กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง

วันสิ้นปีจะผ่านไปหัวใจหวั่น คงเป็นแค่อีกวันที่ฉันเหงา

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


ควันหลงส่งท้ายปีเก่าสักหน่อยนะครับ
เพิ่งสร่าง.. เอ๊ย เพิ่งว่างเอามาลง
เค้ามีดาวให้เคล้าเราไม่มี
.ในวันที่ ขาดดาวใจให้เคียงเคล้า
รักมากร่อนหล่อนมากลายทำร้ายเรา
เป็นคนเศร้านับถอยหลังอย่างวังเวง
วินาทีปีใหม่ในครั้งก่อน
นึกแล้วย้อนสะท้อนไหวใจโหวงเหวง
เคยฉลองกันหวานชื่นและครื้นเครง
ร้องบรรเลงเพลงสุขสันต์กันข้ามปี
คืนข้ามปี ปีนี้แทบปี้ป่น
รักกี่ครั้งพังทุกหนใจป่นปี้
เมื่อสิ้นรักก็สิ้นกันฉันสิ้นดี
ค่ำคืนนี้ ฟ้าจะงามด้วยความเมา
วันสิ้นปี จะผ่านไปหัวใจหวั่น
คงเป็นแค่อีกวันที่ฉันเหงา
อยู่คนเดียวเปลี่ยวหัวใจไม่บรรเทา
.. รินเหล้า น้ำตาหลั่ง นั่ง count down

จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง

อัศวัตถามา


รู้บ้างไหมจะบอกคำว่า...
ฉันคิดหนักจะบอก...แบบไหนหนอ
ไม่เคยบอกว่า...ปล่อยเธอรอ
แต่ไม่อยากให้เธอท้อรอ...กัน
ฉันไม่ค่อย...ใครเชื่อไหมเออ
วรรคข้างบนรู้ว่าเธอไม่เชื่อฉัน
ไม่เป็นไรถ้าไม่เชื่อว่า...กัน
งั้นรอวันที่ฉันกล้าบอกเอง
[จงเติมคำในช่องว่างให้ถูกต้อง]

น้ำตาตกใน

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


เข้าใจอย่างเบ็ดเสร็จและเด็ดขาด
รสชาติของน้ำตาที่ไม่ไหล
ตระหนักว่า น้ำตานี้ที่ตกใน
มันกร่อนไหม้ดวงฤดีเช่นนี้เอง

สายไปไหมกับคำนี้

miss.honney


สายไปไหม...ที่จะใช้คำว่าขอโทษกับใครสักคน
สายไปไหม...ที่จะใช้ความอดทนให้มากกว่านี้
สายไปไหม...อยากจะตอบแทนในน้ำใจดีดี
ที่คนคนนี้...เคยมองข้ามไป
สายไปไหม...ที่จะเอ่ยว่าเข้าใจผิด
สายไปไหม...แม้สักนิดจะให้อภัยไหม
สายไปแล้ว...หรือยังพอแก้ตัวได้
ไม่สายไป...ใช่ไหมคนรักกัน
ถ้ามันยังไม่สาย...จะขอโอกาสแก้ตัว
ถ้ามันยังไม่สาย...จะไม่กลัวไม่ไหวหวั่น
ถ้ามันยังเหลือเวลา...ให้แก้ไขมัน
ขอให้ฉัน...ได้พูดว่ายังรักเธอ

ปีใหม่ หัวใจเก่า

แดดเช้า


ปีใหม่ หัวใจเก่าไม่เศร้าหมอง
หัวใจนี้ยังครองรักคงมั่น
เป็นหัวใจใสสะอาดวาดสัมพันธ์
หวังเพียงฉันกับเธอรักกันนาน
หัวใจนี้ยังมีเธอเสมอใจ
และจะไม่มีนาทีที่เลยผ่าน
เก็บความรักทุกห้วงของดวงมาลย์
จะประสานความผูกพันให้มั่นคง
ปีใหม่ หัวใจเก่า ยังเล่าขาน
เป็นนิทานความห่วงใยไม่ลืมหลง
ถึงปีใหม่ ผ่านไปใจบรรจง
เขียนบันทึกความรักลง ณ ห้วงใจ.
แดดเช้า: ๑ มกราคม ๒๕๕๕

ฝากดอกหญ้า

แดดเช้า


จะเก็บดอกหญ้าเอามาฝาก
คุณค่าคงไม่มากสักเท่าไหร่
ฤๅซึ้ง ฤๅหวาน ฤๅละไม
เท่ากับดอกกุหลาบงามซับซ้อน
เป็นดอกหญ้าเรียบง่ายความหมายตรง
ไม่บรรจงประดิษฐ์จริตซ่อน
ไม่มีหนามตำเจ็บจนร้าวรอน
ไม่ยอกย้อนความหมายที่สื่อความ
รักก็คือ คำว่า รัก อย่างง่ายง่าย
สื่อสารฉายแววตาตอบคำถาม
ห่วงหาห่วงใย ใจติดตาม
เป็นความงามแบบง่ายง่าย เท่าใจมี
จะเก็บดอกหญ้าเอามาฝาก
คุณค่าคงไม่มากเท่าไหร่นี่
เป็นแค่คนซื่อซื่อ รู้สึกดี
เอ่ยวจีตรงตรงตามใจมอง.

ฝากไปกับสายลม

ร้อยฝัน


ยามลมหนาวพัดหนาวอยู่กราวกรู
ใบไม้แห้งร่วงพรูอยู่ไหวไหว
เหล่าดอกหญ้าต้องลมพัดแกว่งไกว
ลู่ไล้ในยามน้ำค้างมาพร่างพรม
กว่าหมอกเช้าจะจางไปกับแสง
ดอกเข็มแดงช่อชูดูเหมาะสม
เหล่าแมลงไต่ตอมเข้าดอมดม
ยามสายลมพริ้มพรายคล้ายละเมอ
หนาวถิ่นนี้ไกลโพ้นจะหนาวไหม
คิดถึงฝากจากใจไปเสนอ
แม้เส้นทางแสนไกลอยากไปเจอ
ใช่จะเพ้อเพียงคำให้ช้ำใจ
รับไว้หน่อยเถอะลมฝากไปหา
วานลมช่วยพัดพามาชิดใกล้
ความอบอุ่นที่คุ้นเคยเผื่อบางใคร
ฝากห่วงใยกลับมาคราลมเยือน

ความเศร้ามาถึงช้า แต่มาถึง

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


คราคนรักจากไปไม่ค่อยเศร้า
ยังเหมือนอยู่คู่เราไป ในทุกที่
แม้บางคราวอาจหวิวหวามก็ตามที
ยังอยู่ดี ไม่หวั่นไหวเท่าไรเลย
จนมาครบบรรจบปีที่เธอจาก
พลันไหลหลากอารมณ์เศร้าเร้าเฉลย
เคยไม่เศร้า กลับไม่เป็นอย่างเช่นเคย
ย้อนมาเย้ย ยิ่งเหยียบย้ำย่ำยีใจ
ความเศร้ามาถึงช้า แต่มาถึง
สุดโศกซึ้งซึ่งสุดหม่นทนไม่ได้
มาถึงแล้วแล้วมาท่วมอ่วมหทัย
ช้ำอะไรไม่เท่าช้ำย้ำใจตน
ย้ำชัดใจว่าไร้เธออย่างแน่ชัด
ทุกข์ถนัดปัจจุบันอันปวดป่น
อดทนมาถึงจุดสุดอดทน
น้ำตาล้นไหลหลั่งถั่งน้ำตา
เป็นน้ำตาของทั้งปีที่ไม่หลั่ง
วันนี้พรั่งพรูไหลเต็มใบหน้า
ไม่อาจขังความเศร้าไว้ ในอุรา
มันเกินกว่าใจใกล้พัง จะขังมัน

