ผู้มีธรรมนำใจจะไร้โทษ ปลดบ่วงโกรธเกลียดชังรู้ยั้งคิด เพราะหลักธรรมน้อมนำกำกับจิต มีชีวิตเชื่อหลักกรรมทำสิ่งดี ความแตกแยกแตกใจในกลุ่มพ้อง หากเพ่งมองถึงฐานการแบ่งสี เพราะความต่างแห่งศรัทธาประดามี แต่มิใช่ศรัทธาที่ทรงแสดง ศรัทธาสี่ที่พระองค์ผู้ทรงธรรม จักน้อมนำผู้ศรัทธาเสาะแสวง ความสิ้นทุกข์สิ้นภัยมาทิ่มแทง รู้สงบจากแก่งแย่งอำนาจใด สิ่งที่เห็นสิ่งที่เป็นในพารา หากมองด้วยศรัทธากรรมเลื่อมใส ก็จะเห็นวิบากกรรมดำเนินไป เห็นกรรมใหม่ที่แตกต่างทางความคิด จะมีสีสองสามมาตามตี ปฏิวัติจะมีหรือหมดสิทธิ์ ไม่กระทบวิสาขะเลยสักนิด เพราะกุศลเกิดที่จิตเป็นสำคัญ ผู้ทำชั่วย่อมได้ชั่วทุกตัวคน อ้างเหตุผลก็ไม่พ้นกรรมจัดสรร ผู้ทำดีย่อมได้ดีสู่ชีวัน ดี-ชั่วนั้นต้องตรงธรรมตามหลักการ การทำใจให้ห่างจางกิเลส นั่นคือการสร้างเหตุแห่งสุขศานต์ ดำเนินตามชัยมงคลพ้นกันดาร ร่วมฉลองพุทธชยันตีผ่าน ๒๖๐๐ ปี
๓๐ มกรา ๒๕๕๔.. สิ้นวิถี แห่งสังขารนิพพานสุด ของหนึ่งสงฆ์ ผู้ปลงได้ในมนุษย์ สาวกพุทธ..พิสุทธิ์ใสในประเทศ ญานสัมปันโน..โพธิสัตว์ มาขจัดปัดเป่า เหง้ากิเลส ปุถุชนพ้นทุกข์ปลุกสังเวช ชี้เห็นเหตุ กิเลสตัณหา อุปาทาน คือหลวงตามหาบัว ชั่วดีพ้น บำเพ็ญตน สมถะละถิ่นฐาน ออกธุดงค์ ตรงสู่ป่าหาอาจารย์ หลวงปู่มั่น.. กลั่นกรองศิษย์สอนวิชชา บรรลุกิจสัมฤทธิ์ผลแห่งตนนั้น ก็ด้นดั้นสู่บ้านตาด สร้างวัดป่า เพื่อสั่งสอนขัดเกลา ชาวประชา สร้างศรัทธา สาธุชน สาธุธรรม ต้มยำกุ้ง ! ถลุงเงินเกินเป่าปัด ประเทศชาติล่มจมหนี้ถมซ้ำ ได้ผ้าป่าหลวงตาฝ่าฟันนำ ศรัทธาธรรม นำชาติพ้น คนสามัคคี ละหลุดพ้นในตนกู ..สู่ปรมัตถ์ ละสมบัติหลายหมื่นล้าน ผ่านวิถี ละทิ้งหมด ปลดปลงลงตัวดี ละโลกนี้ ไม่มีโลกหน้า.. นิพานัง หลวงตาบัว.. ละสังขารผ่านบรรจบ หนึ่งปีครบอริยเจ้า เล่าย้อนหลัง อยู่ในศีลกินในธรรมคำสอนสั่ง งามเบื้องต้นจนท่ามกลาง ..ยังเบื้องปลาย ร่วมรำลึก.. ครบรอบ ๑ ปี การละสังขารของ พระอริยสงฆ์ ..หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ๓๐ ม.ค.๕๕ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ วัดป่าบ้านตาดเตรียมทำบุญใหญ่ครบ 1 ปีหลวงตาบัวละสังขาร คณะศิษยานุศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ทยอยเดินทางมาเตรียมร่วมทำบุญวันครบรอบ 1 ปี หลวงตา พระมหาบัวฯละสังขาร 30 มกราคม 55 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 มกราคม ที่วัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง คณะ
