16 ตุลาคม 2548 23:14 น.
BaByDoLL
คุณเคยมีความรู้สึกดีๆกับใครบางคนที่คุณไม่เคยเห็นหน้าบ้างรึเปล่า?
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบท่องโลกอินเตอร์เน็ต ชอบเข้าไปในเวบไซด์ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ผมจะเล่นเกมส์ซะมากกว่า จนกระทั่งวันหนึ่งผมเกิดรู้สึกเบื่อๆ เลยเข้าไปในโปรแกรม Chat ห้องสนทนาที่ผมเข้าไปเป็นห้องที่พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนักร้องญี่ปุ่น ด้วยความที่ผมชอบเรื่องแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยคุยกันถูกคอกับคนในห้องนี้เป็นพิเศษ ผมว่ามันดีนะ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกคนในห้องที่อยู่ทุกที่ในประเทศไทย นับตั้งแต่วันนั้น เวลาที่ผมเบื่อๆผมก็มักจะเข้ามาคุยในห้องนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งของ summer ผมซิบ (คือการคุยกันส่วนตัวน่ะครับ) เข้าไปที่ชื่อๆหนึ่ง ยาวๆแปลกๆดี (ผู้หญิงน่ะครับ^-^) ผมกับเธอคุยกันถูกคอดีอ่ะครับ (รู้สึกว่าเธอจะเพิ่งเล่นน่ะนะ) เธอมาปรึกษาผมเรื่องสมัคร E-mail ผมก็แนะนำเธอไป (เท่าที่ผมรู้อ่ะนะ) อันที่จริงผมก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนักหรอกครับ (แหะๆ^O^) แต่เธอก็ไม่ลืม mail มาขอบคุณผม หลังจากวันนั้นผมก็ได้คุยกับเธอแทบจะทุกวัน เธอเล่าให้ผมฟังว่าเธอมาเรียน summer เพื่อเตรียมสอบเข้าม.ปลาย (ร.ร.ใหม่อ่าครับ)เราคุยกันแทบทุกเรื่องเลยนะ เธอถามถึงแฟนผม ผมก็เลยเล่าเรื่องที่ผมเพิ่งอกหักให้เธอฟัง มันก็รู้สึกแย่นะ (ที่ต้องมาขุดคุ้ยเรื่องแบบนี้อีก ToT) แต่เธอก็ยังชอบที่จะถาม ไม่รู้ว่าทำไมเธอจะต้องสนใจเรื่องนี้มากมายนักก็ไม่รู้ (ไม่เข้าใจเลยจริงๆ) แต่เธอก็ไม่ลืมปลอบใจผมตามมารยาทล่ะครับ จนถึงช่วงที่เธอจะต้องกลับบ้าน เราเลยติดต่อกันทางจดหมาย โดยที่ผมเป็นฝ่ายเขียนไปก่อน (เราทั้งคู่ยังไม่มีโทรศัพท์มือถือครับผม)เราติดต่อกันทางจดหมายเป็นเวลาหลายเดือน เธอมักจะเล่าถึงโรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ เรื่องราวแต่ละวันที่เกิดขึ้นกับเธอให้ผมฟังเสมอ มาระยะหลังๆเธอเริ่มตอบจม.ช้ากว่าปรกติ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าเธอคงยุ่ง และตัวผมเองก็มีเรื่องที่ต้องทำมากมาย อีกทั้งตอนนี้ผมก็กำลังคบกับผู้หญิงคนนึงอยู่ (นิสัยดี น่ารักครับผม ^o^ ) ไม่นานเธอก็ตอบจดหมายกลับมา ผมเล่าเรื่องของผมให้เธอฟัง ผมบอกกับเธอว่า ความรักไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเราแบ่งเวลาให้มันถูกให้มันลงตัว เพราะดูท่าทางเธอจะไม่ค่อยเชื่อในเรื่องความรักซักเท่าไหร่ เท่าที่รู้จักกันมา ในความคิดผมนะ ผมว่าเธอคงกลัวเกินไป (กลัวที่จะผิดหวังอ่ะครับ) ผมส่งรูปที่ผมที่ถ่ายคู่กะแฟนไปให้ดูด้วย (ก็เธอขอรูปผมนี่ แล้วผมก็ไม่มีรูปอื่นซะด้วยสิ)
อ้อ! ผมบอกเบอร์มือถือไปด้วยนะ เผื่อเธอมีปัญหาอะไรจะได้โทรมาปรึกษาผมได้ (ผมเพิ่งซื้อมือถืออ่ะครับ ^-^) นานมากเหมือนกันที่เธอไม่ตอบจดหมายผมอีกแล้ว สงสัยเธอคงยุ่งตามเคย .ผมเริ่มมีปัญหากับแฟน ผมหงุดหงิดบ่อย ทุกอย่างดูแย่ไปหมด แต่แล้ววันหนึ่งผมก็เห็นเบอร์เธอโชว์มา (เราเคยแลกเบอร์กันตั้งนานแล้วอ่าครับ) ผมรีบโทรกลับทันที ผมเล่าให้เธอฟังเรื่องที่ผมอกหัก เธอปลอบใจผมอีกครั้ง ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากเลยนะ เธอตอบจดหมายพร้อมทั้งส่งข้อความต่างๆที่ล้วนให้กำลังใจมาให้ผม อย่างน้อยในตอนนี้ผมก็ยังมีเธอเป็นเพื่อนที่เข้าใจผมคนนึงล่ะ หลังจากนั้นผมก็มักจะโทรหาเธอแทบทุกวัน และทุกวันจริงๆ แต่เธอไม่ค่อยโทรมานักหรอก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..แต่ก็ช่างมันเถอะ เราเลิกติดต่อกันทางจดหมาย เพราะผมโทรหาเธอทุกวันอยู่แล้ว เกือบทุกเวลาเลยก็ว่าได้ (เวอร์ไปมั้ยครับเนี่ย ^_^ ) เธอเป็นคนคุยสนุกครับ เวลาที่เธอมีปัญหาผมก็จะช่วยรับฟังและให้คำปรึกษากับเธอทุกครั้ง ผมมีความรู้สึกว่าเรามีความคิดที่คล้ายๆกัน ความรู้สึกที่ดีๆมันเริ่มก่อตัวขึ้น..มากขึ้น.และเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งผ่านไปเกือบครึ่งปี ผมตัดสินใจ บอกความในใจ บอกว่าผมมีความรู้สึกดีๆให้กับเธอ (ความหมายคือ มากกว่าเพื่อนอ่ะครับ^o^) เธอ..เงียบ.ผมเดาความคิดของเธอไม่ออกเลยไม่รู้ว่าเธอจะตอบปฏิเสธหรือว่าคิดอย่างเดียวกันกับผมรึเปล่า แต่ในที่สุดแล้ว เธอก็บอกว่า เธอเองก็มีความรู้สึกดีๆให้กับผมเช่นกัน นั่นเป็นคำตอบที่ผมพอใจที่สุดแล้วล่ะครับ (ผมเข้าใจครับว่า เธอกำลังกลัว) และไม่กี่วันหลังจากนั้นผมก็ขอคบกับเธอ ใช่ครับเราคบกัน เป็นแฟนกันโดยที่ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยเห็นหน้ากัน (จริงๆ) ด้วยซ้ำ เธอถาม เธอย้ำ ว่าผมคิดดีแล้วเหรอที่ขอคบกับเธอ ในตอนนั้นผมมั่นใจที่สุดแล้วครับ และพอถึงวันเกิดเธอ ผมส่งตุ๊กตาหมีสีขาวไปให้ (ผมรู้ดีว่าเธอชอบตุ๊กตาหมีมากๆเลยล่ะครับ) เธอชอบมันมาก ผมก็พลอยดีใจไปด้วย ^o^ ไม่ทันไรผมก็เริ่มมีปัญหา ผมรู้สึกแย่มากๆมันไม่มีทางแก้ไขได้เลย ผมจมอยู่กับปัญหานานเกินไป นานซะจนผมลืมนึกถึงเธอ ใช่ครับผมไม่ได้ติดต่อกับเธอเลยเป็นอาทิตย์ และคืนนั้นเธอก็โทรมาหาผม ถามด้วยความเป็นห่วงว่าผมเป็นอะไรรึเปล่า ผมบอกว่า ผมไม่เป็นอะไร ผมยังเหมือนเดิม แต่ดูท่าทางเธอจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ผมพูดซักเท่าไหร่ เธอบอกให้ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง เธอรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังมีปัญหา ผมตัดสินใจเล่าให้เธอฟัง
ผม..ร้องไห้ เธอก็ร้องไห้
เรา 2 คนร้องไห้ไปด้วยกัน เธอบอกกับผมว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง เธอก็จะอยู่เคียงข้างผม เธอบอกให้ผมเข้มแข็ง แต่คุณรู้อะไรมั้ย? คำสุดท้ายที่ผมพูดกับเธอ คือคำว่า ลาก่อน ไม่รู้ว่าผมพูดออกไปได้ยังไง หลังจากวันนั้นเราก็เลิกติดต่อกัน ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง แต่ว่าตอนนี้ปัญหาที่มันรุมเร้าผม มันทำให้ผมแย่เอามากๆ เวลาผ่านไปหลายเดือน ปัญหาทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ผมใช้เบอร์พี่ชายโทรไปหาเธอ พอเธอรับสาย ผมไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับเธอ ผมฟังเสียงเธอไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำแล้วผมก็ต้องจำใจวางสาย (ไม่ได้หวังให้เธอโทรกลับมาหรอกครับ) ผ่านไปอีกเดือน พี่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอโชว์เบอร์มากวนผม ผมโทรกลับ ผมถามถึงเธอและพอจะรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง แล้ววันนึงผมก็ตัดสินใจโทรไปหาเธออีกครั้ง แต่มันก็ดึกมากพอที่จะทำให้เธอปิดมือถือแล้วล่ะครับ ผมเลยส่ง SMS ไปแทน ข้อความคล้ายๆว่า ให้โอกาสผมอีกครั้งได้มั้ย? ผมนอนไม่หลับเลยนะคืนนั้น ไม่รู้คำตอบของพรุ่งนี้จะเป็นยังไง เช้าวันนี้ผมตื่นแต่เช้า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ผมใจหายเธอคงไม่ให้โอกาสผมแล้ว แต่ผมก็ส่งไปอีกฉบับ (หวังว่าฉบับที่แล้วเธอคงไม่ได้รับน่ะครับ) ไม่นานนักหลังจากที่ผมส่ง SMS ไปเธอก็โทรกลับมาทันที ผมดีใจมากเลยนะ ผมเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผมให้เธอฟัง เธอไม่ได้ว่าอะไรผมเลย เธอยังให้อภัยและให้โอกาสผมด้วยซ้ำไป เธอร้องไห้ด้วยนะ (ให้ตายเหอะToT ผมทำให้เธอร้องไห้ซะแล้ว) คงเป็นเพราะเธอคงดีใจมั้งครับ (ซึ่งก็รู้สึกไม่ต่างไปจากผมนักหรอกครับ) ผมเริ่มโทรหาเธอบ่อยเหมือนเดิม ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับแต่ซักระยะนึงผ่านไป ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป ผมไม่ค่อยแน่ใจหรือเข้าใจในความรู้สึกของตัวเองซักเท่าไหร่ นับวันผมก็เริ่มห่างจากเธออีก มันคล้ายกับว่าผมเริ่มรู้สึกอิ่มตัวแล้วล่ะ ประกอบกับช่วงนั้นก็มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาในชีวิตผมมากซะเหลือเกิน วันนึงเธอก็เลยโทรมา ถามว่าผมเป็นอะไรรึเปล่า ผมไม่ได้เป็นอะไร ผมยังเหมือนเดิม แต่ดูท่าทางเธอจะไม่เชื่อผมอีกแล้วล่ะครับ แน่ล่ะ! ความรู้สึกของผู้หญิงมักจะถูกเสมอ และเธอก็เชื่อในความรู้สึกของตัวเองมากซะด้วย เฮ้อ.มาวันนึงผมโทรหาเธอ บอกเธอว่า ผมทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรง เพราะพ่อไปเจอจดหมายที่เธอส่งมาให้ผม แต่เธอดูเหมือนไม่ค่อยสนใจ เธอไม่ถามด้วยซ้ำว่าผมเป็นยังไง เธอ..ไม่พูดอะไรเลย บอกตามตรงว่าผมรู้สึกแย่มากเลยล่ะ และยังเสียความรู้สึกกับเธอมากๆเลยด้วย ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นเธอก็โทรกลับมา (มันสายไปแล้วล่ะ) ผมไม่รับสายเธอ
แต่เธอก็ยังโทรมาทุกวัน ทุกเวลา ไม่ว่ายังไงผมก็ยังไม่รับสายเธออยู่ดี ผมมารู้ทีหลังว่าเธอโทรไปถามพี่ชายผม ถามว่าผมเป็นยังไงบ้าง พี่ผมมันก็หวังดีมาก บอกกับเธอว่าผม เปลี่ยนไปแล้ว และพี่ผมก็บอกอีกว่าเธอร้องไห้ด้วย (เธอร้องไห้อีกแล้วล่ะครับ) เฮ้อผมทำอะไรลงไปอีกเนี่ย แต่เวลาก็ได้ดำเนินต่อไป ผมแทบจะลืมเธอไปแล้วด้วยซ้ำ (ผมอาจจะหมดความรู้สึกที่ดีๆที่มีต่อเธอไปแล้วก็ได้) จนกระทั่งวันหนึ่งของวันปิดภาคเรียน เธอโทรมาหาผม ดูท่าทางเธอคงดีขึ้น ผมถามไถ่ทุกข์สุขในฐานะที่เคยเป็นคนรู้จักกัน เธอขอโทษผมเรื่องวันนั้น วันที่เธอไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ทั้งๆที่ควรพูดปลอบใจหรือให้กำลังใจผม เธอให้เหตุผลว่าตอนนั้นเธออยู่ในรถกับแม่ ผมไม่ได้ว่าอะไร เพราะเรื่องมันก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว เธอมีปัญหากับแม่เธอ เพราะแม่เธอรู้เรื่องที่เรายังติดต่อกันอยู่ เธอมาระบายให้ผมฟัง บอกตามตรงว่าบางครั้งผมก็ขี้เกียจพูดกับเธอ และหลายครั้งที่ผมเลี่ยงที่จะคุยกับเธอ ผมเริ่มเบื่อจนกระทั่งรำคาญ ผมรู้ตัวเองดีว่า ผมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่มันติดตรงที่ว่า ผมจะบอกเธอยังไงดี เธอหายไปอีกเป็นอาทิตย์ หายไปเป็นเดือน ผมก็ไม่ได้สนใจว่าเธอจะเป็นยังไง แล้ววันนึงเธอก็โทรมาบอกว่า โทรศัพท์เธอหาย เธอบอกให้ผมเขียนจดหมาย เฮ้อ! ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยก็ไม่รู้ แต่ผมก็รับปากเธอไปแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมไม่พูดกับเธอตรงๆ ทำไมผมไม่บอกความจริงทุกอย่างกับเธอ บอกว่าตอนนี้ผมรู้สึกกับเธอยังไง เธอจะได้ไม่ต้องโทรมาหาผม เธอจะได้ไม่ต้องรบกวนผมอีก แต่ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร โดยเฉพาะคนที่อ่อนแอแบบเธอ ผมคิดว่าซักวันหนึ่งเธอคงจากผมไปเอง และแล้ววันเดียวกันนั้นเธอโทรมาหาผมอีก โชคไม่ดีที่โทรมาช่วงที่ผมอยู่กับแฟน (แจ็คพอตแตก) แฟนผมโกรธซะยกใหญ่ ผมต้องง้อแทบตาย ส่วนเธอ ผมไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นยังไง ช่างเถอะ คงถึงเวลาแล้วที่เธอจะไปจากผมจริงๆ หลังจากนั้นผมก็ดำเนินชีวิตตามปรกติ..เหมือนเดิม เหมือนตอนที่ไม่มีเธอ ผมไม่รู้สึกเดือดร้อนที่ผมไม่มีเธอ เพราะชีวิตผมมีอะไรที่น่าสนใจผ่านเข้ามามากมาย จนอาจลืมไปว่าผมเคยรู้จักเธอ เธอ หายไปจากความทรงจำ ชีวิตผมมีความสุขดีครับ ทั้งเพื่อน ทั้งแฟน และครอบครัว ทุกอย่างลงตัว มีความสุขมีความทุกข์บ้าง แต่ผมก็มีคนที่อยู่เคียงข้างผมจริงๆ เวลาผ่านไปเกือบปี จู่ๆผมก็ได้รับโทรศัพท์จากเธอ ผมตกใจมากเลยนะ ไม่นึกว่าจะเป็นเธอ เธอดูร่าเริงสดใส เหมือนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอให้เบอร์บ้านของเธอเอาไว้ แต่ผมก็ไม่ได้โทรไปทันทีนักหรอก เพราะช่วงนี้ผมยุ่งจริงๆ (ไม่ใช่แค่ใช้หวีแล้วมันจะหายยุ่งนะครับ^-^ ) แล้ววันนึง วันที่ว่างๆ ผมก็เลยโทรไปหาเธอ เราคุยกันสนุกดีครับ มันเหมือนครั้งแรกที่เรารู้จักกัน เธอก็ยังทำให้ผมรู้สึกว่า เธอยังเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับผมเสมอ เธอบอกว่าเธอ รู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับผม (เธอรู้ได้ไง?) เธอบอกว่ามีคนเล่าให้เธอฟัง (เป็น1 ในคนที่ผมเคยคบอ่ะครับ) ไม่รู้ว่าเธอรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผมบ้าง แต่เธอยืนยันว่า ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง ผมก็ยังเป็นเพื่อนเธออยู่ดี ถ้าหากมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจเธอยินดีที่จะรับฟัง เธอบอกให้ผมเขียนจดหมาย (นับตั้งแต่วันที่ทำมือถือหาย เธอก็ยังไม่ซื้อมือถือใหม่ครับ) ผมก็รับปากเธอ แต่ผมก็มักจะลืมเพราะผมงานยุ่งจริงๆ วันนึงผมโทรหาเธอ เธอถามเรื่องจดหมาย ผมให้เหตุผลกับเธอว่าผมไม่ว่าง เธอบอกว่าเธอได้สรุปวิชาต่างๆที่ใช้ในการสอบ Ent ให้ผม เธออยากให้ผมตอบมาเร็วๆ เพราะจะได้มีเวลาในการทบทวนและทำแบบฝึกหัดก่อนสอบ เธอดีกับผมมากนะ ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมาผมทำผิดต่อเธอ ผมรู้สึกตื้นตันในสิ่งที่เธอทำให้กับผม ใช่ครับ..