16 ตุลาคม 2550 06:28 น.

**...พ่ายรัก..**

bananaleaf

r91_32.jpg
               พระพายพัดดั่งล้อ             อกเรียม
               เหงาห่มจิตจำเจียม          ข่มช้ำ
               รอคอยอย่างคนเหนียม     ใจอยู่  เดียวเอย
               เร้นโศกเก็บกลืนกล้ำ        อย่างรู้ศักดิ์ตน

               แสนฉงนยิ่งแท้                หนอใจ
               คิดห่วงเขาอยู่ใย              ค่ำเช้า
               วงแขนอุ่นละไม               เคยเกี่ยว กอดเอย
               เพ้อพร่ำรำพันเศร้า          เหนี่ยวโน้มชมเงา

               รักแห่งเราเคลื่อนคล้อย    ลับลา
               น้ำกลบสองนัยนา             ท่วมท้น
               ตระหนักแน่อุรา               เรียมพ่าย
               นานกว่าเลือนหลุดพ้น       บ่วงร้ายรัดรึง  

               ตรึงระทมห่มล้อม             ชีวิน
               สุขผ่านมายลยิน               ชั่วคล้อย
               หวานเพียงครู่แล้วบิน       หายห่าง    
               ฝากชื่นเพียงแต่น้อย        หน่วงน้าวร้าวทรวง    

               หมู่มารผลาญป่วนสิ้น       รื่นรมย์
               สิงสู่สาป ระทม                มุ่งร้าย
               เดียงสาอ่อนจึงซม           พิษซ่าน 
               หลงเล่ห์ลมลิ้นอ้าย           ไป่รู้คำลวง

               เหงานักรักเอย                ก่อนเคยชิดชม
               บัดนี้ไม่สม                      ต้องตรมอยู่เดียว
               เงารักตามติด                  ชื่นชิดประเดี๋ยว
               สายสวาทขาดเกลียว        แลเหลียวเปล่าดาย
               แรมลาร้างเลือน              ดั่งเดือนเคลื่อนหาย
               ตรมอยู่มิวาย                   กว่าคลายคงซม
               สุขโบยบินจาก                จำพรากขื่นขม
               เศษหวานภิรมย์               งายงมลำพัง
               เชื่อน้ำคำชาย                 จึงหมายฝากฝัง
               รักหมดภวังค์                  ร่ายหวังเพียงเรา

				
14 ตุลาคม 2550 01:24 น.

**...รำพันเหงาเคล้าพิรุณ...**

bananaleaf

47_80838_fbd11963cf0595b.gif
               พิรุณโรย โชยหนาว สาวสะท้าน
               แรกสะคราญ หวานอมเศร้า เขลาไฉน
               หยาดมาโลม พสุธา วนาไพร
               ดุจดังใจ ท่วมท้น ล้นโศกา

               ฟ้าคงช้ำ จึงพรำฝน ให้คนเหงา
               ตราบนานเนาว์ ไป่สิ้น ถวิลหา
               รวีคล้อย ร้อยเศร้า เคล้าทิวา
               ร่ายน้ำตา แทนถ้อย น้อยเนื้อนวล

               รำพันรัก เลียบวรุณ อุ่นสลาย
               ละอองอาย ฤาปลด หมดกำสรวล
               พรมจนชุ่ม รุมย้ำ ช้ำเซซวน
               เสียงนางครวญ กลบสายฟ้า อุรารอน

               พิศวาส คลาดคล้อย ลับลอยเลื่อน
               ผันปีเดือน หยั่งลึกราก ยากถ่ายถอน
               เงาแห่งโศก ระบัดคลุ้ม คลุมนิวรณ์
               จึงราญรอน อ่อนไหว ให้อาดูร

               ทบเทวษ  เศษสุข มิคลุกเคลือบ
               เป็นดังเหลือบ ลิ้นแฝง หมายแทงสูญ
               ซับความทุกข์ ล้นฤดี ทวีคูณ
               หลงเทิดทูล ซาตาน ผลาญภิรมย์

