เมื่อลิขิตชักพาให้มาพบ
วันที่คบ ฉันเธอ...มิเผลอไผล
หยอกเล่นกัน...ไปมาพาสุขใจ
จวบถึงวัย...เปลี่ยนแปลง...ยังแกล้งกัน
แล้ววันหนึ่ง...ถึงวันที่ฉันพลาด
เรื่องเกินคาด...เกิดขึ้น...วันหนึ่งนั้น
ความเดียงสาพาใจให้ถึงวัน
เธอกับฉัน....สร้างเรื่องจนเคืองความ
เธอร้องไห้จนครูเกิดรู้เข้า
คุณครูเขา... ลงดาบคาดคั้นถาม
จะเอาผิดติดคุก...เรื่องลุกลาม
กล่าวประนาม...หยามเหยียดในเกียรติยิน
ว่าเธอเป็น.....ผู้ชายไม่อายหรือ
หรือเธอถือ...เป็นชายมิอายสิ้น
เรื่องทางเพศเหตุการณ์บานระบิล
น้ำตาริน...กุมเข่า ก่อนเล่าฟัง
“เธอยั่วยวน...เสียจนทนไม่ได้
เลยต้องพ่าย..จิตตนจนผิดพลั้ง
ถ้าเธอหยุด...ยั่วด่ามิพาชัง
คงยับยั้ง...ชั่งใจ...ไม่เตะเธอ”
เหตุเกิดเมื่อตอนขึ้น ม.๒ เทอมแรก
เจ้าณุ เพื่อนของผม....
เจ้าภา...ก็เพื่อนผม อีกนั่นแหละ...แต่เธออยู่คนละห้องกะพวกผม
เค้าสองคน สนิทกัน ชอบแหย่ชอบหยอกกันไปมา
จนเหมือนจะเป็นแควนกัน อิอิ
จากที่เคยกัดกันตลอดศก... ก็เลยดูจะเพลาๆลง
และแล้ววันหนึ่ง...ทั้งคู่ก็กลับมาหยอกกันใหม่
หยอกกันมา...หยอกกันไป
แต่เหมือนจะสนิทกันเกินเหตุ แฮ่ะ......
เพราะมันเริ่มหนักขึ้น (มีล้อชื่อพ่อชื่อแม่ด้วย...(เสียงต่ำ))... ~_~“
หนักเข้ากลายเป็นด่ากัน...
ไม่ทันคิด... เจ้าภาฉวยรองเท้าขว้างเข้าให้... รองเท้าเจ้ากรรมก็ดันไปโดนหัว เจ้าณุ....
เจ้าณุ โกรธ ตาแดงกล่ำ...อาการต่อล้อต่อเถียงหายไปเรยย...
จำได้ว่า บรรยากาศ มาคุ มากกกกก ๆ .....ตอนนั้น เจ้าณุ...ตามันเริ่มจะขวางเหมือนบางแก้วแระดิ
เจ้าภา เห็นอย่างนั้น...แทนที่จะหยุด....ยังไม่วายจะยั่วเจ้าณุต่อ...ไม่ยอมเลิกอีกแน่ะ
ก่อนทีทุกอย่างจะจบลง....ถ้าพวกผมรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้...
มีรึ ที่ เจ้าณุจะเสียเตะแรกให้กับผู้หญิงคนนี้ อิอิ
เจ้าณุ หันหลัง เดินขึ้นบันไดไปได้แค่สามก้าว...
มันก็กระโดดหมุนตัวเตะก้านคอ วิภาวดี...ล้มตึง แบบเพอเฟคเท็น...เต็มสิบเรย...ป้าดดดด
ไร้เสียง...
นิ่งสนิท...
ราวกับนักยิมนาสติกรัสเซีย สิงร่างเธออยู่...ยังไงยังงั้น...
พอสิ้นเสียงตุ๊บจาก ...ร่างอันใหญ่โต...(เด็กผู้หญิงโตกว่าเด็กผู้ชายนะ ตอน ม.๒ อ่ะ ตัวใหญ่ยักษ์มาก )
ล้มลงกระแทกพื้น...ตาค้าง....เจ้าภา นิ่งไปครู่นึง...