ผมร้องไห้ เป็นครั้งที่2 แล้วที่ผมแสดงความอ่อนแอให้เธอได้เห็น (ได้ยิน) ผมบอกกับเธอว่า ผมเสียใจที่ผมทำกับเธอไว้มากมาย แต่เธอก็ยังดีกับผม ไม่มีใครทำเพื่อผมได้เท่าเธอ เธอบอกว่าเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้คิดอะไรแล้ว ขอแค่เห็นผมมีความสุข เธอก็มีความสุขไปด้วย เธอส่งอะไรต่อมิอะไรมาให้ผมในวันเกิด พร้อมแนบการ์ดที่เธอตั้งใจทำมาให้ด้วย ตอนนี้เราก็ยังติดต่อกันทางจดหมาย นานๆครั้งผมจะโทรไปหาเธอ ผมไม่ค่อยมีเวลาตอบจดหมายเธอนัก เพราะผมต้องฝึกงาน แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผม เธอทำเพื่อผมได้มากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่เธอเองก็ไม่ได้อยู่ใกล้ผมเลยด้วยซ้ำ ผมทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา ตลอดช่วงเวลาที่เธอหายไป และช่วงเวลาที่เธอกลับมาหาผม มันทำให้ผมได้คิดว่าผมเองได้ทำร้ายจิตใจเธอไว้มากจริงๆ มากซะจนไม่น่าให้อภัยด้วยซ้ำ และในตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจตัวเองว่า ความรู้สึกที่ดีๆ ที่มีต่อเธอ มันยังคงหลงเหลืออยู่รึเปล่า ผมไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับเรื่องราวที่มันผ่านมา (ผมไม่กล้าถามเธอหรอกนะ แต่ก็พอจะรู้ว่าเธอคงไม่อยากพูดถึงมัน) ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เธอจากผมไปอีก แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอจะกลับมาหาผมอีกครั้งอย่างแน่นอน ^-^
คุณเคยเหนื่อยกับการที่ต้องเอาหัวใจวิ่งตามใครบ้างรึเปล่า ?
ฉันเป็นคนที่ไม่รู้จักความรัก ฉันไม่เคยมีความรู้สึกรักใคร (แบบหนุ่มสาวน่ะค่ะ (^-^) ) อย่างมากก็แค่ปลื้ม ฉันไม่เคยมีแฟน แม้แต่เพื่อนผู้ชายที่สนิทฉันก็ไม่เคยมี เพราะฉันคิดว่าในตอนนี้การมีแฟน มันเป็นเรื่องที่ไกลจากตัวฉันมาก (เกินไป) อาจจะเป็นเพราะว่าฉันกลัวที่จะอกหัก กลัวที่จะผิดหวังด้วยล่ะมั้ง (ถึงแม้จะมีคนเคยบอกว่า อกหักดีกว่ารักไม่เป็น..ก็เหอะ) ฉันใช้ชีวิตส่วนใหญ่สนุกกับเพื่อนๆ ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี เพื่อนฉันทุกคนก็ไม่มีแฟน ทำไมฉันต้องมีแฟนด้วยล่ะ จริงมั้ย?
จนกระทั่งวันนึงของ summer ฉันต้องไปเรียนพิเศษที่ต่างจังหวัด (ก็เรียนทุกช่วงปิดเทอมนั่นแหละ) เรียนเรียนแล้วก็เรียน เรียนได้ทุกวี่ทุกวัน (ปิดเทอมทั้งที แทนที่จะได้พักสมอง กลับต้องมาใช้มัน(หนัก)อีก) จนฉันรู้สึกว่าสมองฉันคงรับไม่ไหวแน่ๆTOT ฉันเลยเข้าไปร้านเน็ตใกล้ๆหอพัก ความตั้งใจตอนแรกกะจะไปสมัคร E-mail แต่..ฉันไม่รู้ว่าฉันควรทำยังไงดี (เก่งแต่เรื่องเรียน เรื่องอื่นไม่เอาไหนเลยว่างั้นเถอะ) ฉันก็เลยเข้าไปในโปรแกรม Chat เข้าไปพูดคุยกับเพื่อนๆ ในห้องๆนึง (หวังว่าเผื่อจะมีใครช่วยฉันได้บ้าง)
และแล้ว ฉันก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง (^o^) เค้าช่วยแนะนำในการสมัคร E-mail ให้กับฉัน มันรู้สึกดีนะ ที่เค้าสนใจในขณะที่ฉันต้องการความช่วยเหลือ (ประทับใจมากเลยค่ะ ^ ^) อ้อ! ฉัน mail ไปขอบคุณเรื่องที่เค้าช่วยฉันสมัคร mail ด้วยนะ ^. .^ .จากนั้นหลังเลิกเรียนฉันต้องมาหมกตัวอยู่ที่ร้านเน็ตทุกวัน แน่นอนฉันมารอเค้าค่ะ ^O^ (ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องหวังว่าจะมีโอกาสได้เจอเค้าอีกน๊า) เค้า..เข้ามาคุยกับฉันบ้าง เป็นบางวัน มันรู้สึกดีมาก ถึงแม้ฉันจะไม่ได้คุยกับเค้าทุกวันก็เถอะ (แค่นี้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ ^-^) อย่างน้อย ฉันก็ไม่ต้องเหงาเหมือนในทุกช่วง summer ที่ผ่านมา
เราคุยกันแทบทุกเรื่องเลยนะ เป็นครั้งแรกที่ฉันคุยกับผู้ชายได้ทุกเรื่องขนาดนี้ (คงเป็นเพราะว่า ไม่ได้คุยกันแบบเห็นหน้าละมั้ง) ฉันพลั้งปากถามถึงแฟนเค้าด้วย (ถามทำไมนะเรา) เค้าก็เล่าให้ฟังว่าเค้าเพิ่งอกหัก ฉันก็ซักไซ้ ถามต่อ เหอะๆ แหม! ก็แค่อยากรู้ว่ามันเป็นยังไงก็เท่านั้นแหละ (คนมันไม่เคยเป็นนี่นา^O^) แต่เค้าก็ยังยินดีเล่าให้ฉันฟังอ่านะ (ใจดีจัง ^ ^ ) และในฐานะเพื่อนฉันก็ไม่ลืมพูดปลอบใจเค้า