ประวัติศาสตร์ชาติไทย..ในก่อนนี้ บารมีแห่งพ่อขุนทรงหนุนให้ สร้างบ้าน แปงเมืองนับเนื่องสมัย สุโขทัย.. สู่ไทย เห็นได้จริง หลักศิลาจารึกบันทึกเก่า ภาษาเรา ลายสือไทยที่ใหญ่ยิ่ง บ่งสมัยในปกครองที่พ้องพิง หลากหลายสิ่งที่จริงใจ สมัยนั้น พ่อกับลูก.. ผูกพันกันฉันใด สุโขทัย ก็ละม้ายคล้ายกันนั่น ไพร่ฟ้าหน้าใส เช่นบุตรผองของราชันย์ ปกครองกันมั่นด้วยรัก และภักดี สั่นกระดิ่ง.. ฎีกาแจง แจ้งให้รู้ เปิดประตูยุติธรรมนำวิถี ค้าช้างค้า ค้าม้าค้า บรรดามี เป็นแนวคิดสิทธิ์เสรี ที่ทรงทำ มหาราช พระองค์แรกที่แตกฉาน อภิบาลประชาราษฎร์ฉลาดล้ำ สร้างรากฐานให้บ้านเมืองเฟื่องฟูนำ พ่อขุนรามคำแหง..จัดแจงดี หากไม่มี สุโขทัย ในวันนั้น อย่าคิดฝัน จะมี ไทย ..ในวันนี้ ปวงข้าบาท น้อมถวายราชสดุดี ครบ ๗๒๙ ปี ..วันนี้แล น้อมรำลึก และเทิดพระเกียรติ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ครบรอบ ๗๒๙ ปี ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วันที่ 17 มกราคมของทุกปี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขทัย ทรงทำนุบำรุงปกครองบ้านเมืองด้วยพระเมตตาธรรมต่อไพร่ฟ้า อาณาประชาราษฎร์ทรงสร้างสรรค์มรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญๆ ของชาติไว้อย่างอเนกอนันต์มรดกของชาติที่สำคัญที่สุดก็คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1826 อันเป็นต้นกำเนิดข
ซานต้า ..มาคืนค่อน เช้าตื่นนอน สายเล่นน้ำ จิงกาเบล เพลงคืนค่ำ สายซัดซ้ำ ..สึนามิ ! คลื่นยักษ์ทะลักไล่ ถาโถมใส่ให้แตกบิ อ่อนแก่แค่เสี้ยววิ สึนามิ ปริกลืนกิน นับแสน นับล้านดับ นับหมื่นลับไม่กลับถิ่น นับเนาพวกเขาสิ้น นับจนชิน..นับเจ็ดปี หลุมศพเริ่มกลบหาย ตึกรามหลายเริ่มไล่ที่ สังเวช..แค่เจ็ดปี ลืมที่นี่ ที่เกลื่อนตาย ดอกไม้วาง.. เริ่มน้อย อีกโคมลอยก็ร่อยหลาย รำลึกนึกอาลัย แค่ทำไป..ในปีหนึ่ง ประมาทผงาดกลับ ! ลืมร่างดับกับความหึ่ง โหยไห้อาลัยซึ้ง แค่ฉากหนึ่ง ..ณ ครานี้ ซานต้า ..