ประมาณ สิบกว่า วิ.ได้
แล้วจู่ๆ ก็นอนแหกปากท่าไหนท่านั้น...ไม่ยอมหยุด...
(อ้อลืมบอกไป...วันนั้นเป็นวันหยุด...นัดกันมาเล่นที่โรงเรียน)
พวกผมก็ เลยรีบคว้าคอเจ้าณุสลายโต๋ทันที...ทิ้งเจ้าภาร้องดิ้นกระแด่วๆอยู่ตรงนั้น...
ยั่วดีนัก...โดนไปป้าบบบนึง...อิอิ
เป็นเรื่องใหญ่เลยยย...เพราะยัยคุงเธอ...ดันเอาแต่ร้องไห้...
ครูเวร...ก็เลย ตีโพยตีพายว่า...ชัวร์ เรื่องทางเพศ แหงมๆ
พอเล่าความจริงให้ฟัง ยังไม่ยอมเชื่ออีกแน่ะ ....
แล้วก็สรุปความว่า...ยังไง ๆ ก็เป็นเรื่องทางเพศอยู่ดี นั่นแหละ...กึ๊ย...555555555+
เจ้าณุ ได้เคยกล่าวไว้ว่า...
วิภาวดี.... เธอ....เป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันเตะ...
และเธอยังคงเป็นคนล่าสุด...อยู่...
แต่คงยังไม่สุดท้ายหรอกนะ? เพราะฉันไม่รู้ว่า...ฉันจะมีโอกาสอย่างนั้นอีกอ่ะเป่า อิอิ)
สำหรับเธอ...
วิษณุเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้เตะเธอ...
แต่ไม่รู้จะเป็นคนสุดท้ายรึไม่? ...
ด้วยเหตุผล ที่ว่า...เธอโดนเตะตั้งแต่เด็กๆ เป็นสาวจะเหลือรึ? (ยั่วเก่งจริงๆ) อิอิ
เขียนกลอนติด คิดเบื่อเบื่อ แบบอยากอยาก
ยิ่งเขียนมาก ก็ยากจิตจะคิดเขียน
ฉันทลักษณ์วางอักษรดั่งกลอนเพียร
คิดวนเวียน...อยากเพี้ยนจิต ลองผิดดู
ไม่ต้องคิดให้ผิดถูกเพียงผูกผัง
เขียนไปหยั่ง...ที่ตั้งใจจะใคร่รู้
คล้องไม่คล้องอยากลองเขียนไม่เพียรดู
ตามใจหนู...ดูกันบ้าง ในทางกลอน
เริ่มล่ะนะ..จ๊ะจะเขียนแบบเพี้ยนสุด
ที่มนุษย์...เหล่ากวีศรีอักษร
จะระเบิดความมันส์ในคำกลอน
ซ้ำทุกตอน พวกหนูหนู...ห้ามทำตาม อิอิ
โอ้เวลา...ณ พารา...จะครานี้
ปวดกบาล มารตี ศรีสยาม
วัดจะเดาะห์เคราะห์จะได๋ จะใคร่ปราม
มิอาจห้าม ข้าพข้อย จะด๋อยดง
จะโดดดินแล้วดิ่งดำไปด่ำดื่ม
สัมผัสลืม...สักพักหาย คลายประสงค์
เพื่อเปลื้องปลดทุกกฏ ก ติกาคง
ฉวัดวง บรรจงหวดปรวดใจ
ขอเชิญชวนพ่อมวลภมรต่อ... (เอาจิ)
เหมือนฝูงปลาพากายมาว่ายแหวก ใต้สาแหรกแหวกว่ายในละหาน หลบพักคลื่นครืนเครงในเพรงกาล เปรียบร่มลาน...บ้านเก่ามาเกลากลอน หัดต่อเสียงเรียงคำมานำต่อ ถูกผิดพอ...อภัยในอักษร ขอเพียงจิตคิดใฝ่แม้ไร้พร สวรรค์อ้อน...เอื้อนได้(อย่า,ไม่)อายใคร แค่หาคำนำโยงพยางค์วาง นึกโครงร่างสร้างบทกำหนดไว้ สัมผัสผูกถูกผังทั้งนอกใน ที่เหลือ “ใจกับจิต” พิชิตกลัว สาแหรกนี้มีขึ้นด้วยปีกฟ้า อัลมิตรา ดุแล แม่ทูนหัว โลกลับแลแห่งกลอนอักษร พัว- -พันรักทั่ว โลกศิลป์ ในถิ่นไทย หนึ่งในเวปกลอนดีที่เป็นหนึ่ง สายใยซึ้ง...ตรึงตราอัชฌาสัย ใช่เพียงเวป...เสพอ่านสำราญใจ เพราะอะไร....ไม่รู้ต้องดูเอง สมัครง่ายย้ายยากไม่อยากจบ อุ่นอวลอบไมตรี...มิข่มเหง แอบกระเซ้าเย้าแย่แลบรรเลง เหมือนบทเพลง...ร้องร่ำเป็นทำนอง ตระเตรียมงานการเหนื่อยแล้วเมื่อยล้า เพียงพักพา กมลที่หม่นหมอง หอบอารมณ์จ่มฝันมากลั่นกรอง เบิกบ้านช่อง ห้องหับสดับจินต์ (จินตนา) ตะนาการแห่งศรี...วลีถ้อย เพื่อเพียงปล่อย...ลวดลายระบายลิ้น จะยอกจิก...หยิกกัด...ก็ชัดยิน ยิ้มถ้วนถิ่น...ทุ่งกานท์ในบ้านกลอน @@@@@@@@@@@@ ปีกฟ้าสู้ สู้..... ปีกฟ้าสู้ตาย.... ปีกฟ้ามีกาย.... เป็นลายพาดกลอน ปีกฟ้าสู้ สู้ ปีกฟ้าอย่านอน.... จงสร้างบ้านกลอน ให้พวกเราเฮย...อิอิ ในนามของสมาชิกบ้านกลอน(สมอ้าง กิกิ) ขอเป็นกำลังใจ ให้ปีกฟ้า แอนด์ ดิ อัลมิตรา ขอ....อย่ายอมแพ้... อย่าอ่อนแอ แม้จะร้องไห้... จงลุกขึ้นสู้ไป.... จุดหมาย.... ไม่ไกลเกินจริง... บ่งบอกวัยมาก อิอิ
อวลอบอ้าวผ่าวร้อนนอนเหงื่อแตก
หยดเหงื่อแผก...แตกหยดรดรินหมอน
ลามหลั่งไหลไคลย้อยน้อยอาภรณ์
เมษาฯก่อน...ร้อนปนฝนพร่างพราย
ร้อนคนคิดติดแอร์แพ้อากาศ
เกลื่อนตลาด...ปองสมภิรมย์หมาย
บ่งเบอร์ห้าบ้าซื้อ...ยื้อสบาย
กี่มากมาย...สู้ร้อนนอนห้องแอร์
เพราะโลกร้อนคนร้อนนอนไม่หลับ
รถราขับ....ติดเครื่อง เมืองจึงแพ้
เป็นนครร้อนเรืองทุกเรื่องแล
ยิ่งขุดแร่แปรธาตุ....วาดเป็นเงิน
โลกจึงร้อน...ร้อนขึ้นทะมึนโลก
วิปโยค...อดสูอยู่ขัดเขิน
น้ำแข็งขั้วทั่วโลกบักโกรกเกิน
ละลายเชิญ...ท่วมเททะเลธาร
จึงมีแต่...แอร์ใจไว้ไล่ร้อน
จะขอนอน...เปียกเหงื่อเพื่อแตกฉาน
ขอรักษ์โลก...โศกจิตพิชิตกาล
ร้อนเป็นทาน...บุญแผ่แก่โลกเฮา
ผู้รับเคราะห์คลาดไปในรุ่นนี้
ตายเป็นผี...ผ่านไปใครล่ะเผา
รุ่นต่อชาติ...อาจไม่...มีวัยเยาว์
เพราะพวกเรา...เผาโลกเสียโศกซม