จนกระทั่งถึงวันที่ฉันต้องกลับบ้าน เราเลยติดต่อกันทางจดหมายแทนการ Chat กันทาง internet ฉันสอบเข้าโรงเรียนใหม่ได้ (ร.ร. ประจำอ่าค่ะ) แน่นอนเลยว่า มันต้องมีการปรับตัวมากพอสมควร ทุกอย่างล้วนแปลกใหม่สำหรับฉัน ทั้งโรงเรียน ทั้งครู และนักเรียน มันรู้สึกแย่ เหงา และคิดถึงบ้าน คิดถึงแม่ คิดถึงเพื่อนๆที่โรงเรียนเก่า ฉันไม่รู้จักใครที่นี่เลย มันเหมือนกับว่าฉันอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ฉันเล่าเรื่องโรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ ให้เค้าฟัง เค้าก็ให้กำลังใจฉัน มันรู้สึกดีนะ อย่างน้อยฉันก็ยังมีเค้า (เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอค่ะ)
มาระยะหลังๆ เพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ ฉันก็เริ่มปรับตัวได้ ฉันเริ่มรู้สึกดีขึ้น มีความสุขกับโรงเรียนใหม่มากขึ้น การบ้าน+โครงงาน+รายงาน ต่างๆก็มีมากขึ้นด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ฉันไม่มีเวลาตอบจดหมาย กว่าจะได้ตอบจดหมายก็นานเป็นเดือน จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันได้รับจดหมายจากเค้า เค้าส่งรูปที่ถ่ายคู่กะแฟนมาให้ดูด้วย TOT (เคยขอรูปเค้าน่ะค่ะ) และบอกว่า กำลังคบกับผู้หญิงคนนี้อยู่ แถมยังบอกด้วยว่า ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม งั้นเหรอ? ถึงยังไงฉันก็ยังไม่เชื่อหรอกว่า มันจะเป็นอย่างที่เค้าพุดจริงๆ แต่ว่ามันรู้สึกไม่ค่อยดียังไงไม่รู้แฮะ อาจจะเป็นเพราะรูปบ้าๆนั่นก็ได้มั้ง (ทำไมต้องรู้สึกแบบนั้นด้วยนะเรา) แต่สุดท้ายแล้วฉันก็ทำรูปหายไม่ได้ตั้งใจทำให้มันหายนะ มันหายเองอ่ะ ^o^
ผ่านไปไม่นานฉันต้องเข้าค่าย โค-ตะ-ระ น่าเบื่อ ให้ตายเหอะ 5 วันที่แสนจะทรมาน แต่ก็ยังดีอ่านะที่ได้หยุดเรียนอีก 5 วัน (แบบว่าเปลี่ยนให้เด็ก ม. ต้นได้เข้าค่ายบ้าง..สลับกันอ่านะ) วันนั้นฉันได้กลับบ้าน เบื่อๆเซ็งๆ ไม่มีอาไรทำ โทรหาใครก็ไม่มีคนรับ ให้ตายไปไหนกันหมดฟะ (มีเรื่องอยากโม้กะจะหาคนฟังซะกาหน่อย ^ ^ ) จู่ๆเกิดบ้าอะไรก็ไม่รุก็เลยคิดที่จะโทรไปกวนเค้า ^o^ (อิ อิ) อ๊ะ! แต่ถ้าเค้าอยู่กับแฟนล่ะ? ถ้าแฟนเค้าเข้าใจผิดล่ะ? ทำไงดี? แต่ว่านะ มาคิดดูดีๆ คงไม่เป็นไรหรอกน่า ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา ก็เลยตัดสินใจโทรไปกวนเค้า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเค้าโทรกลับ ตกใจน่ะสิเรา ในใจยังหวั่นๆเลยว่า คงโทรมาด่าแหง๋ๆ(ทำไงดีล่ะเรา T^T) แต่ว่าๆ เราก็คุยกันสนุกดีค่ะ ^ ^ (เฮ้อโล่งอก นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว) ฉันอ่ะ รู้สึกเขิลยังไงก็ไม่รู้
เค้าบอกกับฉันว่า เค้าเพิ่งอกหัก (โอ้!เย้!..เฮ้ย) ฉันก็ทำได้แค่ รับฟังและพูดปลอบใจเค้าไป (ในใจรู้สึกดียังไงก็ไม่รู้เฮ้ย เราเป็นคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย) ฉันก็เลยส่งข้อความต่างๆที่อ่านแล้วประทับใจไปให้เค้า (เผื่อว่าเค้าอ่านแล้วจะรู้สึกดีขึ้นไง) เราเลิกติดต่อกันทางจดหมาย เพราะเค้าโทรหาฉันทุกวันอยู่แล้ว(ขอย้ำ! ทุกวันจริงๆค่ะ) แต่ฉันไม่ค่อยโทรหาเค้านักหรอก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม (งกเหรอ?.ไม่ใช่น๊า)
.ความรู้สึกที่ดีที่มันมีอยู่แล้ว เริ่มมีมากขึ้น เวลาที่ฉันมีปัญหาเพียงแค่โชว์เบอร์ไป ถ้าเค้าสะดวก เค้าจะรีบโทรกลับทันที และไม่ลืมที่จะถามว่า เป็นอะไรรึเปล่า มันรู้สึกอบอุ่นยังไงก็ไม่รู้ ทุกครั้งที่ฉันเจอเรื่องแย่ๆ ฉันจะรู้สึกว่ามีเค้าอยู่ข้างๆฉันเสมอ (รู้สึกแบบนี้จริงๆนะ) ฉันจะกังวลใจ+ว้าวุ่นใจ+หงุดหงิดทุกครั้งถ้าวันไหนเค้าบอกว่าอาจจะไม่ได้โทรมา ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าตอนนี้ฉันเป็นอะไรไป ฉันเลยมาคิดว่าถ้าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ มัวแต่กำจัดความรู้สึกแย่ๆยังงี้ทุกวัน ฉันคงไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรแน่ๆ การเรียนฉันล่ะ เกรดฉันจะตกรึเปล่า