               ใจหนึ่งดวง หาใหญ่แท้ แค่กำปั้น
               แต่คราเจ็บ คลอนสั่น พรั่นอกขม
               ยะเยือกกาย  แดดิ้น  จินต์ซานซม
               เพียงแค่ลม พรมพลิ้ว คงปลิวลอย

               ไยเราปอง คำนึง ถึงรักเก่า
               ปล่อยให้เงา เฝ้าคว้า ล้าสุดสอย
               ทำลายฝัน บางใคร ให้โปรยปรอย
               แรงบาปส่ง ย้อนรอย จึงคอยนาน

               ลิขิตกรรม นำสู่ เพื่อรู้จาก
               ฉุดกระชาก พรากแก้ว ไร้แววหวาน
               จารึกผ่าน อักษร เป็นกลอนกานท์
               คือตำนาน รักเศร้า เคล้าพิรุณ


				
5 ตุลาคม 2550 19:12 น.

**..ยังคอย..**

bananaleaf

1178057338.jpg
                    พระพายพัด รัดร้อย ความหงอยเหงา
                    ชโลมเงา เคล้าโศก วิโยคหา
                    ร้างแรมโรย โหยไห้ คราวไกลตา
                    หวั่นอุรา คราห่าง รักจางใจ
  
                    ลิบสุดฟ้า อาลัย ฤทัยหวน
                    เคยชื่นชวน ชี้ชม ภิรมย์ไสว
                    รำลึกถึง ยอดชู้ ผู้คลาไคล
                    แอบหวามไหว ซุกซ่อน อ่อนอกตรม

                    เงียบสะอื้น กลืนช้ำ ย้ำความหวั่น
                    อกยังพรั่น เศร้าเดียว เหนี่ยวจิตขม
                    ชะรอยนวล ป่วนปั่น ฝันลอยลม
                    อาบระทม ซมซาน หวานมลาย

                    นกนางนวล บินร่อน อ้อนเคียงคู่
                    เสียงเพรียกกู่ ดูแล้ว แก้วขวัญหาย
                    เหลือบแลเห็น น้ำซัด ปัดรอยทราย
                    ยังมิวาย คลายถวิล สิ้นระแวง
  
                    คลื่นกระทบ ซบฝั่ง เหมือนสั่งฝาก
                    จักมิพราก จากลา เตือนอย่าแหนง
                    จารึกมั่น จำนรรจา หาเคลือบแคลง
                    ตราบอาทิตย์ อับแสง ฤาแฝงเลือน

                    ร้อยคารม คมชาย เกรงกลายกลับ
                    ยามได้ลับ ผินหลัง ดังถูกเฉือน
                    เยื่อสายใย สะบั้น ผิหันเยือน
                    ดุจดวงเดือน ไร้ฉวี รัศมีเพ็ญ

                    พระพายพัด รัดร้อย ความหงอยเหงา
                    เหลือเพียงเรา กับคาวใจ ใครหนอเห็น
                    ผสานรอย สร้อยเศร้า ร้าวลำเค็ญ
                    แม่เนื้อเย็น เร้นบ่วง ในห้วง..คอย..

				
30 กันยายน 2550 23:56 น.

**..คิดถึง..**

bananaleaf

414375ei5.jpg
                    ละอองดาวพราวพรายดุจสายหมอก
                    ริ้วละลอกหยอกเย้าเร้าภูผา
                    เพียรคำนึงถึงใครในจินตนา
                    รื่นอุราคราหวนทวนรำพัน

                    นารถอนงค์ส่งใจให้ถวิล
                    หวังยลยินร่วมเรียงเคียงคู่ขวัญ
                    กระซิบแผ่วแว่วหวานผ่านแขจันทร์
                    วอนพัดผันลมรักสลักทรวง

