สิริฤกษ์ เกริกถกล ดลพิภพ ราชสมภพ พระจอมราช ชาติสยาม พระบารมี ศรีสวัสดิ์ จำรัสงาม ทั่วเขตคราม แผ่คุ้มเกล้า เหล่าประชา ขอพระสยามเทวาฯ จงอารักษ์ พรหมพิทักษ์ พระภูมินทร์ปิ่นเกศา เถลิงราชย์ นำชาติรุ่ง รุ้งศรัทธา สืบศักดา แห่งขวัญเกล้า ผองเผ่าไทย สืบพระชนมายุครอง ป้องปกปักษ์ ราชจักรีวงษ์ ธ ทรงให้ ขอปวงเทพ เทพารักษ์ ปกปักษ์ภัย พระทรงไชย สยามเจ้า จากเหล่ามาร ขอจงทรง มีพระพลานามัย โรคาภัย พหลเหตุ เภทไพศาล จงผ่านพ่าย ภายรุ่งพ้น ร่นวันวาร ทรงเบิกบาน ในกาลรุ่ง ของพรุ่งวัน น้อมกรานเกล้า ถวายพร ด้วยกลอนกล่าว บังคมกราบ พระบาทท้าวฯ เจ้าจอมขวัญ ขอถวาย พระพรชัยอนันต์ สถิตมั่น เป็นขวัญแคว้น แห่งแผ่นดิน .... ... ขอบพระคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต ขอรับ ^_^
คนติดเฟสเหตุผลคนละอย่าง บางคนสร้าง(กร่าง)ความรู้เป็นครูสอน บางคนเหงาเร้าจิตคิดอาวรณ์(อาทร) บางคนร้อน อารมณ์ ระงมคำ ระบบ “ดาวล้อมเดือน” เป็นเพื่อนไลค์ ต้องแอดให้ เพื่อนมากเหมือนหลากล้ำ เป็นอัตราค่าตอบเมื่อชอบนำ เหมือนจดจำ ซองใครก็ใส่คืน ระบบดาวล้อมเดือนมีเพื่อนติด ต่างแปะคิด ติดป้าย ประกาศรื่น วลีย้ำ นำ“สุข-และทุกข์” ฝืน มากขมขื่น รื่นรมย์ ระงมยิน ทั้งข่าวสารสาระ ณ โลกนี้ ในเฟสมี หลากหลาย มากมายสิ้น เหมือนโลกล้ำ จำแลง แสวงจินต์ เป็นโลกถิ่น...แห่งฝัน อันเลิศลอย พอมองดู ผู้คน บนโลกฝัน สาระพัน ปัญญา(ปัญหา)จะพาด้อย สารพัดความรู้ดูเพริศพลอย ต่างคนคล้อย เคลื่อนค้นอดทนรอ บ้างก็พบ จบสาง กระจ่างกล่าว บ้างก็ยาว เกินไขว่ จะไขว้หนอ บ้างก็ดู รู้ชัดไล่(ไม่)ขัดคอ มิรู้พอ...รู้ผ่าน...ไม่(จะ)ค้านใคร ระบบดาวล้อมเดือนเหมือนตัวตน เป็น“เดือน”ยล ท่าม“ดาว” พราวไสว สกาวแสงแห่งเพ็ญเด่นในใจ สบถด่า ก็ไลค์ ไม่สงกา ระบบดาวล้อมเดือน ...กับเพื่อนเดิม ไร้รักเติม ใจกัน ที่ฉันว่า โลกแห่งฝัน ฉันสุข ทุกเวลา โลกแห่ง“หน้า” หารัก มักไม่มี ในโลกแสงแห่งฝันทันสมัย ไม่กล้าใจ พารัก ไร้พักที่ อยากเห็นเพื่อนเกลื่อนบ้านนานนานที ไม่กี่ปี...ก็เกิน จะเดินไกล อยากทักทายไม่สนคนอื่นเห็น อยากเล่นเป็น เหมือนเดิมเมื่อเริ่มใหม่ อยากหัวเราะเคาะโต๊ะโก๊ะโก๊ะไป อยากทิ้งใจ ไกลจริง ไปวิ่งวน บนความรักครั้งหนึ่งซึ่งเคยรัก และคงรัก อยู่ดี ไม่มีหล่น แต่ติดขัด ประตู ดูชอบกล ที่ทุกคน ท้อแท้ ยอมแพ้มัน ขอเพียงผ่านขานคำเพียงนำบอก ไม่มาหยอก มาแหย่...ยอมแพ้ฝัน อยู่ที่นี้...เรามี กันและกัน อยู่ที่นั้น...มันเหมือน“เดือน”กับ“ดาว” ..... ... .. . ขอบคุณภาพสวยๆจาก Bloggang.com : บ้านสีขาว ขอรับ ^_^
