12 ตุลาคม 2553 02:21 น.
หญิงบ้า
รัตติกาลนานเนิ่นเกินทนอยู่
ใจสลดหดหู่เพราะความเหงา
มีบางสิ่งดิ่งลึกเป็นผลึกเงา
เมื่อสีเทาครอบงำช้ำเหลือทน
ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายมาทายทัก
แสนหน่วงหนักผลักใสให้สับสน
คืนเหน็บหนาวกลับร้าวใจดั่งไฟลน
ดาวดูหม่นจนดับอับแสงไป
วอนพระพายสายลมมาห่มรัก
ช่วยทอถักราตรีสีสดใส
มาลูบไล้ไล่เหงาเป่าปัดใจ
อย่าปล่อยให้ฉันเหงาเศร้าลำพัง
2 ตุลาคม 2553 01:21 น.
หญิงบ้า
สวัสดีดวงตะวันที่จันทร์รัก
แกะสลักถักกลอนอาวรณ์หา
เราไม่ได้เจอกันเลยสักครา
แม้นว่าอยู่นภาผืนเดียวกัน
อยากให้รู้ตัวฉันดวงจันทร์แจ่ม
กลางคืนแรมแย้มแสงแห่งสุขสันต์
แต่ภายในใจหม่นค้นตะวัน
คิดถึงกันบ้างไหมสุริยา
กาลเวลาภาระมากีดกั้น
บังเกิดอันพลัดพรากจากห่วงหา
ยังรอคอยตะวันหันมองมา
แม้นฟากฟ้ามินำพาเราพบพาน
ขอตะวันรับรู้ว่าจันทร์ห่วง
ใจทั้งดวงส่งถึงพึงขับขาน
ให้ตะวันทอแสงแห่งวันวาน
นานแสนนานต่อไปในโลกา
2 ตุลาคม 2553 00:13 น.
หญิงบ้า
หยิบปากการ่ายกลอนอวยพรท่าน
จงสุขสันต์วันใหม่ใจประสงค์
เมื่ออายุราชการแผ้วผ่านลง
แต่ครูยังยืนยงตรงกลางใจ
คุณความดีประจักษ์เป็นหลักฐาน
ตรากตรำงานซื่อสัตย์มิหวั่นไหว
พัฒนาม่วงขาวให้ก้าวไกล
เกียรติดำรงคงไว้มิวางวาย
เป็นแม่พิมพ์แท่นแรกแห่งสถาน
เมื่อถึงกาลจากไกลพลันใจหาย
แสนคำนึงตรึงตราอย่ารู้คลาย
ไม่เสียดายสายใยรักถักทอมา
ขอพรดีดลแด่ครูผู้สามารถ
ช่วยประสาทความสุขทุกทิศา
ให้มีโชคไร้โศกไร้โรคา
ทุกเวลาบุญรักษาผาสุขเทอญ