1 กุมภาพันธ์ 2551 01:17 น.
bananaleaf
หลับตาพริ้มยิ้มน้อยด้วยรอยสุข
ได้ซบซุกซึมซาบดังภาพฝัน
หวังใครหนึ่งตรึงจิตคิดรำพัน
ต่างมีกันและกันในอ้อมใจ
ใต้โอบล้อมแสงดาวสกาวฟ้า
ตราบทิวาเคลื่อนลับดับสมัย
ร่วมอิงแอบแนบอุ่นกรุ่นละไม
จันทร์คลาไคลคล้อยผ่านยังซ่านทรวง
ยามแรมเดือนเลือนแสงฤาแหนงหน่าย
กรีดเครื่องสายเสียงซอคลอแหนหวง
จวบอรุณรุ่งสางมิห่างดวง
กรุ่นในบ่วงรักมั่นนิรันดร์กาล
เฝ้าลุ่มหลงละเมอเพียงเพ้อพก
จึงช้ำฟกอกไหม้เหมือนไฟผลาญ
เป็นแค่ภาพในฝันของวันวาน
เก็บเศษหวานปลอบตนให้หม่นเลือน
เร้นรักซ่อนย้อนรอยมาคอยหาย
ฝันสลายแล้วเรียมใครเทียมเหมือน
สุดเอื้อมดาวร้อยเรียงมาเคียงเดือน
รวีเยือนขอบฟ้าเกินคว้าแล้ว
29 มกราคม 2551 16:05 น.
bananaleaf
สุดปลายทางแห่งนี้มีบ้างไหม
เพียงบางใครซึมซับคอยรับขวัญ
สนิทแนบแอบชิดนิจนิรันดร์
ร่วมตามฝันปันสุขผ่อนทุกข์คลาย
ใครสักคนอยู่เคียงพอเถียงเล่น
คอยเคี่ยวเข็ญตื่นนอนในตอนสาย
ห่วงดูแลยามไข้ไม่สบาย
อยู่ข้างกายปัดป้องปวงผองภัย
ยามตื่นนอนตอนเช้าได้เย้าหยอก
สัพยอกหลอกล้อพอแจ่มใส
โบกริ้วรอยระทมขื่นขมไกล
มอบอุ่นไอใจรักภักดิ์ภิรมย์
ทำกับข้าวให้ชิมพออิ่มท้อง
แล้วตัวน้องซักผ้าน่าสุขสม
ยามราตรีนับดาวพร่างพราวชม
ช่วยลบปมห่มทรวงถูกลวงมา
คงไร้แววสิ้นหวังกระมังเจ้า
เจ็บรุมเร้าเหงาย้ำช้ำหนักหนา
ซ่อนความปวดรวดร้าวหนาวอุรา
ด้วยใบหน้าหม่นเลือนที่เปื้อนยิ้ม
31 ธันวาคม 2550 00:54 น.
bananaleaf
ศุภฤกษ์เบิกฟ้าเพลาใหม่
ขออวยชัยได้สมภิรมย์หมาย
สุขสดชื่นสมหวังทั้งใจกาย
พ้นภยันอันตรายใดทั้งปวง
ให้ก้าวหน้าการงานเบิกบานจิต
ล้วนมากมิตรชิดชอบมอบห่วงหวง
ชนะมวลหมู่มารคนพาลลวง
คนช้ำทรวงควงใหม่ไม่ตรอมตรม
ให้มีบุตรชูเชิดประเสริฐยิ่ง
เป็นขวัญมิ่งหทัยไร้ขื่นขม
ใครที่อยู่บนคานมานานนม
ได้ชื่นชมสมฤดีปีหนูทอง
อันลูกหนี้ที่หายให้คืนกลับ
จงได้รับเงินเป็นไหไม่หม่นหมอง
คิดการณ์ใดให้เห็นเป็นเงินทอง
ล้วนมากองทับถมสมดังจินต์
ปวงพ่อม่ายแม่ม่ายทั้งหลายนั้น
หากคิดฝันมอบใจใฝ่ถวิล
ขอจงได้ร่วมเรียงเคียงอยู่กิน
โบกโบยบินสู่สวรรค์วิมานแมน
ปวงลูกศิษย์ลูกหาที่มาสู่
ขอลูกอยู่ร่มเย็นเป็นสุขแสน
จงตั้งใจใฝ่รู้อย่าดูแคลน
เร่งวางแผนชีวิตคิดให้ดี
บรรดาเพื่อนของเราที่เหงาอยู่
พวกไร้คู่ทนไปอย่าหน่ายหนี
อยู่เป็นโสดแหละหนาเขาว่าดี
แต่รพีหวังแต่งก่อนอ้อนฝากมา
ด้วยมากมิตรคิดไปหาได้หมด
มัวจับจดผลัดวันนั่นแหละหนา
พรุ่งนี้ก็วันสิ้นปีมัวลีลา
จึงได้ฤกษ์หยิบปากกามาเขียนกลอน
อวยพรฝากเอาไว้ให้ถ้วนทั่ว
ตรงกับตัวตอนใดอย่าถ่ายถอน
เร่งยกมือสาธุลุดังพร
ที่ว่าวอนกล่าวมาอย่าช้าพลัน
อาจตกหล่นไปบ้างอย่าหมางหมิ่น
โฉมยุพินโก๊ะนักหนาอย่าหุนหัน
เพราะคิดถึงจึงอวยพรร่อนหากัน
ขอทุกวันจงสุขใจไร้โรคา
ใครอ่านจบแล้วตอบจักชอบนัก
ให้สมรักสมจิตคิดปรารถนา
หากรับแล้วเงียบหายไม่ตอบมา
พรที่ว่าจงสลายมลายเทอญ (โอมเพี้ยง.. หุ หุ)
20 ธันวาคม 2550 00:51 น.