กาลครั้งหนึ่งนานโบราณกล่าว ถึงเรื่องราวของสาวคราวดิถี เหมาะมีคู่ชู้ชื่นรื่นฤดี จึงออกตีท้าดวลชวนแต่งกัน พบชายหนึ่งผึ่งผายชายอกแผ่น หนุ่มวัยแน่น กำดัด หมัดเดียวหัน ปะดวลหมัดอัดร่วงเป็นพวงพลัน สาวมีอันต้องเหิน เดินจากเลย ชายต่อมาชรา...ทว่าโสด ช่างอ้อนโอดเอื้อนเอ่ยเลยถูกเสย สาวจับมัดอัดเดี้ยง บ่ เลี้ยงเชย ไม่ปริเปรย เดินพราก และจากมา สามพบโดย บังเอิญ เดินเดินอยู่ หนึ่งชายคู้ คู่เข่า อยู่เขาผา กำลังอ้อน กลอนเห็น แต่เพ็ญพา เจรจา หว่านล้อม เจ้าเพ็ญเดือน ให้โน้มเอียง เคียงแนบ มาแอบข้าง ยกเรื่องอ้าง...สร้างคำ...ยกนำเหมือน... มีพลัง...ฟังแล้ว...มิแคล้วเดือน ยังโน้มเลื่อน เคลื่อนมา...เหมือนว่าจริง "นี่แหละชายที่ฉันดั้นด้นค้น" สาวรำพึงกับตัวเอง อิอิ เขาคือคนในฝันมั่นจิตหญิง เสน่ห์ล้นพ้นเคราะห์เหมาะแล้วลิง ได้เป็นจริง งานแต่งแห่งตนนาง จึงเอ่ยท้า...อีตา...ว่าคนนั้น หากชกฉัน แพ้เพียง มิเบี่ยงหมาง จะยอมแต่ง แย่งย่อง กะล่องทาง ว่าแล้วขวาง หมัดอัด เพื่อมัดใจ ชายนั้นหมุน หลุนหลบ ตลบสวน ชายหนุ่ม.... “เรามิดวลด้วยเจ้าจะเศร้าไหม” หญิงสาว... “มิทันแล้ว โดนแล้ว พ่อแก้วใจ” “เมื่อกี้ไง...ข้าฯแพ้...แล้วพ่อคุณ” ชายหนุ่ม... “เรานั้นใหญ่เกินเจ้าจะทนได้” หญิงสาว... “จะอย่างไร...ข้าฯพร้อมจะยอมลุ้น ชายหนุ่ม... “มิได้ดอก..บอกเจ้า...ให้เอาบุญ” “มิอาจคุ้น ไฟข้า ดอกยาใจ” ว่าแล้วชาย กลายร่าง เป็นอาทิตย์ ไปฉายฤทธิ์ บนฟ้า สว่างไสว ทิ้งแม่สาว หนาวมอง แม้ข้องใจ แต่พูดไป แม้นมาด มิอาจคืน จึงรวมจิต ทูนไฟ ไว้บนหัว ทนร้อนตัว ละลายไหลหยดพื้น สาวนั้น ฤา คือเทียน เที่ยนหยดยืน หยดลงผืน อาดูร เพราะทูนไฟ...เอิ๊กๆๆๆ อิอิ ขอขอบพระคุณภาพสวยๆจากอินเตอร์เน็ตขอรับ...^^"
