31 กรกฎาคม 2550 18:38 น.

**..แสนรัก..**

bananaleaf


ชายหนึ่งตรึงใจ      บ่เลือนรักได้      อุ่นไออ้อมแขน
ในห้วงคำนึง          จิตยังตราตรึง     ฝากซึ้งข้ามแดน
แม้นไกลเหลือแสน มิอาจคลายแคลน ฝากรักจากใจ

ลำนำเพลงรัก        ขอพี่ประจักษ์      สลักมั่นไว้
พร่ำเพ้อลอยลม     คอยชู้คู่ชม          หวังสมฤทัย
สงวนนวลไว้           เพื่อคอยขวัญใจ   รับขวัญคู่เคียง

       รักแห่งพี่หล่อเลี้ยง           ใจนาง
คำมั่นมิเลือนลาง                     ห่างน้อง
โลมใจไม่จืดจาง                      แนบแน่น  วิญญา
หมายคู่จักอยู่พ้อง                    พี่นั้นนานเนาว์

       ร้อยชายหมายคู่เคล้า        ภิรมย์
น้องบ่หวังให้ชม                       ชื่นชู้
สงวนเพื่อได้สม                       เพียงพี่  แท้เอย
มอบแด่ชายหนึ่งผู้                   อยู่พ้องเคียงใจ

       อธิษฐานจิตไว้                  มั่นคง
รักตราบชีพปลิดปลง                ห่อนร้าง
แม้นตัวพี่มิตรง                       คงมั่น  น้องนา
ขออยู่อย่างอ้างว้าง                   ห่างไร้คู่เชย
				
30 กรกฎาคม 2550 08:59 น.

**..นางครวญ..**

bananaleaf


@..คำนึงครวญรอคอย   โอ้น้องน้อยต้องคอยเก้อ
ภาพฝันคอยปรนเปรอ     เฝ้าแต่เพ้อเพียงเดียวดาย
ราตรีเคยมีมนต์             เราสองคนร่วมเคียงกาย
ชมดาวอย่างเปล่าดาย     แรมร้างลาหาย้อนคืน

@..หอมเอยกลิ่นราตรี    ย้ำฤดีที่เคยชื่น
ปวดช้ำทนกล้ำกลืน         ถอนสะอื้นขืนอกตรม
กลิ่นชวนป่วนฤทัย          โอ้ไฉนใยขื่นขม
รวดร้าวผ่าวอารมณ์         สะท้านไหวในน้ำคำ

@..แว่วขิมดังขับขาน      อกร้าวรานดังตอกย้ำ
เจ็บนี้จึ่งจารจำ                ทรวงพรมพรำร่ำน้ำตา
เอ่ยถ้อยร้อยเรียงคำ        ขับลำนำผ่านนภา
รักนั้นยังตรึงตรา             วังเวงจิตคิดถวิล

@..ฝากใจไว้ในเพลง     หมายบรรเลงให้ยลยิน
ฝากให้คนไกลถิ่น           คราใดยินจงคำนึง
อยู่ไหนใจเจ้าเอ๋ย            อย่าละเลยโปรดคิดถึง
แว่วหวานซ่านโสตซึ้ง       ผ่านเพลงไปแนบใจเธอ

            
				
27 กรกฎาคม 2550 16:23 น.

**..งานเขียนนี้มีที่มา..**

bananaleaf

ก่อนอื่นต้องขออภัยคุณว่าที่กวี..ที่ได้เอ่ยอ้างนามของท่านในบทกลอนนี้..มิได้มีเจตนาลบหลู่แต่อย่างใด..เพียงแต่ได้ไปอ่านผลงานของท่านเรื่อง.."ขอโทษครับพี่" ..แล้วรู้สึกชอบใจในความที่ชายคนหนึ่งมีใจนักเลงมากถึงขนาดไปเอ่ยบอกชายคนหนึ่งว่ารักแฟนเขารู้สึกว่าทึ่งในการกระทำนั้น...เพราะว่ามิได้หลบซ่อนหรือหมายซ่อนเร้นใดใด..ช่างใจกล้า  จริง ๆ ..แล้วก็นับถือด้วยค่ะ..ถึงแม้ว่าจะมิใช่เรื่องจริงก็ตาม...แต่ก็ประหลาดใจว่าคิดได้ไง...คิดในแง่บวกนะคะไม่ได้มีเจตนาคิดในแง่ลบ...

จึงได้คิดว่าหากว่ามีใครมาเอ่ยบอกรักแฟนเราเช่นนี้...เราจะรู้สึกอย่างไร...แล้วหากเราเป็นหญิงผู้นั้นผู้ที่มีชายสองคนมารุมปอง...หญิงนั้นจะรู้สึกอย่างไร...แล้วถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับตัวเราเอง...เราจักรู้สึกเยี่ยงไร....จึงได้ถ่ายทอดมาเป็นงานเขียนชิ้นนี้ค่ะ...     "งานเขียนนี้มีที่มา"....

****************************************************************
ว่าที่กวี...กล่าวภิเปรย...

ขอ.....ตัวผมเอ่ยอ้าง        ความใน
โทษ..ที่หยุดยั้งใจ           บ่ได้
ครับ..ผมลุ่มหลงใน         แฟนพี่ จริงเอย
พี่......อย่าเคืองขุ่นให้      เร่าร้อนทรวงใน

ใจผมรักสลักแน่นแฟนของพี่
ทั้งชีวีหมายพลีแนบแทบเท้าขวัญ
ทุ่มเทใจหมายได้ครองปองชีวัน
นะครับท่านโปรดเมตตาอย่าขุ่นเคือง

****************************************************************
พี่ชาย...ตอบความ...

คำพี่เอ่ยน้องเอ๋ยจงประจักษ์
พี่ก็รักแฟนของพี่ไม่มีหน่าย
กล้าเหลือเกินมาเอิ้นขอต่อพี่ชาย
อยากจะลิ้มรสความตายก็หมายลอง

อย่า....มาคิดเกี่ยวพ้อง     แฟนใคร
หมาย..มั่นปันจิตใจ          ชื่นชู้      
ใจ......คิดลุ่มหลงไป          ผิดแน่  น้องเอย
ปอง....ใฝ่โดยไม่รู้            เช่นนี้ถึงตาย

เอิ้น  = หมายถึงเรียก หรือ บอก

****************************************************************
สาวเจ้า...รำพึง...

หวาดพะวงลุ่มหลงในชายทั้งสอง
มิอาจตรองตัดใจขาดดังมาดมั่น
เปรียบหนึ่งหญิงกับสองชายหรือไรกัน
พรหมแผลงฤทธิ์ลิขิตฉันมาคั่นกลาง

ยาก...สุดใจแห่งน้อง         ครองเคียง
ตัด....พี่ที่หมายเรียง          คู่เคล้า
ใจ.....ข้างหนึ่งมอบเพียง    ชู้ชื่น  ใจเอย 
เลือก..ฝ่ายใดอาจเศร้า      แน่แท้อนงค์

****************************************************************
หญิงรพี..รำพัน..

ความรักนั้นช่างร้อนรุมสุมอกไหม้
ในบางใครก็แสนหวานซ่านสุดซึ้ง
ในบางใครก็โหยไห้ใจรำพึง
ในบางใครก็ไร้ซึ่งคำบรรยาย

รักของฉันแต่ก่อนนั้นมันแสนหวาน
บัดนี้รานใจร้าวรอนห่อนเลือนหาย
มาพานพบที่พักพิงอิงใจกาย
ณ ที่หมายในรสธรรมนำสุขเอย

มั่น...ดวงจิตแน่แท้          หมางเมิน
ใจ....ไม่หมายเผชิญ        คู่ซ้อน
ไม่...อยากร่วมทางเดิน    หญิงหนึ่ง  สองชาย
รัก...เช่นนี้เร่าร้อน          ยิ่งแล้วหลีกไกล

มุ่งมั่นเพียรหมั่นรู้            จิตตน
คิดฝ่าความสับสน             รุ่มเร้า
รสธรรมพร่ำพร่างพรม      กำซ่าน  ทรวงเอย
ธรรมย่อมนำห่างพ้น         สิ่งร้ายทั้งปวง

				
25 กรกฎาคม 2550 15:54 น.

**..นิรมิต..**

bananaleaf


     ยามนิทรานวลน้อง           คำนึง
จิตพะวงตราตรึง                   ร่ำร้อง
วจีพร่ำรำพึง                         ผ่านโสต  สดับ
ครวญผ่านเพลงหวานซึ้ง       กล่อมน้อง  นิทรา

     พิศเงาใครอยู่ใต้             จันทรา
เยื้องย่างกรีดกรายมา           ใกล้น้อง
เงานั้นงามจับตา                  จับจิต  แม่เอย
แขนโอบโน้มหมายป้อง         ปัดพ้น  โพยภัย

     ผ่อนกายาแนบเนื้อ          อุ่นไอ
ซบแทรกอุระไหว                 แห่งพี่
รักกรุ่นกำซาบไป                 ทั่วร่าง  น้องเอย
ผลาญโศกกำสรวลลี้            ห่างพ้น  ใจนาง

     รักแรกน้องแตกร้าว        เลือนลาง
โศกบ่ห่อนเหือดร้าง             ห่างเศร้า
มนตร์พรหมร่ายนำทาง        พบผ่าน  นิรมิต
กู้กอบซากรัก..เคล้า             เคลียไคล้  คลายตรม

     จุมพิตเคลียแก้มน้อง       ภิรมย์
หวานกระซิบคำชม              ชื่นชู้
แรงฤทธิ์รักพร่างพรม          โลมทั่ว  สรรพางค์
ตระหนกจิตตื่นรู้                  นี่น้อง  ฝันไป

     เลือดสาวพล่านท่วมท้น    หทัย
ทรวงอิ่มเอิบหวามไหว          อุ่นอึ้ง
พบพี่ผ่านฝันไป                    หรือนั่น  ใจเอย
เป็นจริงจักซ่านซึ้ง                เช่นนี้  ฤาไฉน

				
24 กรกฎาคม 2550 13:23 น.

**..อสามี ปรมัง สุขัง..**

bananaleaf


     กลับถึงบ้านค่ำแล้ว           นวลนาง
ไหนจักต้องเร่งสาง               งานบ้าน
กรรมเคยก่อแต่ปาง             หลังก่อน  ฤานี่
มือนิ่มกลับต้องกร้าน            ชอกช้ำ  เหลือใจ

     ทุกวันตื่นแต่เช้า             เตรียมตัว
จัดอาหารลูกผัว                   ก่อนเช้า
ปลุกลูกตื่นแต่งตัว               แล้วนั่ง  ป้อนข้าว
สามีก็เร่งเร้า                       อาบน้ำ  เร็วไว

     อาบน้ำแล้วแต่งหน้า       เขียนคิ้ว
ลูกวิ่งตามตัวปลิว                อย่าช้า
ลูกบอกพ่อเริ่มกริ้ว             แม่แต่ง  ตัวนาน
ไปแต่งเอาข้างหน้า             รถพ่อ  เถิดเอย

     ก้าวขาขึ้นหนึ่งข้าง          บนรถ
รีบออกรถประชด               ให้น้อง
ขาที่อยู่นอกรถ                   หดแทบ  ไม่ทัน
หันขวับดุเสียงก้อง              ล่าช้า  จริงเชียว

     แต่งตัวต่อด้านหน้า        รถพี่
สามีขับเร็วรี่                      ไม่ยั้ง
เบรกรถแต่ละที                 หน้าทิ่ม  หัวตำ
ทาปากเพริดถึงดั้ง             ปวดร้าว  สิ้นดี

     เย็นนี้พี่กลับช้า             ประชุม
งานการเร่งเร้ารุม            ท่วมไท้
โปรเจคใหญ่มาสุม           รับลูก  แทนด้วย
โหนรถกลับเองได้            ใช่มั้ย  แม่คุณ

     รอสามีกลับบ้าน           เที่ยงคืน
ขืนข่มใจสะอื้น                 ร่ำไห้
ประชุมจนดึกดื่น             ไม่เชื่อ  เลยพี่
จำเก็บงำเงียบไว้             หน้าชื่น  อกตรม

     เดินซื้อของบนห้าง       พี่หาย
ยินแว่วเสียงปลายสาย       "..ห่วงน้อง.."
"..คิดถึงอยู่มิวาย.."           เสียงพูด  สามี
จับได้ปัดเสียงก้อง            ไม่รู้  เบอร์ใคร

     คุมโปงโทรค่อนคืน      หาสาว
ใจช่างแสนปวดร้าว          ยิ่งแล้ว
ก็รู้อยู่ทุกคราว                  ตัวพี่  มีกิ๊ก
ทนเพื่อให้ลูกแก้ว            ไม่ร้าง  พ่อเอย

     ดูแลยามป่วยไข้          ทุกคราว
เสื้อผ้าซักจนขาว              หอมฟุ้ง
รับใช้เปรียบดั่งบ่าว          ดั่งทาส  ในเรือน
ไหนจักเรื่องในมุ้ง            ที่ต้อง  ดูแล

     หามีชายใดบ้าง          เล่าเอย
เทิดทูนแม่ทรามเชย       รักแท้
คำน้อยก็มิเคย                เอื้อนเอ่ย  ช้ำชอก
ภักดีเมียยิ่งแล้                บ่ให้  ตรมตรอม

     แสนโชคดียิ่งนัก        รพี
มีสามีแบบนี้                   คงบ้า
ช้ำกายปวดฤดี                บ่ห่อน  เว้นวัน
รพีคงอ่อนล้า                   แค่คิด  ยังสยอง

     อยู่บนคานดีแล้ว         รพีเอย
อย่าไปอยากรู้เลย            จักช้ำ
คนในหน่ายนักเอย          อยากออก  เหลือที่
คนนอกอยากล่วงล้ำ         ใคร่รู้   เหลือเกิน

 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbananaleaf
Lovings  bananaleaf เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbananaleaf
Lovings  bananaleaf เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbananaleaf
Lovings  bananaleaf เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงbananaleaf