27 ตุลาคม 2554 20:58 น.
KIRATI
ฝูงหมาป่าบนฝ้าหลังผนังบ้าน
ไต่ขื่อคานใต้หลังคาฝาบ้านฉัน
มืดค่ำล้อมพร้อมออกล่าหากินกัน
ไฟแสงจันทร์แจ่มกระจ่างออกย่างกราย
เริ่มบรรเลงเพลงสังหารรับทานหมู่
แมลงภู่โฉบเฉี่ยวแสงส่องแรงฉาย
หมาป่าจกโฉบฉกกัดซัดกระจาย
ยักโยกย้ายเยื้องอย่างย่องจ้องเหยื่อรอ
ไร้เสียงร่ำจะคร่ำครวญสวนสังหาร
แมงเป็นล้านเริงเล่นไฟไร้จิตหงอ
ดื่นระดกจิ้งจกลิ้น...กินให้พอ
เหมือนเปิดฟลอร์ สังเวยเซ่นบินเล่นไฟ
หมาป่าไต่ไล่เรียงตัวไม่กลัวอด
แมลงตดเกาะฝานิ่งมิติงไหว
จิ้งจกจ้องย่องประชิดติดวงใน
ฉกเข้าให้ ต้องคายผุยถุยทันที
จ้องดูจกตลกมองนั่งจ้องติด
จกถูกพิษตดติดปากขากถุยหนี
ผิดโอชะตะกละโจนเลยโดนดี
บทเรียนนี้ต้องจำจด ตดห้ามกิน
ฝูงหมาป่าแห่งขื่อคาคือจิ้งจก
เทินของยก...หนีน้ำท่วมอ่วมถวิล
มองจิ้งจกตลกไปให้ชอบชิน
น้ำตาริน...ท่วมทั่วถิ่นไร้ดินเดิน
ต้องมองฝามองฝ้าไปใจรันทด
ทำใจลด ปลดทุกข์ใจในถิ่นเถิน
รอน้ำลงนั่งปลงเบื่อนานเหลือเกิน
หาภาพเพลินเห็นจิ้งจกตลกใจ
พอรับได้กับหมาป่าบนฝาบ้าน
แต่ที่ย่าน...มากว่าจกอกหวั่นไหว
โตกว่าจก เจอ อกสั่นหวั่นหทัย
ตุ๊กแกไต่ ตัวเท่าศอกจะออกมา
คิดเอาไว้ถ้าเจองูเจอหนูริ่ง
หรือเป็นปลิง ก็นิ่งใจไม่ผวา
แต่เสือใหญ่ตัวร้ายซ่อนหลอนอุรา
ระทึกคราทุกทีที่มีเสียงคราง
จึงพับเรือวางเหยื่อล่อรอให้เข้า
คิดส่งเจ้า ไปท่องโลกอย่าโศกหมาง
จงล่องลอยแล้วคล้อยไกลไปตามทาง
กระดาษบาง ลอยไม่ได้ตายแน่นอน (เสะตรูๆ ฮ่าๆ)
เสียงกระเซ้าเร้าระรัวตัวซ่อนแอบ
ระทึกแทบ ครวญข้องจิตคิดทอดถอน
เสียงตั๊กแก ดังขึ้นขู่ เหมือนจูออน
น้ำลดก่อน... คอยได้ไหมไม่อยากฟัง
เกิดมายังไม่เคยชินยินเสียงใกล้
อยู่ที่ไหน จงซ่อนต่ออย่าล่อหลัง
จิ้งจกจุ๊...ตุ๊กแกร้อง..ก้องเสียงดัง
น้ำท่วมยัง...ไม่กลัวเท่า เจ้าโผล่ตัว...
กลัวที่ไหน ไม่เคยกลัว แค่ตัวสั่น
คิดแค่หวั่น มันกระโดดมาเกาะหัว
เคยมาแล้วมันโดดใส่มาไต่ตัว (ขออนุญาตซ้ำคำ อิอิ)
ใครว่ากลัว แค่หัวใจ...เกือบหยุดเดิน (มั้ยล่ะ)
3 ตุลาคม 2554 11:37 น.
KIRATI
ฉันก็มีสิทธิ์ได้ใช้ชีวิต
เธอมีสิทธิ์อะไรมากินฉัน
เธอถือสิทธิ์คิดว่าเป็นใครกัน
มากินฉัน...ทำใจได้ลงคอ
ไม่เลี้ยงดูอยู่ใกล้ยังใจร้าย
ฆ่าฉันตาย ต้มผัด มัดย่างหนอ
สับร่างฉันปั้นบดกดใบยอ
ต้มยำหม้อ ไฟย้ำ ซ้ำให้ตาย
ทั้งที่เธอไม่เคยได้รู้จัก
ไม่เคยรักอ้างคิดสิทธิ์ซื้อขาย
สับฉันเป็นชิ้นชิ้นจนสิ้นลาย
แล้วขึ้นป้าย ขายฉัน...มันอะไร
ไหนบอกสิที่ฉันนอนนิ่งอยู่
เคยมองดู...เห็นสิทธิ์ ชีวิตไหม?
ปากถือศีลกินเนื้อไม่เชื่อใน
บาปบุญใจ ไหลย้อน...ตอนเธอกิน
ชาตินี้เธอ กินฉันฉันไม่รู้
ชาติหน้าดู...เธอต้องหมองถวิล
ถูกเขาเลี้ยงเพียงรอคอเลือดริน
ทบทับจินต์ ถูกเลือกไปเชือดคอ
คนเขียนกลอนบทนี้เขาไม่เกี่ยว
ฉันแค่เลี้ยวเข้าสิงเขียนสิ่งขอ
โปรดงดกินเนื้อฉันเท่านั้นพอ
ไส้กรอกก็...บ่ ได้ ไม่ให้กิน อิอิ
23 กันยายน 2554 13:43 น.
KIRATI
น้องใส่เสื้อแดง แข็งแรงจริงเน๊าะโฉมยง
เมื่อวานเห็นน้องยกโอ่ง หลังตรงอกตึงผึงผาย...
สิบล้อจอดขวาง พี่ยังเคลื่อนมันไม่ได้
สิบล้อไม่มีฟาร์มหมาย เคลื่อนมันสบาย สบายน้องเลย
เห็นน้องเดินเดี่ยว เปลี่ยวทางกลางดงพงร้าง
และแล้วไอ้หนุ่มข้างทาง มันย่างเดินอย่างเปิดเผย
คงหมายจะฉุด นวลนุช เข้าป่าไปเลย
อกพี่นี่สุดเฉลย ไม่ทันจะเปรย เฉลยห้ามมัน
ตาย...แน่ไอ้หนุ่ม อุตส่าห์ซุ่มรักดักฉุด
ดันเจอะมนุษย์ เสื้อแดงอย่างแม่จอมขวัญ
เธอเดินออกมา เสื้อผ้าอยู่ครบ ปากมัน
ปากแดง แถมตะโกนลั่น สวรรค์น้อยๆอยู่ในวงฟ้อนรำ อิอิ
อย่า ชี เลียด อิอิ ใบโพธิ์ล่า แผลงฤทธิ์ 55555+
1 สิงหาคม 2554 12:16 น.
KIRATI
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น......ถ้าหากฝันยังอิงอุ่น
คู่แล้ว บ่ แคล้วบุญ..... ประดับรักสลักทรวง...
เพียงโฉมชะโลมจิต.... มาจุมพิตลิขิตสรวง
บ่ ล้า จะฝ่าดวง............ ประคองมั่น สักวันมี....
" สู้ไป อย่าบ่น" อิอิ .....^_^
เพลินเด่นเป็นเดือนลอยเลื่อนฟ้า
คุณค่าเดือนลอยดูด้อยแสง
ยามเมฆหม่นดำเข้าสำแดง
ลดแรงเด่นแสงแห่งเดือนดวง
"อย่าอยู่ในเงาหม่นแห่งเมฆา"....^_^
29 กรกฎาคม 2554 10:26 น.
KIRATI
แม้นรักแล้วแคล้วคลาดมิอาจอยู่
จะครองคู่เคียงไปอย่างใจหมาย
ถูกแบ่งชั้นกั้นขวางจนห่างกาย
ก็ขอตายเพื่อให้...ใจคู่กัน
นับราตรีที่เพ็ญขึ้นเด่นฟ้า
สัญญาว่า สองเราจะสุขสันต์
เอาชีวิตปลิดไปใต้แสงจันทร์
ดับด้วยกันอย่างฝันนะขวัญใจ
ครันราตรีสีแสงแห่งเพ็ญพร่าง
และแล้วร่างหนึ่งลับ ดับชีพขัย
ไปรอตรงขอบฟ้าว่าแสนไกล
แต่ไฉน...อีกใจ... ไม่ตามมา
ณ อีกฝั่งร่างหนึ่งไม่ถึงฆาต
แต่พยาธิตายแทนเป็นแสนว่า
คว้าขวดรินกินรวดสองขวดยา
ฟูก้าคากะเบนด้า ฆ่าตัวตาย
ขอไว้อาลัยกะตัวที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว...T_T