25 กรกฎาคม 2550 15:54 น.
bananaleaf
ยามนิทรานวลน้อง คำนึง
จิตพะวงตราตรึง ร่ำร้อง
วจีพร่ำรำพึง ผ่านโสต สดับ
ครวญผ่านเพลงหวานซึ้ง กล่อมน้อง นิทรา
พิศเงาใครอยู่ใต้ จันทรา
เยื้องย่างกรีดกรายมา ใกล้น้อง
เงานั้นงามจับตา จับจิต แม่เอย
แขนโอบโน้มหมายป้อง ปัดพ้น โพยภัย
ผ่อนกายาแนบเนื้อ อุ่นไอ
ซบแทรกอุระไหว แห่งพี่
รักกรุ่นกำซาบไป ทั่วร่าง น้องเอย
ผลาญโศกกำสรวลลี้ ห่างพ้น ใจนาง
รักแรกน้องแตกร้าว เลือนลาง
โศกบ่ห่อนเหือดร้าง ห่างเศร้า
มนตร์พรหมร่ายนำทาง พบผ่าน นิรมิต
กู้กอบซากรัก..เคล้า เคลียไคล้ คลายตรม
จุมพิตเคลียแก้มน้อง ภิรมย์
หวานกระซิบคำชม ชื่นชู้
แรงฤทธิ์รักพร่างพรม โลมทั่ว สรรพางค์
ตระหนกจิตตื่นรู้ นี่น้อง ฝันไป
เลือดสาวพล่านท่วมท้น หทัย
ทรวงอิ่มเอิบหวามไหว อุ่นอึ้ง
พบพี่ผ่านฝันไป หรือนั่น ใจเอย
เป็นจริงจักซ่านซึ้ง เช่นนี้ ฤาไฉน
24 กรกฎาคม 2550 13:23 น.
bananaleaf
กลับถึงบ้านค่ำแล้ว นวลนาง
ไหนจักต้องเร่งสาง งานบ้าน
กรรมเคยก่อแต่ปาง หลังก่อน ฤานี่
มือนิ่มกลับต้องกร้าน ชอกช้ำ เหลือใจ
ทุกวันตื่นแต่เช้า เตรียมตัว
จัดอาหารลูกผัว ก่อนเช้า
ปลุกลูกตื่นแต่งตัว แล้วนั่ง ป้อนข้าว
สามีก็เร่งเร้า อาบน้ำ เร็วไว
อาบน้ำแล้วแต่งหน้า เขียนคิ้ว
ลูกวิ่งตามตัวปลิว อย่าช้า
ลูกบอกพ่อเริ่มกริ้ว แม่แต่ง ตัวนาน
ไปแต่งเอาข้างหน้า รถพ่อ เถิดเอย
ก้าวขาขึ้นหนึ่งข้าง บนรถ
รีบออกรถประชด ให้น้อง
ขาที่อยู่นอกรถ หดแทบ ไม่ทัน
หันขวับดุเสียงก้อง ล่าช้า จริงเชียว
แต่งตัวต่อด้านหน้า รถพี่
สามีขับเร็วรี่ ไม่ยั้ง
เบรกรถแต่ละที หน้าทิ่ม หัวตำ
ทาปากเพริดถึงดั้ง ปวดร้าว สิ้นดี
เย็นนี้พี่กลับช้า ประชุม
งานการเร่งเร้ารุม ท่วมไท้
โปรเจคใหญ่มาสุม รับลูก แทนด้วย
โหนรถกลับเองได้ ใช่มั้ย แม่คุณ
รอสามีกลับบ้าน เที่ยงคืน
ขืนข่มใจสะอื้น ร่ำไห้
ประชุมจนดึกดื่น ไม่เชื่อ เลยพี่
จำเก็บงำเงียบไว้ หน้าชื่น อกตรม
เดินซื้อของบนห้าง พี่หาย
ยินแว่วเสียงปลายสาย "..ห่วงน้อง.."
