ปฏิทินสิ้นปี...อีกปีแล้ว ยินเสียงแจ้วสวัสดีวันปีใหม่ รู้ดีรู้เห็นความเป็นไป ว่าจะปีไหนไหน...ไม่ต่างกัน แค่เข็มของเวลาวนมาครบ บรรจบรอบปีเข็มยาวสั้น ก็เริ่มรอบใหม่ในรุ่งวัน ก็แค่นั้นคิดอะไรให้มากมาย อย่าสนใจเรื่องปีที่เปลี่ยนหมุน จงสนใจตัวคุณ...ไหนเป้าหมาย ชีวิตที่เคลื่อนไหวยังไม่ตาย พร้อมเวลาเวียนว่าย...ครบรอบปี ถึงเวลามองตนค้นให้ทั่ว ทั้งตัวหัวใจไหนศักดิ์ศรี มองเวลาข้างหน้าอย่ารอรี เร่งสร้างความดี...เพื่อชีวิต
.. เพราะไร้เชื้อชาติ จึงขาดวิถี ในประเพณี แห่งชีวิตคน ... เพราะไร้สัญชาติ จึงพลาดตกหล่น จากรัฐของตน เป็นคนชั้นสอง ... แต่มีน้ำใจ จากไทยพี่น้อง ผู้ไร้ทั้งผอง จึงยังพบสุข ( เขียน | 8 ธ.ค. 2551, 18:46 น., ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา ) [ ออนไลน์ครั้งแรก | 8 ธ.ค. 2551, www.thaipoem.com ]
กำสรวล ตุลา ๕๑ เอย น้ำตา โลมอาบฟ้าอาบดินไม่สิ้นหยาด เจ็ดตุลาห้าหนึ่งก็ถึงฆาต รัฐอุบาทว์เข่นฆ่าประชาชน เอย ชีวิต จักสถิตใดชอบประกอบผล อำนาจทรามถ่ายเทหลากเล่ห์กล เหยียบศพคนบริสุทธิ์เข้ายุดย้ำ เอย ตุลา คาวหยาดเลือดและน้ำตาชโลมฉ่ำ เสียงพิสุทธิ์แห่งชีวินไม่สิ้นคำ อาวุธคนระยำก็ทำร้าย เอย ความชอบ ไร้คำตอบใดอิงเป็นสิ่งหมาย เหมือนดังลมโลมหวามพาความตาย ไปกับหนาวสุดท้ายของสายลม เอย บ้านเมือง จักสุ่มเคืองใดดับการทับถม สำนึกใครใหญ่โตความโสมม ประหนึ่งใคร่นิยมความชั่วช้า เอย อำนาจ แลใครต่างผูกขาดปรารถนา แม้นต้องย่ำบนรอยเลือดและน้ำตา ข้ามศพซากปวงประชาก็ยังใคร่ เอย วิญญาณ ผู้ฉิบหายวายปราณหรือยิ่งใหญ่ ผิดแต่ผู้ฉาบฉวยต่างอวยชัย อวดอ้างประชาธิปไตยเซ่นชีวิต เอย กู แสนอดสูบ้านเมืองวิปริต มันโกรธแค้นมาแต่ใดในทางทิศ ถึงหมายปลิดหมายปลงกันตรงนั้น . โดยคำ ลานเทวา
จากงอกเงยสู่งอกงาม ผ่านโมงยามหลายเพลา งอกงามสู่แข็งกล้า ยืนทายท้า มิหวั่นเกรง แข็งกล้าไม่ช้านาน ออกดอกบานดูยิ่งเก่ง ธรรมชาติกล่อมบรรเลง ให้ครื้นเครงในอุรา คืนเดือนเลื่อนผ่านพ้น ทั้งแดดฝนและลมกล้า สุดท้ายวัยชรา ก็บ่ายหน้าเข้ามาเยือน ผุกร่อนและผุพัง ทิ้งทอดร่างโดนแทะเฉือน ไม่นานถูกลืมเลือน จนดูเหมือน...ไม่เคยมี ชีวิตคนนั้นเล่า จากวัยเยาว์สู่เมืองผี สุดท้ายปลายชีวี คือวิถีอนิจจัง จากงอกเงยสู่งอกงาม ดั่งข้อความที่กล่าวอ้าง เฉกป้ายบอกชี้ทาง แสงสว่าง...สัจธรรม ชีวิตควรสำนึก คิดตรองตรึกเป็นประจำ จะได้ไม่ถลำ ให้ดิ่งด่ำทางอบาย สุดท้ายปลายชีวิต คงเหลือจิตที่เฉิดฉาย หลุดลอยออกจากกาย สู่ที่หมาย...แดนนิพพาน
