28 เมษายน 2555 21:07 น.
KIRATI
กองทัพอ๊อด...ดอดรุก...เข้าบุกเจาะ
เปลือกไข่เปราะ...มดแม่...เมื่อแลเห็น
ปกป้องไข่...ไล่อ๊อด...อย่างเลือดเย็น
เหลือหนึ่งเป็น...เห็นอยู่เพียงผู้เดียว
ฝังตัวแทรก..แรกเริ่ม...เพิ่มแขนข้าง
งอกรยางค์...ร่างเน้น...เส้นเลือดเขียว
รกสายเชื่อมเอื้อมต่อขอกลมเกลียว
นิ้วเรียวเรียว...เริ่มงอกออกเป็นมือ
ไม่มีแล้ว...อ๊อดที่...บุกตีไข่
เหลือแต่ "ใจ"ในพุงสะดุ้งถือ
พุงเชื่อมจิตติดกายสายสะดือ
อ๊อดผู้คือ...ตัวคุณ...ในบุญใบ-
-ไข่ฟองน้อย...คอยอ๊อดมาดอดเจาะ
อ๊อดตัวเหมาะ...เมื่อควรจงชวนให้
ร่วมก่อบุญ...ทุนส่ง...ประสงค์ "ใจ"
เสียบทุนไป...เกิด "รัก" ประจักษ์พุง
ครรภ์มารดรสอนว่าเมื่อคราป่อง
รักจะต้อง...เพิ่มค่า...อย่าถลุง
"เอาใจใส่"ให้ครรภ์ขยันปรุง
คอยปัดยุง ริ้นไต่ อย่าให้ตอม
กว่าจะโผล่ โซ่สาย เส้นลายรัก
กว่าจะทัก จะชม จะดมหอม
"กว่าจะเห็น เป็นร่าง ทุกอย่างยอม"
กว่าจะพร้อมโผล่หน้ามากอดใจ
ชีวิตคนเริ่มต้นบน "วิบาก"
ล้านยุ่งยาก...มากยิ่งทุกสิ่งไข
สะดือสายสัมพันธ์ถูกบั่นไป
งอกสายใจเชื่อมจิตจงคิดครวญ
อย่าดุแม่..ว่าแม่...แม้แกบ่น
ทำของหล่น...ให้คิดในจิตหวน
เมื่อครั้งแม่แกป่องต้องทบทวน
แม่ยอมอ้วน...อุ้มเจ้าตั้งเก้าปี
เก้าเดือนนอนในพุงสะดุ้งถีบ
แม่ไม่บีบคอเจ้าเขย่าที่-
-เจ้าถีบพุงแม่ไปตั้งหลายที
เพราะฉะนั้น...นั้นนะซิ "ห้ามโกรธแก"
8 เมษายน 2555 22:14 น.
KIRATI
เห็นคนตายครั้งแรกให้แปลกจิต
กลับมาคิดทำไมกระไรหนอ
นอนรดน้ำต่อแนวเป็นแถวรอ
ขันส่งต่อรดมือถือมาลัย
ร้อนก็ร้อนนอนหนาวเขาห่มผ้า
นอนหลับตานิ่งนิ่งไม่ติงไหว
เหมือนนอนยิ้มพริ้มขำแล้วทำไม
คนร้องไห้ให้เขาเหมือนเศร้าตรม
เพราะตอนนั้นฉันเล็กเป็นเด็กอยู่
ยังไม่รู้จักตายคือขื่นขม
ตายก็หลับนอนเห็นเหมือนเป็นลม
แล้วท่านยมบาลมารับไป
ที่จำมาเท่านั้นที่ฉันรู้
ตายกับอยู่พระสอนอยู่ก่อนไว้
ชีวิตมีดีชั่วก็ตัวใคร
ไม่หายใจไปลับเหมือนหลับยาว
มาวันนี้ผ่านมาเป็นล้านศพ
มิรู้จบพบพานผ่านร้อนหนาว
ดั่งฟ้าสูญสิ้นแสงสะเก็ดดาว
ที่ร่วงกราวฟากฟ้าคราดับไฟ
บ้างก็ดับลับหายกลายเป็นศพ
มิทันครบหนึ่งค่าอายุขัย
ประสบกรรมตามเหตุโดยเภทภัย
ก็หลับใหลเป็นศพก่อนครบกาล
หนึ่งชีวิตมนุษย์สุดจะง่าย
สาเหตุตายจำกัดตัดสังขาร
มีแก่ป่วยซวยโชควิโยคการณ์
ถูกประหารแดดิ้นจนสิ้นชนม์
หมดอากาศขาดรักลงดับดิ้น
กินของกินมีพิษจนผิดผล
จมน้ำนานบ้านพังนั่งรถยนต์
เครื่องบินหล่นไฟลวกโดนหยวกแทง
เก้า ล.เก้าเล่าไปไม่มีหมด
บ้างสยดสยองมองแสยง
บ้างพรากภพอบอุ่นไร้รุนแรง
ตามตำแหน่งแห่งสิทธิ์ลิขิตกรรม
ฉันมองศพรดน้ำด้วยความคิด
หนอชีวิตใดดูจะอยู่ค้ำ
ส่งวิญญาณผ่านสายวารีนำ
เสียงพระธรรมสวดศพสงบปลง
ไม่วิ่งเล่นเช่นก่อนเมื่อตอนเด็ก
เมื่อคราวเล็ก ไร้เดียง...สาเพียงสง-
สัยเพียงจิตคิดมองตรึกตรองตรง
คนนอนคงแค่ตายไม่หายใจ
แต่ล่องลอยคอยคนมารดน้ำ
เก็บคำถามความคิดยังติดไว้
เหมือนตอนเด็กเล็กคิดสะกิดใน
ห้วงสำนึกตายไปอยู่ไหนกัน
อยู่ในโลกเร้นตาจะหาเจอะ
คนอยู่เยอะโลกตายคล้ายโลกฝัน
ฤาอยู่ล้อมห้อมเราในเช้าวัน
ฤายามจันทร์เย็นแสงแต่แฝงกาย
สักวันแหละแค่คิดตงิดนึก
เหมือนม้าคึกอ่อนขวบอยากควบคล้าย
คะนองคิดติดค้างเรื่องวางวาย
เข้าใจตายก่อนได้ก็คงดี
เพราะมันคือสิ่งเดียวในเกลียวโลก
ที่ขันโชคบิดแน่นเกินแก่นชี้
ว่าเชื่อได้ใช่เลยไม่เคยมี
แต่คัมภีร์เขียนไว้ให้รอชม
ก็จะขอรอไปด้วยใจจด
อย่าลืมทดเวลาให้เหมาะสม
สักร้อยศกยกศาสตร์พิฆาตคม
มาเอาลมหายใจไปได้เลย