มาคืนก่อน สุดอาวรณ์ สะท้อนวิถี ชีพจบครบเจ็ดปี ลืมแล้วหรือนี่.. สึนามิ ! ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ข่าววันนี้.. ชาวบ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เตรียมพร้อมจัดงานรำลึกสึนามิ ครบรอบ 7 ปี เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิพัดถล่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ปี 47 พร้อมวางช่อดอกไม้ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่กำแพงรำลึกสึนามิบ้านน้ำเค็ม ขณะที่สุสานผู้ประสบภัยถูกปล่อยทิ้งร้างไม่มีการจัดงานรำลึก
ณ แผ่นพื้นผืนป่า.. ตะวันตก มรดกตกทอดไว้ ที่ใหญ่ยิ่ง ความหลากหลายชีวภาพกับความจริง ทุกสรรพสิ่ง ยังลึกล้ำ น้ำ ป่า ดิน ธรรมชาติ.. จัดแจงแบ่งที่อยู่ สัตว์ต่างรู้สัญชาตญานแห่งย่านถิ่น อยู่โดดเดี่ยวหรือรวมฝูงมุ่งหากิน ป่าปกดิน ดินสร้างป่ามาช้านาน ป่าผืนกว้าง..ฝั่งด้านตะวันตก มรดกโลกประกาศ จัดประสาน ด้วยเหตุผลเป็นต้นน้ำแหล่งลำธาร ความหลากหลายในพืชพันธุ์ตระการตา สัตว์หายากหลากพันธุ์ผสานผสม แหล่งอุดมกลมกลืนเต็มผืนป่า ธรรมชาติจัดแบ่งเขต นิเวศวิทยา สัตว์และป่า..จึงอาศัยได้เหมาะควร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ผืนป่าแห่ง..ทุ่งใหญ่นเรศวร อนุรักษ์พืชและสัตว์จัดจำนวน ชีวมวลล้วนหลากหลายให้ยั่งยืน ธรรมชาติสัตว์และป่า ..บริสุทธิ์ แต่มนุษย์ ! มิหยุดยั้งยังฝ่าฝืน เข้ารุกล้ำธรรมชาติสัตว์สะอื้น วิ่งแตกตื่น.. สาดปืนใส่ไม่นำพา เขาและเรา เหล่ารวมเพื่อนร่วมโลก ร่วมสุขโศกอกเดียวกันนั่นแหละหนา ต่างรักตัวกลัวตายวายชีวา ทั้งสัตว์คน กลัวการฆ่า..อย่าเบียดเบียน ! ๒๐ ปี มรดกโลก ห้วยขาแข้ง ตำนานแห่ง ...สืบ นาคะเสถียร ผู้ปลิดชีพ ป้องผืนป่า ผู้กล้าเปลี่ยน พลิกบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ..ให้ป่ายัง ! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง - ทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่มีพื้นที่รวม 4,017,087 ไร่ มีความต่อเนื่องและเป็นแกนกลางของผืนป่าตะวันตก ครอบคลุมในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทั
เจิดจรัสนภไสวศิวิไลซ์ตลอดทิศวิจิตรแลกระจ่าง เรืองเรืองสว่างอมรสวัสดิ์ศิริวัฒน์เสมอสวรรค์ เสนาะเพราะพร้องมโหรีดนตรีทิพย์คลอบรรเลงเพลงคนธรรพ์ เจริญสุขเกษมสันต์เทพยดาสรวงโปรยพวงพรทั่วนครไทย องค์นวมินทร์ปรเมษฐ์มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี ครบเจ็ดรอบแปดสิบสี่พระชันษามหามงคลสมัย ปิ่นนเรศเศวตรฉัตรวาระเฉลิมชนม์ปวงประชาฉลองชัย ขอพลานิรามัยสนองขวัญมิ่งเจริญยิ่งพระราชสมภพวาร นบศักดิ์สิทธิ์เชิญพระรัตนตรัยเชิญเจริญพระราชสิริสวัสดิ์ อุดมพัสดุ์เทวาประสิทธิ์พิพิธมงคลประสบก้องภพศักดิ์ไพศาล เสวยเวียงสวรรค์วังบัลลังก์ฟ้านานกว่ายิ่งยืนนาน ปิติกมลดลสราญสฤษฏ์หวังดังอุราด้วยพระบุญญาบารมี เกียรติดำรงทรงยศภิญโญยินปรมินทรมหาภูมิพล ผ่องสกาวเย็นสกนธ์บงกชแก้วเพริศแพร้วภัสสรบวรศรี ครองรัตนโกสินทร์มหินทรายุธยามหาดิลกภพนพรัตนราชธานี เพ็ญพิศุทธิ์พรประเสริฐเถิดเปรมเขษมปรีดิ์สุขสมภิรมย์ปอง จอมกษัตริย์จักรีนฤบดินทรสยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร อินทร์องค์ผู้ทรงฤทธิ์เทิดมหาราชปราชญ์ภูวไนยฤทัยสนอง จักพรรดิ์นิรัติศัยมไหศูรย์เจิดจำรูญเรืองรอง พสกนิกรซ้องสดุดีประสานเพลิดอมรพิมานเพลิน ห้าธันวาคมประนมกรน้อมมโนและศิรกรานกราบ พระมหากรุณาธิคุณซาบจตุรพรเสกเอกอ้าราชันสรรเสริญ ประสงค์ใดในธรณินภูมินทร์มาศปรารถนาราชาวดีเชิญ ขอจงทรงพระเจริญเกษมสำราญ..นิรันดร์กาลนิรันดร๚ะ๛ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเด
ร่ายบทกลอน..ย้อนอดีตชีวิตหนึ่ง ผู้ที่ซึ่ง ถึงอาสัญไม่นานนัก ยังตราตรึงถึงความดีที่ประจักษ์ ยังตระหนัก ชื่อ ยอดรัก สลักใจ ยอด..เยี่ยงอย่าง ย่างสู่ยอดนักร้องเยี่ยม ยอดคนเจียม แม้จะจนแต่ขวนขวาย ยอดศิลปิน ถิ่นพิจิตรชีวิตนาไร่ ยอดขุนพล ลูกทุ่งไทยในวงการ รัก..จะร้องลูกทุ่ง มุ่งมั่นหมาย รักฝันใฝ่ จากไร่นาไปล่าฝัน รักทำดี มีน้ำใจให้เจือจาน รักในงาน รักครอบครัว คือตัวจริง ! สลัก จิต แฟนชิดชมนิยมมั่น สลักไว้ ในห้วงฝันสุขสันต์ยิ่ง สลักลึก ให้นึกยลยอดคนจริง สลักใจ ไว้ทุกสิ่งยิ่งนานเนา ใจ..โอบเอื้อ เกื้อกูลหนุนเพื่อนพ้อง ใจคอยป้อง น้องพี่อย่ามีเศร้า ใจแกร่งแท้ แม้สุดท้ายอภัยเขา ใจของเรา ต้องผ่องใสไปนิรันดร์ เขียนบทกลอน..ย้อนสู่ชูเกียรติก้อง เทิดนักร้องแห่งผองชน คนสร้างสรรค์ คงบทเพลงบรรเลงร่ายไปชั่วกาล รำลึกผ่าน ผสานรัก ..สลักใจ ! ๙ ส.ค.๕๔ รำลึก ๓ ปี ที่จำจาก ..ยอดรัก สลักใจ