ยารักษาใจ

คนกรุงศรี


มานบอบช้ำ จำทน ฝึกฝนฝืน
ให้หยัดยืน ยังอยู่ สู้ไม่ถอย
หน้าเปื้อนยิ้ม แต่ว่า นั่งตาลอย
มีบ่อยบ่อย ก้มหน้า น้ำตาริน
ใครมิเคย มิรู้ อยู่กับเจ็บ
เลิกหนาวเหน็บ เมื่อไร ใจถวิล
มิกล้ารัก มิกล้าหวัง ตามดั่งจินต์
อยากหมดสิ้น ความหลัง ที่ฝังใจ
บอกกับเขา เราหรือกล้า น่าอดสู
ถ้าเธอรู้ ชอบหรือชัง ยังสงสัย
ผู้จะกลบ รอยหม่น จนสิ้นไป
คนคาดไว้ คือเธอ แอบเผลอเดา
ยังดูใจ ไม่กล้า แต่ว่าหวัง
ถึงบางครั้ง แอบปลื้ม ลืมความเหงา
ก็หลายครา หน้าใส หายซบเซา
หวังสองเรา เธอฉัน มั่นไมตรี
แต่น้ำใจ แสนดี ที่ได้รับ
มอบให้กับ ใจคน หมองหม่นนี่
แสนซาบซึ้ง ตรึงใจ ในฤดี
ทุกข์หลายปี ลืมได้ อีกไม่นาน
ความหวังเพียง ลมล่อง สมปองหรือ
พัดกระพือ พาร้าว หนาวใจซ่าน
แล้วก็ทิ้ง หนาวไว้ ติดในมาน
หวังเศษทาน หยูกยา รักษาใจ

ได้โปรดอย่ามาแสดงความห่วงใย

ไม้หอม


ได้โปรด...อย่ามาถามข่าวคราวจากกัน
เมื่อในวันนี้..ทุกสิ่งที่เธอฝันมันไม่ใช่
ปล่อยให้เรื่องราวมันจบลง...ตรงที่ต่างคนต่างไป
อย่ามาทำเป็นมีเยื่อใย...แสดงความห่วงใยดีดี
สำหรับฉัน....มันจบไปแล้วในความรู้สึก
และในส่วนลึก...จะปิดผนึกนับจากนี้
ความรู้สึกต่างๆระหว่างเส้นทางที่เราเคยมี
อย่าเก็บมาพูดให้ฟังตอนนี้...มันสายไป
ฉันเดินทางมาไกล..ไกลเกิน
ระหว่างเรามันมีความห่างเหินมากรายใกล้
อย่าถามข่าวคราว..ไม่ว่าจะติดต่อมาทางใด
ตั้งแต่เธอจากไป...ฉันก็ไม่พร้อมจะเจอกับสิ่งใดอีกเลย
ได้โปรดจากไปเงียบๆ...เหมือนครั้งก่อน
ไม่ต้องการแม้คำอวยพร..ขอเงียบเฉย
จากไปจากกัน..อย่าหลงเหลือความผูกพันอีกเลย
เมื่อวีนนี้ทุกอย่างลงเอย..ไปด้วยดี
กลับไปรักกับเขา..คนของเธอ
ปล่อยฉันไปให้น้ำตาเอ่อ...อยู่ตรงนี้
ไม่ต้องการความรัก..เศษความห่วงใยที่เธอมี
ปล่อยให้มันจบลงไปในนาที...ที่เธอเคยจากลา
ฉันจะก้าวเดินไปตามทางของฉัน
ไม่ว่าหนทางจะยากเกิน..จนไหวหวั่นแค่ไหน
ปล่อยฉันไปตามยถากรรม..ต่างคนต่างไป
ได้โปรดอย่ามาแสดงความห่วงใย....
ในวันนี้มันสายไปเกินไป...ที่เธอจะมาห่วงใยกัน

