16 กรกฎาคม 2549 19:42 น.
MomMamSan
..... ทุกฟ้าสางแสงทองทาบส่องฟ้า
..... เหล่าวิหคนกกาตื่นตาขยัน
..... ฉมเกสรบุปผานานาพรรณ
..... บัวใต้น้ำกลับมิทันเห็นแสงทอง
..... เป็นเหยื่อเต่าปูปลามาทุกชาติ
..... อวิชชาผูกขาดเป็นเจ้าของ
..... แม้ร่วมเหง้าบัวบานอันลำยอง
..... ก็เศร้าหมองด้วยมิจฉาวาจากรรม .....
13 กรกฎาคม 2549 15:52 น.
MomMamSan
ทำบุญควรผ่องแผ้ว.............ใจกาย
ปลดปล่อยทุกข์มลาย............แน่แท้
บุญจริงส่งสบาย..................แสนสุข
เกลากล่อมอารมณ์แก้............สิ่งร้ายในใจ
บาปบุญใดย่อมรู้..................ในตน
กรรมก่อใจลานลน................บาปแล้ว
ความปลอดโปร่งกมล...........เป็นสุข
บุญก่อเกิดเพริศแพร้ว...........นั่นแล้วคือบุญ
เวรกรรมหนุนเนื่องได้...........ชะตา
นำส่งทุกเวลา........................ตรึกไว้
ความดีชั่วนำพา....................ทุกข์สุข
เกิดก่ออำนวยได้....................ทั่วถ้วนบทตอน
พรบุญงามเลิศล้ำ...................แพรวพราย
สุขส่งเย็นใจกาย....................ทุกข์ไร้
บำเพ็ญเพื่อสลาย....................กิเลส
พินิจตรองตรึกให้..................ถ่องแท้ในบุญ
11 กรกฎาคม 2549 16:47 น.
MomMamSan
..... โปรดรับรู้ว่าเผลอผิดคิดพลาดพลั้ง
..... ด้วยกำลังเพลิดเพลินเกินห้ามไหว
..... สิ่งที่เห็นล้วนตื่นตาพาตื่นใจ
..... ศิวิไลซ์เมืองสวยนี้มีเวทย์-มนต์
..... ฟ้าคำรนฝนคำรามเมื่อยามนั้น
..... จิตประหวั่นพลันรำพึงถึงเหตุผล
..... ยิ่งหมู่เมฆทะมึนทั่วทำทุกข์ทน
..... ยิ่งอับจนมิพ้นเศร้าเคล้าในใจ
..... มองที่หน้ารู้ว่าโกรธด้วยโทษผิด
..... โปรดสักนิดส่งวาจามาได้ไหม
..... สำนึกพร้อมยอมรับผิดขอโทษไป
..... เจ้าก็ไยมิเอื้อนเอ่ยยิ่งเฉยชา
..... ประหนึ่งโดนสายฟ้าฟาดผ่าใส่ร่าง
..... เธอเหินห่างทำหมางเมินเดินนำหน้า
..... รู้ซึ้งซึ่งโทษความผิดที่ทำมา
..... โปรดเมตตายกโทษให้อภัยกัน
..... ต่อแต่นี้มิกล้าคิดทำผิดซ้ำ
..... ด้วยจดจำในอาญาว่ามหันต์
..... เพราะผิดนัดผัดเวลาคือโทษทัณฑ์
..... จักผ่อนผันกันอย่างไรโปรดว่ามา
..... ขอได้โปรดว่ากล่าวเรื่องราวผิด
..... ใจนี้คิดรับผลกรรมแม้หนักหนา
..... เพียงเอื้อนเอ่ยเผยท่าทีมีวาจา
..... นะแก้วตายอมทุกอย่างอย่าหมางเมิน .....
4 กรกฎาคม 2549 18:58 น.
MomMamSan
เรือนงามริมฝั่งน้ำ............... เคียงคลอง
แมกหมู่ผกากรอง.................เกาะซุ้ม
ธาราเรื่อยไหลนอง................เต็มปรี่
นอนเอื่อยคลายกลัดกลุ้ม........สุขล้ำริมชล
ภมร-วนร่อนพลิ้ว..................ปลิวลม
เกาะกลุ่มแลดอมดม.............หมู่ไม้
คลายจิตสร่างทุกข์ตรม..........พอผ่อน
ปลดปล่อยอารมณ์ไร้.............โกรธกริ้วเคืองใจ
เรไรหวีดร่ำร้อง.....................ระงม
หรีดหริ่งบรรเลงรมย์..............กล่อมหล้า
ดาวพราวน่าเชยชม...............พริบพร่าง
กระจ่างนวลทั่วฟ้า..................สาดด้วยจันทร์ฉาย
แพรวพรายภาพพรั่งพร้อม......งดงาม
ประหนึ่งธรรมแวววาม............ก่องแก้ว
หากหมั่นมุ่งติดตาม.................ปฏิบัติ
เกลากล่อมจิตเพริศแพร้ว...............สุขล้ำมิคลาย
ประกายธรรมยิ่งย้ำ..................เตือนกมล
สุขยิ่งบันดาลดล......................ผ่องแผ้ว
สรรพสิ่งไม่ทานทน.................แท้เที่ยง
..ดี..แน่พิสูจน์แล้ว..................อยู่ยั้งยืนยง
2 กรกฎาคม 2549 12:34 น.
MomMamSan
..... สังเกตสีหน้าเห็นหนักอึ้ง
..... รู้ซึ้งในจิตคิดห่วงหา
..... ขุ่นข้นหม่นหมองไหม้ในอุรา
..... เหนื่อยล้าช้ำชอกยอกหัวใจ
..... ใครช่างทำร้ายใจกายเจ้า
..... ชำเราด้วยความผิดมาตราไหน
..... โหดเหี้ยมอำมหิตลิดเยื่อใย
..... จึงทำให้เจ็บแปลบแทบเป็นบ้า
..... เศร้าสร้อยหงอยเหงาเข้าคลุมครอบ
..... อยากปลอบให้คลายหายโหยหา
..... อยากอยู่เป็นเพื่อนคอยเวลา
..... จนกว่าความระทมตรมบรรเทา
..... ถ้อยคำนำเอ่ยเผยความหมาย
..... ระบายทุกข์โศกในใจเขลา
..... เปลื้องปลดระทดท้อให้บางเบา
..... กล่อมเกลาเศร้าสร่างจางจากใจ .....