0ร้อยอารมณ์ บ่มอักษร เป็นกลอนหวาน คืนวันผ่าน เนิ่นนาน มิจางหาย คำว่ารัก ยังว่ารัก ไม่กลับกลาย มิเสื่อมคลาย หายห่าง อย่างเวลา 0ความรักที่ พี่มี ไม่แปรผัน ยังรักกัน เพียงเธอ ละเมอหา แม้ความหวาน อ่อนหวานบ้าง อย่างเป็นมา ขอสัญญา ว่ารัก จักไม่คลาย 0ครบหนึ่งปี กลอนหวาน ฉันบทแรก ไม่ได้แจก หวานถี่ ให้คนไหน หวานเพียงเธอ มาครบปี ไม่เปลี่ยนใจ คงจำได้ ความคิดถึง ที่เดินทาง 0ความคิดถึง เดินทาง ครบปีแล้ว ยังแน่แน่ว เส้นเดิม ไม่เริ่มห่าง แม้ต้องเดิน มาเป็นปี ไม่เปลี่ยนทาง มุ่งตรงถึง เธออย่าง ที่ตั้งใจ 0ถึงบางครา เวลา พี่มีน้อย หวานน้อยหน่อย แต่พี่ยังเต็มใจให้ หวานน้อยบ้าง เธอจ๋า อย่าน้อยใจ ถึงอย่างไร ใจพี่ มีเพียงเธอ 22 กุมภาพันธ์ 2554
หกเดือน ธารหลั่งรินถั่งเลือด ไม่หายเดือดแม้หกเดือน รอบเมืองมากเรื่องเหมือน สุมมูนมองสิ่งหมองมล ค้านธรรมกับคำถาม ใครคุกคาม ใครฆ่าคน? บัญหาไหลบ่าหน โดนบีบหดโดนบดหาย ยอกช้ำเจ็บย้ำชาติ ถมรุมราษฎร์ที่เรียงราย โว่งว้างหวังวางวาย ขวัญวังเวงคว้างเคว้งเวียน หาแสงหลายแห่งส่อง สิ้นแสงทอง สูญแสงเทียน ปั่นผวนลมป่วนเผียน ไป่พ้นผ่านปวงพาลโพย รอยร่อยคงรอยร้าว ยินเรื่องราวยิ่งแรงโรย พูนผิดเพิ่มพิษโผย ยายีแผ่ย่ำแย่ภูว์ เมฆคลุ้ม หมอกคลุมเคลื่อน ทั้งหกเดือนถ้าหันดู ยักษ์พล่านหลายย่านผลู สื่อถ้อยไพล่สาไถยแพลง ธารหลั่งรินถั่งเลือด ส่อเค้าเดือดสาดข้นแดง หวาม ยั่น นึกหวั่น แหยง เกรงทวนยุคกรมทุกข์เยือน แด่วาระครบรอบหกเดือนเหตุการณ์สงครามความขัดแย้งทางการเมือง ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ครับผม (๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓)
๐ เสียงปืนปังดังลั่นสนั่นป่า เลือดแดงทาคราซบลงทบฝัน หากเป็นใครไม่กล้าเกินจาบัลย์ ปลิดชีพนั้นพลันดับกับมือตน ๐ หวังใดซึ่งจึงกล้ามาลาโลก ปลิดดอกโศกเศร้าล้ำมานำหน เพื่อหวังสื่อสารนำย้ำผู้คน พลีค่าล้นตนมีชีวีเดียว ๐ เคยคิดกันบ้างไหมให้ใครคิด คนทำผิดชนิดไหนใครเฉลียว “สืบ”ทอดร่างวางวายเพียงดายเดียว ให้ธารเชี่ยวอนุรักษ์ได้ถักทอ ๐ ครบวาระจะวนจนบรรจบ เวียนมาครบคราใหม่มีไหมหนอ จะสืบสานงานอย่าง “สืบ”ถางรอ หรือเพียงต่อตำนานพอผ่านไป ๐ เสียงปืนปังดังลั่นสนั่นป่า มีใครกล้าองอาจประกาศไหม แต่วันนี้สู่ฝันอันแสนไกล กล้าพลีใจดวงหวัง ดังสืบทำ คนกุลา ในวสันต์ เขียนเพื่อค้นหาสำนึกอนุรักษ์แห่งตน เป็นอนุสติเพื่อระลึก ในโอกาสครบรอบยี่สิบปี ถึงการจากไปของ สืบ นาคะเสถียร