ม่ายอยากเป็ง เลี้ยวคงลี ที่น่าคก จะขอจก...กางทำลี ที่เคยเห็ง เป็งโจงป่า ที่หน้าโหก และโกรกเป็ง เลิกลำเค็ง ทงเจ็กซ้ำ ระกำกลืง ใครลั้งหัก จาหลักตี ม่ายมีหยุก โหกฝุกฝุก...จะฉุกคร่า มาข่มขืง ก่องอื่งต้อง มองหามีก กะหาปืง ใครขักขืง...จากะซวก จวกม่ายนัก (ไม่เลี้ยง แฮ่ๆๆๆ) มาแระเหยื่อ มาหนึ่งราย เลิงมาแระ “อ่ะนั่นแน่ะ ปายไหนมา รึน้องครัก” (ที่จริงต้องน้องงงง ฉาวววว อิอิ) “ไปหาหมอ แม่ป่วยใจ เป็นไข้จับ” ไม่สิ้นศักท์ แสงสุภาพ จาหยักคาย เถียมยางส่ง น้องเค้าบึ่ง ปายถึงบ้าง หงุกหงิกใจ จงเลิงผ่าง หน้าร้างขาย ชักมีกก้าว เข้าไปกะ เทียงให้ตาย เสียงร้องว๊ายยย...อยู่นี่เอง คร๊าขอบคุง ( กึ๊ย ) !!! แม่ค้าลึง มีกเอาไป ตกใจวูบ... เอามือลูบ ตบหน้าอก...ผงกหุง- -หังออกมา หน้า งง งง ตรงบุงคุง ให้ว้าวุ่ง ใจสับสง คงม่ายกลัว ม่ายล่ายสิ...เป็งคงลี ม่ายมีเกิก ต้องระเบิก ให้เปิกเปิง เถลิงซั่ว ว่าเลี้ยวคิก กางปล้งผลาง ร้างทองชัวร์ จาเอาตัว ไปถือปืง ยืงเป็งโจง ฮิฮิ เปิกประตู ชูชักปืง ยืงตัวสั่ง... คงหนึ่งมัง หังมาเห็ง ร้องเป็งโขง เฮ้ย รายหว่า ..มังเอ่ยก่อง ร่องปืงโยง เฮียกระโจง เข้ากอกรัก จักมักมือ “ขอกคุงมาก ขอกคุงล่วย ที่ซ่วยอั๊ว ไอ้ตัวซั่ว มังมาปล้ง ขงทองถือ ฟามลีลื้อ ต้องโล่งลัง หยั่งเลืองลือ อั๊วขอซื่อ...ลื้อจักโหน่ย จาล่ายม้าย” อั๊ยฉ่า...นี่ มังอาราย ของมังวะ (เสียงอั๊วเอง อิอิ) ตรูแค่จะ เป็งคงเลว ทำเหลวหลาย กลักคล้ายพระ คอยมาอุ้ม และคุ้มพาย ทำอาราย ก็ลูลี...ลีไปหม๊ก อยากกิงหมา อยากฆ่าคง อยากปล้งแบงค์ ขี้เกียกแข่ง...กะชะตา ฟ้ากำหนก ล้วงกาเป๋า เกากาป๋อง...ต้องรันทก “ลี”แต่“อก”...ใต้“กกหมาย ในมือโจง”...เฮ้อออ.... แปลเลี้ยว ลังนี้....(แปลแล้ว ดังนี้ ) ไม่อยากเป็น แล้วคนดี ที่น่าคบ จะขอจบ การทำดี ที่เคยเห็น เป็นโจรป่า ที่หน้าโหด และโกรธเป็น เลิกลำเค็ญ จนเจ็บช้ำ ระกำกลืน ใครดั้งหัก จะดักตี ไม่มีหยุด โหด สุดสุด จะฉุดคร่า มาข่มขืน ก่อนอื่นต้อง มองหามีด กับหาปืน ใครขัดขืน จะกะซวก จากไม่นับ มาแล้วเหยื่อ มาหนึ่งราย เดินมาแระ “อ่ะนั่นแน่ะ ไปไหนมา รึน้องครับ” “ไปหาหมอ แม่ป่วยใจ เป็นไข้จับ” ไม่สิ้นศัพท์แสงสุภาพ จะหยาบคาย แถมยังส่ง น้องเขาบึ่ง ไปถึงบ้าน หงุดหงิดใจ จนเดินผ่าน หน้าร้านขาย ชักมีดก้าวเข้าไปกะ แทงให้ตาย เสียงร้อง ว๊าย...อยู่นี่เอง ค่ะขอบคุณ แม่ค้าดึง มีดเอาไป ตกใจวูบ เอามือลูบ ตบหน้าอก...