สุขสันต์วันวาเลนไทน์ คือวันอะไรใจแต้มสี ชมพูดูเปล่งเปรียบแดงมี คงเป็นวันดีๆอีกหนึ่งวัน หากนี้คือวันแห่งความรัก ขอให้ใครทายทักจักสุขสันต์ มีคู่ครองเคียงตนจนนิรันดร์ ตลอดความใฝ่ฝันนั้นเป็นจริง ขอให้คนโสดโสดนั้นได้คู่ และร่วมกินอยู่รู้ทุกสิ่ง ขอให้คนมีคู่รู้แอบอิง และเป็นยอดยิ่งพริ้งดวงใจ มอบความรักทักทายให้แก่กัน ทุกสิ่งอย่างนั้นอันสดใส มีความสุขสมดั่งหวังสิ่งใด สมเจตนาพาไปสมใจเทอญฯ...(วาเลนไทน์) หทัยกาญจน์ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๕
กลางแสงจันทร์ขาวนวลแสนชวนฝัน ฉันเคลียคลอ แอบอิงกัน พร้อมเกลียวคลื่น กายเคียงกายหลับตาฝัน แม้นยามตื่น โอ้ค่ำคืน นี้นั้น ฉันสุขใจ ฉันมองดาว ระยิบฟ้า ระยับฝัน ชี้ชวนนับ นี่นั้น ชี้ชมใหญ่ ดาวความรัก ดาวความใคร่ คุข้างใน อยู่ที่ใจ รู้ควร ทบทวนความ ฉันหักห้าม ดาวใกล้ตัว ที่หมกหมุ่น คอยฉุดดึง ด่ำลึก น่าเกรงขาม จิตประหวั่น พรั่นพรึง ทุกชั่วยาม เมื่อแก้มงาม แนบชิด สนิทกัน ฉันอยากผลัก ให้ห่าง หนแห่งรัก บรรยากาศ เป็นใจนัก ไม่เหหัน จากนั่งอิง นอนโอบกอด พลอดรักกัน วาเลนไทน์ ใจหวั่น สะท้านทรวง ฉันเตลิด เปิดทาง ห่างความคิด ห่างความถูก สู่ผิด ลิขิตล่วง ความหวงแหน หายไปจากในทรวง เมื่อกระดุม หลุดร่วง เลื้อปลดปลง สติคืน ย้อนกลับ รับรู้ชอบ แต่กายตอบ สนองให้ อย่างไหลหลง รสกามา รุ้มเร้า มืดมัวลง เรียกว่าหลง ในกาม ชั่วข้ามคืน ฉันฉลอง ความรัก ประจักษ์จิต ฉันได้ทำ สิ่งผิด ด้วยฤทธิ์หื่น ฉันพลั้งพลาด ไปแล้ว ไม่หวนคืน ฉันจะครอง รักให้ยืน ได้อย่างไร
บางรู้สึกอ่อนไหว ผ่านวัยเขลา ดอกรักเจ้าผลิงาม บนความฝัน เพียงครู่ใคร่ในชื่น พ้นคืนวัน ใช่สำคัญในตระหนัก การถักทอ ค่านิยมกลายกลับ ความรู้สึก บางสิ่งเร้นซ่อนลึก มิอาจก่อ สัมพันธ์รักชั่วครั้ง มิรั้งรอ พาเริงร่านพล่านพะนอ พึงพอใจ ผิวเผินเพียงพบพาน แล้วผ่านพ้น รักเอย รักสับสน อยู่หนไหน กามเทพล้อเล่น วาเลนไทน์ รักอย่างไร หรือเจ้า ที่เฝ้ารัก อาจแปลกใหม่ วัยวันความฝันเจ้า เจือด้วยความโง่เขลา ไม่รู้จัก วาดความหมายหมดจด งดงามนัก จึงมอบภักดิ์ หลงพลั้งทั้งใจกาย จากเสี้ยวสุขสมหวัง เพียงครั้งครู่ สร้างความรักแปลกดู