ยี่สิบห้าสิงหามาบรรจบ วาระครบหนึ่งปีที่สานฝัน เข้าบ้านกลอนวันนี้ที่พบกัน เพื่อนพี่น้องสังสรรค์ผ่านบทกลอน กาพย์ยานีที่ลงเป็นครั้งแรก เฟื่องฟ้าแทรกขอลงตรงพร้อมอ้อน เพียงบทเดียวด้วยขอชิมลางก่อน เสียงสะท้อนตอบรับนับถือใจ พี่ขวดเก่ามาเม้นท์เป็นคนแรก ตามด้วยน้องชื่อแปลกฉางน้อยไง น้องโคลอนตัวจ้อยสวยไฉไล อีกน้องใจปลายทางก็ตามมา ไม่ได้ลืมกวีน้อยเจ้าสำราญ ตามด้วยหวานก่องกิกไปไหนหนา หายไปนานทิ้งบ้านกลอนน้องยา คงสุขสบายอุราห่างบ้านไกล มาวันนี้ที่ครบรอบอีกครั้ง ทุกคนยังอยู่ดีมีสุขไหม บ้านกลอนเราเหงาเงียบซบเซาไป รู้สึกอย่างไรไม่รู้ดูเงียบงัน ไม่ค่อยมีคนเม้นท์กันเช่นก่อน งานคงมากจากก่อนหรือไงนั่น หลายคนหายไปเลยเคยเม้นท์กัน คงอยู่ดีมีสุขสันต์กันทุกคน ขอขอบคุณน้ำใจไมตรีจิต น้ำตาลหวานรับมิตรทุกแห่งหน รับน้ำใจไมตรีจากทุกคน ขอให้พ้นทุกข์ภัยสุขใจกัน
...คนเดียวกันในวันก่อนยังอ่อนหัด สารพัดจะขัดขืนไม่รื่นหู มาวันนี้ดีใจเพราะได้ครู พบผู้รู้อยู่นานบ้านกลอนไทย ครบหนึ่งเดือนเหมือนหนึ่งปีที่เรียนร่ำ ทุกถ้อยคำพร่ำอ่านผ่านสมัย หลายหลายบทงดงามซ่อนความนัย อ่านแล้วใจเริงรื่นสุดชื่นบาน จึงอยากแต่งให้เก่งเร่งศึกษา ปรารถนาว่ากลอนให้อ่อนหวาน นำข้อคิดนานามาเจือจาน ให้ผู้อ่านซ่านซึ้งตรึงฤดี วอนเพื่อนพ้องน้องพี่มีใจมุ่ง ช่วยผดุงวรรณกรรมล้ำเลอศรี เข้ามาร่วมฝึกฝนกลวิธี ฝากผลงานดีดีที่นี่กัน
ยี่สิบแปดกรกฎาปีห้าหนึ่ง เป็นวันซึ่งเตี่ยนั้นดับขันธ์สลาย คืนไปหมดทั้งสิ้นดินน้ำลมไฟ เตี่ยเหลือไว้เพียงชื่อแซ่แลตระกูล จะครบรอบหนึ่งปีที่เตี่ยจาก ก็พลัดพรากจากเพียงกายที่หายสูญ เตี่ยยังคงสถิตย์ในใจพร้อมมูล และยังพูนเพิ่มทวีที่ดวงใจ จากนิรันดร์สู่นิรันดร์อนันตกาล ขอเตี่ยสู่พระนิพพานอันผ่องใส บุญกุศลที่เตี่ยทำไว้อันใด เกื้อหนุนให้สู่สวรรค์ชั้นนิพพาน