จำวันนั้นได้ไหม ? พกพาใจเกินร้อยสอยดาวฝัน แดงดอกจานบานท้าแสงตาวัน คือทรงจำ...คือคำขวัญ...คือสัญญา ดอกไม้บานที่ลานภู มิงามหรูดูแฝงแห่งคุณค่า คือคนด้อยโอกาสพัฒนา รอเวลาวาระจะเบ่งบาน เพื่อเป็นพืชพรรณแห่งแผ่นดิน สืบทอดศาสตร์ศิลป์แห่งถิ่นฐาน ชีวิตเติบใหญ่ไปตามกาล เรียนรู้สู่งานผสานธรรม เธอมิใช่หรือ ? เคยยึดถืออุดมการณ์นานฉนำ ไฉนเลยลืมเลือนเหมือนกลับคำ ลืมทรงจำ...ลืมคำขวัญ...ลืมสัญญา เหลียวหน้าแลหลังคงวังเวง เคยเก่งฉกาจอาจสิ้นท่า คนหาญหันเหด้วยเวลา อ่อนล้าแหบโหยโรยแรง จำวันนั้นได้ไหม ? พกพาใจเกินร้อยถ้อยแถลง เก่งกล้าคว้าฝันตะวันแดง หรือรู้แจ้งแห่งฝัน...มันไม่จริง
ท่าน...ท่านคือใคร ท่านยอมทิ้งได้แม้พระราชวัง ทิ้งทรัพย์ศฤงคารมากมายไว้เบื้องหลัง ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความจริง ท่าน...ท่านคือใคร ท่านยอมได้แม้สละชีวิตนั้น เพื่อปลดปล่อยผองสัตว์นับอนันต์ ยอมละทิ้งสวรรค์มาทุกข์ทน ท่าน....ท่านคือใคร ท่านยอมสละได้แม้สหายที่รักยิ่ง เพื่อมุ่งสู่ทางสายกลางอย่างแท้จริง ไม่เอนอิงสุดโต่งไปทางใด ท่าน...ท่านคือใคร ท่านโอบกอดแม้มหาโจรใจบาป ผู้มีมือเปื้อนเลือดจนยอมศิโรราบ ผู้ที่ทุกคนแช่งสาปทั้งแผ่นดิน ท่าน...ท่านคือใคร ท่านยอมเสี่ยงภัยเพื่อก่อตั้งศาสนา บนแผ่นดินที่มีแต่คนแช่งด่า ต่างประนามว่าท่านบ้าบอ ท่าน....ท่านคือใคร ท่านโอบอุ้มลูกแพะบาดเจ็บตัวหนึ่งไว้ เพื่อพาขึ้นภูเขาสุดฟ้าไกล ไม่สนใจแม้นใครใครจะหัวเราะเยาะ ท่าน...ท่านคือใคร ท่านกล้ายอมตายเพื่อชนทั้งผอง โดยไม่มีความโกรธแค้นเข้าครอบครอง แม้นจะต้องโดดเดี่ยวและเดียวดาย ท่าน...ท่านคือใคร ท่านเคยช่วยชีวิตหญิงโสเภณีหนึ่ง ผู้ที่ไม่เคยมีใครคิดจะฉุดดึง ท่านเป็นที่พึ่งท่านยื่นมือ ท่าน...ท่านคือใคร ท่านยอมถูกใส่ไคล้ตั้งหลายหน ยอมถูกบางชนตามฆ่าพร่าผจญ เพียงหวังชนทั้งหลายได้แจ้งสัจจ์จริง ท่าน....ท่านคือใคร ท่านไม่ยอมฆ่าแม้มดตัวน้อย ไม่เคยทำลายแม้หญ้าต้นต่ำต้อย ไม่ยอมท้อถอยบนทางแห่งความรักและเมตตา.....
น้องเอยพี่เคยเฝ้าสั่งสอนเจ้า พี่พูดทุกค่ำพี่พร่ำทุกเช้า พี่อยากเห็นเจ้าสมชายชาตรี วันนี้เต็มปลื้มจนพี่ลืมโศกี น้ำตาอาบหน้าไหลปรี่ โปรดรู้ว่าพี่นี้เปรมปลื้มใจ หลับเถิดหนาเจตนาพี่จะสานต่อ ไม่ต้องห่วงเเม่เเลพ่อ ความดีที่ก่อจะทอต่อไป สายเลือดของเเม่อยู่บนผ้าเเพรธงไทย ตรงเเถบสีเเดงริมท้ายมีเลือดน้องชาย อยู่ในเเพรเเดง
วาเลนไทน์ความรักบานมีความสุข วันสนุกต้องคริสมาสต์เลี้ยงสังสรรค์ ขึ้นปีใหม่กินเหล้าเมายากัน วันเกิดมันส์เป่าเค้กเลี้ยงกันดี เหลียวมองหน่อยประเพณีที่เก่าแก่ มีมาแต่ยังไม่เกิดคุณรู้นี่ แต่ทำไมไม่สนใจไม่ใยดี สิ่งที่มีอาจสูญหายถ้าเฉยชา
@.....บังเอิญหลงทางมาเมื่อครารุ่น มารับความอบอุ่นอย่างสุดแสน ได้รับการบ่มเพาะ ณ ดินแดน ที่สมบูรณ์มาตรแม้นแผ่นดินทอง .@....ครั้นเติบใหญ่ได้วิชามากูลเกื้อ มีโอกาสช่วยเหลือถิ่นสถาน อิ่มข้าวแดงแกงร้อนมาเนิ่นนาน ก็ถึงกาลแทนคุณท่านด้วยมั่นใจ @....ท่านให้เป็นกุลีแม้ขี้ข้า @ใช้แรงกายดุจทาสาก็ทำได้ เพื่อแผ่นดินถิ่นทองผ่องพิไล มิเคยคิดเดียดฉันท์ในงานนานา @....ท่านให้เป็นเบี้ยเล็กๆบนกระดาน เป็นด่านที่ห้าวหาญและทายท้า ก็เป็นเบี้ยที่พร้อมจะบีฑา บดขยี้ปัจจาที่รุกราน @....ท่านให้เป็นเม็ดน้อยคอยระวัง การภายในที่อาจยังความร้าวฉาน ก็เป็นเม็ดฝีปากร้ายในกระดาน แผ่ประจานปมปัญหาท้าความชัง @....กิจการใดที่ผู้ใหญ่ไม่อาจกล่าว เม็ดสามหาวก็ปากกล้าหน้าขึงขัง แม้ในใจจะกริ่งเกรงถูกเกลียดชัง แต่เพื่อยังประโยชน์ใหญ่ จึงไม่เกรง @....ท่านให้เป็นม้าศึกคึกคักสู้ เพื่อโรมรันพันตูผู้ข่มเหง จากแดนดินถิ่นไหนไม่กลัวเกรง อย่าอวดเบ่งบนแดนดินแผ่นดินทอง @....ท่านให้เป็นเรือน้อยลอยปริ่มน้ำ ผลิตความรื่นเริงบันเทิงฉลอง รวมสมัครพรรคพวกทั้งรำร้อง มาแซ่ซ้องสาธุการสำราญใจ @....แต่เรือเล็กทั้งยังเด็กจึงม้วนคลื่น กระทบกระทั่งกับผู้อื่นจนหวั่นไหว เผลอชี้นิ้วสั่งการใครต่อใคร ลืมนอบน้อมกับผู้ใหญ่ไม่เข้าที @....เพราะใจหมายมุ่งให้งานสำเร็จ มิได้คิดเผด็จการหว่านสี มิได้ถือตนเหนือใครในชีวี มิได้มีจิตหยามลามผู้ใด @....ท่านให้เป็น