มีความหมาย ข้ามอารมณ์ผ่านลับ รักกลับกลาย โลกทั้งโลกปานทะลาย จมน้ำตา แค่วัยวันผันผ่าน การลิ้มรส กลีบกุหลาบงามหมดจด ปรารถนา วันนี้รัก อาจรุ่งพรุ่งนี้ลา เพราะความรักผ่านพา ไม่แน่นอน ………………… โดยคำ ลานเทวา เพราะความรัก มักเป็นทุกข์ อย่าหลงเพลินสนุก กับมันนัก.... แม้ค่านิยมอันเพี้ยนแผกจักคอยฉุดรั้งให้พลั้งพลาด จากความไม่ฉลาดแห่งวัย ก็ยังขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆ รุ่นใหม่ ผ่านพ้นวันแห่งความรักด้วยใจที่เป็นสุข
เวียนรอบครบอีกคราวาเลนไทน์ วันที่ใครต่อใครเขาปล่อยของ ปีนี้รัฐรณรงค์จงปรองดอง จักปอสี่มอสอง เอ้า.!.เชิญซน จึง ถุงยางอนามัย ให้จ่ายแจก แหลกแน่แน่งานนี้ปี้แล้วป่น หกสิบล้านชิ้นลั่นแทนกันชน โอ้ช่างคิดหนอคน..ใครคนคิด? ดีเลวเสริมหรือสร้างเปิดทางแผล อนาถแท้ผิดถูกลืมถูกผิด ลืมศีลธรรมจริยธรรมนำชีวิต กลับหลอนจิตลากจงลงเหวลึก สำหรับฉันนั้นแสนน่าอดสู ใช่กร่อนสึกยังสู้แถมรู้สึก แต่อย่าแจกหลอกใจพาให้คึก แค่เพียงตรึกพลางตรอง..มองไปใน แม้นรับของมาครั้นปัญหาแน่ แย่จริงหนอของนี้ปล่อยที่ไหน? ที่สำคัญฉันนี้ไม่มีใคร วาเลนไทน์จึงท้อพ้อรำพัน เสียใจด้วยหวังดีที่รัฐมอบ ขอบคุณมาอย่างมากจากใจฉัน ไม่ได้ตั้งใจโสด โปรดรักปัน ช่างหัวมันหากแม้..กำพร้าเมีย ๚ะ๛ คอนพูทน
♥ ดอกแก้วกรุ่นกลิ่นอวลเมื่อจวนสาง หนาวน้ำค้างหล่นเผาะ..เกาะปลายฝัน อีกไม่นานแสงทองของตะวัน จะปลุกฝันแสนงามสู่ความจริง ♥ เดือนรูปเคียวเกี่ยวสรวงเฝ้าทวงถาม ขอบฟ้างามมีดาวลอยอยู่อ้อยอิ่ง ยังจะมีที่ให้ได้พักพิง แด่...เดือนมิ่งมิตรเจ้า..เมื่อเช้ามา ♥ หรือเมื่อมีเพื่อนใหม่..ส่องใสสด เดือนจะหมดความหมาย..เช่นไร้ค่า ตะวันแย้มแกมทองส่องแสงมา เดือนจำลาหลบลี้..ต้องหนีไกล ♥ และดอกแก้วกรุ่นอวลเคยชวนฝัน ก็กลับพลันหลบช่อเพราะ..กอไหว น้ำค้างพร่างลมสะบัดกิ่งกวัดไกว พาห้วงใจเดือนลับ...ไปกับลม