ขอบคุณครับ พรวันเกิดได้รับ จากผองเพื่อน ที่วนเวียรครบรอบ อีกครั้งหน ประสาทพร ส่งให้สุข สุขดาลดล จากทุกคนยังซึ้ง ตราตรึงซึ้งในใจ ในวันเกิดปีนี้ พรได้รับ ลูกได้จับ ร้อยเรียง กังวานใส ส่งให้แม่ ให้พ่อ อยู่แดนไทย ขอบคุณใน บุญคุณเลี้ยงดูมา ค่าของพร พรที่ได้ ในวันนี้ โปรดจงมี ประสิทธิ ไปส่งหา คลุ้มภัยพ่อ ดูแลแม่ตลอดเวลา ภัยอย่ามาใกล้แม่พ่อ ขอวิงวอน ขอบคุณพ่อ ขอบคุณแม่ให้ลูกเกิด ถือกำเนิดเกิดมา พร่ำสั่งสอน เลี้ยงดูลูก ผูกรัก ไม่แคลนคลอน แม้ลูกจร จากไกล ใจส่งมา ค่าคำสอนที่พร่ำสั่ง ยังคงซึ้ง เปรียบประหนึ่งเงินทอง ของมีค่า ทั้งโอกาส เงินทอง และวิชา ที่มีมาเพราะแม่พ่อ คอยดูแล วันเกิดลูกปีนี้ขอให้แม่ ให้พ่อมีสุขภาพแข็งแรง เป็นแสง เป็นโพธิ์ ทอง คลุ้มครองผองภัยให้ลูก รักที่ผูกพันธ์ ผูกฝัน ฝั่นเป็นสาย จากใจลูก ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับแม่ที่ให้ชีวิตลูก กวีบ้านไร่ คองโก อัฟฟริกา ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ครบรอบ 5 ปี Praxis จากก้อนดินสู่ดาวที่พราวฟ้า จากสมองสองตาสู้กล้าแข็ง อดทนหยัดฟันฝ่ามิล้าแรง ทุกคนแกร่งทะนงทัดเทียมชน เริ่มจากศูนย์หมายจูนให้เป็นปึก ร่วมผนึกผลงานอย่างท่วมท้น ค่อยค่อยปั้นสานก่อรวมพ้องพล จนเป็นผลสำเร็จเจตจำนง ขนาดกลางเพาะบ่มคนชมชอบ หลายหน่วยงานยื้นมอบความประสงค์ เชื่อในภักดิ์พร้อมศักดิ์หลักมั่นคง ยื้นจำนงงานสร้างสรรค์รำไพ แปดสิงหาเวียนครบบรรจบรอบ กิจการงามงอกพราวไสว ผลบรรลุเปาหมายอันยาวไกล ผ่องอำไพทุกที่ทั่วถิ่นทอง รวมพวกพ้องร่วมงานสมัครสมาน สืบผสานแนวทางสร้างสนอง รักกลมเกี่ยวเกี้ยวก้อยดั่งรวงทอง ท่ามครรลองชีวิตลิขิตพลี ถึงวันนี้ดีเลิศประเสริฐล้ำ แพรกซิลจงก้าวนำสมศักดิ์ศรี เจริญรุ่งเกรียงไกรในปฐพี ก้องกังวาลสุขขีตลอดกาล
ยี่สิบหกมิถุนาเวียนมาบรรจบ เป็นวันครบรอบครูกลอนสุนทรภู่ ทั้งกวี,กาพย์,โคลง,กลอนพึงย้อนดู ช่วยเชิดชูภูษาศิลป์ระบินไกล ขอน้อมตั้งจิตบูชาครูบาร์ท่ๅน เมื่อถึงวันจัดธูปเทียนเวียนถวาย ระลึกถึงคุณค่าอนันต์ความเป็นไทย ซึ่งรักษ์ไว้ให้ดำรงโคลง,กาพย์,กลอน ทั้งภาษาและสำนวนชวนพินิจ ให้แง่คิดเตือนใจท่านได้สอน เป็นนักกวีชั้นสูงครูกาพย์กลอน ท่านสุนทรฯเมืองสยามนามระบือ น้อมรำลึกนึกถึงท่านในวันนี้ วันที่ครบสองร้อยยี่สิบสองปีมีความหมาย เหลือเพียงชื่อยังระลึกนึกเสียดาย ตราบชีพวายจะร่วมรักษ์เพลงกาพย์กลอน