11 กุมภาพันธ์ 2550 09:04 น.
Salukphin
คงคิดถึงคนไกลใจพร่ำเพ้อ
สงสารเธอต้องหงอยเหงาและเปล่าเปลี่ยว
ต้องเฝ้ารอรอคอยคนใจเดียว
มาก่อเกี่ยวกิ่งรักฟูมฟักใจ
รักคิดถึงจึงมากมายยากถ่ายถอน
จนสั่นคลอนเสียขวัญและหวั่นไหว
อยากปลุกปลอบตอบคำย้ำมั่นใจ
เพียงขอให้กาลเวลามาไขคำ.
11 กุมภาพันธ์ 2550 08:03 น.
Salukphin
ด้วยหน้าที่มีมากอยากปัดทิ้ง
แต่ความจริงหลายปากท้องร้องหิวโหย
จึงต้องจำกล้ำกลืนหยุดจุดโอดโอย
เพราะตาโรยอ่อนแรงมองจ้องตอบมา
จึงบ่ายหน้าเข้ากรุงมุ่งหางาน
ฝ่าดงด่านเสือสิงห์สุนัขป่า
ต้องเสแสร้งแต่งยิ้มอิ่มน้ำตา
ทั้งเหว่ว้าหวั่นหวาดแทบขาดใจ
ยามลมหนาวกราวกรูดูเงียบเหงา
ดอกไม้เศร้าเซาซึมขรึมหวั่นไหว
เฝ้ารอคอยแสงทองส่องเรือนใจ
อีกนานไหมลมหนาวผ่านม่านหมอกคลาย.
11 กุมภาพันธ์ 2550 07:00 น.
Salukphin
หากรักคือไอน้ำค้างกลางลมหนาว
คนปวดร้าวเกินใครใช่ตัวฉัน
เพราะระเหยแห้งหายไปในกลางวัน
แม้ไอฝันก็ลางเลือนเหมือนลวงตา
หากรักคือแพรพลิ้วปลิวตามลม
คงระทมตรมใจในห่วงหา
เพราะรักร้างจางจากใจใช่ลมพา
ไกลสุดฟ้าด้วยแพรใสไหวตามลม.
10 กุมภาพันธ์ 2550 00:31 น.
Salukphin
ก็มิใช่คนของใจในความรัก
ฉันต่ำศักดิ์เกินไปไม่ร้องขอ
ใจดวงนี้รู้จักรักคำพอ
มิตัดพ้อเสียใจให้รำคาญ
จะก้าวเดินจากไปไม่ร้องขอ
จะตัดหน่อสายสัมพันธ์วันรักหวาน
จะตัดเนื้อเยื่อใจไม่ต้องการ
จะก้าวผ่านจุดจบลบอดีต.
10 กุมภาพันธ์ 2550 00:06 น.
Salukphin
ฝากรอยยิ้มพริ้มเพราลำเนาหวาน
ร้อยกลอนกานท์เคารพนบสารสื่อ
เป็นยิ้มฝากจากใจที่ใสซื่อ
ของเด็กดื้อกำนัลมอบตอบกลับมา
ได้เรียนรู้คำเสนาะเพราะสอนสั่ง
ยิ้มทุกครั้งด้วยใจไร้เดียงสา
ประสบการณ์ผ่านกวีที่เรียนมา
ยังด้อยค่ากว่าน้ำใจพิมพ์ไมตรี.