bananaleaf
ขอฝากเสียง นี้ไว้ ยามไกลห่าง
ก่อนจะร้าง แรมลา พาหวั่นไหว
รำลึกถึง ความหลัง ครั้งพิไล
ยามคราไคล ให้สะท้าน ร้าวรานทรวง
จากกันแล้ว เมื่อใด จักได้หวน
อีกกี่ครวญ เพ้อพร่ำ ย้ำห่วงหวง
คำกระซิบ สัญญา ว่ามิลวง
เหนือสิ่งใด ทั้งปวง ดุจบ่วงตรึง
รำพันแว่ว แผ่วก้อง ฟ้องแผ่นฟ้า
บอกหมู่มวล ดารา ว่าคิดถึง
ดาวกระพริบ คราใด ให้คำนึง
รักหวานซึ้ง ส่งผ่าน ซ่านทรวงใน
สายลมฉิว ลิ่วลู่ สู่อ้อมรัก
จงประจักษ์ ภักดี จะมีไหน
แรงช้างสาร ยื้อยุด ฤาฉุดไป
น้องแน่วแน่ หทัย ไม่จืดจาง
นทีกว้าง ขวางหน้า ก็ฝ่าพ้น
จิตดั้นด้น เคียงครอง อย่าหมองหมาง
จักระแวง แคลงใด น้ำใจนาง
ถึงโลกร้าง สุรีย์ดับ มิกลับกลาย
ขอเพียงเธอ คงมั่น แม้นจันทร์สิ้น
รักจะดิ้น กอบกู้ ห่อนรู้หาย
สถิตแนบ แอบอิง พักพิงกาย
มอบจิตภักดิ์ แด่ชาย ผู้หมายปอง
19 ธันวาคม 2550 14:50 น.
bananaleaf
อย่าทำงอน ค้อนควัก ที่รักจ๋า
โปรดหันหน้า หาน้อง มองสักหน
ผิดอันใด กันเล่า เจ้าหน้ามล
มีเหตุผล ฟังหน่อย ค่อยตรองดู
กิจกรรม มากมาย หลากหลายยิ่ง
ยุ่งเสียจริง ดวงใจ ฟังไว้หู
น้องแถลง ความต่อ พ่อโฉมตรู
ว่าคุณครู ติดงาน บานตะไท
โทรศัพท์ แบตหมด บนรถด้วย
โชคมิช่วย ซวยซ้ำ กรรมไฉน
แถมหามี เศษสตางค์ ช่างกระไร
จึงมิได้ โทรหยอดตู้ หาชู้ชม
พอตกเย็น สอนพิเศษ เป็นเหตุใหญ่
แสนขวักไขว่ เด็กรอ พ้อเสียงขรม
จึงมิอาจ วางเฉย เลยตามลม
โอ้ช่างตรม ใจจริง หญิงรพี
แล้วที่แต่ง กลอนหวาน ที่บ้านนั้น
ก็แค่เย้า เล่นกัน อย่าหันหนี
หยอกกันทั่ว กลัวไยเล่า เจ้าคนดี
เชื่อวจี น้องเถิด พูดเปิดใจ
หากยังคง นิ่งเฉย ไร้เอ่ยอ้าง
จะงอนบ้าง แล้วหนอ ขอผลักไส
มิเชื่อจิต เนื้อเย็น จักเป็นไร
จงหลบไป ไม่ง้อ พ่อตัวดี