                    พิศดาวเหนือเรื่อสราญในม่านฟ้า
                    นวลพักตราสบเนตรเร้นเศษหวง
                    มิอาจเผยความนัยได้ทั้งปวง
                    ซ่อนแดดวงห่วงหาด้วยอาลัย

                    เกร็ดน้ำค้างพร่างพรมห่มผืนหญ้า
                    ต้องจันทราพิลาสหยาดไสว
                    หยดน้ำตารินโรยโหยฤทัย
                    อีกกี่นานหนอใจจักได้ชม

                    เงาราตรีโอบล้อมดั่งอ้อมแขน
                    สื่อความแหนส่งไปแม้นไม่สม
                    ชื่นเดียวดายคลายโศกวิโยคตรม 
                    บั่นระทมได้บ้างยามห่างกัน

                    คุณจ้องดาวเดียวกันกับฉันไหม
                    ณ แดนไกลคุ้งนภาอย่าโศกศัลย์
                    ร้อยภักดีผ่านกลอนอ้อนจำนรรจ์
                    เป็นสัญญารักมั่นจะหวั่นไย

                    กลิ่นอายหนาวเยือนแล้วแก้วกำสรด
                    มธุรสตรึงอุรายากหาไหน
                    มิอาจเทียมคิดถึงซึ้งบางใคร
                    แนบหทัยในฝันนิรันดร์กาล

                    ละอองดาวพราวพรายดุจสายหมอก
                    โปรยความชอกช้ำคลายหมายสมาน
                    ก่อนนิทราคืนค่ำย้ำดวงมาลย์
                    โฉมสะคราญนรีหนึ่งคิดถึงคุณ

   				
28 กันยายน 2550 01:49 น.

**..สองอารมณ์..**

bananaleaf

Phu-0051.JPG
               จรุงกลิ่น รสสุคนธ์ ปนไอหมอก
               พลิ้วระลอก กำจาย กลิ่นอายหวาน
               รุ่งอรุณ กลางไพร ใจสราญ
               ลี้รอนราน หมายสงบ หลบสู่พง

               แพรน้ำค้าง พร่างพรม ชมหมู่หญ้า
               เกร็ดนภา หยาดริน ให้ดินสรง
               ปฐพี ฉ่ำชื้น ระรื่นองค์
               ทั้งแดนดง พลิกฟื้น ผืนชีวิน

               ยามแสงสูรย์ ฉายฉาบ ทาบเวหน
               ทั่วสกล เริงร่า ลดาถวิล
               สกุณา เพรียกร้อง ก้องเมฆินทร์
               มยุริน ปองคู่ กู่รำแพน

               แว่วจิ้งหรีด กรีดเสียง เคียงประสาน
               ครวญสะคราญ ยามสดับ จับใจแสน
               มนต์พนา พาฤทัย ให้คลายแคลน
               ปลดบ่วงแหน ห่วงหา ตามราวี

               ธรรมชาติ วาดไว้ ให้ได้คิด
               ใครสถิต ค้ำฟ้า หาหลีกหนี
               ทิวาเยือน เคลื่อนจาก พรากราตรี
               ยามรวี ทอทับ อับแสงจันทร์

               หลงยึดติด ลาภยศ กำสรดเศร้า
               ระเริงเหล่า ทุรชน พ่นเสริญสรร
               ขาดสติ ไตร่ตรอง กรองจำนรรจ์
               จึงหุนหัน ตามคน สนตะพาย

               วาระล่วง อำนาจหาย จึงได้คิด
               วิปริต สิงสู่ รู้เมื่อสาย
               ว่ายเวียนวน สำราญ ธารน้ำลาย
               กว่าได้อาย เมื่อสิ้น ลิ้นคนเลีย

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbananaleaf
Lovings  bananaleaf เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbananaleaf
Lovings  bananaleaf เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟbananaleaf
Lovings  bananaleaf เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงbananaleaf