กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง

จนใจแล้วถูกจองจำจากความรัก

อัศวัตถามา


จนใจแล้วถูกจองจำจากความรัก
โซ่เส้นหนักล่ามเอาไว้ไม่ให้หนี
ลืมไปแล้วอิสระที่ว่าดี
ถึงปีกมีก็บินหนีไปไม่ไกล
โซ่ที่ผูกยิ่งบินสูงยิ่งล่ามตรึง
เฝ้าฝันถึงฟากฟ้าว่าอยู่ไหน
ปล่อยไปเถิดปล่อยไปเถิดปล่อยฉันไป
อย่าล่ามไว้ด้วยหัวใจของเธอเลย

ความฝัน วันไร้หวัง

คนกรุงศรี


กุหลาบแดง เคยได้ หลายปีก่อน
เมื่อคิดย้อน ทบทวน สุดหวนไห้
จากวันนั้น ถึงวันนี้ มิมีใคร
จะปลอบใจ ปลอบกมล ของตนตัว
สิ่งที่จาก ฝากไว้ ให้จารึก
ความรู้สึก ยากบรรยาย เล่าได้ทั่ว
สุดอ้างว้าง เหว่ว้า แสนน่ากลัว
เป็นเงามัว ตามตน ทุกหนทาง
อยากสลัด ตัดใจ ให้คลายโศก
อยู่ในโลก สดใส ไม่หมองหมาง
จะลบหม่น พ้นไป หรือให้จาง
ยามอ้างว้าง หวังผล คนปลอบใจ
เหมือนโดดเดี่ยว เดียวดาย อยู่ปลายหล้า
เคยหวังว่า สักวัน นั้นสดใส
ฝากวลี นี้ล่อง ท่องฟ้าไกล
ตั้งฤทัย เพียงเสี้ยว คนเหลียวมอง
อยากล้างหม่น แม้ใจ มิใสสด
อยากรู้รส ฤดี ที่ไม่หมอง
แม้สมจิต ดั่งใจ ที่หมายปอง
คงมิต้อง ปลอบใจ ให้อดทน
กุหลาบแดง วันนี้ อยากมีหวัง
จะสมดั่ง ตั้งใจ หรือไร้ผล
สิ่งใดเกิด ก็พร้อม ยอมผจญ
มิร้อนรน ขึ้งโกรธ หรือโทษใคร
คนกรุงศรี ฯ

ลมพัดหวน

ไหมแก้วสีฟ้าคราม


ฟังเสียงลม ห่มครวญ หวนคิดถึง
คนเคยซึ้ง เคียงข้าง ร่วมทางฝัน
หัวใจเธอ เปลี่ยนไป จ่ายแจกปัน
จำใจฉัน หลีกทาง ขอห่างไกล
ลมพัดหวน ทวนถาม ความรู้สึก
จากส่วนลึก อาวรณ์ สะท้อนไหว
เรารักกัน พลันพราก รักจากไกล
รอยอาลัย ใจตระหนัก รักเพียงเธอ
อยากให้ลม พัดหวน ทวนอีกครั้ง
ถึงความหลัง ฝังใจ ยามไผลเผลอ
พรมพลิ้วแผ่ว เพียงผ่าน การพบเจอ
วอนลมเพ้อ หวนกลับ ซับน้ำตา
ฝากความรัก ทักทาย สายลมหนาว
ได้บอกกล่าว รักฉัน เฝ้าฝันหา
ความในใจ ไม่เคย เผยวาจา
ช่วยพัดพา อีกครั้ง ฉันยังคอย

