื้อแพ่งดื้อรั้นกันแค่นี้ เลิกเก็บหมอก..รู้ไหมว่าทรายมี นายรู้ดีทรายกองนี้มีตัวตน อย่าสลัดศรัทธาแห่งความฝัน เพียงแต่ลองมองมันด้วยเหตุผล เลิกไขว่คว้าสิ่งหน้าเบื่อมาเจือปน ให้ฝันนั้นมั่นอยู่บน..ถนนความจริง