11 เมษายน 2546 14:52 น.
aGApE
แม่จำได้มั๊ย..
จากเล็กจนโต
แม่ซื้อยาคูลท์ ให้ผมดื่มมาตลอด
แม่รู้มั๊ยว่า นอกจากแลกโตบาซิลัสแล้ว ผมยังได้
สัจธรรมบางอย่าง จากเครื่องดื่มจุลินทรีย์ขวดเล็ก ๆ นี้
ยาคูลท์มีบอกวันหมดอายุ แต่แม่ไม่มี
ใครจะรู้ว่าแม่จะหมดอายุเมื่อไหร่
คำขวัญนึงที่คนโง่ ๆ อย่างผมจำขึ้นใจ กว่าคำขวัญวันเด็ก ก็คือ
แม่ไม่ใช่ยาคูลท์ รีบกตัญญูก่อนหมดอายุ
11 เมษายน 2546 14:50 น.
aGApE
สมัยนั้นยังไม่มีสถานสงเคราะห์คนชรา จึงไม่รู้ว่าจะเอาแม่ไปฝากใครให้เลี้ยงแทน
จึงตัดสินใจแบกเอาไปปล่อยป่าให้อยู่ตามยถากรรม
แม่ไม่วอนขอ ไม่ถาม ไม่ว่าอะไร ตั้งใจหักกิ่งไม้ตามทาง เรื่อยไป
เข้าป่าลึก ไกลมากแล้ว ลูกชายวางแม่ลงบนโขดหินแล้วหันหลัง เดินกลับทางเดิมไป
ตอนนี้เอง ที่แม่ตะโกนตามหลังลูกชายไปว่า
"ลูกเอ๋ย เดินตามรอยกิ่งไม้ที่แม่หักไว้ให้นะ จะได้ไม่หลงทาง..."
11 เมษายน 2546 14:41 น.
aGApE
" เพื่อนบ้านเรานี่ ซักผ้าไม่เป็นเลย เสื้อผ้าสกปรกเหลือเกิน
ไม่รู้เขาใช้ผงซักฟอกยี่ห้ออะไร หรือใช้วิธีซักอย่างไร "
สามีก็ตอบว่า "อย่าไปสนใจคนอื่นเขาเลย
เราซักผ้าของเราให้สะอาดก็แล้วกัน"
แต่ภรรยาก็ยังไปแอบดูเพื่อนบ้านอยู่ทุกเช้า
จากหน้าต่างข้างบนบ้าน และวิ่งกลับมารายงานสามีทุกเช้า
" เสื้อผ้าของเขาสกปรกอีกแล้ว"
ต่อมาวันหนึ่ง ภรรยาวิ่งลงมารายงานสามี
ด้วยความแปลกประหลาดใจ
"ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น
เสื้อผ้าของเขาขาวสะอาด อยากจะรู้เหลือเกินว่า
เขาเปลี่ยนมาใช้ผงซักฟอกยี่ห้ออะไร หรือทำอย่างไร.."
สามีหัวเราะและกล่าวว่า
"นี่..ฉันรำคาญเธอเหลือเกิน เมื่อเช้าฉันตื่นแต่เช้ามืด
และไปเช็ดกระจกหน้าต่างให้ใสสะอาด.. ก่อนหน้านี้
กระจกมันสกปรก เธอมองออกไป ก็เห็นแต่ความสกปรก.."
11 เมษายน 2546 14:39 น.
