1 มกราคม 2551 18:46 น.
Alphilic
นั่งมองเพลิง แผดเผา เถ้ากระดาษ
ควันฟุ้งใน อากาศ หม่นมัวหมอง
เชื่อกันว่า ไฟนำ เงินและทอง
ไปสู่ผอง ผู้ตาย วายชีวัน
ถ้าเช่นนั้น ฉันจะ เขียนจดหมาย
เล่าบรรยาย เรื่องราว ทุกสิ่งสรร
ถ่ายทอดความ รู้สึก สารพัน
ไฟจงนำ สู่สวรรค์ อันห่างไกล
เพียงบอกกล่าว ให้เธอ ได้รับรู้
ความทรงจำ คงอยู่ ไม่จางหาย
แม้วันนี้ ไม่มี เธอข้างกาย
แต่เธออยู่ ในใจ เสมอมา
ถึงไม่มี ร่างกาย ให้สัมผัส
ไม่มีภาพ เด่นชัด ที่โหยหา
ไม่มีเสียง อ่อนโยน ดุจธารา
ไม่มีแม้ แววตา เคยชื่นชม
ฉันคนนี้ ยังยึด กับอดีต
ห้วงความคิด มีแต่ ความขื่นขม
ในหัวใจ เจ็บช้ำ ทุกข์ระทม
น้ำตาพรม พร่างพราย ดั่งสายธาร
**********************************
28 ธันวาคม 2550 11:14 น.
Alphilic
เพียงหลับตา น้ำตา พลันรินไหล
เพียงเผลอใจ ใจคิด ถึงเสมอ
ว่าวันใด จะเข้าถึง ใจของเธอ
เพราะวันนี้ ต้องเพ้อ อยู่กับเงา
อยากจะโกรธ จะเกลียด ทำไม่ได้
เพียงแต่นั่ง ร้องไห้ อย่างเหงาเหงา
แค่อยากให้ ใครเห็น ค่าของเรา
ไม่ใช่เอา ไปเปรียบ กับใครใคร
เธอมีฉัน วันนี้ รักฉันบ้าง
ช่วยเปิดใจ ให้กว้าง มองได้ไหม
แม้ไม่ดี อย่างคน อื่นทั่วไป
แต่ฉันมี ความตั้งใจ ที่มากพอ
แค่เธอสูง จนฉัน ไม่อาจเทียบ
แค่ถูกเปรียบ ก็เจ็บ จนใจท้อ
แค่เธอดึง ฉันมา อยู่บนวอ
จะมีใคร ไหมหนอ เข้าใจกัน
แค่เห็นเพื่อน สนิท เดินออกห่าง
มีคนอื่น เคียงข้าง แทนที่ฉัน
แม้อยากเข้า ไปแย่ง คืนมาพลัน
ทำไม่ได้ เพราะฉัน ก็มีเธอ
ฉันกดดัน ฉันเครียด เธอรู้ไหม
ต้องตั้งใจ ฝึกฝน ไม่ให้เผลอ
จะให้เก่ง ให้ดี คู่ควรเธอ
ใช่ว่าเอ้อ ระเหย คอยลอยชาย
ว่าชีวิต ฉันนี่ สบายแล้ว
มีเธอคง ไม่แคล้ว สู่จุดหมาย
ถ้าเธอคิด เช่นนั้น นั่นผิดไป
ช่วยประเมิน ฉันใหม่ นะคนดี
*********************************
27 ธันวาคม 2550 11:39 น.
Alphilic
ยามค่ำคืน ไร้จันทร์ อันเหว่ว้า
คนไร้ค่า อย่างฉัน ก็พลันเหงา
เงยหน้ามอง ท้องฟ้า มีแต่ดาว
วันใดเจ้า ร่วงลง สู่ผืนดิน
เมื่อไม่มี อะไร ต่างสิ่งอื่น
ดูพื้นพื้น ไม่ต่าง จากเศษหิน
แล้วใครเล่า จะมอง ยังก้อนดิน
เมื่อมิได้ โบยบิน บนฟ้าไกล
จากดวงดาว ที่เคย ประดับฟ้า
ร่วงลงมา สู่ดิน รับได้ไหม
จากวันที่ เคยเด่น กว่าใครใคร
วันนี้กลับ เป็นได้ เพียงธุลี
เหมือนครั้งหนึ่ง เห็นฉัน สำคัญยิ่ง
แล้วกลับทิ้ง เดียวดาย อยู่ที่นี่
ลืมความรัก ความหลัง ที่เคยมี
ฉันคนนี้ คงเพียง ฝุ่นละออง...
********************************
26 ธันวาคม 2550 19:05 น.
Alphilic
...ใบไม้...ใบหนึ่ง...พัดโบก...
...ลมโกรก...กราวไป...ไหวไหว...
...ดั่งหนึ่ง...ชีวิต...สู้ไป...
...กับสิ่ง...ใดใด...เข้ามา...
...วันร่วง...ปลิดลง...ลาขั้ว...
...ปล่อยตัว...ปลิวตาม...ยถา...
...ระบำ...บรรเลง...ร่ำลา...
...ดุจอา...กาศคือ...เวที...
...อ่อนไหว...กับสาย...ลมพัด...
...สะบัด...โบกไป...เร็วรี่...
...ก่อนสัม...ผัสพื้น...ปฐวี...
...คือที่...สุดสิ้น...แสดง...
...หนึ่งคน...เกิดมา...ต่อสู้...
...ยืนอยู่...ต่อไป...เข้มแข็ง...
...อย่าได้...ยอมแพ้...โรยแรง...
...ตราบแสง...แห่งชีพ...ยังคง...
25 ธันวาคม 2550 16:28 น.
Alphilic
...เพียงลมโบก...พัดเบา...ให้เหงาจิต...
...ใบไม้ปลิด...ปลิวร่อน...ลงจากก้าน...
...ไผ่ต้นน้อย...ลู่ตาม...อย่างสุดทาน...
...เอนเอียงตาม...ลมผ่าน...ทุกคราไป...
...บางครั้งก่อ...กำเนิด...ให้เกิดเสียง...
...สายลมเพียง...พัดใบ...ให้โบกไหว...
...ชวนใจเศร้า...โศกศัลย์...ถึงคนไกล...
...ว่าวันใด...จึงได้...เธอกลับคืน...
...พายุพัด...กระหน่ำ...ซ้ำลมซัด...
...ต้นไผ่ฤๅ...ยืนหยัด...ไม่อาจฝืน...
...หักลงมา...สู่ดิน...ดั่งกองฟืน...
...ก้มหยิบไม้...จากพื้น...ทั้งน้ำตา...
...นำมาเหลา...ให้เรียบ...ดูงามสวย...
...เจาะรูด้วย...ความคิด...คำนึงหา...
...เสียงจากไม้...เคยเศร้า...เหงาอุรา...
...วันนี้มา...เถิดฉัน...จะเป่าแทน...
...หวังให้เสียง...ขลุ่ยครวญ...ลอยไปถึง...
...ใครคนหนึ่ง...ซึ่งฉัน...เฝ้าหวงแหน...
...เมื่อเราอยู่...ต่างภพ...จบดินแดน...
...ปรารถนา...เหลือแสน...จะพบกัน...
...หากวันใด...ได้ยิน...เพลงขลุ่ยผิว...
...แว่วข้ามทิว...เขาสูง...ดุจความฝัน...
...นั่นคือความ...ในใจ...นับร้อยพัน...
...ที่ตัวฉัน...ส่งผ่าน...มากับลม...