เพื่อนใจ

พลายแก้ว เมืองกาญจน์


ฟ้าเมืองกาญจน์ วันนึ้ ไยสีหม่น
ทำให้คน อยู่เดี่ยว เปลี่ยวใจเหงา
เสร็จหน้านา เหนื่อยน้อย ค่อยบางเบา
พอใกล้เข้า พรรษา ฝนมาพลัน
ก่อนทำไร่ ไถนา รอฟ้าฝน
จึงคิดค้น ตำรา มาพลิกผัน
ธรรมชาติ เปลี่ยนแปร แก้ไม่ทัน
เราช่วยกัน พัฒนา หาแนวทาง
กักน้ำไว้ ใช้ตอน ก่อนฝนเริ่ม
ปลูกป่าเติม เพิ่มฝาย รีบให้สร้าง
สำรวจจุด ขุดบ่อ ต่อลำราง
ร่วมกันวาง โครงการ ป้องกันภัย
เรื่องเหนื่อยกาย คลายผ่อน ตอนหยุดพัก
แต่ยังหนัก กมล ที่หม่นไหม้
ตกคืนค่ำ สำเนียง เสียงเรไร
มันทำให้ ใจเปลี่ยว เหมือนเดียวดาย
สาวชาวนา หน้าหวาน อยู่บ้านใต้
เห็นน้ำใจ ไมตรี มีมากหลาย
รู้จักกัน วันที่ ตอนปีกลาย
ทำเราอาย สับสน ปนอาทร
ในกมล คนเหงา ที่เศร้าสร้อย
มักใจลอย คิดฝัน ถึงวันก่อน
แต่วันนี้ ใจเรา ยิ่งร้าวรอน
สิ่งใดหลอน หลอกให้ ....ใจวกวน
พลายแก้ว

คนปลายฟ้า

คนกรุงศรี


จันทร์บอกไว้ ใครหนึ่ง คิดถึงอยู่
พอเรารู้ จึงใน ใจถวิล
เสียงหัวใจ ลัดฟ้า มาให้ยิน
มิได้สิ้น ไมตรี หรือหนีจร
คนปลายฟ้า รับรัก จากจันทร์เจ้า
บอกกับเขา จริงใจ ใช่หลอกหลอน
คนอยู่ไกล ห่วงหา แสนอาทร
อยากจะย้อน คืนกลับ ซับน้ำตา

เข็ดคำคน

คนกรุงศรี


เพราะเข็ดคำ ของคน ทำหม่นหมอง
ใจจึงต้อง เตือนตัว กลัวเช่นเก่า
คนจริงใจ ยังช้ำ เธอทำเอา
ก็ครั้งแล้ว ครั้งเล่า มิเข้าใจ
คนซื่อตรง จำต้อง มองคนช่วย
ก่อนจะม้วย ชีวี นะมีไหม
มิซ้ำเติม เพิ่มแผล แค่ห่วงใย
ฝากฤทัย ให้กัน จวบวันวาย

สุดจะห้ามใจ

(น้ำตาลหวาน)


เคยขลาดเขลาวัยเยาว์เราอ่อนหัด
รักกระหน่ำซ้ำซัดกลัดกร่อนถอย
เซถลำเคราะห์กรรมตอกย้ำคอย
ทั้งชีวีเศร้าสร้อยรอยน้ำตา
เก็บใจตัวเก็บรักสิ้นหักเห
เกรงซวนเซสั่นคลอนวอนดินฟ้า
หลาบจำแล้วหลีกหนีอย่ามีมา
ขอเถิดหนาดินฟ้าจงปราณี
อย่าให้เราใจอ่อนดังก่อนเก่า
อย่าให้เราเปิดใจใครบ่งชี้
อย่าให้เขาเอาไปทั้งชีวี
อย่าให้เขามามีอำนาจใด
สุดจะห้ามหัวใจหวั่นไหวจิต
สุดจะห้ามใจคิดติดตรึงไว้
สุดจะห้ามใจนี้มีห่วงใย
สุดจะห้ามหัวใจแม้ซ้ำรอย

นาทีหนึ่งฉันนานยาวราวกัปกัลป์ หนึ่งนาทีของเธอนั้นไม่นานเกิน

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


คุณ din เขาเขียนกลอน ชั่วกัปกัลป์ไว้ ผมก็อดไม่ไหวต้องไปแก้กลอนนนน..
เวลาของคนเราไม่เท่ากัน
คนเศร้านั้น ทุกอย่างช่างเอื่อยช้า
น้ำตาที่หยดพร่างจากหางตา
ยังชัดว่า มันค่อยๆลอยลงไป
กระทบพื้น แล้วแตกแยกเป็นส่วน
เรายังเห็นครบถ้วน ล้วนนับได้
เสียงกระทบยังกระท้อนหลอนหัวใจ
ก้องอยู่ใน โถงใจว่างอย่างอึงอล
ทุกเสียงเศร้าเหล่านั้นมันหลอกหลอน
มันสะท้อนย้อนทรวงไปในทุกหน
ว่ากี่ช้ำที่อาภัพต้องอับจน
เริ่มจากคน ที่แสนดีมีน้ำใจ
ให้ความหวังดั่งเรานี้ยังมีหวัง
รั้งฉุดรั้งให้ฟื้นยืนขึ้นไหว
เพียงแต่เพียงเวลาผ่านไม่นานไป
ใครหนอใครใจเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งกัน
ฉันคนเศร้า เฝ้าอาศัยในโลกเศร้า
อาจจะเข้าใจยากหากรักฉัน
นาทีหนึ่งฉันนานยาวราวกัปกัลป์
หนึ่งนาทีของเธอนั้นไม่นานเกิน
รู้ว่าเธอมีใจให้กันบ้าง
แต่ความต่างมันแสนชัดจึงขัดเขิน
หัวใจนี้ที่โทรมทรุดเจียนหยุดเดิน
มันขอเมินเพื่อหมองหมาง  ..ช่างหัวมัน

กุหลาบแดง

คนกรุงศรี


กุหลาบแดงนั่งปล่อยจิต คิดไป ในอดีต
ดังคมมีด กรีดยับ ทับรอยแผล
เวลาผ่าน นานวัน ที่ผันแปร
เหลือเพียงแต่ กมล คนเดียวดาย
วันความรัก ก่อนเอ๋ย เคยสุขสม
เฝ้าชิดชม กุหลาบ ทราบความหมาย
เป็นสิ่งเตือน เยือนไว้ แทนใจกาย
มิเคลื่อนคลาย คงมั่น  คำสัญญา
ฟ้ากลั่นแกล้ง สาสม พรหมลิขิต
หรือเพราะความ ตามจิต ริษยา
หรือกรรมเก่า เขากำหนด หมดบุญพา
จึงต้องลา จากกัน นิรันดร
กุหลาบแดง หลายปี ไม่มีแล้ว
เหลือเสียงแว่ว วาจา คราออดอ้อน
เมื่อคิดหวน ทวนไป ใจร้าวรอน
อยากถ่ายถอน หมองหม่น ให้พ้นใจ
กุหลาบแดง ช่อเก่า เหี่ยวเฉากรอบ
กลีบร่วงรอบ แจกัน อันสวยใส
เมื่อเหลียวดู รู้ตาม เนื้อความนัย
รอช่อใหม่ ใครบ้าง อยากวางแทน
ยังเฝ้ารอ ช่อใหม่ ล้างใจหม่น
อย่าให้ทน หมองเศร้า เหงาใจแสน
แม้ผู้ใด เมตตา อย่าดูแคลน
วางขึ้นแท่น ที่หนึ่ง ด้วยซึ้งทรวง

ชั่วกัปกัลป์

din


หากเธอรอคอยใครจนใจแปลบ
จะเจ็บแสบทุกอนูความรู้สึก
พิษแห่งความชอกช้ำมันล้ำลึก
ตกผลึกอวลกรุ่นฝุ่นตะกอน
คำปลอบไม่ทุเลาบรรเทาดอก
เพราะรักอันย้อนยอกมันหลอกหลอน
เธอจึงเจ็บทุกทีที่อาวรณ์
จนร้าวรอนซานซมจมน้ำตา
อย่าไปรอคอยใครจนใจปวด
อย่าร้าวรวดลุ่มหลงพะวงหา
ลองตรองไตร่ใคร่คิดพิจารณา
เขาควรค่าแค่ไหนกับใจรอ
เปรียบเธอเป็นเช่นนกที่ผกผิน
จะโบยบินผินไปที่ใดหนอ
เมื่อปีกหักรักลาน้ำตาคลอ
ยังวอนขอไปในที่ยังมีรัก
ไยเธอไม่เปิดใจให้รับรู้
ฉันคือผู้หม่นหมองครองทุกข์หนัก
อยากโอบกอดเธอไว้ในอ้อมภักดิ์
ให้หนุนตักแล้วหลับชั่วกัปกัลป์

