20 กรกฎาคม 2554 06:27 น.
Salukphin
น้ำใสใสไหลนองครองใบหน้า
ตาท่วมบ่าเจิ่งนองทั้งสองข้าง
เป็นรางวัลชั้นดีที่อำพราง
ของสรรค์สร้างอย่างดีฝีมือครู
ขวัญหวิวหวาดหวั่นไหวใช่โง่เง่า
จากขลาดเขลาเนานิยามความไม่รู้
เธอจึงฝากทะเลช้ำน้ำตาพรู
หรือความหรูของรักแท้แพ้หลอกลวง.
19 กรกฎาคม 2554 00:30 น.
Salukphin
สายลมโบกโบยชื่นระรื่นผิว
เส้นผมปลิวสยายคล้ายเริงร่า
หมู่เมฆเคลื่อนเลื่อนล้อลมชมดารา
ที่ห่มฟ้าระยิบระยับวะวับวาว
ในม่านดำคล้ำคาดพาดกำมะหยี่
ค่ำคืนนี้มีลมไล้ไล่เหน็บหนาว
ใจที่เจ็บเจือจางล้างขื่นคาว
ลบรานร้าวราร้างห่างปลายใจ
เป็นความอุ่นกรุ่นละไมไล้ห่อห่ม
ไอเย็นลมพรมพลิ้วผ่านต้านหวั่นไหว
ทั้งทอไถ้ถักทอปลูกผูกสายใย
ยิ้มสดใสสู่สายลมห่มผิวกาย.
19 กรกฎาคม 2554 00:24 น.
Salukphin
ณ แดนใจในยามนี้มีเว้าแหว่ง
ริมกำแพงพบช่องคล้องหวั่นไหว
เขื่อนน้ำตาเอ่อท่วมท้นล้นแดนใจ
เพื่อนอยู่ไหนให้ฉันเหงาเศร้าเดียวดาย
แท้รอยหยักฟักซ่อนย้อนไหวอ่อน
ของสั่นคลอนขวัญเคว้งคว้างมิห่างหาย
ใจสะท้อนสะท้านปานละลาย
ในความหมายเหมือนบ่งบอกตอกอ่อนแอ
อารมณ์เหงาเศร้าว้าเหว่เห่หม่นหมอง
เหงาเข้าครองครอบใจให้มีแผล
ยามตะวันลับแสงไปไม่เหลียวแล
เย็นยิ่งแท้ที่ไร้เพื่อนเยี่ยมเขื่อนใจ.
18 กรกฎาคม 2554 10:36 น.
Salukphin
ในความเป็นไปได้ใช่ทุกสิ่ง
วันนี้ยิ่งหยุดยากหากมีฝัน
นี้เนื้อใจใส่พลังขลังฝ่าฟัน
นะผูกพันเพิ่มเชื่อมั่นขันศรัทธา
ฉันยืนเคียงข้างเธอมิเผลอไผล
รู้ร้อยใจจารสลักรักแน่นหนา
ดีสัตย์ซื่อถือภักดิ์ตอบมอบคืนมา
ว่าปรารถนาเนารักปลูกผูกด้วยใจ
ตราบตะวันปันแสงทองส่องฟากฟ้า
ใดในหล้าหลอมรวมขวัญปัดหวั่นไหว
ยังมีจันทร์ฉายอายอวลแสงนวลใย
มีดาวให้แววระยับวะวับวาว
ลมโลมไล้ไอเย็นกระเซ็นซ่าน
หายร้าวรานลบรอยเจ็บที่เหน็บหนาว
ใจดวงนี้มีไอรักผลักขื่นคาว
เธอคือดาวของใจไม่เปลี่ยนแปลง
ก็วันนี้ปีใดเขียนใจมั่น
ยังผูกพันสัญญาใจใส่กล้าแกร่ง
ไม่ละปล่อยถอยท้อแท้แม้ไร้แรง
แพ้เพียงแสงคุณธรรมน้ำใจเธอ.
18 กรกฎาคม 2554 10:27 น.
Salukphin
มีค่าแค่เทียนไข..
ต้องทำใจให้ยอมรับกับหวั่นไหว
อย่าวาดหวังทั้งที่รู้อยู่ห่างไกล
เล่นกับไฟใจละลายพ่ายน้ำตา
จะปวดเจ็บเหน็บหนาวจนร้าวลึก
ปิดผนึกเนื้อใจขมข่มสีหน้า
ก็ต้องใช้ใยสมานม่านเวลา
พิษเสน่หาอาจบางเบาเป็นเงาเทียน
จากเทียนไขไฟรักเร้าจนเผาไหม้
เหลือเพียงไส้สู้ยืนหยัดจัดปรับเปลี่ยน
หล่อหลอมแท่งเทียนไขใจใส่บทเรียน
ฝึกขีดเขียนคุณค่าใหม่ไม่อ่อนแอ.