16 ตุลาคม 2550 06:28 น.
bananaleaf
พระพายพัดดั่งล้อ อกเรียม
เหงาห่มจิตจำเจียม ข่มช้ำ
รอคอยอย่างคนเหนียม ใจอยู่ เดียวเอย
เร้นโศกเก็บกลืนกล้ำ อย่างรู้ศักดิ์ตน
แสนฉงนยิ่งแท้ หนอใจ
คิดห่วงเขาอยู่ใย ค่ำเช้า
วงแขนอุ่นละไม เคยเกี่ยว กอดเอย
เพ้อพร่ำรำพันเศร้า เหนี่ยวโน้มชมเงา
รักแห่งเราเคลื่อนคล้อย ลับลา
น้ำกลบสองนัยนา ท่วมท้น
ตระหนักแน่อุรา เรียมพ่าย
นานกว่าเลือนหลุดพ้น บ่วงร้ายรัดรึง
ตรึงระทมห่มล้อม ชีวิน
สุขผ่านมายลยิน ชั่วคล้อย
หวานเพียงครู่แล้วบิน หายห่าง
ฝากชื่นเพียงแต่น้อย หน่วงน้าวร้าวทรวง
หมู่มารผลาญป่วนสิ้น รื่นรมย์
สิงสู่สาป ระทม มุ่งร้าย
เดียงสาอ่อนจึงซม พิษซ่าน
หลงเล่ห์ลมลิ้นอ้าย ไป่รู้คำลวง
เหงานักรักเอย ก่อนเคยชิดชม
บัดนี้ไม่สม ต้องตรมอยู่เดียว
เงารักตามติด ชื่นชิดประเดี๋ยว
สายสวาทขาดเกลียว แลเหลียวเปล่าดาย
แรมลาร้างเลือน ดั่งเดือนเคลื่อนหาย
ตรมอยู่มิวาย กว่าคลายคงซม
สุขโบยบินจาก จำพรากขื่นขม
เศษหวานภิรมย์ งายงมลำพัง
เชื่อน้ำคำชาย จึงหมายฝากฝัง
รักหมดภวังค์ ร่ายหวังเพียงเรา
14 ตุลาคม 2550 01:24 น.
bananaleaf
พิรุณโรย โชยหนาว สาวสะท้าน
แรกสะคราญ หวานอมเศร้า เขลาไฉน
หยาดมาโลม พสุธา วนาไพร
ดุจดังใจ ท่วมท้น ล้นโศกา
ฟ้าคงช้ำ จึงพรำฝน ให้คนเหงา
ตราบนานเนาว์ ไป่สิ้น ถวิลหา
รวีคล้อย ร้อยเศร้า เคล้าทิวา
ร่ายน้ำตา แทนถ้อย น้อยเนื้อนวล
รำพันรัก เลียบวรุณ อุ่นสลาย
ละอองอาย ฤาปลด หมดกำสรวล
พรมจนชุ่ม รุมย้ำ ช้ำเซซวน
เสียงนางครวญ กลบสายฟ้า อุรารอน
พิศวาส คลาดคล้อย ลับลอยเลื่อน
ผันปีเดือน หยั่งลึกราก ยากถ่ายถอน
เงาแห่งโศก ระบัดคลุ้ม คลุมนิวรณ์
จึงราญรอน อ่อนไหว ให้อาดูร
ทบเทวษ เศษสุข มิคลุกเคลือบ
เป็นดังเหลือบ ลิ้นแฝง หมายแทงสูญ
ซับความทุกข์ ล้นฤดี ทวีคูณ
หลงเทิดทูล ซาตาน ผลาญภิรมย์
ใจหนึ่งดวง หาใหญ่แท้ แค่กำปั้น
แต่คราเจ็บ คลอนสั่น พรั่นอกขม
ยะเยือกกาย แดดิ้น จินต์ซานซม
เพียงแค่ลม พรมพลิ้ว คงปลิวลอย
ไยเราปอง คำนึง ถึงรักเก่า
ปล่อยให้เงา เฝ้าคว้า ล้าสุดสอย
ทำลายฝัน บางใคร ให้โปรยปรอย
แรงบาปส่ง ย้อนรอย จึงคอยนาน
ลิขิตกรรม นำสู่ เพื่อรู้จาก
ฉุดกระชาก พรากแก้ว ไร้แววหวาน
จารึกผ่าน อักษร เป็นกลอนกานท์
คือตำนาน รักเศร้า เคล้าพิรุณ
5 ตุลาคม 2550 19:12 น.
bananaleaf
พระพายพัด รัดร้อย ความหงอยเหงา
ชโลมเงา เคล้าโศก วิโยคหา
ร้างแรมโรย โหยไห้ คราวไกลตา
หวั่นอุรา คราห่าง รักจางใจ
ลิบสุดฟ้า อาลัย ฤทัยหวน
เคยชื่นชวน ชี้ชม ภิรมย์ไสว
รำลึกถึง ยอดชู้ ผู้คลาไคล
แอบหวามไหว ซุกซ่อน อ่อนอกตรม
เงียบสะอื้น กลืนช้ำ ย้ำความหวั่น
อกยังพรั่น เศร้าเดียว เหนี่ยวจิตขม
ชะรอยนวล ป่วนปั่น ฝันลอยลม
อาบระทม ซมซาน หวานมลาย
นกนางนวล บินร่อน อ้อนเคียงคู่
เสียงเพรียกกู่ ดูแล้ว แก้วขวัญหาย
เหลือบแลเห็น น้ำซัด ปัดรอยทราย
ยังมิวาย คลายถวิล สิ้นระแวง
คลื่นกระทบ ซบฝั่ง เหมือนสั่งฝาก
จักมิพราก จากลา เตือนอย่าแหนง
จารึกมั่น จำนรรจา หาเคลือบแคลง
ตราบอาทิตย์ อับแสง ฤาแฝงเลือน
ร้อยคารม คมชาย เกรงกลายกลับ
ยามได้ลับ ผินหลัง ดังถูกเฉือน
เยื่อสายใย สะบั้น ผิหันเยือน
ดุจดวงเดือน ไร้ฉวี รัศมีเพ็ญ
พระพายพัด รัดร้อย ความหงอยเหงา
เหลือเพียงเรา กับคาวใจ ใครหนอเห็น
ผสานรอย สร้อยเศร้า ร้าวลำเค็ญ
แม่เนื้อเย็น เร้นบ่วง ในห้วง..คอย..