เรื่องราวคนไกล... ห่วงใยเสมอ

สีอำพัน


กี่คืนค่ำยังคงย่ำซ้ำกับรอย ��� ���
หงอยใจเหงาเศร้าจิตฝ่อท้อยังหวัง
กี่วันเคลื่อนกี่เดือนคล้อยเฝ้าคอยฟัง���
นับปียังอดทนพอรอข่าวเธอ
ทุกข์สุขใดเพียงขอพอรู้ข่าว��� ���
ถึงเรื่องราวคนไกลห่วงใยเสมอ
ขออย่าชิงชังปล่อยให้คอยเก้อ��� ���
ทุกข์ใดเจอบอกข่าวกันฉันจะมา

คืนไร้เธอ

คนกรุงศรี


คืนนี้หนาว ร้าวใจ กระไรหนอ
มายืนรอ เดือนดาว ที่พราวใส
จิตกังวล คนหนึ่ง ซึ่งอยู่ไกล
เป็นอย่างไร บ้างหนอ ใจพ้อครวญ
พอจันทร์เยี่ยม เหลี่ยมเขา พ้นเงาสน
น้ำค้างหล่น เกาะกาย สุดไห้หวน
เราคะนึง ถึงแต่ แม่เนื้อนวล
ใจปั่นป่วน บอกดาว เรียกเจ้าที
นัดเวลา ดูกัน คืนจันทร์จ้า
นั่นดารา ระยิบ กระพริบถี่
หนาวน้ำค้าง แสนเหน็บ เจ็บฤดี
มิเท่าที่ สักครึ่ง คิดถึงนาง
ฟากฟ้าไกล ไหมเล่า เจ้ายืนจ้อง
พี่ประคอง เคียงติด ชิดไม่ห่าง
ข้ามขอบฟ้า แม้ไกล ในเส้นทาง
ด้วยเราสร้าง ภาพฝัน อันวิมล
โอบไหล่เจ้า เข้าแนบ แอบอกอุ่น
หอมละมุน กลิ่นกาย ใจสับสน
เสียงเรไร ร้องดัง ฟังชอบกล
เหมือนเย้ยคน หม่นมัว หลอกตัวเอง
คิดถึงไหม คนดี ที่ปลายหล้า
อ้อนวอนเดือน ดารา อย่ารีบเร่ง
ไผ่เบียดกอ อ้อดัง ยิ่งวังเวง
ยืนฟังเพลง เรไร คืนไร้เธอ
คนกรุงศรี ฯ

ฝน-ฟ้า น้ำตา-ใจ

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


ในคืนที่หัวใจไม่ยอมหลับ
เฝ้าสดับรับสำเนียง นับเสียงฝน
แทนความเศร้าเท่าความโศกวิโยคปน
กี่ครั้งหนจะค้นหา จนกว่าเจอ
นับเม็ดฝนแสนล้านเม็ด ไม่เข็ดนับ
ด้วยใจยอมพร้อมรับ นับเสมอ
นับความเศร้าอย่างเหงาหม่นปนละเมอ
เธอหนอเธอ จะรู้ไหมว่าใครคอย
ยังคอยเฝ้ายิ่งเหงาฟังยังเฟือนฟั่น
สักกี่วัน ก็ยังเฝ้าแต่เศร้าสร้อย
ปาดน้ำตานับเม็ดฝนที่หล่นปรอย
คงต้องปล่อยให้ใจปวดรวดร้าวไป
จนฝนหมาดขาดฟ้าไป ใจเกือบขาด
แม้ฟ้าหมาดเม็ดฝน แต่คนไม่
ฝนเศร้ายังตกหล่นบนลานใจ
จะนับไว้ กี่แสนล้านปานอนันต์
ความเจ็บเจ็บมากไปไม่คล้ายจริง
มันสู่สิงหลอกใจคล้ายๆฝัน
นับความเจ็บเก็บความท้อก็พอกัน
เกินจะกั้น ฝน-ฟ้า น้ำตา-ใจ

ใครคนนั้น ฉันคิดถึง

คนกรุงศรี


ใครคนนั้น ฉันซึ่ง คิดถึงเขา
เคยหยอกเย้า ล้อเล่น เป็นเพื่อนพี่
กับได้สอน กลอนกานท์ สานวลี
มิตรไมตรี ผูกพัน เมื่อวันวาน
นับถือฉัน เป็นครู ผู้สอนสั่ง
แม้บางครั้ง กวนใจ ด้วยไขขาน
แต่ก็ดู เริงร่า หน้าเบิกบาน
ช่วยสืบสาน งานกลอน ตอนปีกลาย
เธอหายหน้า ลาไป ที่ใดหนอ
เราเฝ้ารอ ห่วงหา พาใจหาย
เกรงหนาวเหน็บ เจ็บไข้ ไม่สบาย
อยู่ดีร้าย หรือไร ใจกังวล
ฝากสายลม บอกมา ว่าคิดถึง
สักคำหนึ่ง บอกครู รู้เหตุผล
ถ้าอยู่ดี มีสุข ไม่ทุกข์ทน
มาเยี่ยมยล คนเหงา ที่เฝ้าคอย

ถามใจเธอ

คนกรุงศรี


สุดไหวหวั่น พรั่นพรึง ถึงสับสน
ดูวกวน เกินกว่า มาแก้ไข
คิดมิตก อกสั่น มิมั่นใจ
จะบอกไป กลัวเขา เรากังวล
เข้าข้างตัว คิดเดา ว่าเขารัก
แจ้งประจักษ์ ใจอยู่ ดูเหตุผล
แต่เพียงยัง ฟังวาจา จากหน้ามล
กลับทุกข์ทน อัดอั้น ตีบตันใจ
กิริยา ท่าทาง ช่างเป็นมิตร
เมื่ออยู่ชิด เคียงกัน ยิ่งหวั่นไหว
อยากจะบอก ตอกย้ำ ถึงความนัย
คิดอย่างไร กับเธอ เสนอตัว
หรือดูท่า ว่าเรา เข้าใจผิด
กลับครุ่นคิด วกวน จนปวดหัว
เธอบางครั้ง ยังเฉย เลยเกรงกลัว
เงาสลัว เข้าคลุม สุมฤดี
หรือมีใคร หมายหมั้น นั้นอยู่ข้าง
ให้รู้บ้าง เผื่อใจ ไว้เต็มที่
จะเตรียมใจ ไว้เก็บ เจ็บอีกที
เพราะเคยมี ประสบการณ์ บ่อยผ่านมา
เถอะเฉลย เผยใจ ให้รู้บ้าง
อยู่เฉยอย่าง เยือกเย็น เป็นปัญหา
ตอบเป็นบวก สมหวัง ดั่งอุรา
เป็นลบก็ อีกครา ใจอาดูร
คนกรุงศรี ฯ

ไม่มีทาง..

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


ทางตอนนี้ คือทางที่ไม่มีทาง
คงต้องคว้างร้างทุรนหม่นหมองไหม้
เมื่อให้ใจให้คนที่ไม่มีใจ
จะมีทางอยู่ที่ไหน ..ไม่มีทาง

แอบรัก

ธาษตรี


ทุกๆความ รู้สึก ของหัวใจ
เริ่มสั้นไหว ทันที ที่รู้จัก
ความรู้สึก ของคน ที่แอบรัก
เจ็บปวดนัก รักไป กับสายลม
ธาษตรี
หน้า / 50  
ทั้งหมด 839 กลอน