10 ตุลาคม 2550 21:05 น.
banmoh
ความรู้สึกตัวครั้งสุดท้าย จำได้ว่านั่งรอรถอยู่หน้าพันธ์ทิพย์ประตูน้ำ จู่ๆ ก็ฟ้ามืดมิดไปหมด เอ๊ะ ทำไมมืดเร็วอย่างนี้ และมืดจริงๆ ไฟฟ้าก็ไม่เปิด มองอะไรไม่เห็นเลย เลยนั่งอยู่อย่างนั้น เพราะมองไม่เห็นอะไรเลย สักพักใหญ่ๆ แสงค่อยๆสว่างขึ้นๆ จนมองเห็นอะไรๆได้เป็นปกติ แต่ก็ค่ำลงแล้ว จึงลุกขึ้นเดินจะไปขึ้นรถเมล์กลับบ้าน อุ๊ยคนเดินมาไม่มีมารยาท เห็นเราเดินอยู่ ยังจะมาชนเราอีก เราต้องหลบเป็นพัลวัน พวกนี้เป็นยังไงนะ ไม่เห็นคนหรือไง อ้อ..รถแอร์สาย 72 มาพอดี ก็เลยรีบเดินไปขึ้นรถ แค่นึกว่าจะขึ้นรถ ตัวกลับลอยขึ้นไปบนหลังคารถ เฮ้ย ..มันยังไงกันวะ ยังไม่ทันจะคิดอะไร รถก็ออกวิ่ง เออ..นั่งอยู่นี่ก็ดี ลมเย็นดี เอ้าถึงบ้านแล้ว พอคิดเท่านั้น ตัวก็ลอยลงมายืนอยู่หน้าประตูบ้าน หมาข้างบ้านพากันเห่าหอนกันเกรียวเลย ยังกะเห็นผีแน่ะ ไม่สนใจละ เข้าบ้านดีกว่า เปิดประตูบ้านเข้าไปแล้วปิด ในบ้านมืด แต่พอมองเห็นลางๆ เอภรรยาเขาไปไหน ทำไมไม่เปิดไฟ คงอยู่ในห้องนอน จึงเดินไปเปิดประตูห้องนอน เห็นภรรยานั่งสั่นอยู่บนเตียงนอน พนมมือพูดอยู่ในใจ แต่เราได้ยินชัดเจน
"พี่จ๋า เราอยู่กันคนละโลกแล้ว พี่อย่ามาหลอกหลอนน้องเลย พี่ไปที่ชอบที่ชอบเถอะนะจ๊ะพี่จ๋า แล้วน้องจะทำบุญอุทิศไปให้"
หนอยแน่ะ นังตัวดี ไอ้เวลาที่อยู่ด้วยกัน รักกันมากจนไม่ยอมให้ห่างสายตา ไอ้เราจะไปยังที่ที่เราชอบ จะไปอาบอบนวดซักหน่อย มันก็ไม่ให้เราไป ไอ้ที่เราชอบๆ จะไปนั่งเคล้าอีหนูซักหน่อย เธอก็ไปด้วยอีก แต่พอเราตายแล้ว กลับมาเสือกไสไล่ส่งบอกเราให้ไปยังที่ที่เราชอบ แล้วเราจะไปได้ยังไงวะ...โธ่..ผู้หญิงนะผู้หญิง...
5 ตุลาคม 2550 22:50 น.
banmoh
เมื่อสมัยที่หลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดถ้ำขาม อ.พรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ยังมีชีวิตอยู่ ได้มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งไปกราบนมัสการท่าน เพื่อขอฤกษ์แต่งงาน
หลวงปู่ถามชายหนุ่มว่า "เราพร้อมแล้วหรือ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วหรือ"
"พร้อมแล้วครับ" ชายหนุ่มตอบ
หลวงปู่ก็หันมาถามทางหญิงสาว "แล้วเราล่ะ รักเขาไหม"
"รักค่ะ" หญิงสาวตอบ
หลวงปู่ "พร้อมที่จะเป็นแม่บ้านแม่เรือนให้เขาแล้วหรือ"
"พร้อมค่ะ"
หลวงปู่ "เอ้อ...ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฤกษืดีหมดแหละโยม ถ้าเราพร้อม ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม มันก็ดีหมด แต่ถ้าฤกษ์ยามจะดีอย่างไร ถ้าเราไม่พร้อม มันก็ไม่ดีนั่นแหละ บางคน ดูฤกษ์ดูยามกันอย่างดี พร้อมหมดทุกอย่าง แต่อยู่กันยังไม่ทันไร ก็เลิกร้างจากกันไป เพราะความไม่ซื่อต่อกัน ความไม่มีศีลมีธรรมต่อกัน มันก็ไปกันไม่รอด ความดีความงามมันไม่ได้อยู่ที่ฤกษ์ยามหรอก มันอยู่ที่ความปรองดองความเข้าใจกันต่างหาก....."
จากนั้นหลวงปู่ก็เทศน์ให้ฟังอีกนาน แต่ผู้เขียนนำมาเฉพาะที่เกริ่นเรื่องไว้เท่านั้น
แต่ใครจะถืออะไรอย่างไรก็ตามสบายนะครับ ไม่ว่ากัน