คืนนี้ยังคงตามถามถึงเธอ เผื่อเจอะเจอเธอในเวปเก็บไปฝัน ฝากดวงจิตติดตรึงถึงดวงจันทร์ มอบชีวันฉันนี้พลีบูชา เพื่อนคงหาว่าฉันนั้นบ้าบอด เที่ยวพร่ำพรอดเพ้อในสิ่งไร้ค่า ตำหนิเถิดอย่าถนอมออมวาจา อาจดีกว่าชาเฉยละเลยไป ช่วยปลุกฉันจากฝันร้ายกลายสภาพ พ้นตราบาปตราบชั่วอายุขัย เหลือไว้แต่แค่เพียงรอยอาลัย ขอเก็บไว้ในก้นบึ้งที่ซึ้งทรวง รอดาวมาเวลาค่ำที่ช้ำชอก ฝากไปบอกยังถิ่นดินแดนสรวง ใจดวงน้อยคอยถามตามมาทวง ใจคนลวงดวงดาวเอาคืนมา
ก่อนหลับตา คงไม่ว่าถ้าจะขอคิดถึงเธอสักครั้ง กับคนๆนี้ที่จริงจัง อยากให้เธอรู้ว่ายังห่วงใย เมื่อหลับตา คงไม่ว่าถ้าฉันฝันว่าเธออยู่ใกล้ๆ มอบรอยยิ้มความอุ่นใจ ให้ความหม่นไหม้คลายจาง เมื่อลืมตา คงไม่ว่าถ้าจะขอพบหน้าเธอบ้าง แค่แอบมองเท่านั้นในฐานะคนผ่านทาง แม้เธอไม่เคียงข้างแต่ก็สุขใจถ้าทุกนาทีอ้างว้างได้มีเธอ
...แบบว่า...คิดถึงเธอมาก ก็ตั้งแต่วันที่เดินจาก..ในใจยังเหงา เพราะนับแต่นี้คงไม่มีแม้เงา ของเธอคนเก่าที่คอยตามเหมือนเคย ...ก็แบบว่าในใจยังเศร้า... พอคิดถึงเรื่องราวในวันเก่าน้ำตาก็พาลจะไหลเสมอ คงทำได้เพียงบอกตัวเองว่าต่อไปนี้จะไม่มีเธอ และคงไม่มีโอกาสได้เจอะเจอเหมือนวันวาน
คิดถึง กาลเวลาช่วงหนึ่ง ณ ที่นี่ ได้เรียน ได้รู้ อยู่สี่ปี แต่จดจำ สิ่งดีดี ได้แสนนาน ห่วงใย ชงโคระบัดใบ...เคยอ่อนหวาน เดี๋ยวเดียวก็กลับกลายเป็นวันวาน ยังอ่อนหวานอยู่ไหม...ใบชงโค? เข้าใจ วันทุกวันโลกเปลี่ยนไปอีกมากโข และชีวิตทุกชีวิต ต้องเติบโต เหมือนที่ช่อชงโค ต้องเติบงาม รัก รักแน่นหนักและไม่มีวันมองข้าม รักที่ซึ่งมีความดี ให้เดินตาม รักในความธรรมดา...เทวาลัย
คืนหนึ่ง... ค่ำคืนนี้ไร้ดาวเดือนเป็นเพื่อนพ้อง แม้เหม่อมองหาเท่าไรก็ไม่เห็น นอกหน้าต่างช่างว่างเปล่าสุดหนาวเย็น จันทราเร้นหลบซุกซ่อนด้วยอีกดวง มีก็แต่เหล็กดัดสีข๊าวขาว มุ้งลวดยาวขวางราตรีที่ใหญ่หลวง สีหมองหม่นปนคล้ำคล้ำดำทั้งปวง ดาวตกร่วงแบบนิยายก็ม่ายมี นั่งเหม่อลอยบนโต๊ะไม้คล้ายท่อนซุง ตามองมุ่งสู่เบื้องหน้าฟ้าหมดสี ยิ้มแหยแหยไร้เมตตาไร้ปราณี โคตรคิดถึงเธอคนดีเหงาจังเลย....... คืนต่อมา... ค่ำคืนนี้มีดวงดาวพราวฟ้ากว้าง อยู่รอบข้างดวงเดือนเพื่อนคู่หู ช่างสวยงามตามใจใคร่มองดู เพียงอยากรู้ทำอย่างไรไข่วคว้าเดือน เธอดุจดาวดวงเดือนย้ำเตือนฉัน เธอคือฝันอันล่องลอยคอยเชือดเฉือน เธอคือฝันที่เป็นจริงหรือลางเลือน หรือฉันเหมือนหมาน้อยน้อยคอยดูดาว...