นิยามแห่งความรัก มีหลายหลากมากหลายรส เวอร์ชั่นมันปรากฏ ตามแต่บทไม่เที่ยงแท้ รักโลก..จึงเกิดร่าง สู่โลกกว้างทางครรภ์แม่ เสียงก้องร้องอุแว้ รักของแม่..สิแท้จริง ! รักลูก..แม่สุขสม ให้ดูดนมประหงมยิ่ง โตมากล้าสุงสิง รักเพื่อนจริงวิ่งเล่นกัน เข้าเกณฑ์เป็นนักเรียน ชอบขีดเขียนรักเรียนมั่น คนสอนผ่อนผูกพัน รักอาจารย์..ขั้นต่อมา รักกลุ่ม..สุมกันใหญ่ ล้อเล่นไปไม่กังขา จับคู่ดูแววตา หนุ่มสาวกล้า..เริ่มท้าทาย รักแฟน..แทนรักเพื่อน พูดกลบเกลื่อนแค่เพื่อนใกล้ รักแท้..แค่ในใจ อยากบอกไปแต่อายนัก ! หลากหลายเลิกรักกัน ขาดสะบั้นขั้นอกหัก ปลอบใจไม่เข็ดรัก บอกอกหัก ดีกว่ารักไม่เป็น ! รักคุด..สุดสงสาร หวานอดอมขมเห็นเห็น รักข้างเดียว..เกี้ยวไม่เป็น แอบซ่อนเร้นเว้นคู่กาย สมรัก..มักครองคู่ ร่วมกินอยู่เปิดอู่ใหญ่ หัวปีท้ายปีไหล ลูกหญิงชายเสียงให้ขรม รักเมีย..เคลียร์ต่อหน้า ลับหลังพา คว้ากิ๊กชม หลายคู่ครอบครัวล้ม ทิ้งลูกตรม..แค่สมใจ ! รักผัว..ยอมกลัวเกรง แก่เกินเก่งเกรงจะไป ทนท้อง้อไม่ไหว จำยอมให้ไปมีน้อย รักตัว..เห็นแก่ตัว จนยอมชั่วมั่วคนถ่อย โกงสิ้นกินอร่อย เห็นลาภลอยในงบเงิน รักชาติ..ประกาศก้อง ฉากปรองดองมองผิวเผิน หลังฉากรักกันเกิน กัดยับเยิน เดินคนละทาง ละครตอนหลังข่าว เร็ตติ้งเข้าเอาทุกอย่าง ดราม่าเก๊กท่าจัง แต่ลับหลังแบ่งข้างเล่น รักไทย ทำไมแยก
วันนี้โลกงดงามด้วยความรัก พร้อมมอบตักตวงให้จากใจซื่อ มอบดอกไม้แนบกมลวางบนมือ จำหลักสื่อคุณค่าคำว่ารักใจส่งใจด้วยมาลาบุปผาชาติ ออกประกาศความในใสสมัคร ตาต่อตาหวั่นไหวฤทัยมัก- แจ้งประจักษ์ด้านซึ่งไม่พึงเจอโอ้สาวสาวหน้าสวยตัวน้อยจ๋า อย่าหลงคารมร่ำคำเสนอ จากชายซึ่งประเสริฐ รักเลิศเลอ เพียงปรนเปรอปรารถนากามารมณ์รักอาจเป็นสิ่งดีในชีวิต ถ้ารักผิดทางจะระกำขม ค่อยค่อยรักคบหาอาวรณ์ชม จะไม่ตรม กลืนกล้ำหยาดน้ำตาถ้ายินดีบ่มนิยามของความรัก มันจะหนักและแน่นปานแผ่นผา เรือนใจสุดสดชื่นรื่นอุรา เรืองฤทธาอมฤตชิดชีวินหนุ่มหนุ่มเอ๋ยจงให้เกียรติอย่าเหยียดหยาม อย่ารักตามกำหนัดครองปองถวิล อย่ารักเพื่อสนองใคร่ให้ยลยิน และอย่าหมิ่นสตรีหม่นป่นระยำแต่จงรักอย่างผู้รู้ค่ารัก คอยฟูมฟักรักออกดอกชุ่มฉ่ำ ตราบอนาคตพร้องร้องลำนำ ล่วงฉนำยอดทองของชีวิตร่วมกันเถิดปลูกดอกไม้แห่งความรัก มอบใจภักดิ์พันธุ์พฤกษาประกาศิต ร่วมเรียนรู้กันและกันฉันมิ่งมิตร อย่าเร่งปลิดพรหมจรรย์แค่นั้นเลย ..................................................... ปล.สุขสันต์ในวันแห่งความรักที่กำลังใกล้เข้ามา จงรักอย่างมีสตินะครับ ด้วยรัก อิอิ