ฉันกังวลซะมากมาย ฉันควรยุติความฟุ้งซ่านโดยการเลิกติดต่อกับเค้าทางโทรศัพท์ซะทีดีมั้ย แต่พอเอาเข้าจริงฉันก็ทำไม่ได้ ให้ตายเหอะ รึอาจจะเป็นเพราะว่าฉันรักเค้าเข้าแล้วล่ะมั้ง รักคนที่ไม่เคยเห็นหน้าจริงๆเนี่ยนะ (เฮ้อออออ) แต่สิ่งที่ฉันแสดงออกกลับเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกของฉันจริงๆ ถ้าฉันบอกเค้าไป ฉันอาจเสียความเป็นเพื่อนระหว่างเราไปแน่ๆ.แต่แล้ววันหนึ่งเค้าก็บอกกับฉันว่า เค้ามีความรู้สึกดีๆให้กับฉัน เอิ้กๆ ดีใจจนบอกไม่ถูกเลยล่ะ แต่ฉันทำได้แค่บอกว่าฉันก็มีความรู้สึกดีๆให้กับเค้าเช่นกัน ช่วงนั้นฉันเขียนไดอารี่ได้มากเลยล่ะ (ก็มันมีเรื่องประทับใจให้เขียนเยอะนี่นา) แต่ว่า..ความรู้สึกที่ดีแบบนี้มันจะอยู่กับเราได้นานแค่ไหนกันนะ (ฉันเริ่มวิตกกังวลอีกแล้วค่ะ T^T )
ไม่นานเราก็ได้คบกัน คุณคงคิดว่ามันตลกสินะ (ตลกมากก็ขำซะสิ) คนที่ไม่เคยเจอหน้ากันจริงๆ รู้จักกันแบบนี้ รู้จักกันเพียงแค่นี้ จะคบกันเป็นแฟนได้ยังไง ใช่! ฉันก็คิดแบบคุณนั่นแหละ ฉันถาม ฉันย้ำ..ว่าเค้าแน่ใจแล้วเหรอที่จะคบกับ(คนอย่าง)ฉัน เค้าก็ยังยืนยันว่า เค้ามั่นใจที่สุดแล้ว.จากเพื่อนกลายเป็นแฟน...ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ฉันสามารถแสดงความห่วงใย แสดงความคิดถึงได้มากขึ้นก็เท่านั้น (ก็แฟนกันนี่นา) ไม่นานก็ถึงวันเกิดฉัน (เป็นวันเกิดที่ประทับใจที่สุดเลยนะ) เค้าส่งตุ๊กตาหมีสีขาวมาให้ฉัน ฉันดีใจมากๆเลยล่ะ ดีใจมากซะจนไม่รู้ว่าจะขอบคุณเขายังไงดี
ผ่านไปไม่กี่วัน ฉันเริ่มฟุ้งซ่านอีกแล้ว T^T ใช่แล้วค่ะ เค้าหายไปอีกแล้ว หายไปนานเป็นอาทิตย์ หายไปนานมากจนผิดปรกติ เกิดอะไรขึ้นกับเค้า? อุบัติเหตุ? เค้าจะมีเรื่องอะไรรึเปล่านะ? มีคำถามมากมายที่วนเวียนอยู่ในความคิดของฉัน เลยตัดสินใจโทรหาเค้า ถามว่าเค้าเป็นอะไรรึเปล่า เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้เป็นอะไร เค้ายังเหมือนเดิม ฉันรู้ดีว่าที่พูดแบบนี้ก็เพื่อทำให้ฉันสบายใจก็เท่านั้น ยิ่งเค้าไม่บอกความจริง ฉันกลับยิ่งรู้สึกแย่ ฉันรู้ว่าตอนนี้เค้ากำลังมีปัญหา และแล้วเค้าก็ตัดสินใจเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้ฉันฟัง สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้คือ รับฟังอย่างเข้าใจและให้กำลังใจเค้า
ไม่รู้ว่าคืนนั้นฉันเสียน้ำตาไปมากแค่ไหน แต่รู้ว่าพอตื่นขึ้นมามันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นบ้างเลย ฉันยังรับไม่ได้กับเรื่องที่มันเพิ่งเกิดขึ้น ฉันยังทำใจไม่ได้ว่า เค้าจากฉันไปแล้ว ลาก่อน ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ผ่านไปเป็นเดือน ฉันยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลย จนกระทั่งวันหนึ่งฉันได้รับ SMS จากเค้า ฉันดีใจมากจนไม่รอช้าที่จะโทรไปหาเค้า เค้าขอโอกาศจากฉัน เค้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเค้าให้ฉันฟัง ฉันไม่ได้โกรธเค้า ฉันยินดีให้อภัยทุกอย่าง ขอแค่กลับมาก็เพียงพอแล้ว ฉันคิดว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
แต่ฉันคิดไปเองคนเดียว เค้าไม่ใช่คนเดิมที่ฉันรู้จัก มันคล้ายกับว่าที่กลับมาคราวนี้ ลืมเอาหัวใจดวงเดิมกลับมาด้วย เค้าหายไปอีก มันยิ่งทำให้ฉันยิ่งฟุ้งซ่านเข้าไปใหญ่ ฉันรับรู้ถึงสัญญาณอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ฉันรู้สึกแย่อีกแล้วฉันถามเค้าว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้ารึเปล่า เค้าก็ยังยืนยันว่า เค้ายังเหมือนเดิม ..เราไม่ค่อยได้ติดต่อกันเพราะเค้าบอกว่าช่วงนี้ยุ่งๆ
จนกระทั่งวันหนึ่ง เค้าโทรมาในขณะที่ฉันนั่งในรถกับแม่ ฉันจะรับสายเค้าดีมั้ย แต่ถ้ารับแม่ต้องรู้แน่ๆว่าเค้าโทรมา (แม่ไม่ชอบที่เราคบกัน) แต่ฉันคิดถึงเค้ามาก อยากจะคุยกับเค้า ฉันจึงตัดสินใจรับสาย เค้าบอกว่าเค้าทะเลาะกับพ่ออย่างรุนแรงเพราะจดหมายฉันเป็นต้นเหตุ แต่ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลย แม่ถามว่าใครโทรมา ฉันจำเป็นต้องโกหกแม่ไป แต่แม่รู้ว่าฉันโกหก แม่รู้ทุกอย่างที่ฉันทำ ฉันรู้สึกผิดต่อแม่มาก
พอกลับถึงบ้านฉันรีบโทรกลับทันที ไม่มีคนรับสาย แต่ฉันก็ยังพยายามที่จะโทรต่อไป แต่แล้ว เค้าก็ไม่ยอมรับสายฉันเลย เค้าคงโกรธฉันมาก โกรธที่ฉันไม่สนใจ ไม่แสดงความเดือดร้อนในขณะที่เค้ากำลังทุกข์ใจ ฉันอยากจะขอโทษเค้า อยากจะอธิบายให้เค้าเข้าใจ แต่ถึงยังไงเค้าก็ยังไม่รับสายฉันอยู่ดี ฉันตัดสินใจโทรถามพี่ชายเค้า อยากรู้ว่าตอนนี้เค้าเป็นยังไงบ้าง