แร็กนาร็อกแล็กนรกอกสนั่น เล่นจนมันเช้าจนค่ำนำหน้าเขา เก็บเลเวลจนเก่งเฮงไม่เบา โอ้ตัวเรานี้หนาบ้าแต่เกมส์ จากโนวิสไล่แทงแต่หนอนเขียว มีดเล่มเดียวคือศาตราพาจนสูง ดั่งกับเด็กมีดินสอคอยชักจูง เรียนจนสูงก็ด้วยความพยายาม พอต่อมาเป็นโจรฟันกับผี แสนจะดีไฮดิ้งได้ไร้ผิดหวัง ตัวโหดมาสู้ไม่ไหวเกินกำลัง ไม่ต้องยั้งกดF3ลงใต้ดิน ดังกับเด็กวัยรุ่นที่ครุ่นคิด รู้ถูกผิดใจความตามประสา แต่ไม่อาจสู้ศึกได้จึงต้องมา คอยพึ่งพาพ่อแม่แน่แท้จริง ถึงที่สุดได้เป็นแอสซาซินม่วง แสนจะง่วงเหนื่อยล้านัยตาฉัน นอนซักพักตื่นมาค่อยว่ากัน ยังไงฉันก็ได้เป็นจ๊อบสองเทียว หลังจากได้เป็นแอสก็ฮึกเหิม ลุยสะเทินน้ำบกตกทุกหน ไม่เกรงกลัวมอนเตอร์ทุกตัวตน ใส่พิษจนF1พังคลั่งเต็มที ดังกับคนที่ผานโลกมามาก จึงได้อาจฮึกเหิมสะเทินไหว จนบางครั้งต้องพลาดท่าระอาใจ ลืมนึกไปว่าคนเก่งเฮงยังมี จนบัดนี้เลเวลเข้าสิบที่เก้า โอ้ตัวเราเก่งหน้าพาให้เหลิง แต่พอหันกลับมาความจริงเดิม เราขาดเพิ่มการงานนานนาเชียว จึงได้กลับมาพินิจชีวิตตน โอ้สุดทนเลเวลต่ำย้ำให้หมอง เป็นแค่เพียงโนวิสที่ลำพอง เราทั้งผองควรกลับมาสู่ความจริง
จะ...สู้ฝัน จะพายเรือทวนน้ำฝืนสายฝน จะฝ่าฟันฝูงชนสู่จุดหมาย จะแหวกฟ้าข้ามผ่านอันตราย ขอปีนป่ายสู่จุดหมายที่ตั้งใจ จะแหวกพงขวากหนามสู่ยอดสวน จะแหวกทวนสายน้ำที่หลั่งไหล จะแหวกคลื่นฝ่าลมให้สมใจ เพื่อจะได้จุดหมายดังต้องการ จะคว้าดาวก้าวเดือนมาเก็บไว้ จะหยิบดาวดวงใสใสใส่ขนมหวาน จะหอบฟ้าคว้าเดือนเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อพบพานยอดดวงใจที่รักจริง จะคว้าจันทร์นวลผ่องมาส่องแว่น จะคว้าแผ่นฟ้าใสมาใส่หิ้ง จะคว้าดาวสาวเดือนมาแอบอิง จะรักเธอจริงจริงยิ่งกว่าใคร...นะนวลปราง
พ่อเเม่ก็เเก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวัน ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน เเต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ คนเเก่ชะเเรวัยคิดเผลอไผลเป็นเเน่นอน ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร ให้กินเเละให้นอนคลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย ร้องไห้ยามป่วยไข้ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่เเม้เหนื่อยกายก็ยอมทน หวังเพียงจะได้ยลเติบโตจนสง่างาม ขอโทษถ้าทำผิดขอให้คิดทุกทุกยาม ใจเเท้มีเเต่ความหวังติดตามช่วยอวยชัย ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่งมีหรือหวังอยู่นานได้ วันหนึ่งคงล้มไปทิ้งฝังไว้ให้วังเวง