"..คิดถึงอยู่มิวาย.." เสียงพูด สามี
จับได้ปัดเสียงก้อง ไม่รู้ เบอร์ใคร
คุมโปงโทรค่อนคืน หาสาว
ใจช่างแสนปวดร้าว ยิ่งแล้ว
ก็รู้อยู่ทุกคราว ตัวพี่ มีกิ๊ก
ทนเพื่อให้ลูกแก้ว ไม่ร้าง พ่อเอย
ดูแลยามป่วยไข้ ทุกคราว
เสื้อผ้าซักจนขาว หอมฟุ้ง
รับใช้เปรียบดั่งบ่าว ดั่งทาส ในเรือน
ไหนจักเรื่องในมุ้ง ที่ต้อง ดูแล
หามีชายใดบ้าง เล่าเอย
เทิดทูนแม่ทรามเชย รักแท้
คำน้อยก็มิเคย เอื้อนเอ่ย ช้ำชอก
ภักดีเมียยิ่งแล้ บ่ให้ ตรมตรอม
แสนโชคดียิ่งนัก รพี
มีสามีแบบนี้ คงบ้า
ช้ำกายปวดฤดี บ่ห่อน เว้นวัน
รพีคงอ่อนล้า แค่คิด ยังสยอง
อยู่บนคานดีแล้ว รพีเอย
อย่าไปอยากรู้เลย จักช้ำ
คนในหน่ายนักเอย อยากออก เหลือที่
คนนอกอยากล่วงล้ำ ใคร่รู้ เหลือเกิน
23 กรกฎาคม 2550 16:42 น.
bananaleaf
ในชีวิตเคยได้เมากับเขาบ้าง
เพียงแค่ครั้งก็ตราตรึงซาบซึ้งนั้ก
แอบไปนอนพักหอในกับเพื่อนรัก
ดื่มเสียหนักอยากประจักษ์ในความเมา
ก่อนเมาเหล้าเราก็อ้างทฤษฎี
กินเต็มที่คงจะดีก่อนเมาเหล้า
ช้าอยู่ใยหม่ำเข้าไปนะพวกเรา
แล้วก็ตั้งวงเหล้าเข้าล้อมวง
น้ำสีเหลืองชงผสมกับเป๊ปซี่
ดื่มเต็มที่เมาเหลือใจให้เล้งล้ง
ครูแม่บ้านก็ไม่อยู่แล้วอนงค์
จงรีบชงมาดื่มกันสุขสันต์จริง
หมดหนึ่งกลมพอดีรพีอ้วก
แทบกระซวกลากไส้ใจหวิวยิ่ง
ลุกขึ้นมาตาสลัวหัวดำดิ่ง
แล้วแน่นิ่งหลับสบายคลายกังวล
ตื่นขึ้นมาในบรรดาเพื่อนทั้งหลาย
หญิงรพีตื่นไม่สายใจฉงน
พวกที่เหลือปวดกบาลสุดทานทน
" แกเล่นพ่นจนหมดไส้จึงไม่เมา" (เสียงประสานรุมด่ารพีตอนเช้าเนาะ)
อาเจียนหมดแล้วก็หลับสบายแต่พวกสาว ๆ คอแข็งทั้งหลาย..
ต้องนั่งเช็ดทำความสะอาดซากเมาของเรา...จนเกือบรุ่งสาง...เอิ๊ก..ม่ายมาววว
สมาชิกทุกท่านที่ผ่านมาเคยเมาอะไรกันบ้าง..แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันค่ะ
23 กรกฎาคม 2550 11:31 น.