พี่บอกว่าเค้าไม่ได้เป็นอะไรมากนักหรอก และยังบอกอีกว่า ผู้ชายร้อยทั้งร้อย ยังไงมันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา นี่ถ้าฉันไม่โทรมาฉันคงไม่รู้ความจริงสินะ ทำไมเค้าไม่บอกอะไรกับฉันบ้างเลย ทำไมต้องปล่อยให้ฉันฟุ้งซ่าน คิดมากไปคนเดียวด้วยนะบางครั้งผู้ชายก็ไม่กล้าบอกความจริงกับคนที่เคยบอกรัก มันทำร้ายจิตใจกันเกินไป แล้วไม่คิดบ้างรึไงว่า ยิ่งไม่บอกมันกลับยิ่งทำร้ายกันมากกว่า ถ้ารู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ ถ้ายังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง จะกลับมาทำไมอีก จะกลับมาตอกย้ำให้ฉันรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมรึไงกัน
และในตอนนี้ฉันควรจะคิดว่าวันข้างหน้ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันต้องทำ มีคนอีกหลายคนที่จะเดินเข้ามาในชีวิตฉัน ทำไมฉันจะต้องสนใจ ทำไมฉันจะต้องเอาความรู้สึกแย่ๆที่เกิดจากใครก็ไม่รู้มามีอิทธิพลกับฉันมากขนาดนี้ด้วย ตั้งแต่นี้ต่อไปฉันจะต้องเข้มแข็ง จะจะไม่สนใจใคร ฉันจะไม่เชื่อใจใคร ฉันพยายามบอกกับตัวเองว่า ฉันต้องลืมเค้าให้ได้ แต่คุณรู้อะไรมั้ย การที่จะลืมใครซักคนเนี่ย มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะ
ฉันอยากรู้จังว่า เค้าจะรู้สึกอะไรบ้างมั้ย กับสิ่งที่เค้าได้ทำกับฉันแบบนี้
เวลาก็ได้ผ่านไป นานมากซะจนความรู้สึกแย่ๆที่มีในตอนแรก มันเริ่มหายไป จนวันนึงของวันปิดภาคเรียน ฉันตัดสินใจโทรไปหาเค้า ฉันรู้สึกดีมาก จนบางครั้งก็เข้าใจไปเองว่าเค้าคงจะเหมือนเดิม แต่ฉันก็คิดผิด เพราะฉันรู้สึกได้ว่าเค้าไม่ค่อยสนใจฉัน เหมือนไม่อยากคุยกับฉัน ฉันรู้ตัวเองดีว่า ฉันคงทำให้เค้ารำคาญ ลำบากใจที่ต้องทนคุยกับฉัน ก็เลยห่างออกมาซักพัก (เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น)
จนวันหนึ่งโชคร้ายอะไรก็ไม่รู้ทำให้ฉันดันทำโทรศัพท์หาย ฉันรู้สึกแย่มากๆ อยากจะเล่าให้เค้าฟัง แต่ในที่สุดแล้วฉันก็ไม่ได้บอกเค้าเลย เพราะถึงบอกไปเค้าคงไม่สนใจฉันอยู่ดี (ซึ่งมันอาจทำให้ฉันแย่ไปกว่าเดิมก็ได้) ฉันเริ่มคิดถึงตัวเอง ถ้าฉันมัวแต่วิ่งตามเค้าอยู่แบบนี้ ฉันคงแย่แย่ๆ น่าจะเลิกติดต่อกับเค้าไปเลยจะดีกว่า ทั้งๆที่ในใจฉันมีคำถามมากมายที่อยากถาม แต่ก็ช่างมันเหอะ เค้าคงมีเหตุผลมากพอที่จะทำให้เค้าต้องทำแบบนี้
แต่แล้วผ่านไปไม่นาน ความอ่อนแอของฉันมันเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ฉันโทรหาเค้าอีก เค้าก็ยังคุยกับฉันดีเหมือนเดิม ฉันรู้สึกดีขึ้นมาก อย่างน้อยความคิดฉันตอนนี้ แค่ได้คุยกับเค้าฉันก็ดีใจมากพอแล้ว ในวันเดียวกันนั้นฉันใช้เบอร์เพื่อนโทรไปหาเค้าอีก โชคไม่ดีเลยที่โทรไปผิดจังหวะ เค้าอยู่กับแฟนเค้าค่ะ ฉันรู้สึกชาไปทั้งตัว นี่ฉันมาทำเรื่องบ้าอะไรอยู่แบบนี้เนี่ย ฉันควรที่จะตัดใจจากเค้าได้แล้ว
ผ่านไปเกือบปี คุณคิดว่าฉันลืมเค้าได้แล้วงั้นเหรอ? เปล่าเลย ฉันไม่เคยลืมเค้าด้วยซ้ำ แต่เวลาก็ทำให้ฉันดีขึ้นมาก ฉันโทรหาเค้าอีกครั้ง ฉันดีใจมาก ดีใจที่เค้ายังจำฉันได้ ฉันขอร้องให้เค้าติดต่อฉันทางจดหมาย เค้าก็รับปากฉัน ฉันรู้ตัวดีว่าฉันกลับมาคราวนี้ ฉันทำให้เค้าลำบากใจ แต่เหตุผลที่ฉันติดต่อกับเค้าทางจดหมาย ก็เพื่อที่ฉันจะได้ส่งสรุปวิชาต่างๆที่ใช้สำหรับการ Ent ไปให้เค้า (ไม่รู้ว่าฉันเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเค้าทำไม) พอเค้าโทรมาฉันก็ถามเรื่องจดหมาย เค้าบอกว่าไม่มีเวลาตอบ ไม่เป็นไรนะ ฉันเข้าใจ ฉันก็แค่อยากให้เค้าตอบมาเร็วๆจะได้รีบส่งสรุปที่เหลือไปให้ เพราะเวลาของการEnt ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว จู่ๆเค้าก็เงียบไป ฉันตกใจมาก นึกว่าตัวเองพุดอะไรผิด เปล่าค่ะ เค้าร้องไห้ (ไม่อยากเชื่อเลยว่าเค้าจะร้องไห้) เค้าบอกว่าเค้าเสียใจ และถามว่าทำไมต้องทำดีกับเค้า ทั้งๆที่เค้าก็ทำไม่ดีกับฉันไว้ตั้งมากมาย
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันทำแบบนี้ทำไม ก็แค่อยากมีส่วนช่วยเหลือในการ Ent ของเค้าก็เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าตัวฉันเองจะไม่ได้อยู่ใกล้ๆเค้า แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ทำบางอย่างเพื่อเค้า เพียงแค่นั้นฉันก็พอใจมากแล้วล่ะ พอใกล้วันเกิดของเค้า ฉันส่งหนังสือ และสรุปวิชาต่างๆไปให้ (สรุปวิชาต่างๆจะทยอยส่งอ่าค่ะ) พร้อมกับการ์ดวันเกิดที่ฉันตั้งใจทำกับมือ ฉันไม่ได้หวังจะให้เค้าชอบในสิ่งที่ฉันทำหรอกนะแค่เค้ายังเก็บเอาไว้มันก็วิเศษที่สุดแล้ว ฉันคิดว่า ฉันมีความสุขทุกครั้งที่ฉันได้ทำอะไรเพื่อเค้า
แต่คุณรู้อะไรมั้ย? ยิ่งฉันฝืนความรู้สึกของตัวเอง ฉันยิ่งเหนื่อย เหนื่อยที่ต้องเอาหัวใจวิ่งตามใครซักคน เหนื่อยที่ต้องทำอะไรเพื่อใครแบบนี้ และฉันจะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้น เมื่อเค้าไม่ตอบจดหมายมาซะที แต่ก็ช่างมันเหอะ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจเค้าทุกอย่าง เข้าใจจริงๆ (T-T) ฉันจะเป็นคนติดต่อเค้าฝ่ายเดียวเอง ไม่รู้ทำไมฉันต้องหาเรื่องทำร้ายจิตใจตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยก็ไม่รู้เนอะ ถ้าฉันมีความเข้มแข็งมากพอที่จะไม่กลับมาหาเค้าอีก ฉันก็คงไม่รู้สึกแย่เหมือนตอนนี้หรอก
ไม่มีใครซักคนที่เข้าใจฉัน ไม่เข้าใจอย่างที่ฉันกำลังเป็นอยู่ ไม่เข้าใจความรู้สึกของฉัน ทำไมต้องทำเหมือนฉันไม่มีหัวใจด้วยนะ ทำเหมือนฉันไม่มีความรู้สึก มันแย่มากเลยนะ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเข้าใจหรอกว่าฉันฟุ้งซ่านแค่ไหน เฮ้อออออ.บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ฉันต้องการอะไรกันแน่
ฉันต้องการใครซักคนที่เข้าใจฉัน
ฉันต้องการใครซักคนที่ทำให้ฉันมีความเชื่อมัน
ฉันต้องการใครซักคนที่ทำให้ฉันรู้สึกไว้ใจ
ฉันต้องการใครซักคนที่คอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอ
ฉันต้องการใครซักคนที่ทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าสำคัญสำหรับเค้า
ฉันต้องการใครซักคนที่เกิดมาเพื่อรักฉัน
แต่ถ้าไม่มี(แม้)ใครซักคนนั้น
ฉันอยากให้ตัวเองเข้มแข็ง
ฉันอยากให้ตัวเองไม่มีหัวใจ
ฉันอยากให้ตัวเองไม่แคร์ไม่สนใจความรู้สึกของใคร
ฉันอยากมีความสุขบนโลกใบนี้ด้วยตัวของฉันเอง
ฉันสามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องมีคนที่อยู่เคียงข้างฉัน
ทุกอย่างที่ฉันต้องการ มันยากที่จะทำได้จริงๆ (เฮ้อ.)
จดหมายทุกฉบับที่เขียนถึงเค้า ก็มักจะเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ฉันพบเจอให้เค้าฟัง (ให้เค้ารับรู้) ทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา คนแรกที่ฉันนึกถึงคือเค้า ฉันอยากเล่า อยากระบายปัญหาให้เค้าได้ฟัง แต่ฉันกลัวว่าถ้าโทรหาเค้าจะเป็นการรบกวนเค้ามากเกินไป มันเหนื่อยนะที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเค้าไม่ได้ต้องการให้ฉันทำ แต่ฉันก็ยังดิ้นรน+หาเรื่อง+เสนอหน้า+ อยากทำให้เค้าเอง
หลายครั้งที่ฉันคิดจะเลิกสรุปวิชาต่างๆ เลิกติดต่อกับเค้า เลิกทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันต้องรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับเค้า และจนถึงฉบับสุดท้าย หน้าที่ของฉันสิ้นสุดลงแล้ว ฉันอ่อนแอ ฉันเหนื่อย เกินกว่าที่จะฝืนทนอยู่อีกต่อไป ฉันไม่รู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าฉันจะมีเรี่ยวแรงพอที่จะกลับมาหาเค้าได้อีกครั้งรึเปล่า แต่ถ้าหากเค้าต้องการให้ฉันอยู่เคียงข้างเค้าบ้าง ฉันคงไม่รู้สึก เหนื่อย ---อ่อนแอ---- ท้อแท้ ----และแย่ .เหมือนที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้หรอก
ในค่ำคืนดวงจันทร์ถักทอ
ฉายแสงด้านหนึ่งจากฟ้า
แสงจันทร์ด้านนั้นที่เธอใฝ่หา
สวยจับใจเธอ..
มองกลับกันที่ฉันอยู่นี้
เป็นเพียงด้านหนึ่งข้างหลัง
ไร้แสงมืดมิด เธอไม่เห็นฉัน
เฝ้าอยู่อย่างเดียวดาย
อีกฝั่งหนึ่งของพระจันทร์
ฉันคนที่เหงาอยู่ตรงนี้
เธอคงไม่รู้ว่ามีฉัน
เธอได้แต่เห็นฝั่งแสงจันทร์
ฉันแค่ด้านมืดของจันทร์ลางๆ
ฉันคนที่เหงาอยู่ตรงนี้
ฉันอยู่ตรงนี้อย่างเหน็บหนาว
ได้แต่อ้างว้างปวดร้าวในใจ
ที่เธอไม่เคยเห็นฉันเลย
ด้านมืดแห่งจันทร์
(ด้านมืดของพระจันทร์++มิ้นท์)