ผงกหุน- หันออกมา หน้า งง งง ตรงบุญคุณ ให้ว้าวุ่น ใจสับสน คนไม่กลัว ไม่ได้สิ เป็นคนดี ไม่มีเกิด ต้องระเบิด ให้เปิดเปิง เถลิงชั่ว ว่าแล้วคิดการปล้นผลาญ ร้านทองชัวร์ จะเอาตัว ไปถือปืน ยืนเป็นโจร เปิดประตู ชูชักปืน ยืนตัวสั่น คนหนึ่งมัน หันมาเห็น ร้องเป็นโขน เฮ้ย รายหว่า มันเอ่ยก่อน ร่อนปืนโยน เฮียกระโจน เข้ากอดรัด จับมัดมือ "ขอบคุณมาก ขอบคุณด้วย ที่ช่วยอั๊ว ไอ้ตัวชั่ว มันมาปล้น ขนทองถือ ความดีลื้อ ต้องโด่งดัง อย่างเลื่องลือ อั๊วขอชื่อ ลื้อซักหน่อย จะได้ไหม" อั๊ยฉ่าา นี่...มันอะไร ของมันวะ ตรูแค่จะ เป็นคนเลว ทำเหลวไหล กลับคล้ายพระ คอยมาอุ้ม และคุ้มภัย ทำอะไร ก็ดูดี ดีไปหมด อยากกินหมา อยากฆ่าคน อยากปล้นแบงค์ ขี้เกียจแข่ง กับชะตา ฟ้ากำหนด ล้วงกระเป๋าเกากระป๋อง ต้องรันทด ดี แต่ อด ใต้กฎหมาย ในมือโจง อิอิ ... ... ขอกพระคุงภาพจากเน็ก...อิอิ ^O^
เจ้าหนู "ชาย"กะเจ้าหนู "แกละ"เค้าคุยกัน ^_^
ชาย... : แกละ...แกอยากได้ตังค์มะ แกละ... : อยากได้ดิ............... ยังไงอ่ะ ชาย... : ข้าฯมีวิธีหาตังค์จากพวกผู้ใหญ่ ง่ายๆด้วยแระ แกละ... : เหร๊อๆๆ สอนข้ามั่งดิ ชาย... : ได้ ข้าฯสอนให้ เฮ้ยไอ้ “แกละ”แกอยากได้เงินใช้ไหม อยากซิ “ชาย” มันจะได้ ยังไงหรือ "กันบอกแก แค่บอกให้ ผู้ใหญ่คือ ความลับอื้อ แกรู้หมด ทุกบทตอน" บอกแม่ไป ว่าแกรู้ หมดทุกอย่าง แม่เต้นผาง รีบห้ามพูด เดี๋ยวเดือดร้อน นี่ร้อยนึง เงียบให้ไว ไม่ต้องทอน พ่อแกนอน อยู่โซฟาอย่าเสียงดัง “แกละ”ได้ตังค์ อย่าง“ชาย”พูด พิสูจน์ว่า วิธีหา กะตังค์ใช้ ดั่งใจหวัง กระหยิ่มคิด พอเจอะพ่อ เข้าจังจัง บอกเสียงดัง ว่าผมรู้ ขู่ไปเลย พ่อทำปาก บอกจุ๊จุ๊ อย่าขู่จิ เอาตังนี่ ไปซื้อถั่ว ทำตัวเฉย แกละดีใจ ได้ตังมา...พาเสบย วางเท้าเกย นอนหน้าบ้าน สำราญรมย์ เห็นบุรุษไปรษณีย์ที่หน้าบ้าน แวะส่งสาร จดหมายชู แกละรู้สม ตรงเข้าไปขยิบตา พี่หน้ากลม คิดคารม...เตรียมกล่อมให้ ไปรษณีย์ “ผมรู้เรื่องทุกเงื่อนความทั้งหมดแล้ว” ไปรษณีย์ ทำตาแวว แล้วกันนี่....(T_T ) “โถ ลูกพ่อ เจ้ารู้แล้ว รึคนดี ว่าพ่อนี้ คือพ่อเจ้า...เจ้าแกละเอย”เอิ๊กๆๆ
ขอบพระคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต ขอรับ...^_^