21 มิถุนายน 2559 12:47 น.
bananaleaf
เครดิตภาพ : play.kapook.comกลางสายลมพลิ้วไหว..ในห้วงลึก
นิ่งย้อนตรึก..งดงาม..เมือยามหลัง
ที่ซ่อนเร้นกลางทรวงหน่วงภวังค์
จึงประดังถาโถม..เข้าโลมใจอ่อนเอย..อ่อนไหวในสำนึก
ยังรู้สึกตรงกัน..นั้นบ้างไหม
หรือทั้งหมดที่เห็นและเป็นไป
แค่หนึ่งใครคิดอยู่..เพียงผู้เดียว
2 มีนาคม 2556 18:40 น.
bananaleaf
คล้ายแจ้งความนัย..ดังใฝ่ฝัน
ปรารถนาต้องกันหรือไรเจ้า
เถิด..เร้นละห้อยตามรอยเงา
รูป..เฝ้าแลเห็น..เช้า,เย็น,ไป
รู้ไหม..คำนึงหนึ่งผู้นี้
หามีผ่อนน้อย..ถอยลงไม่
ทุกถ้อยอาวรณ์เกินซ่อนนัย
หวามไหวผ่านแผ้วด้วย..แววดา
ลอบ..สบดวงนัยน์ใครหนึ่งนั้น
อกเอ๋ย..ไหวหวั่นกับทีท่า
เสมือนเผย..เลศรับตอบกลับมา
แทนวาจา..รู้แล้ว..นะแก้วเอย
23 เมษายน 2555 22:20 น.
bananaleaf
ในอ้อมแขนที่..ว่างเปล่า..
พร้อมรับ ความเงียบเหงา ด้วยยิ้มปร่า
วางทุกสิ่งให้เลือนหาย กับสายธารแห่งกาลเวลา
แม้วันนี้ วันหน้า ไม่ขอ..จำ..
ต่อจากนี้ในอ้อมแขน
จะโอบกอดตัวเองให้แน่น ทุกคืนค่ำ
ปรามาสหมื่นร้อยใน..รอยคำ
จุดด่างดำ..ของชีวิตจักปลิดปลง
อ้อมแขนนี้กับ..ทุกนาทีที่เหลือ
ฉันจะคอย จุนเจือ และเสริมส่ง
ด้วยพลัง จากใจหนึ่งซึ่ง..มั่นคง
แลธำรงไว้ด้วยความ..ปรารถนาดี
แด่มวลมิตร ถ้วนไปที่ในโลก
ผู้เสพย์โศก ทุกข์ทน จนล้นปรี่
ให้พอคลายซมเศร้าเร้าฤดี
ด้วยวิถี..แห่งเรา..นะเจ้าเอย
จากนี้ จักเป็นเช่นไรมิอาจรู้
สุข ปลื้ม เหงา หิว หดหู่ หรืออยู่เฉย
มาบ้าง หายบ้าง ใช่ว่าจะร้างเลย
ถ้าบังเอิญพบ ก็อย่าลืมเอ่ยเพื่อ..ทักทาย..
ดูนั่นสิ..แผ่นน้ำ และผืนฟ้า
เป็นเช่นนี้ทุกเพลา มิห่างหาย
อิ่มโอบอุ่น..แสงสุรีย์..ที่พร่างพราย
มิเสื่อมคลาย..ผูกพัน..สักวันเลย..
14 กรกฎาคม 2553 18:29 น.
bananaleaf
เมื่อกระแส..ความคิดของจิตหนึ่ง
ค่อย ค่อย เผยคำนึงแอบซึ้งซ่อน
ผ่านรู้สึกห่วงหาเอื้ออาทร
อีกเง้างอน, งันเงียบและเปรียบเปรย
ครั้นเมื่อสื่อสัมผัสนั้นชัดแจ้ง
กลับระแวงวิตกจริงอกเอ๋ย
ใจหนึ่ง..นั้นปรารถนาเอื้อมคว้าเชย
แต่ใจหนึ่ง..ยังเฉยรอ..ท่าที
เหมือนหนึ่งว่า..บางนัยของใครนั้น
แสร้งเสกสรรหยอกเย้า..รึเปล่านี่ ?
จึ่งทุกถ้อยอ่อนหวานซ่านฤดี
รินรดใจช้ำนี้ให้ชื่นทรวง
ประดุจลมพัดสู่ให้รู้ชื่น
แล้วกลับคืนห่างหายมลายหวง
มากรายกล้ำย้ำตรม..โอ้ลมลวง
ทุกข์ทั้งปวงก็โถมเข้าโลมใจ
คำนึงเอย..อาวรณ์แต่ก่อนนั้น
รูปรอยพลันกระจ่างสว่างไสว
ย้อนรำลึกแววหวานแต่กาลไกล
ตรึงอาลัยทอทาบ..หนึ่งภาพเงา
เมื่อหนึ่งเงาเฝ้าตามทุกยามย่าง
ฤารู้สร่างรอบวน..แห่งคนเหงา
ครั้นหวามไหวโจมจู่..เกินรู้เดา
จึงท้อทดกำสรดเศร้า..ด้วยเงานั้น
หรือเป็นแรงพันผูกเคยปลูกไว้
ที่ถักทอสายใยกั้น..ใคร..นั่น
ดลให้เห็นรูปทรามท่ามจำนรรจ์
ที่เสกสรร..เลศชู้..อย่างรู้นัย
แล้วสัมผัส..ทั้งปวงที่ลวงเล่น
ค่อย ค่อย เผยซ่อนเร้น..จนเห็นได้
จึงทุกแรงปรารถนาและอาลัย
ก็ดับไปพร้อมฝนที่..หล่นริน
24 เมษายน 2553 00:21 น.
bananaleaf
เหมือนดังสิ่งที่ห่างบนทางฝัน
กลับเผยผัน..บางนัย..จนไหวอ่อน
อกที่เคยซ่อนแฝงแรงอาวรณ์
ก็สะท้อนสะเทิ้นด้วยเขินอาย
นับนานเนิ่นเกินกว่าไขว่คว้าถึง
แรงคำนึงส่งสู่มิรู้พ่าย
พันหมื่นแสนอาทรมิคลอนคลาย
เพียงหนึ่งชายเท่านั้นอย่าง..มั่นคง
หรือถ้อยความรำพึงจักถึงหนอ..?
จึงรุก ล้อ แย้มพรายดั่งคล้ายส่ง-
นัยว่ารู้ทุกพร่ำเจตจำนง
ที่บรรจงรำบายฝากสายลม
แม้จะสื่อให้เห็นดังเช่นนี้
ยังอดที่หวาดหวั่นพรั่นอกขม
เกรงว่านัยที่ฉายแค่หมายชม
พอรื่นรมย์แล้วลับไปกับเงา
นั่นกี่นานรู้ไหม..ว่าใครหนึ่ง
ต้องซ่อนซึ้งแฝงเร้นเช่นคนเหงา
อยู่หลังม่านอาวรณ์อันอ่อนเบา
ระหว่างเรา..เท็จ..จริง..คือสิ่งใด?