2 มีนาคม 2551 16:25 น.
Salukphin
เหนื่อยเหลือเกินเดินลำพังทั้งเหน็บหนาว
ใจปวดร้าวอ้างว้างทางสายเปลี่ยว
ปลอบใจตนทนสู้อยู่ดายเดียว
ต้องโดดเดี่ยวไร้เพื่อนพี่ที่รู้ใจ
คงเป็นกรรมนำชะตาฟ้าลืมหลง
ลิขิตส่งเต้นบรรเลงเพลงร้องไห้
ร่ายกำสรวลครวญโหยหาคล้องมาลัย
ทุกข์หวั่นไหวโถมถั่งประดังมา
เป็นนางฟ้าเดินดินพลัดถิ่นฐาน
ร้างไกลบ้านเบิกปณิธานสานปรารถนา
เพื่อเด็กน้อยด้อยโอกาสพัฒนา
ได้ศึกษาเรียนรู้สู้ความจริง
แม้หนทางมิสวยหรูปูทางฝัน
ก็ฝ่าฟันก้าวไปไม่เกรงกริ่ง
ท่องถ้อยคำจำไว้ไม่ประวิง
อย่าหยุดนิ่งดูดายอายทำดี
ความสุขของปวงชนบนผืนหล้า
จักต้องมาก่อนสิ่งใดในหน้าที่
มอบรอยยิ้มพิมพ์ใจยื่นไมตรี
ร้อยปรานีเมตตาอย่ารู้คลาย
ปลุกปลอบขวัญวันนี้อย่าขี้แพ้
อย่าอ่อนแอถอดใจวางร้างหนีหน่าย
เติมใจสู้อยู่เคียงข้างเต็มร่างกาย
จุดความหมายของเทียนทองส่องนำทาง.
14 กุมภาพันธ์ 2551 02:28 น.
Salukphin
สายสายใจใยรักถักเกี่ยวก่อ
ล้อมกงล้อความรักสลักหวาน
ร้อยคิดถึงซึ้งซาบอาบดวงมาน
ทอผสานรวมร้อยเกี่ยวก้อยใจ
ให้พี่น้องผองเพื่อนไทยใช่ฉันมิตร
ญาติสนิทมิตรสหายคลายหวั่นไหว
ด้วยแรงขลังพลังรักฟักอุ่นไอ
ยิ้มสดใสหอมละมุนกรุ่นไมตรี
ให้คนร้าวหนาวเหน็บเจ็บจางหาย
เศร้าโศกคลายพาลภัยพ่ายเร้นหน่ายหนี
ให้คนเหงาหงอยใจในค่ำนี้
หลับฝันดีตลอดคืนชื่นกมล
ให้นักเรียนรู้รักงานการอ่านเขียน
รู้พากเพียรมุ่งมั่นหมั่นฝึกฝน
รู้หน้าที่มีวินัยข่มใจตน
รู้อดทนพร้อมสรรค์สร้างอย่างพัฒนา
ให้นักโทษโฉดทรามคร้ามสิ่งผิด
ขัดเกลาจิตเป็นคนใหม่ไร้ปัญหา
มากคุณธรรมน้ำใจใฝ่กรุณา
กอปรคุณค่าของตนเป็นคนดี
ให้ข้าราชการน้อยใหญ่ไม่ติดขัด
ความซื่อสัตย์ยึดบริการงานหน้าที่
อุทิศตนตามรอยพ่ออย่ารอรี
เทิดศักดิ์ศรีเกียรติยศอย่างงดงาม
ให้นักการเมืองเฟื่องน้ำลายหยุดถ่ายถม
ข่มอารมณ์เลิกหยันเยาะเพาะเหยียดหยาม
สามัคคีครองใจไร้เลวทราม
อย่าไต่ตามค่านิยมสังคมลวง
เสียสละลดศักดิ์ศรีที่สูงส่ง
ใช่ลุ่มหลงตัณหาบ้าแหนหวง
หยุดคารมกลมกลิ้งวิ่งตามดวง
ข้ามพ้นบ่วงเล่ห์กลเวทย์มนต์มาร
ให้เด็กน้อยด้อยโอกาสสมปรารถนา
เสพคุณค่าของสุขใจใช่สงสาร
มีชีวิตใช่แท้ท้อหรือทรมาน
อยู่ในบ้านศรัทธาธรรมกอปรกรรมดี
ให้ครอบครัวคนไทยในทุกบ้าน
สมัครสมานความเข้าใจไม่หลีกหนี
ทั้งแม่พ่อพี่น้องลูกปลูกไมตรี
รักปรานีห่วงใยให้แก่กัน
และสุดท้ายสายใจไปเสนอ
มอบแด่เธอคนไกลในฝั่งฝัน
ร้อยใยรักภักดีมีผูกพัน
จากใจฉันนั้นนิรันดร์มั่นรักเธอ.