วางใจไว้ตรงไหนใจก็อุ่น เก็บความกรุ่นบรรยากาศตอนเราใกล้

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


วันนี้ที่เราสองต้องลาไกล
ฟ้าสดใส เป็นฟ้าดีที่มันกว้าง
ไม่หวั่นเลยไกลแค่ไหน แค่ไกลทาง
หากต้องไกลกันบ้างก็วางใจ
วางใจไว้ตรงไหนใจก็อุ่น
เก็บความกรุ่นบรรยากาศตอนเราใกล้
เป็นที่ตั้ง รังนอนตอนต้องไกล
ไม่หวั่นไหว ฝันยังงามเมื่อยามนอน
วางใจไว้ในวันชื่นและคืนสุข
ยังปลอบปลุกได้ทุกทีที่ใจอ่อน
วางใจไว้ให้ห่างว่างอาวรณ์
เก็บไว้ก่อนตอนไกล ไว้ใจวาง
เดินคนเดียวดูบ้างสักบางครั้ง
ไม่เหนี่ยวรั้งอารมณ์ใดในวันว่าง
เหมือนว่ามีเธอร่วมไปในเส้นทาง
ไม่อ้างว้างแม้เดินเดี่ยวไม่เปลี่ยวใด
ที่วางใจใช่แต่แค่ว่าวาง
ในวันที่อ้างว้างอาจหวั่นไหว
ให้เอาใจมาวางเรียงเคียงหัวใจ
วางเอาไว้ใจเราวางระหว่างเรา

คุยกับใจ

คนกรุงศรี


คุยกับใจ
ใจเจ้าเอ๋ย เป็นไง ไยหงุดหงิด
ดูเหมือนผิด สำแดง แจงเหตุผล
ชอบนั่งเหม่อ มองอยู่ ดูพิกล
ดั่งเหมือนคน หม่นไหม้ ไร้วิญญาณ
หรือห่วงใย ใครเขา เอาอีกแล้ว
คงไม่แคล้ว เจ็บปวด รวดร้าวฉาน
เคยผิดหวัง นั่งเศร้า เหงามานาน
เวลากาล ก่อนคลาย ก็หลายปี
ใจบอกว่า สับสน ปนคิดถึง
ใครคนหนึ่ง ซึ้งใน ใจเหลือที่
จึงนั่งเขียน กลอนกานท์ หวานฤดี
แต่มิมี ปัญญา กล้าบอกเธอ
คิดอย่างไร กับเขา ไยเล่าเฉย
แจ้งไปเลย ความนัย ใจเสนอ
เจ้าคนซื่อ จริงใจ นะไอ้เกลอ
ใจยืนเหม่อ มิกล้า ดูน่าอาย
ด้วยระแวง แคลงใจ ให้หวั่นหวาด
เข็ดขยาด ความหลัง ยังไม่หาย
เธอมิชอบ กลับชัง หวังมลาย
ผลสุดท้าย เก็บไว้ ในใจตน
เคยจะบอก เธอไป แต่ไม่กล้า
มิรู้ว่า เพราะอะไร ไร้เหตุผล
สุดอัดอั้น ตันใจ ให้กังวล
เพราะเป็นคน เคยช้ำ ยากทำใจ

รักอำพราง

din


เมื่อความจริงบางอย่างต่างรับรู้
ตาได้ดู...หูได้ฟัง...คำพร่ำขาน
เพราะหลงเชื่อคำไข...ใจจึงราน
วันผันผ่านนานเนิ่นเกินคอยรอ
ความคิดถึงส่งไปด้วยใจห่วง
ไม่ทักท้วงติงเสริมเพื่อเติมต่อ
ยอมหักรักสิ้นค่าดีกว่างอ
เรื่องงอนง้อขอคืนดีไม่มีทาง
เป็นความจริงย้ำตอกบอกให้รู้
ปิดประตูหัวใจเหมือนไกลห่าง
ปล่อยทุกสิ่งให้เหมือนภาพเลือนราง
รักอำพรางร้างฤดีฉะนี้เอง