aGApE
เกรด 11
โทรศัพท์ดังขึ้น ปลายทางของคนที่โทรมาก็คือ "เธอ" นั่นเอง
เธอกำลังร้องไห้และพร่ำบ่นไม่ยอมหยุดว่าคนรักของเธอหักอกเธอเช่นไร
เธอขอให้ผมไปหาเพราะเธอไม่อยากอยู่คนเดียวและผมก็ไป
ผมนั่งอยู่ข้างๆเธอที่โซฟา
จ้องมองไปยังดวงตาที่อ่อนโยนของเธอและอยากให้เธอเป็นของผม
สองชั่วโมงกับการนั่งดูหนังที่Drew Barrymoreเล่นกับมันฝรั่งอีกสามถุง
เธอก็ตัดสินใจเข้านอน
เธอมองมาที่ผมและพูดว่า "ขอบใจนะ" และจูบลงที่แก้มของผม
ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่"เพื่อน"
ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ปีสุดท้าย
ก่อนวันของงานพรอม(Prom)เธอเดินมาหาผมที่ล็อกเกอร์
"คู่เดทของฉันมันห่วย" เธอพูดขึ้น เขาจะไม่ยอมไปงานพรอมกับเธอ
และผมก็ยังไม่มีคู่เดท
ตอนสมัยอยู่เกรด 7 เราเคยสัญญากันว่าถ้าคนใดคนหนึ่งยังไม่มีคู่เดท
เราจะไปงานพรอมด้วยกันในฐานะ "เพื่อนรัก"
และเราก็ตกลงเป็นคู่เดทในงานพรอมด้วยกัน คืนวันงานหลังจากเลิกงานแล้ว
ผมยืนอยู่ที่บันไดหน้าบ้านของเธอ
ผมจ้องมองเธอเช่นเดียวกับเธอที่ยิ้มให้ผมและจ้องมองกลับมาที่ผมด้วยดวงตาสดใสของเธอ
ผมอยากให้เธอเป็นของผม แต่เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น
ผมรู้...ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ "เพื่อน"
ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
วันจบการศึกษา
วันเวลาผ่านไป จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน
ก่อนที่ผมจะทันกระพริบตามันก็เป็นวันจบการศึกษาแล้ว
ผมมองดูเรือนร่างอันสมส่วนของเธอลอยขึ้นไปบนเวทีราวกับนางฟ้าเพื่อรับประกาศนียบัตร
ผมอยากให้เธอเป็นของผม แต่เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น
ผมรู้...ก่อนที่ทุกคนจะกลับบ้าน เธอเดินเข้ามาหาผมในชุดครุยและหมวก
และเธอร้องไห้เมื่อผมกอดเธอ
จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นจากไหล่ของผม
และพูดว่า "เธอเป็นเพื่อนรักของฉันขอบใจนะ" และจูบลงที่แก้มของผม
ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ "เพื่อน"
ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
2-3ปีต่อมา
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้แถวในโบสถ์ เธอคนนั้นกำลังจะแต่งงาน
ผมนั่งมองเธอพูด "ฉันรับค่ะ" และไปสู่ชีวิตใหม่ของเธอ
เธอแต่งงานกับชายคนอื่นไปแล้ว
ผมอยากให้เธอเป็นของผมแต่เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น
ผมรู้..ก่อนเธอจะนั่งรถออกไปเธอเดินมาหาผมและพูดว่า "เธอมางานของฉัน!"
และพูดว่า "ขอบใจนะ" และจูบลงที่แก้มของผม
ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ "เพื่อน"
ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
งานศพ
หลายปีผ่านไป ผมก้มหน้ามองโลงศพของผู้หญิงที่เคยเป็น "เพื่อนรัก" ของผม
ในงานศพพวกเขาได้อ่านสมุดบันทึกของเธอทั้งหมดที่เธอเคยเขียนไว้สมัยเรียนไฮสคูล
และในสมุดบันทึกเขียนไว้ดังนี้ :
ฉันจ้องมองเขาและปรารถนาให้เขาเป็นของฉัน แต่เขาไม่ได้คิดกับฉันแบบนั้น
ฉันรู้....ฉันอยากจะบอกเขาให้รู้ว่าฉันไม่ต้องการเป็นแค่ "เพื่อน"
ฉันรักเขาแต่ฉันก็อายเกินไปที่จะบอก และฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ฉันปรารถนาให้เขาบอกว่า เขารักฉัน
และฉันก็ปรารถนาอยากจะบอกเขาเหมือนกัน ฉันคิดกับตัวเองและร้องไห้
ฉันรักเธอ
ฉันรักเธอ
ฉันรักเธอ
รักใครก็บอกเขาไปซะก่อนที่เขาจะไม่ได้อยู่ฟังคำนั้นจากเราอีกต่อไป
หรือบอกเขาก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสได้บอกอีกต่อไป
ใครจะรู้คนที่คุณคิดว่า เขาไม่ได้รักคุณเลย
ใจจริงแล้วเขาเองอาจรู้สึกแบบเดียวกับคุณก็ได้
ถ้าไม่บอกแล้วใครจะรู้
11 เมษายน 2546 13:12 น.
aGApE
เมื่อเช็ดทำความสะอาดเสียใหม่ เธอก็ได้เห็นลายไม้ที่งดงาม
และความแวววาวเมื่อเธอขัดถู หุ่นไม้ที่เคยสกปรก ก็กลายเป็นหุ่นไม้ที่ดูมีค่า
แม้จะไม่สวยงามเท่าหุ่นไม้ตัวอื่นๆที่ถูกทาสีตกแต่งไว้
แต่มันก็เป็นหุ่นไม้ของเธอคนเดียว และเธอก็รักมัน
น่าเสียดายที่มันไร้ชีวิต น่าสงสารที่มันไม่เคยเห็นสีสวยๆของสายรุ้ง
ไม่เคยรู้ถึงความสดชื่นของละอองฝน ไม่เคยเห็นว่าท้องฟ้ากว้างแค่ไหน
หรือทะเลนั้นลึกเพียงใด น่าเสียดายที่มันมีแต่ร่างกายแข็งๆที่ไร้หัวใจ
เด็กหญิงพยายามใส่หัวใจของเธอให้เจ้าหุ่นไม้
แม้ว่าทุกครั้งที่เด็กหญิงพยายามที่จะใส่หัวใจของเธอลงในไม้แข็งๆของมัน
หัวใจของเธอจะต้องถูกเสี้ยนไม้ทิ่มตำจนเป็นแผลเสมอ
หัวใจดวงเล็กๆถูกไม้แข็งๆบีบคั้นจนขาดวิ่นและบุบสลาย
แต่เด็กหญิงก็ไม่หยุดความพยายามของเธอ
เจ้าหุ่นไม้เริ่มมีชิวิตขึ้นมาเรื่อยๆ
มันไม่ใช่หุ่นไม้ที่เอาแต่นอนแข็งทื่ออีกต่อไป
มันเริ่มมองเห็นความสวยงามของแสงแดดและท้องฟ้า
เริ่มได้ยินเสียงนกร้องเพลงและเริ่มรู้สึกถึงความเย็นของไอฝนและได้กลิ่นดอกไม้บาน
มันได้วิ่งเล่นในทุ่งหญ้า ได้เล่นน้ำในลำธาร
แล้ววันหนึ่งมันก็รักเป็น
ในที่สุด เจ้าหุ่นไม้ก็มีชีวิตอย่างสมบูรณ์
มันมีตาไว้มองความงดงามของสิ่งที่อยู่รอบตัว
มีจมูกไว้สูดกลิ่นหอมรอบกาย มันรับรู้การสัมผัส และมันมีหัวใจไว้รัก
แต่. เด็กหญิงจากไปแล้ว
หัวใจดวงน้อยที่เคยเป็นของเธอบัดนี้มันอยู่ในตัวเจ้าหุ่นไม้
แม้มันจะถูกบีบถูกกดจนบอบช้ำและขาดวิ่นเหลือเป็นเศษเสี้ยวใจที่แหว่งเว้าสักเพียงใด
แต่มันก็ทำให้เจ้าหุ่นไม้มีชีวิตจิตใจสมความตั้งใจของเธอ
เจ้าหุ่นร้องไห้ มันต้องการเด็กหญิงที่เคยมีชีวิตชีวาคืนมา
มันกอดซากที่ไร้ชีวิตของเด็กหญิงไว้เงียบๆ
หัวใจที่เหลืออยู่ในตัวมันมีมากน้อยเท่าใดหนอ
แล้วจะขาดวิ่นไปอีกสักเท่าไรตอนที่มันใส่กลับเข้าไปให้เด็กหญิง
หัวใจสีแดงที่เคยงดงามสมบูรณ์ จะถูกทำลายอีกเท่าไรกว่าจะใส่กลับไปได้
สุดท้ายแล้วหัวใจจะถูกทำลายอีกมากเท่าไร
จะเหลือซากหัวใจอีกเท่าไรที่จะใส่ความรักให้สิ่งที่ไร้ชีวิตได้
ที่สุดแล้วอาจจะสกปรกแปดเปื้อนจนกลายเป็นสีดำและเหลือแค่เศษเสี้ยวเพียงนิดเดียว
ที่ไม่อาจจะจุความรักได้อีกเลยกระมัง
คุณเคยมี Pure love มั้ย
