6 กรกฎาคม 2553 11:58 น.
KIRATI
พสุธา...คราพิภพ...บรรจบผุด
อมนุษย์...ขบวนการ...รานโลกฝัน
สัตว์ประหลาด...ญาติเอเลี่ยน...เวียนมาฟัน
ทำลายฝัน...มวลมนุษย์...สุดเหี้ยมเกรียม
โลกตะลึง...จึงตระหนก...อกประหวั่น
ลำแสงมัน...รานแผดเผา...เราแค่เสี่ยม
ตีข้อเท้า...เอาไปแหย่...คงแค่เทียม
จนใจเจียม...ปล่อยมันคลั่ง...พังบ้านเรือน
ในคราที่...ระวีดับ...เหมือนลับฟ้า
สุริยา...ถูกควันบ้า...บังตาเหมือน
ปรากฏแสง...แห่งฟากฟ้า...มายลเยือน
สว่างเตือน...อมนุษย์...หยุดทำลาย...
ปรากฏกาย...ชายร่างยักษ์...ยืนปักหลั่น
บังตะวัน...ยืนตั้งท่า...ท้ามุ่งหมาย
ในเงาร่าง...กลางอกแผง...แสงเรืองพราย
ตาประกาย...จับจดจ้อง...ส่องไพรี
เข้าจู่โจม...โรมองอาจ...วาดเชิงชั้น
โถมประจัญ...อมนุษย์...ยุทธ์วิถี
โน้มคอกลับ...จับตีเข่า...เข้าสองที
ตรงลิ้นปี่...อสุรี...ปรี่น้ำตา
อสูรร้าย...หงายเหงิบเหงิบ...กระเถิบถี่
เจ็บลิ้นปี่...เลยสะบัด...กัดต้นขา
เขี้ยวกัดฝัง...หลั่งพิษซ่าน...พล่านชีวา
พอเสียท่า...ยอดมนุษย์...พลันทรุดกาย
เหมือนไฟเลี้ยว...กลางอกติด...กระพริบพร่าง
การแปลงร่าง...ใกล้จะครบ...จบสลาย
หากเวลา...พาหมดลง...คงวอดวาย
ต้องไม้ตาย...พิฆาตให้...ไพรีราน
วางไขว้มือ...คือท่านิ่ง...ยิงลำแสง
เหนี่ยวสุดแรง...เพื่อกำจัด...ประหัตผลาญ
อสุรา...ตกกะใจ...ใคร่จดจาร
ถูกสังหาร...โดยผู้ใด...ใคร่ตอบแทน...
เรานั้นหรือ...ถือกำเนิด...เกิดจากไข่
สัญชาติไทย...อยู่ญี่ปุ่น...ลูกคุณแม้น
เป็นลูกครึ่ง...กึ่งเป็นไทย...ใจเจแปน
อุลตร้าแมน...แสนสนิท...ศิษย์ยอดธง...
บัดนั้น....เชิดดดดด...
23 มิถุนายน 2553 10:09 น.
KIRATI
นับท่านี้....เขาเรียกพม่า...นับหนึ่ง
พะวง...ตะลึง...คะนึงถึงแม่จอมขวัญ
นับครั้งสอง...ของพี่จะขอ...จอมจันทร์
มอบดวง....ชีวัน....ให้แม่จอมขวัญคนเดียว...
นับสามสี่...พี่คงจะใกล้...เป็นบ้า
ถ้ากุ...สุมา...มีท่าว่าไม่เฉลียว
นับห้าหก...เหมือนตกนรก...เลยเทียว
นับเจ็ด...แปดเปลี่ยว....โดดเดี่ยวจนเก้าสิบวาย.....
นับสิบเอ็ด...ไม่แคล้วต้องเด็ด...ดอกโศก
เพราะโลก...ทั้งโลก...ก็คงจะหมดความหมาย
นับสิบสอง...ต้องหมองต้องหม่น...เดียวดาย
หนีโลก...วุ่นวาย...ไปตายอยู่บนดวงจันทร์
นับสิบสี่...เดี๋ยวก่อน...ต้องมีสิบสาม
ไม่อยาก...ให้ถาม...นิยามรักใน...ความฝัน
นับสิบห้า...พม่าไม่ตอบ...ใดพลัน
สิบหก..อกตัน...สวรรค์มาพราก...เธอไป
สิบหกปีผ่านแล้ว ยังครวญ
ในค่ำคืน รัญจวน แต่ร้อง
กาลพาดผ่านพิศผวน นวลแม่ แพรทอง
ใจพี่ยัง ฝังน้อง สู่ห้วง ดวงใจ....เฮย....อิอิ
25 พฤษภาคม 2553 12:01 น.
