16 พฤศจิกายน 2550 10:12 น.
banmoh
เว็บกลอนไทยใครกันหรือคือเจ้าของ
วางครรลองใจกว้างอย่างสร้างสรร
เป็นที่สร้างฟูมฟักนักประพันธ์
ทั้งใหม่เก่าเข้ากันด้วยบทกลอน
บางคนไม่เข้าใจในการแต่ง
ก็ช่วยแปลงร่วมด้วยช่วยกันสอน
ไม่กี่วันท่านคนนั้นก็เก่งกลอน
เข้ามาอ้อนออเซาะเหมาะคารม
ครูอาจารย์หลายท่านร่วมสรรสร้าง
แบ่งความรู้หลายทางอย่างเหมาะสม
แบ่งน้ำจิตปันน้ำใจให้ชื่นชม
น่านิยมในน้ำใจให้แก่กัน
เจ้าของเว็บเป็นใครใคร่รู้นะ
เหมือนปิดทองหลังพระเจียวนะท่าน
อยากขอบคุณกราบงามงามสักสามวัน
ขอให้ท่านจงมีสุขทุกชาติเอย....
(นิยมชมชื่นด้วยจริงใจ)
14 พฤศจิกายน 2550 23:42 น.
banmoh
เราหัวเราะทั้งโลกก้อหัวร่อให้
มองทางไหนใครใครก้อหัวร่อร่า
มองทางไหนใจสุขทุกเวลา
น่าอิจฉาความสุขทั่วทุกคน
เราร้องไห้ขื่นขมระทมจิต
ทั่วทุกทิศมองทางไหนเขาไม่สน
เราร้องไห้ร้องไปในกมล
ไม่มีคนร้องด้วยช่วยประโลม
คนไม่เคยร้องไห้ย่อมไม่รู้
แสนอดสูดวงใจให้ขื่นขม
โลกทั้งโลกสลบไปไร้ชื่นชม
แต่เราตรมเพียงดายเดียวเปลี่ยวอุรา
11 พฤศจิกายน 2550 18:20 น.
banmoh
เราทั้งสองครองรักปักใจมั่น
จะสร้างฝันเป็นจริงทุกสิ่งสรร
รักเราสองสดชื่นทุกคืนวัน
ชีวิตคู่เรานั้นมั่นคงจริง
สู้ความจนทนอุตส่าห์กัดเกลือก้อน
ศรีสมรไม่บ่นทนทุกสิ่ง
ใครจะว่าอย่างไรไม่ประวิง
เธอนั้นนิ่งก้มหน้าน้ำตาคลอ
ญาติรุมด่าว่าเธอนั้นคิดผิด
ที่มาติดคนจนจนจริงหนอ
จะชักหน้าไม่ถึงหลังยังไม่พอ
ทั้งแม่พ่อห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง
ไม่เนิ่นนานที่เราสู้สุดชีวิต
จากอดีตไม่เนิ่นนานกาลหนหลัง
มาเดี๋ยวนี้ใกล้เศรษฐีมีสตางค์
คนเคยชังกลับมารักอยากสอพลอ
เหมือนฟ้าผ่ายามแล้งแกล้งต่อฉัน
เพราะเธอนั้นเป็นโรคร้ายไม่มีหมอ
จะเยียวยาอย่างไรโรคไม่รอ
สุดท้ายก็จากไปไม่กลับคืน
ชีวิตฉันรันทดสลดยิ่ง
ขาดยอดหญิงสุดระทมตรมสุดฝืน
คิดถึงเธอยอดรักทุกวันคืน
ไม่อาจฝืนน้ำตากลั้นพลันไหลริน
ไปดีเถิดที่รักจักบวชให้
รักษาจิตรักษาใจไม่ไร้ศีล
อุทิศใจไร้รักไร้ราคิน
แด่ยุพินด้วยดวงใจมอบให้เธอ
แด่เธอผู้เป็นที่รัก
9 พฤศจิกายน 2550 21:04 น.
banmoh
"อันธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ
ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ"
เป็นสำนวนโบราณที่เสร็จสรรพ
หวังต้อนรับทุกท่านผ่านเข้ามา
แต่หลายท่านผ่านไปไม่ทายทัก
น้อยใจนักอุตส่าห์จ้องคอยมองหา
"ไปไม่ลา มาไม่ไหว้" อย่างไรนา
เอ๊ะ..หรือว่า กลอนของเราไม่เข้าที
อย่างน้อยควรบอกว่า "เข้ามาเยี่ยม"
"สวัสดี" ก็เต็มเปี่ยมในศักดิ์ศรี
หรือบอกว่า"เข้ามาผูกไมตรี"
ก็ยังดีกว่าไปโดยไม่ลา
เห็นบางกลอนเข้าไปตั้งหลายร้อย
มีเพียงน้อยนิดเดียวเทียวมาหา
แล้วบันทึกน้ำใจงาม"นามปากกา"
เห็นคุณค่าเจ้าของกลอนตอนคิดชม
กว่าจะได้แต่ละตอนนั่งนอนคิด
กลัวจะผิดใจใครให้ขื่นขม
สรรหาคำสละสลวยด้วยคำคม
ช่วยนิยมกันลงนามตามธรรมเนียม...เถอะนะเพื่อนนักกลอน