bananaleaf
ได้เยือนแล้วแดนดินถิ่นสุราษฎร์
งามวิลาศเมืองร้อยเกาะเงาะอร่อย
อีกหอยใหญ่ไม่ผิดหวังเลยสักน้อย
ไข่แดงหร้อยจังฮู้อยากอยู่เมิน
เมืองไชยาแหล่งธรรมะวัดสวนโมกข์
คลายความโศกโบกทุกข์ใจให้ห่างเหิน
อยากแฝงกายเป็นสะใภ้ใต้เหลือเกิน
สามเลิ่มเปิ้มอย่างรพีนี้สนใจ
มาพำนักบ้านนาสารด้วยงานหลวง
มุ่งช่วยปวงครูอังกฤษคิดการณ์ใหญ่
สอนภาษาผ่านละครไม่นอนใจ
เป็นวิทยากรตัวใหญ่ใหญ่ไม่ได้คุย
งานอบรมนั้นไซร้เป็นงานรอง
จิตจดจ้องต้องมุ่งใจไปสมุย
พี่นนคนดีเลี้ยงรพีจนพุงพลุ้ย
มุ่งสมุยด้วยซีทรานสำราญจริง
ลงหน้าทอนใจผ่อนคลายได้มาเที่ยว
ทะเลเขียวน้ำสวยใสน่าว่ายยิ่ง
พักที่หาดละไมสุขใจจริง
แล้วตรงดิ่งไหว้พระใหญ่ใจสุขครัน
แวะเที่ยวชมหินตายายละม้ายเหมือน
ไม่แชเชือนถ่ายรูปไว้มือไม้สั่น
หินอะไรช่างเหมือนจริงราวกับปั้น
เสร็จแล้วฉันซื้อกาละแมเผื่อแผ่ปัน
ยำไข่แม่นพล่าเอ็นหอยอร่อยเลิศ
รสบรรเจิดเสริฟพร้อมผักมักหลายนั่น
แม่นอะไรมีไข่หนอขอดูครัน
ไข่เหล่านั้นจากหอยแม่นเห็นแปลกจริง
ยำหอยเจาะเคาะจากหอยตัวน้อยนิด
คือนางรมตัวกะจิ๊ดถูกจิตยิ่ง
วายคั่วกะทิจากหมึกสายรสร้ายจริง
อร่อยยิ่งร้านอาหาร "สเบียงเล"
สิบชั่วโมงไม่ขาดเกินวันเดินทาง
สามอนงค์สุดสอางค์แรมร้างแร่
มีพี่ริน หญิงรพี และน้องเมย์
มิหันเหมุ่งหน้าช่วยพี่บ่าวนน
ประทับใจในรีสอร์ทที่พักยิ่ง
สุขสันต์จริงนะพี่น้องไม่หมองหม่น
ซาบซึ้งใจไมตรีพี่ทุกคน
หากว่าสนมาอุทัยใคร่รับรอง
เดินทางกลับถึงบ้านแล้วพี่แก้วเอ๋ย
หนึ่งชั่วโมงไม่ขาดเลยที่บินร่อน
ทำน้องเมย์หวั่นไหวไม่ได้นอน
นวลบังอรเพิ่งเคยบินแสนยินดี
กราบขอบคุณผู้บริหารผ่านกานท์กลอน
ช่วยต้อนรับวิทยากรไม่หน่ายหนี
ผู้เข้ารับการอบรมก็แสนดี
หอบลองกองมาเต็มที่เพื่อแบ่งปัน
จะตราตรึงความซึ้งใจไมตรีจิต
ตราบชั่วนิจนิรันดรไม่คลอนสั่น
เยือนสุราษฎร์อีกครั้งด้วยใจมั่น
เกาะพงันคือที่หมาย..นะพี่ชายนน..
หร้อย = เป็นภาษาใต้หมายถึง อร่อย
เมิน = ภาษาเหนือหมายถึง นาน ในที่นี้คืออยากอยู่นาน ๆ
เลิ้มเปิ้ม = ภาษาใต้ก็คือ ซุ่มซ่าม
หน้าทอน = คือท่าเรือเฟอรรี่ของซีทรานได้จอดเทียบท่าที่เกาะสมุย
มัก = หมายถึง ชอบ ในที่นี้ก็คือชอบทานผักเคียงมี่เสริฟมาพร้อม
กับอาหารของคนใต้..
20 กรกฎาคม 2550 01:09 น.
bananaleaf
เงาบุหลันเด่นเบื้อง นที
แสงผ่องนวลฉวี ส่องหล้า
กำซาบในวจี พี่เอ่ย เอื้อนบอก
ความหวังดีเจิดจ้า แม้นไม่ ร่วมปอง
จิตมิหมายอาจเอื้อม ครอบครอง
คุณอาจมีเจ้าของ พ้องอยู่
หวังใจแค่เมียงมอง เพียงห่าง คอยยล
ขอแค่ได้รับรู้ ว่าน้อง มีใจ
ห้วงนทียากแท้ หยั่งไป
มิเท่าห้วงหทัย แห่งพี่
แสนยากคะเนใจ แม้นหนึ่ง น้อยนิด
จึงเปรยผ่านโคลงนี้ กระซิบ รำพัน
รักส่องผ่านแสงจ้า แห่งจันทร์
ห่มใจใครคนนั้น อุ่นเอื้อ
คราหนาวใจมองจันทร์ จักอุ่น นักพี่
เหมือนดั่งได้แนบเนื้อ แห่งน้อง นิทรา