30 มีนาคม 2552 14:51 น.
KIRATI
เหมือนดั่งนก ที่ผกผิน บินบนฟ้า
มองนภา ณ เบื้องหน้า ดั่งภาพฝัน
นกผกผิน บินเฉวียน เคียงคู่กัน
ฝันเพียงวัน เหมือนนกมัน ได้ร่อนบิน
อิสระ สมดั่งหวัง สักครั้งเถิด
จะบรรเจิด และเฉิดฉาย ยามผกผิน
ขับพลัง ที่ฝังไว้ ใต้ชีวิน
เปล่งเสียงยิน สดับได้ ในใจเรา
เฝ้าแต่ไขว่ ใฝ่แต่คว้า ตามหาหวัง
สุมพลัง กลั้นเป็นทุน ดุลความเหงา
รอเวลา จะปลดปล่อย จากใจเรา
ม้วนความเศร้า เอาความทุกข์ ผูกเก็บวาง
เพียงหัวใจ อยากได้เป็น เช่นนกร่อน
เริงลมรอน ทิฆัมพร ตอนรุ่งสาง
ก่อนชีวิน จักสิ้นลับ ดับสิ้นวาง
บนเส้นทาง ที่อ้างว้าง แลเฝ้าคอย
30 มีนาคม 2552 14:45 น.
KIRATI
ริมเรียงระเบียงรับ
เสียงกล่อมขับ วังเวงแว่ว
เอนหลังฟังเพียงแผ่ว
เสียงเจื้อยแจ้ว รัญจวนใจ
จิบชานั่งรับลม
ลมพร่างพรม ห่มเนื้อกาย
ดื่มด่ำฉ่ำชื่นใจ
ปลดปล่อยคลาย ในสายลม
ร้อยเรียงร่ายวลี
เริงฤดี หนีทุกข์ข่ม
จิตผ่องต้องนิยม
เป็นชื่นชม ในบทกลอน
ทิ้งสรรพรางจิต
เกิดนิมิต สะกิดพร
พรั่งพรูร่ายพันกลอน
ดับนิวรณ์ กังวลลา
เพียงพาใจสงบ
เพียรเพื่อพบ สงบตา
สงบจิต ริษยา
สงบพา สติมี
เพียงพลัน สงบกาย
เรียงร้อยใจ ให้คงที่
ปลิดทุกข์ เป็นสุขดี
เพียงหลีกลี้ กังวลไป
ริมเรียง ระเบียงบ้าน
เสียงขับขาน ที่ก้องไกล
เอนหลัง ฟังหัวใจ
เสียงข้างใน ที่ก้องดัง
เปิดจิต ที่ขุ่นข้อง
ที่หม่นหมอง ลองสักครั้ง
ปล่อยวาง ที่ความชัง
ด้วยใจหวัง ดั่งคำกลอน
27 มีนาคม 2552 15:44 น.
KIRATI
สุโขทัย ผ่านพ้น สืบมา
ประดิษฐ์ อักขรา ก่อให้
สยามรุ่ง รักษา สืบรุ่น อักษร
เรืองศิลป์ ค่า สืบไซร้ ชั่วฟ้า ดินแฮ
พอ...ยลแล ตัวหนึ่งต้อง ตรองไป
เพียงหนึ่งใน อักษรไทย บ่ อ้าง
ดูความประหนึ่งถามไข จิตใคร่ ตรองนา
ชอกะเฌอ สลักสร้าง ใฝ่ด้วย ใดเดา
เพราะเพียงเรา ห่อนรู้ ความมี
เหตุจำหลัก สลักตี ก่อไว้
คงเพียงเพื่อ เฌอมาลย์ศรี มีชื่อ อักษร
ตลอดชีพ พิมพ์ให้ หนึ่งนั้น นางเดียว
จึงเฉลียวจิต สั่งให้ ขอบคุณ นวลเฮย
หาก บ่ หมาย นามจุน เจื่อยแจ้ว
เฌอมาลย์ดั่งนามบุญ คุณก่อ จิตแฮ....
แลผลส่ง นามแพร้ว.... เพื่อนพร้อง พิมพ์เพลิน...
18 มีนาคม 2552 12:36 น.
KIRATI
พจนา ที่เพียบพร้อม เพียงพา (คำพูดที่กล่าว และพร่ำชวน)
ปรารถนา โดยวาจา เรียงร้อย (เพื่อใคร่ครวญ ทุกคำ ว่าจริง)
จิตกลั่นสุข จิตนา สุขเพริศ พิศแล (ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม ในทุกๆสิ่ง)
จะสุขแน่ หาก บ่ น้อย ตามถ้อย ยินความ (จะสุขจริง ถ้าหาใช่ แค่คำพูด)
รักงดงาม คงดั่งพร้อม เพียงกาย (ความรัก ยอมมอบให้ได้ แม้ชีวิต)
จักมิจง คงคลาย จิตแม้น (จะชื้นจิตมั่นคงด้วยใจหวง)
เพียงจักชม เรือนกาย ได้ชิด เพียงเสพ (ถ้าแค่หวังเพียง ได้ชื่นทรวง)
คงจะเจ็บ เก็บแค้น แสนกล้าแกร่ง คืน (จะตามทวง บ่วงแค้น กลับคืน)
รักหลงยืน ชื้นจิตชี้ พจนา (ใจ ที่ หลงเชื่อในคำหวาน )
ที่รื่นรมย์ สมยา เสพรู้ (เป็นแค่การ ที่ลวงให้จิตรู้)
จักตรอมตรม พรมพา พิศวาส (จะหม่นหมอง กับรักที่ชื่นชู)
จิตอนาถ พ่ายชู้ ชื่นร้าง ยืนนาน (จะทุกข์อยู่ กับคู่รัก ที่ลวงเรา)
18 มีนาคม 2552 12:22 น.
KIRATI
สักวา ว่าลายสือ สื่ออักษร
เป็นวรรคตอน เป็นกลอนกล่าว เชิงสร้างสรรค์
บริบท อรรถรส คำประพันธ์
จับต้องใจ คำสำคัญ เป็นบทกวี
การณ์ใดๆ ควรจารึก เพื่อสืบเล่า
แลสืบเถา เล่าความ ประสงค์ศรี
ความจารึก ตามการณ์ ผ่านวลี
โดยกวี วลีชื่น ที่ยืนคง
กาพย์ยานี ฉันท์โคลง คำสุภาพ
เหมือนคำทราบ จับจิต จนไหลหลง
ทุกวลี วรรครอย ค่อยบรรจง
แต่งแต้มสรร คำตรง ประสงค์เอย....