KIRATI
ไม่ได้เมา...เราไม่นอน...กลอนไม่แตะ
จะยืนแกะ...แคะกระปุก...กระตุกขา
ก่อนจะนอน...อ้อนจะกิน...รินสุรา
กะโซดา...กระเพราผัด...จัดมากิน
แม้พรุ่งนี้...มีงานเข้า...เรา บ่ ยั่น
ยังยืนยัน...มั่นจะเมา...เฝ้าถวิล
สองวันแล้ว...แก้วสุรา...ล้าเหล้าริน
อยากผิดศีล...ยินเสียงกลอน...ก่อนนิทรา
อยากร่ายโคลง...โยงเยื่อใย...ในวันเก่า
อ่านกลอนเศร้า...เมาหัวทิ่ม...ปริ่มโหยหา
อยากคิดถึง...ดึงความคิด...ติดแก้วตา
ร่ำสุรา...ว่ากลอนออก...บอกกับ "จันทร์"
เหล้าเข้าปาก...อยากสิ่งแรก...แยกเธอเขา
พอเริ่มเมา...เขาทิ้งเธอ...เพ้อถึงฉัน
พอฟิวส์ขาด...ปราศเรื่องเศร้า...เรารักกัน
ต่อด้วยฝัน...วันทั้งวัน...ฉันกับเธอ
สองวันแล้ว...แก้วไร้กลิ่น...กินไม่ลง
แม้ยืนตรง...หลงทิศมอง...หมองเสมอ
อยากเดินเป๋...เซไปทรุด...ผุดภาพเธอ
เมาได้เจอ...เธอในฝัน...ฉันจะเมา
ไม่ได้เมา...เราไม่นอน...กลอนไม่เขียน
เพราะไม่เพี้ยน...เขียนอะไร...ใจก็เหงา
ในโลกจริง...ทิ้งกันไป...ไร้แม้เงา
ในโลกเมา...เราเคียงข้าง...สร่างก็เติม
20 พฤษภาคม 2553 11:52 น.
KIRATI
ฟ้าหม่น คนหมอง มองหน้าต่าง
ยืนห่าง เห็นฝน ระคนฝืน
ห่าฝน หล่นไหล ได้แต่ยืน
ห่าปืน ปลอมป่น กับฝนริน
กระจก แตกอยู่ เป็นรูรั่ว
ยืนกลัว ลูกปืน กับลูกหิน
จะอุด สุดฝืน สะอื้นยิน
บ้าบิ่น แน่จริง ยังนิ่งคอย
มองฟ้า ราตรี ที่ มืดมิด
ฟ้าปิด ควันยาง สร้างเมฆคล้อย
เคลื่อนครอบ รอบตึก ตอนดึกพลอย
ควันลอย ลอดช่อง มาห้องเรา
อยากปิด หน้าต่าง ใจจะขาด
เห็นชาติ ถูกยาง มาวางเผา
เป็นสุข หรือทุกข์ กันหนอเรา
มองดาว แล้วเศร้า กับเสียงปืน
พลันเห็น เป็นสาย คล้ายดาวตก
ตลก "ดาวตก" ไยพุ่งขึ้น
เปิดไว้ ให้หวั่น ใจพรั่นพรึน
"ดาวตื่น" พุงขึ้น ทมึนใจ
หน้าต่าง บานนี้ เคยมีสุข
เคยลุก ขึ้นมอง ท้องฟ้าใส
เคยอาบ ภาพฝัน ยามหวั่นใจ
แล้วไย มาพัง หน้าต่างเรา T_T
เพื่อนๆ ที่ได้รับควันยางเผา เข้าไป
ดูแลสุขภาพมากๆ นะ ขอรับ....
สงสาร ท้องฟ้า....แกนโลก เอียงไป ๘ เซนฯ แล้ว
ยังเผากันอยู่ได้....
ความสะใจมัน สั่นคลอนโลกเลย...
จะพูดว่า "ยิงทิ้งก็รุนแรงไป" แต่ .......
ยิงทิ้งเถอะ....
ถ้ายังไม่หยุดเผา....ก็เท่ากับ ฆ่าคนทั้งโลก...
เฮ้อ.......ขอระบาย...นิดนึง..จร้า....
20 พฤษภาคม 2553 10:03 น.
KIRATI
เกิดอะไรในใจ ไทยบางผอง
ที่มานอง เลือดริน ทาถิ่นฐาน
เรียกร้องสิทธิ์ คิดไหม ใครแหลกราญ
ทุบพังบ้าน เมืองตน จนวอดวาย
ยกตัวเอง เป็นใหญ่ นัยสิ่งคิด
ปัดความผิด ก่อกรรม กระทำหมาย
ตนเองถูก ปลูกจิต คิดทำลาย
ก่อการร้าย คุ้มไหม ใครฟังตน
อยากเพียงชี้ ที่เห็น ประเด็นสิทธิ์
คนที่คิด รุนแรง มันแฝงผล
ประโยชน์มัน มันฉวย อำนวยตน
ท่านกับยล มันช่วย อำนวยชัย
ช่วยมันสร้าง ควันพราง ยางเร่งเผา
ช่วยเป็นเป้า ลวงตา พาเคลื่อนไหว
ช่วยมันยิง สิ่งคุ้น กระสุนไฟ
ช่วยด้วยใจ ที่คิด เป็นมิตรจริง
มันคือกลุ่ม นักฆ่า มารับจ้าง
หน้าที่สร้าง รุนแรง แฝงมาสิง
แน่ใจหรือ ถือใช่ "เป็นไทยจริง"
จบเรื่องนิ่ง มันทิ้ง ท่านแน่นอน
จบเรื่องลง ท่านคง ต้องถูกจับ
มันจะกลับ หายไป ไร้ร่างหลอน
ท่านเรียกหา ค่าถูก ปลูกสาทร
เผานคร รุนแรง แฝงอะไร
ใจไม่ชอบ กรอบผิด จิตนำต้าน
กลับปล่อยด้าน มารจิต ผิดมาใช้
จะเรียกร้อง กรอบถูก ปลูกสิ่งใด
แค่"สะใจ" กับซาก เพราะ"ยากจน"
จับไอ้พวกที่เผาบ้าน เผาเมือง มาถาม
ว่า ประชาธิปไตย คือ สิ่งใด
ตอบกันไม่ได้สักคน.........
โทษสูงสุด วางเพลิง คือ ประหารชีวิต