เขาบอกเราว่าซื่อบริสุทธิ์ เปรียบประดุจดังสีกุหลาบขาว เรียวปากสวยได้รูป เสน่ห์พราว มองดวงตา ระยับวาว ดังต้องมนต์ เขาบอกว่าเอวองค์ช่างสมส่วน ตลอดกาย นั้นล้วน เพิ่มพูนผล ยามเคลื่อนไหว งดงาม ยามเยือนยล ดั่งนางฟ้าไม่ใช่คนที่เดินดิน ฉันลุ่มหลง คำหวานดังตาลเชื่อม ฉันเต็มอิ่ม ยิ้มกระเพื่อมครวญถวิล หลงคารม หนุ่มหล่อชม แทบจมดิน ลืมหมดสิ้น เมื่อชายมอง จ้องสายตา เธอสวย แสนสวย เธอแสนสวย ร่างระทวย อ่อนไหว สิเน่หา ให้ชมชื่น อิ่มเอิบจิต ฤทธิ์กามา ฉลองวัน เดือนกุมภา วาเลนไทน์ กุหลาบขาว เหยี่ยวช้ำ มาย้ำคิด หลังหลงลม พลั้งผิด นั่งคิดใหม่ เมื่อชายหนุ่มชื่นชมแล้วจากไป พร้อมคำกล่าว ทิ่มแทงใจ ไวไฟเธอ กุหลาบขาวเปลี่ยนสีจนดำคล้ำ ไร้เงาหนุ่ม คนทำ จนพลั้งเผลอ ด้วยหลบหน้า หนีหาย หาไม่เจอ เก็บกายซุก นอนเหม่อ ร้องระงม
ชายหนุ่มหนึ่งหดหู่ดูทุกข์หนัก จึงไปหาเพื่อนรักจักปรึกษา พบเพื่อนเกลอพลันเอ่ยเผยวาจา เขาบอกว่า " ฉันนี้อยากมีเมีย! " เขาอ้างเอ่ยเหตุผลระคนเศร้า " ฉันนั้นเล่าแก่ไปใจละเหี่ย หาไม่ได้สักคนจนอ่อนเพลีย อยากมีเมียเต็มแก่...แกช่วยที! " " ฉันพาหญิงมากหน้ามาเที่ยวบ้าน แม่ก็พานไม่ชอบใครใจโศกศรี ปฏิเสธเสียทุกคนก่นชีวี ทำอย่างไรกันดี...อยากมีเมีย? " เพื่อนจึงบอกว่า " โถ! โอ้! ง่ายมาก ใช่เรื่องยากอะไรอย่าใจเสีย แค่หาคนหน้าคล้ายแม่แกทำเมีย รับรองเคลียร์งานนี้มีคู่ครอง ชายหนุ่มจึงบอกเพื่อนเขาเอื้อนเอ่ย " ฉันนั้นเคยลองแล้วไม่แคล้วหมอง กลับเป็นพ่อฉันขึ้งถลึงมอง ท่านไม่ชอบเลยต้องล่องลาไกล! "
สองมือถือปืนระวังระไว สองเท้าตะเวนไปในแนวป่า คือนักรบนิรนามข้ามกาลเวลา ผู้ปกป้องรักษาผืนแผ่นดินในชุดลายพรางสีเขียวหม่น ชีพแขวนบนเส้นด้ายพร้อมตายดิ้น ลมหายใจวันนี้ของชีวิน วันพรุ่งอาจหมดสิ้นทุกเวลากลางสนามสงครามแม้ยามไหน เพลงชาติไทยกล่อมใจจักแกล้วกล้า เพื่อบ้านเมืองเพื่อชาติ ศาสน์ ราชา เพื่อความผาสุกของทุกผองชนเสียงระเบิดคมกระสุนแสนคุ้นหู ปลิดชีพผู้กล้าตายแล้วหลายหน กายเจ็บปวดเลือดรินรดยังอดทน และสู้จนร่างตกซบธรณีทหารหาญ อุทิศปราณแห่งตนสมศักดิ์ศรี เพื่อต้านศึกรุกไล่ต้านไพรี ชีวิตพลีเพื่อถิ่นแผ่นดินทองหลับตาเถิดผู้กล้าซึ่งลาจาก อย่าอยู่ยากทุกข์ใจใดทั้งผอง เหนือท้องฟ้าทอฝันอันเรืองรอง วิมานผ่องพรรณรายจักต้อนรับเหนือหลุมศพสุสานทหารกล้า ดอกไม้ป่าแบ่งบานสีครามขลับ เป็นของขวัญแด่ปวงผู้ล่วงลับ จงนอนหลับพักกายในนิทราอกแม่พระธรณีจักโอบกอด ไปตลอดชั่วกาลนานหนักหนา เป็นจารึกตำนานข้ามกาลเวลา แห่งนักรบแนวหน้าตราบฟ้าดิน
ไม่โดดเด่น แต่ก็มีดีให้ดู ไม่งามหรูแต่ก็รั้ง สายตาได้ หากลดสายตาละจะเสียดาย ขอพี่ชายชมชิดให้ติดตา เพื่อพาภาพติดตาไปในอีกภพ ไม่รู้จบ ขอจำไปในชาติหน้า หากไม่เห็นคนสวย ด้วยนัยนา ก็จะเห็นในอุรา ไม่พร่าเลือน
ยามนอน รีบตื่นตามาคิดถึง พอตื่นตามาก็ซึ้งอยากฝันหา ใจสับสนปนเศร้า-สุขอยู่ทุกครา เธอจะรู้บ้างไหมว่า ..ใครบ้าบอ บ้าเพราะรักป่วนใจให้เป็นบ้า หากจะว่ายังรับไหวไม่ระย่อ หากแม้ว่าจะบ้าไปเพราะใจรอ ก็จะขอเป็นบ้าไปเพราะใจรัก แสนคิดถึงก็สงสัย ใยคิดถึง ห้วงคำนึงมันกว้างใหญ่เกินใจหัก หน่วงหัวใจในทรวงมันหน่วงนัก แต่ไม่พักหนักแค่ไหนใจจะทน ห่างแค่ไหนในเส้นทางที่ห่างไกล มิหวงใจไม่ห้ามหักเลยสักหน หากจะต้องอาภัพหรืออับจน ก็จะทนไม่บ่นท้อ ขอรักเธอ
๓๐ มกรา ๒๕๕๔.. สิ้นวิถี แห่งสังขารนิพพานสุด ของหนึ่งสงฆ์ ผู้ปลงได้ในมนุษย์ สาวกพุทธ..พิสุทธิ์ใสในประเทศ ญานสัมปันโน..โพธิสัตว์ มาขจัดปัดเป่า เหง้ากิเลส ปุถุชนพ้นทุกข์ปลุกสังเวช ชี้เห็นเหตุ กิเลสตัณหา อุปาทาน คือหลวงตามหาบัว ชั่วดีพ้น บำเพ็ญตน สมถะละถิ่นฐาน ออกธุดงค์ ตรงสู่ป่าหาอาจารย์ หลวงปู่มั่น.. กลั่นกรองศิษย์สอนวิชชา บรรลุกิจสัมฤทธิ์ผลแห่งตนนั้น ก็ด้นดั้นสู่บ้านตาด สร้างวัดป่า เพื่อสั่งสอนขัดเกลา ชาวประชา สร้างศรัทธา สาธุชน สาธุธรรม ต้มยำกุ้ง ! ถลุงเงินเกินเป่าปัด ประเทศชาติล่มจมหนี้ถมซ้ำ ได้ผ้าป่าหลวงตาฝ่าฟันนำ ศรัทธาธรรม นำชาติพ้น คนสามัคคี ละหลุดพ้นในตนกู ..สู่ปรมัตถ์ ละสมบัติหลายหมื่นล้าน ผ่านวิถี ละทิ้งหมด ปลดปลงลงตัวดี ละโลกนี้ ไม่มีโลกหน้า.. นิพานัง หลวงตาบัว.. ละสังขารผ่านบรรจบ หนึ่งปีครบอริยเจ้า เล่าย้อนหลัง อยู่ในศีลกินในธรรมคำสอนสั่ง งามเบื้องต้นจนท่ามกลาง ..ยังเบื้องปลาย ร่วมรำลึก.. ครบรอบ ๑ ปี การละสังขารของ พระอริยสงฆ์ ..หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ๓๐ ม.ค.๕๕ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ วัดป่าบ้านตาดเตรียมทำบุญใหญ่ครบ 1 ปีหลวงตาบัวละสังขาร คณะศิษยานุศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ทยอยเดินทางมาเตรียมร่วมทำบุญวันครบรอบ 1 ปี หลวงตา พระมหาบัวฯละสังขาร 30 มกราคม 55 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 28 มกราคม ที่วัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง คณะ
มังกรทองผงาดฟ้า.. ถึงคราสมัย ลุฟ้าใหม่ เชื้อสายจีนทั่วถิ่นผอง หนึ่งรอบปี ที่ขายค้าหาเงินทอง รวมพี่น้อง ฉลองกันสำราญรื่น ตรุษจีน.. สิ้นปีเก่า เข้าปีใหม่ เตรียมกายเตรียมใจ ให้ชื่นมื่น ทุกข์กายทุกข์ใจ ให้ส่งคืน อย่าฝืนกลืนเก็บ เจ็บต้องจำ ! วันจ่าย.. จ่ายไปให้สนุก แพงถูก ต้องถูกใจให้เลิศล้ำ หมูเห็ด เป็ดไก่ได้กอบกำ ส้มฉ่ำ จำเป็นใช้ไหว้ตรุษจีน วันไหว้.. เช้าไหว้วอน ขอพรเจ้า คุ้มครองเรา เผ่าผอง พี่น้องทั้งสิ้น ตกสายไหว้ บรรพ์บุรุษสุดฟ้าดิน ไหว้ผีกิน สิ้นญาติไป บ่ายทำกัน วันเที่ยว.. เกี่ยววันถือ คือปีใหม่ ต้องเที่ยวไหว้ ผู้ใหญ่ก่อนขอพรท่าน ส้มสีทอง ต้องโชคดี มีทรัพย์อนันต์ ร่วมสังสรรค์ ปันอั่งเปา ..เอาแต๊ะเอีย ! หนึ่งปี.. มีความเชื่อเชื้อสายจีน เรื่องทำมา หาทำกินไม่สิ้นเสีย รำลึกคุณ ผู้หนุนมา ป๋าม่าก๋งเตี่ย ลืมเหนื่อยเพลีย พร้อมเกลี่ยสุขทั่วทุกคน มังกรทอง.. เลื้อยล่องฟ้ามาปีนี้ ให้มั่งมีศรีสุข ทุกข์จงพ้น มังกรทองต้องราศี ปีมงคล ปัดป้องภัยให้ทุกคน ล้นสุข เทอญ.. ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ขอให้โชคดี ..มั่งมีปีใหม่ เฮงๆๆ
ดอกเบี้ยออกดอกล้น.........ฉันใด ยิ่งกดหัวครูไทย.............ท่วมชี้ ค่าครองชีพสูงใจ.............เจียนขาด ยังติดวังวนหนี้.............เหนื่อยล้าพาครวญ หวนมองกล้วยไม้คิด.........คำนึง ออกดอกช้าพาตรึง...........ตอกซ้ำ ต้านการศึกษาจึง.............ทนอด ฉะนี้เฮย เถิดอุดหนุนครูย้ำ...........เพิ่มขึ้นเงินเดือน เตือนย้ำด้วยดอกไม้.........วันครู อย่าปล่อยดอกเบี้ยพรู............พรั่งท้า กล้วยไม้กว่าจะชู..............ช่อผลิ แรงเรี่ยวครูต้องกล้า..........แกร่งพร้อมสนับสนุน
