13 มีนาคม 2552 14:58 น.
KIRATI
อยากจะมีใคร...เพียงไว้ให้คอย...ต่อล้อต่อเถียง
อยากเพียงมีใคร...ไว้คอยบ่ายเบี่ยง...เกี่ยงกันหุงข้าว
อยากแค่มีใคร...มาคอยแย่งร่ม...ตอนฝนหล่นพราว
อยากนั่งนอนหาว...สลับนับดาว...ใต้เงาจันทรา
อยากซุกเบียดกาย...ในใต้ผ้าห่ม...ตอนลมเริ่มหนาว
อยากนอนตื่นเช้า...ยินเร้าเสียงใส่...ให้ไปซักผ้า
อยากเดินซื้อของ...ต้องเหมือนสองชิ้น...แบบชินอุรา
อยากมองจ้องตา...รอให้ถามว่า...ฉันสวยไหมเธอ
อยากเจอนรก...ที่เพื่อนมันบอก...มันหลอกรึเปล่า
อยากทำกับข้าว...เธอหั่นฉันซอย...คอยนำเสนอ
อยากอาบน้ำให้...นวดไหล่สระหัว...ถูตัวให้เธอ
อยากนอนละเมอ...มีเธอคอยปลุก...ซุกอกปลอบโยน
อยากโอบแขนป้อง...ปกป้องทุกเหตุ...จากเภทภัยมี
อยากเอ่ยวจี...คำว่าที่รัก...สักหมื่นพันหน
อยากนอนร่วมคิด...เมื่อติดปัญหา...เกี่ยวขาหัวชน
อยากร่วมทุกข์ทน...รวยจนสุขล้น...ทุกหนที่เป็น
อยากนับนานา...เพราะว่าไม่มี...คนที่จะใช่
อยากรับห้วงใจ...เพราะวัยเริ่มทอง...ต้องมองให้เห็น
อยากดิ่งลงเหว...แห่งรักทักทอ...ต่อให้ลำเค็ญ
อยากขอแค่เป็น...เส้นเลือดหัวใจ...ของใครสักคน....
13 มีนาคม 2552 14:49 น.
KIRATI
อุษยะ ในมนุษย์ สุดประเสริฐ
จรุงเลิศ เลอค่า ว่าจิตเห็น
มนคือใจ ใฝ่พบธรรม ใคร่บำเพ็ญ
หลอมรวมเป็น เช่น มนุษย์ ดุจยินยล
เรียก มนุษย์ เพราะผุดผ่อง ต้องดวงจิต
กลับเหลิงสิทธิ์ ด้วยจิตยล จนสับสน
ระเริงวาย ในสายธาร ณ วารวน
เรียกว่า คน เพราะปนปะ ระคนเริง
4 มีนาคม 2552 13:38 น.
KIRATI
ใครใคร่ลอก ต่ออ้าง กลอนยล
แลกล่าวสิทธิ์ กลอนตน ชั่วช้า
จิต บ่ เจียม ฤา จนใจ ต่อ ตนนา
คงจิตชั่ว เกินกล้า แก่งแล้ง ยินดี
ปราชญ์จักมี ฤาหาได้ กล่อมเกลา
ชอบแต่จด ลอกเอา ใฝ่เน้น
คงดีแต่ โง่เขลา เอาแต่ ลอกเป็น
เจ้าของเห็น กลับเร้น บ่ น้อม นำพา
แม้กลอนกา เขียนสร้าง มิตรชม
หวังก่อจิต ภิรมย์ ก่อไว้
ใช่ บ่ หมาย ใครสม เกินล่ำ หยามใจ
มาฉวยไป่ บอกไซร้ บ่ รู้ ผิดชอบ
หากเพียงชอบ ผ่านให้ ลอยรน
เราก่อคง เพียงวน ถ่มถ้อย
ฤา ควร ก่อจิตชน ถามก่น คนถ่อย
ใช่ปล่อย เล็กน้อย พี่น้อง บ้านกลอน....