ความรักครั้งแรกไง คุณจำความรู้สึกของมันได้อยู่หรือเปล่า
คงต้องมีสักครั้งที่คุณรู้สึกรักใครจริงๆโดยไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไร
เป็นความรักที่มีองค์ประกอบแค่เพียง"ความรัก"แต่ประการเดียว
ไม่มีอย่างอื่นเจือปน เป็นความรักเพื่อรักเท่านั้น
หลายคนอาจไม่เกิดขึ้นในครั้งแรกที่คุณมีคนรัก แต่ลองคิดดูดีๆสิ
อาจเป็นเพราะครั้งแรกของคุณมันยังไม่ใช่"ความรัก" ก็ได้
จะอย่างไรก็ตาม pure loveนี้ เกิดขึ้นได้ครั้งเดียวในชีวิต
Pure love เป็นสิ่งงดงาม บริสุทธิ์ มันสมบูรณ์ในตัวของมันเอง
รักที่ใครๆเรียกว่าเป็น Puppy love นั่นแหละ ถามว่าถึงมันเป็น Puppy love
แต่เป็นรักที่คุณอยากได้มันมั้ย
เพราะมันเป็นรักที่ไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องการงาน การเงิน ฐานะ สังคม
และไม่แปดเปื้อนด้วยความต้องการทางฝ่ายต่ำหรือ Sex
และไม่ว่ามันจะจบลงอย่างไร มันก็ยังงดงามทุกครั้งที่คุณนึกถึงเสมอ ใช่หรือเปล่า
น่าเสียดายที่ Pure love ของคนเรามักไม่เกิดในคราวเดียวกัน Pure love
ของคนคนหนึ่งมักถูกทำลายโดยอีกฝ่ายหนึ่งด้วยปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น
แล้วเมื่อมันถูกทำลายไปแล้ว มันก็จะไม่เกิดขึ้นมาได้อีก
เพราะ..
สัญชาดญาณ-- เพียงครั้งเดียวที่ถูกทำร้าย
สัตว์ยังเรียนรู้ที่จะระแวดระวัง
นับประสาอะไรกับมนุษย์ที่ฉลาดกว่าจะไม่สร้างเกราะ สร้างภูมิคุ้มกัน
ความรักครั้งต่อไปยังคงเกิดขึ้นได้ แต่จะเป็นรักที่มีข้อแม้
การทุ่มเทความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจจะไม่มีอีกแล้ว
อย่างน้อยต้องเหลือไว้ให้ตัวเอง
คุณยังมี Pure love อยู่ในมือหรือเปล่า คุณต้องการมันไหม
ขอให้คุณเก็บรักษามันไว้ให้ดีเพราะมันเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในหัวใจของคนคนหนึ่ง
และเขาจะมีให้คุณได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น
มันจะเป็นหัวใจสีแดงที่ไม่มีขาดวิ่น
เป็นหัวใจดวงที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะพึงมี
แต่เพียงแค่ครั้งเดียวที่มันถลอกแม้เพียงนิด
มันจะไม่กลับมาเป็นหัวใจที่สมบูรณ์อีกต่อไปและส่วนที่เป็นแผลนั้น
ในที่สุดมันจะด้าน จะชา จะกลายเป็นส่วนที่แข็ง >และกลายเป็นสีดำ