11 กุมภาพันธ์ 2551 17:09 น.
Salukphin
ฉันรักใครใช่เพราะรัก.......
ไม่มีหลักกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐาน
ใช่ชมชอบความยิ่งใหญ่ในการงาน
แต่ฉันอ่านเรียนนิสัยน้ำใจคน
อาจจะดูเหมือนเซ่อซ่าแถมบ้าโง่
ยอมอดโซดีกว่าครองความหมองหม่น
พึงพอใจในสิ่งที่มีตัวตน
ใช่ดั้นด้นวาดหวังไว้ไกลลิบตา
เป็นอะไรในความดีที่เรียบง่าย
สุขสบายกายใจร้างห่างปัญหา
ค่านิยมสังคมลวงบ่วงมายา
ทั้งเงินตราใช่สำคัญหากมั่นใจ
มีหอห้องหัวใจทองคล้องประดับ
เรือนใจซับรับขวัญร้อยหวั่นไหว
เติมปุ๋ยรักถักอ่อนหวานสานสายใย
เกี่ยวก้อยไว้ด้วยเสน่หาภาษารัก.
10 กุมภาพันธ์ 2551 11:13 น.
Salukphin
ไออรุณกรุ่นกำจายสายลมหนาว
มองแสงดาวลาลับกับฟ้ากว้าง
ณ ขอบฟ้าแสงสีทองส่องรางราง
ยามฟ้าสางสายลมครวญปั่นป่วนใจ
ยะเยือกกายผิวสะท้านผ่านลมหนาว
ใจปวดร้าวระรัวขวัญซ่านหวั่นไหว
ด้วยหวั่นหวาดวาดระแวงจิตแกว่งไกว
ถึงคนไกลกลัวมิจำคำสัญญา
เจ้าความรักร้อนรุ่มรุมร้อนเร่า
ช่างน่าเศร้ากระไรไฟเสน่หา
มีทั้งร้อนและเย็นได้ในพริบตา
ปริศนาที่ทุกคนหลงวนเวียน
เป็นเบี้ยหมากฝากชะตาฟ้าลิขิต
ชี้ถูกผิดจิตวนกลกามเทพเขียน
แผลงศรรักปักใจให้บทเรียน
ดีร้ายเปลี่ยนตามโศลกโชคชะตา
หากใจสงบจบลงตรงปล่อยว่าง
ความอ้างว้างว้าเหว่ไม่เร่หา
แต่นี่ใจใช่ติดหลงไร้เลิกรา
ดับปรารถนายากนักหักห้ามใจ.....
9 กุมภาพันธ์ 2551 16:50 น.
Salukphin
ให้โอกาส.........
แต่เธอพลาดผิดไปไยโทษฉัน
ปิดอดีตโยนทิ้งไปไม่ผูกพัน
เริ่มสร้างฝันสีทองใหม่ไม่มีเธอ
บรรจงเก็บกอบรักภักดิ์สัตย์ซื่อ
ไว้แทนสื่อโซ่รักทองคล้องเสนอ
เพื่อคนดีที่หัวใจได้เจอะเจอ
มิต้องเก้อเหมือนก่อนยอกย้อนใจ
เปิดตำนานสานสายใจใช่ประกาศ
ใครหวังวาดปรารถนาอย่าหวั่นไหว
มอบรักจริงมิทิ้งขว้างร้างแรมไกล
สิทธ์ข้อใหญ่คือเจ้าของจองตีตรา
สลักรักสลักใจใช่คงมั่น
พร้อมเติมฝันเรือนรักถักเสน่หา
เป็นนางแก้วกลางใจไร้มายา
บำนาญค่าของรักแท้แด่หนึ่งเดียว.