เข้มไม่เต็มร้อย

สุนทรวิทย์


อยากเล่นตัว  เล่นไป  ฉันไม่ว่า
เห็นทีท่า  เย่อหยิ่ง  ยิ่งหมั่นไส้
พูดดีด้วย  กลับผลักไส  เย้ยไยไพ
เอาแต่ใส่  โทสะ  ชวนระอา
เบื่อชี้แจง  ยืดยาว  กล่าวซ้ำซาก
เบื่อลมปาก  ถากถาง  สร้างปัญหา
เบื่ออารมณ์  ฉุนเฉียว  สุดเยียวยา
เบื่อเกินกว่า  งอนง้อ  ขอคืนดี
หญิงงามมี  มากมาย  คล้ายดอกเห็ด
มิได้เด็ด  ยากเย็น  เช่นศศี
วางมาดเข้ม  ประกาศ  ขาดกันที
ตัดไมตรี  สะบั้น  บั่นเยื่อใย
เธอเดินซ้าย  ฉันเดินขวา  อย่าบรรจบ
เลิกพานพบ  แยแส  แม้ชาติไหน
ปราศจาก  ถ้อยคำ  เสียงร่ำไร
หมดเงื่อนไข  ทวงถาม  ความสัมพันธ์
ที่กล่าวมา  ฟังถนัด  ชัดเจนไหม
ต่อนี้ไป  แยกทาง  ต่างผายผัน
ยกเว้นเธอ  เปลี่ยนนิสัย  หายดึงดัน
ขอโทษฉัน  แล้วจะ  ให้อภัย

เก็บทุกคำย้ำทุกเรื่องมาเนื่องนำ ยิ่งตอกย้ำกระหน่ำย้อนตอนหนาวเยือน

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


จ้องมองความหนาวเย็นเป็นสองนาน
มองฝ่าความร้าวราน ด้วยตาพร่า
มันหม่นหมองเมื่อมองผ่านม่านน้ำตา
ทุกเวลา เห็นแต่เศร้ามาเย้าเยือน
ในวันที่หมึกหัวใจใกล้จะหมด
มันเลือนลดจางชืดและจืดเจื่อน
เขียนกลอนรักเพียงรางรางอย่างเลือนๆ
จะฟั่นเฟือนก็ยังเขียนเวียนไปมา
จะคิดถึงก็เจ็บทรุดจนสุดใจ
จะลืมไปก็เจ็บร้าวราวเป็นบ้า
จะจำไว้ก็เจ็บจุกทุกเวลา
และเจ็บกว่า ถ้าเธอเยือนมาเตือนจำ
มาเตือนย้ำ ให้จำแม่นว่าแสนรัก
ให้ตระหนักว่าเจ็บใจยังไม่หนำ
เก็บทุกคำย้ำทุกเรื่องมาเนื่องนำ
ยิ่งตอกย้ำกระหน่ำย้อนตอนหนาวเยือน
...
จ้องมองความหนาวเย็นเหมือนเป็นบ้า
ยังมองหาอยู่เรื่อยไป ไม่คลายเคลื่อน
มองหารักด้วยสองตาอันพร่าเลือน
เพียงเพื่อเตือน ว่าต้องเศร้าอีกหนาวแล้ว

