27 พฤษภาคม 2552 01:58 น.
bananaleaf
ดั่งโคมสรวง..ลอยนิ่งให้อิงอุ่น
อกจึงกรุ่นกำซ่านด้วยหวานไหว
แสนคำนึงมิจางกับ..บางใคร..
ถักทอใยอาวรณ์อ้อนฝากจันทร์
จากที่ยืนตรงนี้..ถึงที่โน่น
ณ สุดโพ้น..ดวงใจอย่าไหวสั่น
ห่างกันเพียงแค่ม่านของวารวัน
เถิด..อย่าพรั่นรุมเร้าจนเศร้าทรวง
วอนพระพายหอบลมไปห่มล้อม
ประหนึ่งอ้อมเรียวแขนที่แสนหวง
คอยตระกองพิศวาสปราศเล่ห์ลวง
รัก..สุดห้วงฤทัยแห่งใจนวล
อาบอิ่มแสง..เดือนดวงชื่นช่วงค่ำ
อันงามล้ำนำจิตให้คิดหวน
ท่ามราตรี..เรียงร้อยถ้อยรัญจวน
ใคร..หนอชวนต่อพจน์รจนา
ยามสองเนตรประสานกลางม่านแสง
ก็จบแจ้งความนัยที่ใฝ่หา
เรื่อรอยอุ่นอ่อนหวานผ่านแววตา
หลอมวิญญาสองเราเฝ้าผูกพัน
ลมหวิว..อกหวามจริงยามนี้
สุดเหลือที่ข่มจิตคิดไหวหวั่น
จะจืดจางหรือไม่..เมื่อไกลกัน
เฝ้าเร่งวันหมั่นนับ..กลับคืนเรือน
จันทร์เอ๋ย..เผยความตามวิถี
เหมือนดังที่มั่นหมายอย่าคลายเคลื่อน
จากหนึ่งผู้รักแท้..มิแชเชือน
ย้ำเอ่ยเอื้อนว่าคอย..ทุกรอยคำ
23 พฤษภาคม 2552 12:47 น.
bananaleaf
คำนึง..ท่ามฝนปรอยละห้อยหวล
อีกกี่ครวญ..กันเจ้า..เฝ้าสงสัย
ด้วยสุดข่มใจลับ..ดับอาลัย
จึ่งจองจำความนัย..ไว้แนบทรวง
พบเพียงเพื่อเอื้ออุ่น..กรุ่นไอหวาม
ทุกเสี้ยวยาม..จำจดหมดทุกช่วง
ชะรอยแรงพันธ์ผูก..ตามถูกทวง
วางเงื่อนบ่วง..ห่วงรัก..ชักนำทาง
อยากจะตัดสงสาร..ซ่านรู้สึก
กลับผนึกอาวรณ์..เกินถอนถาง
เร้นเสี้ยวรักปักใจด้วยใยบาง
อกจึงคว้าง..กลางฝน..ที่หล่นริน
ด้วยสุดข่มคิดถึง..จึงร้อยพจน์
เพื่อจารจด..รสร้าว..คราวรักสิ้น
เป็นรอยจำเหลือไว้ให้ยลยิน
เรา..โบยบินจากกัน..นิรันดร...
1 ตุลาคม 2551 22:48 น.
bananaleaf
กลิ่นไอหนาวพราวเนื้อ..เถือถึงอก
หวั่นตระหนก..ท้อแท้..แม้ยามฝัน
ดวงฤทัยใครหนึ่งพึง..รำพัน
ถึงเพลาจากกัน..ฤาฉันใด
เป็นลิขิตแห่งฟ้านำมาพบ
แล้วจึ่งขีดเส้นจบ..หรือไฉน
พรากเราห่างสุดหล้าขอบฟ้าไกล
ฝากอาลัย..ไห้หวล..ครวญคะนึง
หยาดพิรุณสุดท้าย..มลายสิ้น
รอยถวิลส่งให้..ไกลกว่าถึง
สิ่งเคยหวัง..เลือนลา..เกินคว้าดึง
ยากจักพึ่งพำนัก..พักใจกาย
สายหมอกพลิ้วปลิวผ่านร้าวรานยิ่ง
จิตจมดิ่งใกล้ดับ..ลับสลาย
ในวังวนแห่งรักถักทอลาย
เป็นเส้นสาย..ตามกรรม..เคยทำมา
กลิ่นไอหนาวพราวเนื้อ..เถือถึงอก
นวลวิตก..ชะแง้..เหลียวแลหา
กระซิบถ้อยร้อยความ..ถามดารา
คำสัญญา..ลวงนาง..หรืออย่างไร..?
11 พฤษภาคม 2551 23:47 น.
bananaleaf
สดับเสียง..เพลงหวานกังวานแว่ว
พลิ้วผะแผ่วผ่านพ้อง..ทำนองรัก
พี่หวงเจ้า..จริงหนอขอตระหนัก
มอบจิตภักดิ์เพียงนาง..มิจางใจ
ดังกระต่ายหมายแขแม้..ต่ำต้อย
รักเจ้าน้อย..หรือน้องอย่าหมองไหม้
อุปสรรคมากล้น..จักด้นไป
ถึงแสนไกลจะคว้ามา..เคียงครอง
บุรุษหนึ่ง..พึงเปรยเผยหมดสิ้น
ชีพด่าวดิ้นหากชวดชม..สมสนอง
แม้มิได้อิงแอบแนบตระกอง
จักมิปองนางใดใน..โลกา
ซึ้งสำเนียงเพียงผ่านซ่านดวงจิต
รำพันคิดถึงตนสับสน..ล้า
คอยบางใคร..ไหนเล่า..เจ้าแก้วตา
จักสมดังใฝ่หาทุกคราคืน
ใครสักคนรับรู้อยู่เคียงข้าง
กลบอ้างว้าง..เกลื่อนเหงา..เศร้าสุดฝืน
ลบ..รอยเจ็บเหน็บหนาวร้าวกล้ำกลืน
เพียงแค่ยื่นรักแท้ให้แก่กัน
แต่คงยากเกินหวังดังนึกวาด
ถึงมุ่งมาดอย่างไร..อาจไกลฝัน
ด้วย..บางใคร..อ่อนล้ามิฝ่าฟัน
ฤา..ถูกกั้นด้วย..บางคน..จึงจนใจ..?
7 พฤษภาคม 2551 23:04 น.
bananaleaf
ลิขิตแห่งฟ้า..นำมาสู่
ครองคู่..อิงแอบแนบเขนย
อุปสรรคในหล้า..หาเกรงเลย
เพียงเผย..จิตมั่น..รักฉันจริง
หากแม้น..ใจเธอ..เผลอเพียงเสี้ยว
ลดเลี้ยว..เกี้ยวล้อ พะนอหญิง
ปันจิตคิดลวง..หมายช่วงชิง
พักพิงชั่วกาลแล้ว..ผ่านไกล
อกคงชอกช้ำระกำนัก
มอบหมายใจภักดิ์กลับผลักไส
ด้วยเธอเคียงอยู่คู่..บางใคร...
อาลัย..เจ็บร้าว..หนาวฤดี
เถอะ...พรหมขีดเส้นไว้เช่นนั้น
กางกั้นกีดขวาง..หว่างวิถี
น้ำผึ้ง..หยดหนึ่งซึ้งชีวี
บุพเพ..ดังมีนี้ของใคร..หาใช่เรา...???