ณ ปลายฟ้าระหว่างฟ้า คนกล้าฝัน จากจุดหนึ่งจุดนั้นยังหวั่นไหว จะตั้งตนบนฐานที่การใด แสงสว่างไสวไหน ใครชี้ทาง จะเปรียบครูคือผู้สร้างเส้นทางเกิด หรือจะเทิดเป็นผู้ให้ได้ทุกอย่าง วิชาการสานต่อก่อวาดวาง เปรียบเรือจ้างพาสู่ฝั่งสู่หวังไกล จะจ้างครูด้วยเหรียญความเพียรร่ำ ที่จะนำกายจิตอุทิศให้ ปฏิบัติบูชาด้วยค่าใจ เกินกว่าอามิสใด จะให้ครู ณ ปลายฟ้าระหว่างฟ้า ยังกล้าฝัน จากจุดนั้นมือประคองคล้องใจสู้ กำลังใจไหลหลั่งยังเชิดชู หมายให้ศิษย์ได้เรียนรู้ ... สู่ฝันงาม.
ประวัติศาสตร์ชาติไทย..ในก่อนนี้ บารมีแห่งพ่อขุนทรงหนุนให้ สร้างบ้าน แปงเมืองนับเนื่องสมัย สุโขทัย.. สู่ไทย เห็นได้จริง หลักศิลาจารึกบันทึกเก่า ภาษาเรา ลายสือไทยที่ใหญ่ยิ่ง บ่งสมัยในปกครองที่พ้องพิง หลากหลายสิ่งที่จริงใจ สมัยนั้น พ่อกับลูก.. ผูกพันกันฉันใด สุโขทัย ก็ละม้ายคล้ายกันนั่น ไพร่ฟ้าหน้าใส เช่นบุตรผองของราชันย์ ปกครองกันมั่นด้วยรัก และภักดี สั่นกระดิ่ง.. ฎีกาแจง แจ้งให้รู้ เปิดประตูยุติธรรมนำวิถี ค้าช้างค้า ค้าม้าค้า บรรดามี เป็นแนวคิดสิทธิ์เสรี ที่ทรงทำ มหาราช พระองค์แรกที่แตกฉาน อภิบาลประชาราษฎร์ฉลาดล้ำ สร้างรากฐานให้บ้านเมืองเฟื่องฟูนำ พ่อขุนรามคำแหง..จัดแจงดี หากไม่มี สุโขทัย ในวันนั้น อย่าคิดฝัน จะมี ไทย ..ในวันนี้ ปวงข้าบาท น้อมถวายราชสดุดี ครบ ๗๒๙ ปี ..วันนี้แล น้อมรำลึก และเทิดพระเกียรติ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ครบรอบ ๗๒๙ ปี ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช วันที่ 17 มกราคมของทุกปี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขทัย ทรงทำนุบำรุงปกครองบ้านเมืองด้วยพระเมตตาธรรมต่อไพร่ฟ้า อาณาประชาราษฎร์ทรงสร้างสรรค์มรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมที่สำคัญๆ ของชาติไว้อย่างอเนกอนันต์มรดกของชาติที่สำคัญที่สุดก็คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชได้ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช 1826 อันเป็นต้นกำเนิดข