เวลาไม่มีเงิน.....คนแรกที่คิดถึงคือพ่อ แม่ แต่พอมีเงิน.....คนแรกที่คิดถึงคือแฟน,เพื่อน อยากได้รถ.....คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อ แม่ แต่พอมีรถ......คนแรกที่จะไปรับคือแฟน,เพื่อน ร้านอาหารหรู ๆ บรรยากาศคลาสิค.....มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน อาหารบนโต๊ะที่บ้าน.....มีสำหรับพ่อ และแม่ โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า.....มีสำหรับแฟนและ เพื่อน ทีวีและสวนหลังบ้าน.....มีไว้สำหรับพ่อและแม่ พ่อและแม่ คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอน.....เพื่อความอยู่รอด ลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเนต ก่อนนอน.....เพื่อให้หลับฝันดี เวลาเรามีความสุข.....มักจะมองหาแฟนและเพื่อน เวลาเรามีความทุกข์.....คนที่กังวล หดหู่ และเศร้าสลดใจคือพ่อและแม่ เวลาประสบความสำเร็จ.....เรามักมองหาแฟนและเพือนเพื่อนัดฉลองและสังสรรค์ แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่.....แต่กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามไป ลูกไปรื่นเริงตามโรงหนังเธคผับโต๊ะสนุก ฯลฯ..... พ่อและแม่กำลังทำงานหรือนอนหลับเก็บแรงไว้ทำงานหาเงินในวันรุ่งขึ้นเพื่อแลกความสุขของลูกอยากให้ลูกเรียนสูงๆ เวลาแต่งงาน.....คนที่เป็นธุระหาสินสอดทองมั่นคือพ่อและแม่ คนที่มีความสุขคือลูก พ่อและแม่ตำหนิ ตักเตือน บางครั้งเต็มไปด้วยอารมณ์.....เพื่อให้ลูกได้ดี แต่ลูกคิดว่าสิ่งที่พ่อและแม่พูด.....เป็นแค่เรื่องไร้สาระ พ่อและแม่.....คือผู้ฝ่าฟันปัญหาเป็นร้อยพันประการเพื่อลูก แต่พอลูกมีปัญหา.....มักคิดได้แค่ ท้อถอย หดหู่ หรืออยากตาย *-*
มีเรื่องเล่าขานมานานนัก ทุกข์หนักหนาทุกเวลาช่างยากเข็ญ ทะเลาะกันมากมายให้ลำเค็ญ ทั้งเช้าเย็นไม่สนุกทุกข์จริงจริง เป็นเพราะสามีภรรยาที่ครองคู่ ทะเลาะอยู่ใครผิดถูกในทุกสิ่ง ต่างว่ากันฉันนะถูกเธอที่ผิดที่กลอกกลิ้ง เหมือนกับขิงและข่าจะบ้าตาย ในที่สุดไม่รู้ว่าใครถูกผิด ค่อนชีวิตทะเลาะอยู่ไม่รู้หาย เสียน้ำตาเสียน้ำใจไม่วางวาย แล้วเมื่อไรจะมีสุขสนุกเลย มีอีกคู่อยู่กันแสนหวานนัก คนทั้งหลายต่างทายทักน่ารักเหวย สักครั้งเดียวทะเลาะกันยังไม่เคย มีแต่เชยแต่ชื่นกันตลอดมา ความลับที่หวานกันได้เสมอ อยู่ที่เธอและเขาเข้าใจหนา ต่างยอมรับว่าตัวผิดเองขอโทษนา แย่งกันรับว่าฉันผิดอย่าคิดเคือง เมื่อต่างคนต่างแย่งเป็นฝ่ายผิด แย่งกันคิดขอโทษไม่มีเรื่อง ยิ่งนานวันยิ่งรักกันให้ลือเลื่อง ช่างฟูเฟื่องชีวิตนี้มีสุขจริง