ถ้าเธอหมดแรงยื้อปล่อยมือพลัน มือฉัน.. จะยุดยื้อกุมมือเรา

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


มีเธอ มีหรือฉันจะหวั่นไหว
จะฝ่าไป.. ภัยทุกข์ยากหรือขวากหนาม
จะหนักหนาสาหัสหนักนัก ก็ตาม
จะฝ่าข้ามความลำเค็ญให้เห็นกัน
ถ้าเธอล้า ฉันจะกล้าจะแข็งเข้ม
คอยเติมเต็ม เข้มแข่งความแข็งขัน
ถ้าเธอหมดแรงยื้อปล่อยมือพลัน
มือฉัน จะยุดยื้อกุมมือเรา
เธออาจมีวันเศร้าหงอยเหงาบ้าง
จะอยู่ข้างผ่อนคลายให้หายเศร้า
ลูบผมนุ่มกุมมือน้อยค่อยๆเบาๆ
จะคอยเฝ้าเช็ดน้ำตา จนกว่านอน
จะให้เธอนอนอุ่นหนุนที่ตัก
กระซิบรักโอบนุ่มคลุมขวัญอ่อน
ให้ได้ยินในฝันว่า อย่าอาทร
ฝันไปก่อน ตอนตื่นเธอจะเจอกัน
สัญญาว่าทุกเช้าชื่นเธอตื่นตา
ทุกครั้งครา มั่นเสมอต้องเจอฉัน
จูบเบาๆต้อนรับกับตะวัน
ขออย่าหวั่นใจไหวอะไรเลย
จะบอกรักบ่อยๆค่อยๆบอก
ไม่เบื่อหรอก บอกบ่อยๆค่อยเฉลย
ชั่วโมงละสิบครั้งดั่งเช่นเคย
แล้วจะเชยชมแก้มแถมทุกที
จะจดไว้ในบันทึกจารึกรัก
ว่าหอมนัก ลงในไดอารี่
นับทุกหอม ที่หอมไปในหนึ่งปี
วันไหนที่ครบหมื่นหนอ ..ขอแต่งงาน

หวิวหวาดไหว ใจหวาดหวั่นวันเวลา มันอ่อนล้าแบกเหงาไม่เบาบาง

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


ก่อนจะนอนวอนหาว่าหวงห่วง
หวาดหวั่นไหวในทรวง สุดห่วงหา
หวิวหวาดไหว.. ใจหวาดหวั่น วันเวลา
มันอ่อนล้าแบกเหงาไม่เบาบาง
เหงาอย่างเลิกไม่ได้ไม่หายเหงา
ไม่สร่างเซากลัวเขามองอย่างหมองหมาง
ใจแสนห่วงหากห่างไกลในเส้นทาง
แต่ก็กลัวว่าอยู่ข้างแล้วหมางใจ
อยากจะรักนักหนาไม่กล้ารัก
แค่ได้ทักก็สุขซึ้งถึงไหนๆ
สิ้นปัญญาจะสืบถามความห่วงใย
ว่าคิดถึงกันไหมเมื่อไกลกัน
หวานใดเล่าจะหวานนักเท่ารักหวาน
สุขสนานปานเทียบเปรียบสวรรค์
แต่หากเก็บงำหวานไว้นานวัน
ความหวานนั้นอาจจะแปลงเหมือนแกล้งใจ
อาจกลายเปรี้ยว เกรี้ยวกราดกัดเหมือนกรด
โดนเพียงหยดใจก็แปลบแสบถึงไหม้
กัดใจวิ่นกินใจกร่อนร้อนฤทัย
ไม่หวาดไหวใจก็แหว่งแห้งแล้งลง
หรือกลายเป็นสุราหอมที่มอมเมา
มอมใจเราไม่สร่างซาพาไหลหลง
พาเข้ารกวกเข้าป่าฝ่าเข้าดง
ใจก็คงเสียศูนย์ไปในเร็ววัน
คงจะเก็บรักหวานไม่นานหรอก
แล้วจะบอกออกไปแม้ไหวหวั่น
ขอเธออย่านิ่งอึ้งตะลึงงัน
ถ้าเป็นงั้นฉันคงอึ้งตะลึงงง
หน้า / 50  
ทั้งหมด 839 กลอน